http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=5820 URL http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=420 ************** ฝนเทสายรุนแรงราวฟ้ารั่ว ผู้หญิงในชุดกีฬาสีขาว ร่างบอบบาง ถูกสายฝนพร่างจนร่างเปียกโชก หนาวสั่น ราวแทบปลิดปลิวไปกับพายุฝนและ ลมแรง แต่ช่างน่าแปลกใจ..ที่เธอมิได้ไหวร่าง วิ่งหนีสายฝน กลับแหงนเงยดูฟ้าเบื้องบนราวรอรับหยาดละอองหน่วงหนัก เธอปล่อยให้สายฝน กระหน่ำซัดสาดใบหน้านวลละออจนปวดเจ็บ ราวปรารถนากรงเล็บจากพระพิรุณย้ำตรึงตอกตรม ผ่านใบหน้าไปถึงก้นบึ้งแห่งดวงใจ..ให้สาสมใจ.. ต้นไม้สั่นไหวเอน ลู่ลม ราวรอเวลาหักโค่น ฟ้าแลบแปลบปลาบ ช่างน่าหวาดกลัว เสียงฟ้าคำรามลั่นราวพิโรธมวลมนุษย์มากมายบนผืนหล้า ที่กล้าบุกรุกทำลายทายท้าธรรมชาติ ให้วินาศย่อยยับตามๆกันไป อย่างใจดำมิปรานีมิคิดถึงทุกชีวีที่จะต้องรับกรรมตามมา..ผู้มาทีหลัง.. กิ่งไม้ยังไหวเอนระรัวระริก รายรอบพลิกพลิ้วปลิดปลิวลิ่วลอย ควะคว้างหมุนวน ไปท่ามกลางพายุฝนลมพัดแรง... ในมโนนึก บทเพลงงามพลันกระจ่างใจ และน้ำตาพร่างรินในหัวใจ ในเรียวตา ก็พลันละลายลา พร่างหายไปกับสายฝนพรำที่กำลังรินละหลั่งรด กลบแม้กระทั่งเสียงสะอื้นเงียบๆ ********** พระพุทธองค์ ท่านทรงสอนเรื่องเวรกรรม คนไหนใครทำ กรรมเคยก่อเอาไว้อย่างไร ก่อน นั้น เคยทำกรรมไว้ชาติใด ชาตินี้ต้องได้ รับกรรมที่ทำก่อนนั้น ตัวฉันคงทำ แต่กรรมซ้ำอยู่เสมอ ชาตินี้จึงเจอ เวรกรรมเก่าเข้าย้อนผูกพัน ปวด ร้าว ตรอมตรมขื่นขมอนันต์ ทำดี สารพันรางวัลที่ได้ก็คือเคราะห์กรรม โธ่ เอ๋ย พระเจ้าไม่เคยปราณี ในชาตินี้ ทำดีไม่เคยก่อกรรม หวัง ให้ ผลบุญได้น้อมนำ ล้างเวรที่เคยทำ แต่ชาติ ปาง ก่อน สิบนิ้วประนม สวดมนต์พร่ำบ่นบูชา กุศลนำมา จงนำข้าสิ้นเวรดั่งวรณ์ หากแม้ ชีวีสิ้นลับดับมรณ์ เวรกรรม ทุกชาติก่อน บรรเทาผันผ่อน อย่าตามซ้ำเลย... ****** เธอ..ยังคงก้าวเท้า ทายท้าสายฝนไปตามริมฟุตบาธถนนสายงามสายโศก กับเงาโยกของร่มไม้ใหญ่ไหวเอน..ราวรอหักโค่นมินาทีใดก็นาทีหนึ่ง สองฟากฝั่งยังคงเป็นนาข้าวเขียวขจีสีไพล นุ่มงามดั่งผืนพรมพราวราวเรียวแพรไหม ไหวเอนอ่อนเป็นลอนคลื่นหวานพลิ้ว แลละลิบลิ่วล้อรวงลม.. หัวใจดวงตรมดวงตรอม ยังคง ให้หอมงามสว่างไสว ด้วยความภาคภูมิใจ ในทุกลีลาย่างก้าว ไม่ว่าจะเดินบนถนนสายเศร้าหรือสายธรรมดาแห่งชีวาชีวิต ที่ฟ้าลิขิต พรหมประทานทั้งสุขโศก ให้ทั้งโลกรานร้าวแสนเศร้าเปลี่ยวเหงามา ก็ตามที และในวันนี้ ณ.นาทีนี้ มาตรแม้นหัวใจดวงดีดวงให้ จักรู้รำงับดับเสียใจ เหลือ เพียงใจดวงเดิมดวงดีดวงดิบดิบแสนติดดินดายเดียว เหลือเพียงวาง..