http://thaipoem.com/web/songshow.php?id=129 ************** ค่ำแล้ว ฟ้ามืดครึ้ม ด้วยเงาเมฆทะมึนหม่น ฟ้าหมอง กำลังตั้งท่าจะร้องไห้ครางครวญ หน่วงหนัก ราวสูญรักสิ้นไร้ ร้าง พลางกำสรวล พร่างสายวสันต์ลีลาลงมาดั่งหยาดน้ำตานางฟ้าระริน แทนถวิลเหว่ว้าอ้างว้าง ห่มพร่างผืนนาผืนหล้าและผืนไพร และห่มหอมให้ผืนใจผู้รักสายวสันต์ทุกผู้คน ที่กมลรักดายเดียว.. ดวงตั้งใจ.. ย้อนรอยใจรอยก้าว ที่ร่างรานใจร้าว พาลพานึก ระลึกถึงยามวัยเยาว์ ที่วิ่งเล่นน้ำฝน หล่นลาพรากจาก..หลังคาจาก พรากเม็ดเด็ดรวง จากวิมานไพรวิมานใบไม้ในชนบท ถอยใจกลับไปสู่วัยเยาว์อีกครา อยากลองทดสอบงามใจดูสิว่า.. การเดินฝ่าสายฝน..สายฝัน..ฝึกสมาธิแบบฉ่ำเย็นนั้น หัวใจจะกระเด็นหรือจะรู้หยุดนิ่งวาง.. รับรู้เงียบงาม ว่าง กลางลมละมุน และพายุหมุนระบัดพัดสายฝนลมแรง ในอีกฉากเศร้ารานร้าวหากให้งดงามสว่าง พร่างพรมด้วย..ตัวตนด้วยตัวเอง มิเกรงฟ้าฝนฟ้าดิน ฝนหนาเม็ด.. มิเด็ดรวงพรายยังพร่างพรมห่มร่าง จนหนาวจับขั้วหัวใจสะท้านเยือก ระยะทางยาวไกล ที่ใครๆหันมามอง ผู้หญิงบอบบางค่อยๆย่างเท้าอย่างช้าๆ แหงนเงยหน้าละออรอรับหยาดละอองฝนพรำ ให้ร่ำรินรด.. ราวรอหยดหยาดลงมาล้างนวลเนื้อใจ ให้ใสสะอาดงามละมุนดั่งเดิม มิยอมให้ปีศาจวสันต์ซ้ำรอยเดิมเติมแผลใจ ในนะวันนี้..ที่ไม่มีวันเหมือนเดิม ไม่มีวันให้ใครเพิ่มผลาญพร่าจิตวิญญาณดวงงามภักดิ์...รักนิรันดร์.. .. ฟ้าแลบแปลบปลาบ ราวพิโรธ..ผู้ทำลายธรรมชาติ..ทำลายรัก ที่ให้งามพัก งามพิง ในทุกสิ่งทุกอย่าง หากมวลมนุษย์มากมายหากลับได้เข้าใจไม่ ในหน้าที่ ในกฏเกณฑ์นี้ที่ต้องใช้ใจดวงดีดวงเสียสละ เพียงนั้น ถึงจะพลันเห็นแสงสว่างรำไรนำใจนำทาง นำร่างเลิกหลงในอัตตา..พากันทำลายทุกสิ่ง ทิ้งใจดวงดี ทิ้งกระท่อมที่ว่างเปล่าในไพรพฤกษ์พง.. หลงสุขในลาภยศสรรเสริญ..เมินปรารถนาดี... ทิ้งโลกที่แสนสงบสุขวิ่งซุกซบวังวนโลกวัตถุ.. ดวงมึนงง ราวโลกจะมืดดับลงด้วยปวดหนึบหนาวในใจ หนาวในกาย..หนาวแสนหนาว.หนาวในร่างร้าว หากใจว่าง..ว่าง วาง พรางค่อยพิงห่อตัวรอพระพิรุณหยุด.เท..ราวฟ้ารั่ว รอฝนหยุดพรำ ใต้กิ่งฝันก้านไกวไหวสั่นรับลมแรงระริกรับ กับหางนกยูงฝรั่งสะพรั่งแดงดวงดอกดกพราว วสันต์ลีลา ไม่มีทีท่าจะหยุดลาเสียที ดวง..ตัดสินใจเดินต่อ.. ฝ่าสายฝนสายฝันเปรียบประดุจดั่ง สายธารสายหวานสายน้ำผึ้งพิษ.. ทีสนิทแนบแน่นมายาวนาน ในยามนี้..กับฤดีฤดูกาล ที่ผ่านมาผ่านไป ให้ใจมองเห็นสัจจธรรม มิคงมั่นมิดำรง แค่หมุนวนหมุนเวียนครบปี ให้เห็นฤดีแปร มิแน่มินอนของมนุษย์มนา ในโลกหล้า ในโลกกลม..กลม ลม ลม แล้งแล้ง แกล้ง แกล้ง ฝันฝันกันไป ราวหลงไพร หลงใจหลงฝัน.สวรรค์วาง.กลางฤดูฝน ช่างสับสน ซับซ้อน มิยาวทน มิยาวยืน มิฝืนนาน... มิผ่านกาลดั่งรักนิรันดร ดวง..รจนาเรื่องนี้ทันทีที่กลับถึงบ้าน กับร่างสะท้านราวจะจับไข้ กับร่างไร้ที่หนาวเยือกเลือกรสเจ็บไข้ ราวได้สาสอนใจในงามสัจจธรรม ให้ย้ำรอยใจรอยจำ.ในค่ำคืนแห่งวสันตฤดู..นี้ ที่ช่างให้ความรู้สึก..แสนดี...แสนงามจำ ย้ำเตือนให้ลูกผู้หญิงคนนี้ได้บทเรียนใจ ในทรงจำ ในฉากเศร้า ในพราวฝัน ในคืนฝน หวังกมลคอยติดตามเตือน เลือนลางว่างเปล่ากับเหงาเงียบสงบพบ ทางสายโศกที่โลกหยิบยื่นให้..อย่างดายเดียว! *************** http://thaipoem.com/web/songshow.php?id=129 หยาดน้ำฝน หยดน้ำตา ดาวใจ ไพจิตร : : Key Gm หยาดน้ำจากตา นางฟ้าที่ตรมอารมณ์ หลั่งความขื่นขมที่ถมอยู่ใน ใจตน หยาดย้อยจากปรางสวรรค์เบื้องบน สู่กลางแก้มดินในฐานถิ่นคน นั้นคือหยาดฝน ฉ่ำใจ สาดสายพร่างพรายพรมผืนไร่นา แนวเนิน ป่าดอนโขดเขินคลองขลุงทุ่งหนอง นองไป หล่อเลี้ยงพืชพันธ์ มีผลดอกใบ โลกเคยหลับไหล พลันฝืนตื่นใจ สวยงามสดใส จริงเอย ทอแสงทองอาทิตย์ทาบทา พลันน้ำตานางฟ้าระเหย เป็นละอองไอน้ำอย่างเคย ถูกลมรำเพย พัดเลยลอยวน หยาดน้ำจากตา นางฟ้าที่ตรมอารมณ์ ฝากมากับลมเป็นฝนพร่างพรม ใจคน แต่น้ำจากตาตอนช้ำกมล ที่เราหลั่งลอย ระเหยกี่หน ถึงกลายเป็นฝน ฉ่ำใจ ทอแสงทองอาทิตย์ทาบทา พลันน้ำตานางฟ้าระเหย เป็นละอองไอน้ำอย่างเคย ถูกลมรำเพย พัดเลยลอยวน หยาดน้ำจากตา นางฟ้าที่ตรมอารมณ์ ฝากมากับลมเป็นฝนพร่างพรม ใจคน แต่น้ำจากตาตอนช้ำกมล ที่เราหลั่งลอย ระเหยกี่หน ถึงกลายเป็นฝน ฉ่ำใจ... พุดพัดชาเหมือนกำลังจะเป็นไข้ค่ะ ขอลาไปพักก่อนนะคะและขอ.. ฝากทุกดวงใจกับผลงานแสนรักนะคะ ที่พุดพัดชากำลังภาวนาให้หัวใจได้กลับไป ฝากร่างและจิตวิญญาณไว้ รอเพียงวันฝันเป็นจริงในทุกเวลาค่ะ และนะวันนี้ กับเรือนจำปีที่นอนนิ่งทิ้งใจงาม ภาวนา ภาวนา และภาวนา ************* http://thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_39349.php กระท่อมใบไม้!.....