ร้างไร้ คล้ายว่างเปล่าเงียบงามนะบ้านภายใน นะกลางใจนะกลางร่าง.. เธอราวยอมรับได้ในทุกข์ชะตากรรมแล้ว และเธอกลับยังรู้สึกดี ที่ยังเหลือหัวใจดวงงามล้ำนี้ ไม่หลงเหลือใครคนเคยรักภักดิ์พลีให้ต้องจดจำ ไม่มีใครให้ร้องคร่ำครวญ ไม่มีใครให้ไห้หวนให้อภัยให้อโหสิกรรม ไม่มี.ไม่มี..และไม่มี.. เธอยอมรับดวงชีวีนี้ที่แสนเหน็บหนาวใจ มิเคยโทษใครและกลับดีใจถึงแม้นไร้ใครรัก เธอก็กลับ รู้สึกราวได้ปลดปล่อยพันธนาการใจ ได้อยู่กับโลกไร้ร้างอ้างว้างว่างเปล่าเหงาเงียบลำพัง ราวโซ่กรรมรัดรึงที่เคยตอกตรึงได้คลายลง ***************** และ... พลันราวสวรรค์เบื้องบนจะเมตตารับรู้ พาเธอ..สู่แดนดินแห่งความฝันนิรันดร... เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ราวโลกสะเทือน!!!!.. .......................... ........................ ............................ ในนาทีฉุกละหุกนั้น ราวพลังแห่งจิตวิญญาณภายในดวงใสแสนงาม ที่มิเคยประมาท กับนาที่สุดท้ายแห่งความพลัดพราก เธอ..ได้ยินเสียงกระซิบจากที่แสนไกลโพ้น *ท่องพุทโธ เข้าไว้ หายใจจับเอาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์นำทาง ดั่งดวงแก้วกระจ่างพร่างพรายรัศมีไสวสว่างสู่หนทางข้างหน้า เพราะถึงเวลาของเจ้าแล้ว........ เจ้าดวงแก้วดวงชีวา ที่จะลาลับดับร่าง.. เจ้ามิต้องอ้างว้างว้าเหว่ ในเส้นทางข้างหน้าที่น่าสงสัย เจ้าทำใจนะ.. ไม่ต้องร้องไห้.. ไม่ต้องเสียใจ.. ไม่.. ไม่มีอะไรให้ยึดมั่นและต้องกลัว เจ้าดำรงร่างอย่างดี รู้หน้าที่รู้ให้รู้เสียสละ สละบริจาคแม้กระทั่งร่างเจ้าให้แก่โรงพยาบาล เพื่อเป็นทานสุดท้ายแก่ผู้ทนทุกข์ยาก และ เจ้ายังบำเพ็ญเพียร ทานศีลสมาธิภาวนามาตลอด เป็นดั่งยอดใจ..ยอดธรรมนำใจนำจิตวิญญาณเจ้าแล้ว!* และ ราวฝันฝันฝันไป นัยน์ตาเศร้าดายเดียว คล้ายมองเห็นพระพักตร์พระพุทธพิสุทธิคุณ งามละออละอองทองผ่องผุดงามสุกปลั่ง องค์ใหญ่ในมโนนึก ที่เคยยึดมั่นกราบไหว้สวดมนต์พร่ำภาวนาทุกคืนค่ำ กำลังแย้มโอษฐ์ มากเมตตา ราวลอยลงมารอท่ารับ พร้อมเสียงสวดมนต์หวานแว่วแผ่ววิเวกมากับฟากฟ้ากว้าง อย่างช้าช้า ช้าช้า เธอ..พยายามยกมือไขว่คว้า..ควานคว้า หาผ้าสไบภักดิ์สะไบรักสีไพล ราวอยากน้อมนำมาปูกราบลงด้วยดวงใจใสใสด้วยซาบซึ้งศรัทธา.. อย่างที่ทำมาเป็นกิจวัตรประจำทุกค่ำคืนมานานปีเกือบทั้งชีวีชีวิต ใครบางคน ค่อยค่อยประคองร่างนวล โอบอุ้มด้วยอ้อมแขนอบอุ่นอ่อนโยนอ่อนหวานและราวรานร้าว ราวมีหยาดน้ำตาละหลั่งรินหยดรดต้องใบหน้าเธอตามมา ด้วยความโศก..