พุดพัดชา กระท่อมใบไม้.. แฝงตัวอยู่บนเนินผา ในหุบเขา..พะงันงาม.. ที่ปกคลุมด้วยพันธุ์ไม้เมืองร้อนนานาชนิดสูงใหญ่ เป็นช่อชั้น ราวป่าดงดิบสลับสล้าง..ใบไม้เขียวพร่างระยิบระยับ..ไปทั้งราวป่า และ... งามจับตายามถึงคราฤดูใบไม้เปลี่ยนสี...ที่มีเสียงจิ้งหรีด เรไร ดนตรีไพรดนตรีธรรมชาติและสายลมอันอ่อนโยนละมุน หอมกรุ่นกลิ่นดอกไม้ไพร..อวลไกล..ในยามค่ำ.. ..... ยามเช้า... ยามอุษาฟ้ากระจ่าง.. เมื่อดวงตะวันสาดแสงสีทอง อันอ่อนอุ่นมาแตะแต้มทายทักโลก.. มวลหมู่นกกา..พลันพรึบพรูโผผินบินว่อนร่อนจากรวงรังออกหาเหยื่อ.. .. สัตว์ป่านานา..ก็พากันเที่ยวท่อง.. จดจดจ้องจ้องออกล่าเหยื่อ..เฉกเช่นกัน เป็นวิถีอันเป็นธรรมชาติเพื่อดำรงรอด.. ไพรกว้างเงียบงาม.... ซ้องผสาน..เสียงเพลงไพรเสียงสัตว์ไพร ขับขาน ทั้งดุร้ายและหวานเศร้าคละเคล้าดำดิ่งลึกล้ำงามเงียบไห้ไหยหวน. สู่ห้วงหฤทัยผู้รักไพรพงเป็นชิวิตจิตใจ.. ธรรมชาติ..เปิดม่าน.. หวานหวานหว่านมนตราเริ่มตั้งแต่ยามทิวา อรุณรุ่ง มุ่งสู่ราตรีที่ฟ้ากว้างประดับด้วยทางช้างเผือก.. ระดะดาวพราวพร่างเต็มอ้อมฟ้าเต็มอ้อมฝัน..พริบพราวเคล้า นวลจันทร์กระจ่างฟ้า..เล้าโลมหล้าโลก ให้มวลมนุษย์คลายโศกหรือยิ่งเศร้าหม่น สุดแต่คน..แต่ใจใคร..จะไขว่คว้า กระท่อมใบไม้.. งามง่าย หลังคาจาก โครงเคร่าใช้ไม้มะพร้าวที่หักโค่น.. มาเป็นเสาค้ำตั้งรับสอดประสาน...ใช้ทุกส่วนให้งามอย่างคุ้มค่า ฝา..คือไม้ไผ่ขัดแตะอย่างละเอียด และยิ่งละเมียดละไมด้วยเสื่อจูดสานสวยซ้อนทับ..อีกชั้น.. กันสายฝนแรงรับลมพายุ.. ไม่มีโต๊ะ ตั่งเ ตียง..มีเพียงเสื่อสานละเอียดปูฟูกที่นอนขาว กับหมอนอีกใบ.. มีมุ้งที่บัดนี้หอบขึ้นไปผูกไว้ ยามมิได้ใช้งาน..ก่อนนอน.. หัวนอน.. มีขอนมะพร้าว..เตี้ยๆไว้วางของจุกจิกไม่กี่ชิ้นจำเป็น มีตะเกียงเทียนเหลือเทียนครึ่งเล่ม..เพียงนั้น กับขันทองเหลืองที่เจ้าของกระท่อมทับ ใช้จัดใส่ดอกไม้ไทยรายรอบนานาพรรณ ที่บัดนี้พลันพากันมาหอมอวลคละคลุ้ง จรุงไปทั่วทั้งกระท่อม กับสายลมเย็นยามค่ำ กับยามที่พรายวสันต์เพิ่งราเม็ดพร่างพรมห่มไปทั่วทั้งราวไพร..ให้ฉ่ำเย็น.. ทางขึ้นกระท่อมนั้น.. ดังพรมสวรรค์สีเขียว..ของหญ้ามอสส์สอดแทรก ตามปุ่มปมหินแง่งาม ที่เกาะเกี่ยวให้ไต่ตาม ค่อยๆเลี้ยวเลาะ.. ให้สงบ..ให้ผ่อนคลาย ... ทุกก้าวย่าง...ในอ้อมเขียวเรียวไพลเรียวใบไม้ไหวระยับ.. ทุกฝีเท้า..ของผู้โชคดี... ที่ได้ละลดวางและหลีกลี้หนีจากความวายวุ่นจากสังคมเมือง.. เสมอเหมือน กำลังได้สลัดแอกใจ อันอ่อนล้า ที่โหยหา แสวงหาธรรมชาติเย็น.. ชุบชื้นชื่นชีวีต..ชุบดวงจิตดวงใจ ชุบจิตวิญญาณ ชุบใสงามดื่มด่ำฉ่ำเย็น ให้ระรินไหลเข้าเบื้องลึกภายใน ให้พลันสดใสตระการราวแก้วงามแก้ววิเศษ ที่จะพรายพร่างนำทางใจ..สู่ สว่างใส สงบ.พบ.ร่มชีวี.. ที่ดั่งหยาดน้ำทิพย์..ที่ละลายร่าง ไร้ร้างตัวตน ให้ห่างจากความยึดมั่นถือมั่น ในทุกวันทุกสิ่งมากมีที่ไม่จีรังยาวยืน.. ร่างกาย.. ร้อนรน..ได้ผ่อนคลาย ดวงใจได้นิ่งงันผ่อนพัก พึ่งพิงธรรมชาติไพร เกิดใสงามสวยสดเป็นธรรมดาใจธรรมชาติงาม..อันมิรู้สิ้นรู้จบ ......... เส้นทางสายสวย..สู่กระท่อมใบไม้. ราวเส้นทางสายสวรรค์สรวง กระท่อมใบไม้ ...ที่ไร้ร้างในสายตาคนเมือง ผู้นิยมวัตถุมากมี..หามาประดับบารมีให้เป็นที่ยอมรับนับหน้าถือตา. กระท่อมใบไม้.. ที่ไม่สิ้นเปลืองผลาญพร่าทรัพยากรธรรมชาติ หากเพียงแค่ได้เอนอิงเอื้อโอบใจไปพร้อมกัน..เป็นหนึ่งเดียว.. ให้นวลเนื้อใจละไมละมุน..ในงามง่ายนั้นมิมีวันสิ้นสุดรัก..สุดงาม! ........... กลางกระท่อม.. กลางเงาเทียนวูบไหว ในร่มเงาไม้ให้สงบเงียบ มีร่างงามเรียบนอนสยายผม มีดวงดอกไม้แนบนวลแก้ม มีเรียวรอยยิ้มพริ้มพราย คล้ายรอรับจูบละเมียดละไมจากชายในฝันในดวงใจ.. ..................... ตามมาสิทุกดวงใจ.. มาฟังเสียงนกไพร ฟังเสียงดุเหว่าแว่วหวาน ดูเงาดาวทอแสงนวลใย แข่งกับหยาดเพชรพราวในดวงตาดวงใจของนางไพรอันเป็นที่รัก ยามสะอื้นอ้อนหารักครางครวญ.. พระจันทร์หวานคงอิจฉา.. ราตรีคงเงียบงัน... ฟากฟ้านั้นเลิกหมองหม่นชั่วครู่ ลมคงหยุดพัดไหว ใบไม้คงปลิดปลิวโปรยพร..เพื่อสองเรา..ตราบชั่วกาล.. งานพุดพัดชามักจะจบแบบฝันฝัน ให้งานฝันสมบูรณ์แบบ จนคนคิดเข้าข้างตัวเองละเลงหลงเพ้อละเมอว่าพุด คงคิดแบบเขียนไปทุกอย่างค่ะ ช่างน่าอ้างว้างใจเป็นยิ่งนักนะคะ เป็นเพียงนวนิยายนะคะ จริงๆแล้วกระท่อมนี้คงมีพุดพัดชาดายเดียวค่ะ *********** ด้วยรักล้นใจทุกดวงใจในร่มรักค่ะ
22 พฤษภาคม 2547 09:17 น. - comment id 272267
หยาดฝน ที่หยดย้อย คล้ายนับร้อย หยดน้ำตา วสันตลีลา ฤามีค่า...เพียงล้างใจ :)
22 พฤษภาคม 2547 09:41 น. - comment id 272275