สะเทือน... เมื่อได้ยินเสียงเธอเพ้อคราง*ขอ..ขอผ้า ผ้าสะไบในกระเป๋าค่ะ*.. เขารีบควานหาจากข้างตัวเธอ พลางค่อยๆคลี่ห่มให้ร่างร้าว ด้วยคิดว่าเธอกำลังหนาวเยือก..สะท้าน มือแข็งแรงนั้น ค่อยๆพยายามลูบไล้ใบหน้า ราวอยากให้หยาดเลือดเหนียวหนะออกจากดวงตาเธอ เธอพยายามลืมตา และราวกับว่าแสนง่วงงุน ......... ในดวงจิตเหว่ว้า ในดวงตาดายเดียวเหงาเศร้า เธอคิดว่าสองมือนั้นคือหัตถาแห่งสวรรค์ ที่เธอฝันเคยอยากจะจูบลูบไล้ทุกเรียวนิ้วรจนา..ดั่งเทวดา ที่เคยอธิษฐานจิตภาวนาในทุกคืนวัน..ขอให้ฝันเป็นจริง..พระเป็นใจ ในความเบาสบาย คล้ายร่างไร้น้ำหนัก และ ราวลอยคว้างกลางมวลหมู่เมฆงามพราวราวเรียวรุ้งแพรไหม.. โอบอุ้ม..เห่กล่อม.. ให้นอนนิทราฝันดี.. เป็นความฉ่ำเย็นอันเกินใจจะรำพันรำพึง เธอได้กลิ่นซึ้งที่ติดตรึงในจิตวิญญาณ หอมหวานรานเศร้าด้วยมวลหมู่บุปผชาติไทยนานา ที่พากันส่งกลิ่นอวล นวลนวลหอมหอมของทุกพวงพะยอม หอมดวงดอกแก้วและดวงดอกพุดพิสุทธิ์ใจล้ำราวรู้กล้ำกลืนซ่อนเศร้า ดวงดอกไม้นะกลางใจในกระท่อมทับวิมานดินนานมา ที่นะบัดนี้ราวจรุงลา.....แรมรอน...มิอาจผันคืนดวงชะตาย้อนกลับมารื่นรมย์ เธอ..ยิ้มหวานอ่อนเศร้า ราวปรีดากับธรรมชาติทุกสิ่ง ที่เธอแสนรักและพันผูกรัดร้อยเป็นดั่งสร้อยใจ สร้อยชีวิตมายาวนานนัก ที่ราวถูกฟ้าลิขิตให้เกิดมาช่างฝันขยันฝากใจรักรจนา ในเหน็บหนาว..... ฟ้าไยแสนเศร้าหม่น และไยมืดดำ... แต่นั่นไยดาวระรินหลั่งน้ำตา เดือนดวงเหว่ว้าไยร้องไห้สะอึกสะอื้น... เธอ..พยายามฝืนแย้มยิ้มราวอยากปลอบประโลมอีกครา และอย่างช้าช้า..ช้าช้า... เธอ เพียรพยายามทำสิ่งสุดท้าย... ............................ ............................. ............................ ใกล้ค่ำแล้ว ฟ้ายังร่ำไห้ราวฟ้ารั่ว พายุสงบลงแล้ว รถติดเป็นแถวทาง ได้ยินเพียงเสียงเล่า.... เกิดอุบัติเหตุรถชนผู้หญิง!... และ น่าเศร้าจัง! ที่คนขับรูปงามร่ำไห้ราวหัวใจจะแยก เพราะ *เขาบอกเธอมิครางครวญราวยอมรับความเจ็บปวด* แต่.. หากหวนหาบางสิ่งเพียงนั้น.. ............................... ................. ในทุกสายตาที่มองมาพบภาพน่าเวทนาคือ ร่างในชุดขาวสล้างพร่างไปด้วยเลือดสีแดงสีแดง...และสีแดงกระจาย คล้ายภาพฝันมิใช่ภาพจริง และ ที่น่าแปลก มือเธอด้านขวาที่ประดับด้วยกำไลเงินวะวาววับ ที่กำลังสะท้อนส่งประกายระยับพร่างในท่ามกลางความมืด มือน้อยซีดเซียวนั้น ราวกำลังยกกำไลขวัญกำไลรักขึ้นประทับรับรอยจูบอำลา ตรงริมเรียวปากอิ่มงามอย่างแย้มยิ้มยินดี ราวฝันดีเหมือนเธอพลีพร้อมพราก จากมหัศจรรย์รักตราบชั่วนิจนิรันดร......