เมกกำลังไปงานวันเกิดเพื่อนอ่ะครับ ขอคอมเม้นส์ตอนกลับนะครับ สุขสดใสทั้งวันครับ ^---------------------^
22 พฤษภาคม 2547 11:29 น. - comment id 272311
งานน่ารักค่ะ พุด
22 พฤษภาคม 2547 12:55 น. - comment id 272342
หยาดฝนรับร้อยพัน เหมือนรินหลั่งล้างน้ำตา หยาดฝนโปรยปรายมา เหมือนบอกลาความตรอมตรม
22 พฤษภาคม 2547 14:33 น. - comment id 272398
ถ้าหากคุณพี่พุดไม่สบายก็ขอให้หายเร็ว ๆ นะค่ะ รักและคิดถึงเสมอ อ่านงานชิ้นนี้แล้วคิดถึงกลอนบทหนึ่งที่เคยได้อ่าน แต่จำเนื้อกลอนไม่ได้ แต่จำแต่เพียงเนื้อหาที่บอกว่า ฉันเคยเดินตากฝนไปพร้อมกับเขา และในวันนั้นฉันเปียกปอนมาก แต่มาวันนี้ฉันอยากเดินในสายฝนเพื่อลืมเขา แต่สายฝนก็ไม่ตก ประมาณนั้นนะค่ะ รักและคิดถึงเสมอนะค่ะ
22 พฤษภาคม 2547 14:40 น. - comment id 272404
----อยากจะบอกแค่คำเดียวว่าสุดยอดค่ะ... อ่านแค่ชื่อก็..หูยยยย....คิดได้ไง... **แวะมาชื่นชมค่ะ** วีนัสก่ะเจ้า
22 พฤษภาคม 2547 17:24 น. - comment id 272498
สายฝนให้ความรู้สึกต่อแต่ละคนล้วนแตกต่างกัน ตอนเด็กเคยวิ่งเล่นท่ามกลางสายฝนอย่างสนุกสนาน โดยเฉพาะแตะฟุตบอลแข่งฝน มันส์เขาละ เดี่ยวนี้ฝนตกเคยอาบน้ำฝนเหมือนกัน สดชื่นเย็นใจอย่างประหลาด สำหรับผมฝนน่าจะเป็นความทรงจำที่สุขมากกว่า เราอาจกลัวเปียก จนต้องวิ่งหลบ แต่เมื่อเปียกแล้วไม่มีอะไรจะกลัวอีกแล้ว พร้อมที่จะเดินฝ่าสายฝนไปอย่างองอาจ แต่ก็กลัวอย่างเดียว เป็นไข้ เพราะร่างกายเราไม่ทนแดดทนฝนเหมือนแต่ก่อน เป็นไข้กายก็คงไม่นานหายไม่ยาก หาหยูกยากิน ดูแลสุขภาพตนเองให้ดี สำคัญแต่เป็นไข้ใจ คงต้องนอนซมไปอีกนาน...
22 พฤษภาคม 2547 18:32 น. - comment id 272537
ฝนคือสื่อความสุขทุกวันนี้ ยามฝนตกทุกทีมีความหมาย สายฝนสาดหล่นพร่ำฉ่ำสบาย เดินทักทายท้องฟ้าคราฝนโปรย
22 พฤษภาคม 2547 19:57 น. - comment id 272560
สายฝน..ให้ความรัก..ความสดชื่น..เย็นฉ่ำ..ในทุกดวงใจ...ในขณะเดียวกัน....อาจจะให้ความทุกข์...ทรมาน...ร้าวรานใจ...ในอีกหลายดวงใจ.. ...คุณพุด...ที่ใดมีรัก..ที่นั่นมีทุกข์... เราจงมีความสุข..ในท่ามกลางความทุกข์ที่เกิดขึ้น....นะคะ...ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ..พักผ่อนให้มาก...เดี๋ยวก็หายค่ะ..เป็นห่วงนะคะ...คิดถึงมากค่ะ....