23 มิถุนายน 2547 09:26 น. - comment id 288508
พุดพัดชาบันดาลใจ รจนาบทนี้ไว้ หลังอ่านงาน*ครูใหญ่* ของน้องหมึกมรกต ถึงชีวิตหลังความตาย ****** และ กับวันที่ฟ้ารั่วราวร่ำไห้ ในวันที่พุดพัดชาเดินเดียวดาย กลับบ้านในเส้นทางสายโศก และกับจาก เมล์งามจากสามน้ำใจงาม ที่ได้รับ ให้หัวใจหวนกลับ หลังเหนื่อยล้า..รจนาค่ะ และงานรักเรื่องนี้ พลีแด่น้องหมึกมรกต น้องอริน น้องวรลักษณ์ นกไพรพเนจร และ กับทุกดวงใจที่รักพุดพัดชาอย่างจริงแท้ค่ะ และคอยรออ่านงานนะคะ ด้วยใจ จากจิตวิญญาณรักค่ะ
23 มิถุนายน 2547 09:37 น. - comment id 288509
เข้ากันหลายงานดีในเช้าวันนี้ มีธรรมะกันดีค่ะ พุดพัดชา ...
23 มิถุนายน 2547 09:38 น. - comment id 288510
url=http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=5820 MY HEART WILL GO ON Celine Dion : : Key F Every night in my dream I see you,I feel you That is how I know you go on Far across the distance and spaces between us You have come to show you go on Near,far, wherever you are I believe that the heart does go on Once more, you open the door And youre here in my heart, And my heart will go on and on Love can touch us one time and last for a lifetime, And never let go till were gone Love was when I loved you, one through time I hold to In my life well always go on Near,far, wherever you are I believe that the heart does go on Once more, you open the door And youre here in my heart, And my heart will go on and on Youre here, theres nothing I fear And I know that my heart will go on well stay forever this way You are safe in my heart, And my heart will go on and on...
23 มิถุนายน 2547 09:40 น. - comment id 288513
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=420 รางวัลชีวิต ชัชฎาพร ลักษณาเวช : : Key B พระพุทธองค์ ท่านทรงสอนเรื่องเวรกรรม คนไหนใครทำ กรรมเคยก่อเอาไว้อย่างไร ก่อน นั้น เคยทำกรรมไว้ชาติใด ชาตินี้ต้องได้ รับกรรมที่ทำก่อนนั้น ตัวฉันคงทำ แต่กรรมซ้ำอยู่เสมอ ชาตินี้จึงเจอ เวรกรรมเก่าเข้าย้อนผูกพัน ปวด ร้าว ตรอมตรมขื่นขมอนันต์ ทำดี สารพันรางวัลที่ได้ก็คือเคราะห์กรรม โธ่ เอ๋ย พระเจ้าไม่เคยปราณี ในชาตินี้ ทำดีไม่เคยก่อกรรม หวัง ให้ ผลบุญได้น้อมนำ ล้างเวรที่เคยทำ แต่ชาติ ปาง ก่อน สิบนิ้วประนม สวดมนต์พร่ำบ่นบูชา กุศลนำมา จงนำข้าสิ้นเวรดั่งวรณ์ หากแม้ ชีวีสิ้นลับดับมรณ์ เวรกรรม ทุกชาติก่อน บรรเทาผันผ่อน อย่าตามซ้ำเลย...
23 มิถุนายน 2547 10:53 น. - comment id 288530
Dont lose your way With each passing day Youre come so far Dont throw it away Live believing Dreams are for wearing Wonders are waiting to start Live your story, Faith,hope and glory Hold to the truth in your heart If we hold on together I know our dreams Will never die Dreams see us through to forever When clouds roll by For you and I Souls in the wind must learn how to bend Seek out a star Hold on till the end Valley, mountain, There is a fountain Washes our tears all away Words are swaying, Someone is praying Please let us come Home to stay If we hold on together I know our dreams Will never die Dreams see us through to forever When clouds roll by For you and I When we are out there In the dark Well dream about the Sun In the dark well feel the light Warm our hearts, everyone If we hold on together I know our dreams Will never die Dreams see us through to forever As high as souls can fly The clouds roll by For you andI...
23 มิถุนายน 2547 11:33 น. - comment id 288547
สละสลวยราบรื่นตามรูปแบบแผนที่ควรจะเป็นของคุณพุดพัดชา
23 มิถุนายน 2547 11:39 น. - comment id 288548
อืม....ยังคงสวยงามเช่นเดิมนะ ยิ่งอ่านยิ่งรักในอักษรที่คุณถ่ายทอด สวยงามมากครับ เพราะจับใจจริง ๆ ธรรมะยังคงสอดแทรกได้พอเหมาะพอเจาะ เมกเป็นแฟนตัวยงของพี่พุดนะครับ ถึงแม้บางครั้งจะไม่ค่อยมีเวลามีคอมเม้นท์ แต่เมกก็พยายามเปิดอ่านทุกบทกลอน โชคดีครับพี่พุด เมก
23 มิถุนายน 2547 11:59 น. - comment id 288550
บทประพันธ์ที่สวยงาม มีการใช้ metaphor และ configure ราวกะว่าได้อ่านงานของนักประพันธ์ที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ
23 มิถุนายน 2547 13:18 น. - comment id 288590
เพราะจับใจ... ได้เนื้อหามากๆครับ แต่อ่านแล้วเศร้าจังเลย... อ่านแล้วได้ข้อคิดหลายอย่างเลยล่ะ..
23 มิถุนายน 2547 13:36 น. - comment id 288607
โดนใจมากเลยค่ะ โดยเฉพาะข้อความที่ copy มาไว้ข้างล่าง อ่านแล้วรู้สึกโดนใจตัวเองมาก ชื่นชมในผลงานนะค่ะ รักและคิดถึงเสมอค่ะ เธอยอมรับดวงชีวีนี้ที่แสนเหน็บหนาวใจ มิเคยโทษใครและกลับดีใจถึงแม้นไร้ใครรัก เธอก็กลับ รู้สึกราวได้ปลดปล่อยพันธนาการใจ ได้อยู่กับโลกไร้ร้างอ้างว้างว่างเปล่าเหงาเงียบลำพัง ราวโซ่กรรมรัดรึงที่เคยตอกตรึงได้คลายลง
24 มิถุนายน 2547 00:33 น. - comment id 288928
ความรู้สึกอันเป็นนิรันดร์นั้นคือสิ่งที่ทุกห้วงใจปรารถนา ทุกความงดงามตรึงใจเสมอค่ะพี่พุด ข้าพเจ้ามาทักทายพี่พุด คิดถึงและชื่นชมเสมอค่ะ
24 มิถุนายน 2547 00:34 น. - comment id 288929
ความรู้สึกอันเป็นนิรันดร์นั้นคือสิ่งที่ทุกห้วงใจปรารถนา ทุกความงดงามตรึงใจเสมอค่ะพี่พุด ข้าพเจ้ามาทักทายพี่พุด คิดถึงและชื่นชมเสมอค่ะ
26 มิถุนายน 2547 17:52 น. - comment id 290247
ถึงแม้จะมาช้า ก็ขอให้ภาคภูมิใจว่ามาตอบให้เป็นรายแรกในการกลับมา จากการป่วยการกีฬายูโรจบคงจะหาย เศร้าเข้าไส้มากครับ คงพูดไม่มาก เพราะเวลามีน้อย จะได้เริ่มตะเวนหาตอบก่อนนะครับ