22 พฤษภาคม 2547 21:49 น. - comment id 272652
ด้วยพิษไข้ พุดพัดชาฟังเพลงนี้แล้วน้ำตาก็รินพร่าง และพรุ่งนี้พุด..หายดีแล้ว จะมาฝากถ้อยร้อยรักขอบพระคุณ อีกครานะคะ และกับ.. ราตรีนี้ ที่จันทร์เสี้ยวดวงเศร้า กำลังแขวนตัวอย่างดายเดียว บนฟากฟ้าสลัวมัวหม่น พุดขอกระซิบรักฝากซึ้งสู่ก้นบึ้ง ทุกดวงใจ ด้วยบทเพลงนี้ แทนทุกนาทีใจพุด..ที่เต้นอย่างอ่อนแรง อย่างแสนรักเอยแสนรักในกมลแล้วค่ะ ................ I Just Called to Say I Love You Lyrics Artist(Band):Stevie Wonder No new yearss day to celebrate no chocolate covered candy hearts to give away no first of spring no song to sing in fact heres just another ordinary day No April rain no flowers bloom no wedding saturday within the month of June But what it is Is something true Made up of these three words that I must say to you I just called to say I love you I just called to say how much I care I just called to say I love you And I mean it from the bottom of my heart No summers high No warm July No harvest moon to light one tender August night No autumn breeze No falling leaves Not even time for birds to fly to southern skies No libra sun No Halloween No giving thanks to all the Christmas joy you bring But what it is Though old so new To fill your heart like no three words Could ever do. I just called to say I love you I just called to say how much I care I just called to say I love you And I mean it from the bottom of my heart. I just called to say I love you I just called to say how much I care I just called to say I love you And I mean it from the bottom of my heart Of my heart Of my heart
23 พฤษภาคม 2547 00:02 น. - comment id 272729
คุณ นึกเหมือนผมเลยครับอยากกลับไปเป็นเด็กอีก เห็นสายฝนทีไรสะท้อนใจทุกที ยิ่งเห็นเด็กๆเล่นน้ำฝนกันและเล่นเห็นเด็กบอกว่าเล่นสไลส์เด้อร์ด้วย คือจะพุ่งตัวไปกับพื้นแล้วไหนตามน้ำโดยมีฝนโปรยลงมา ผมนั่งมองแล้วทำให้อยากเป็นเด็กๆจริงๆ แต่คงจะทำไม่ได้เพราะกลัวหวัดและน้ำฝนเย็นเสียด้วยจะเป็นไข้ เด็กเล่นได้เราเล่นสงสัยเข้า รพ.แน่เลยครับ เขียนได้ดีจังครับ แก้วประเสริฐ.
23 พฤษภาคม 2547 01:43 น. - comment id 272761
มาเยี่ยมคุณพุดครับ..ไม่สบาย.ทานยาพักผ่อนครับ..ขอให้หายเร็วๆ..ระยะนี้อากาศเย็น ห่มผ้าก่อนนอนนะครับ..สวัสดี..
23 พฤษภาคม 2547 09:43 น. - comment id 272825
^J^ ................ ...ผมยาวสลวยเปียกปอนไปหมด......สั่นสท้าน ราวลูกนก.....ใยต้องทำเช่นนั้น.....พุด....?
23 พฤษภาคม 2547 11:40 น. - comment id 272908
เพราะมากๆๆๆ เลย....พุด ดูแล รักษาตัวดีดีน่ะ ขอให้หายเร็วๆ... มีความสุขมากๆ ของทุกวันเวลาที่ผ่านไป
23 พฤษภาคม 2547 11:46 น. - comment id 272910
อยากจะเข้ามาเฝ้าไข้ก็ไม่กล้า อยากเข้ามาปรนนิบัตื.....ก็ขัดเขิน อยากเข้ามาให้หนุนแขนกลัวเธอเมิน อยากหยอกเอินอยากใกล้ชิดให้คิดกลัว
23 พฤษภาคม 2547 13:38 น. - comment id 272966
พุด..มาขอบพระคุณทุกดวงใจที่ห่วงใยนะคะ ในความรักพุด พุดดีขึ้นแล้วค่ะ ยิ่งพุดไข้จะยิ่งออกกำลังกายค่ะ ทั้งว่ายน้ำ แบดมินตัน เต้น และ จริงๆพุดกำลังจะเดินทางข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ไปวัดไปไหว้พระค่ะ ริมฝั่งชลค่ะ และจะ ไปร่ายรจนาเรื่องวิมานใบไม้..ฉบับสมบูรณ์ ใต้ร่มเงาพิกุลดอกละมุนหอมพราวละเมียด แต่บังเอิญ แต่งบทกวีประกอบไว้ก่อน เลยนำมาลงให้อ่านไปพลางๆนะคะให้งามว่างวันหยุด และสำหรับ พุดพัดชาฝากรจนาเรื่องนี้ ด้วยเบื่อ กรุงกรงมากเหลือเกินแล้วค่ะ พุดเหมือนปลาผิดน้ำ.. และ อยากกลับไปสร้างกระท่อมใบไม้ ในหุบเขาไพรพะงัน ได้เดินฝ่าสายหมอกดวงดอกไม้ไพร ลัดเลาะเนินเขา..เหงางามเงียบ ออกมาวัด.. มานมัสการ กราบหลวงพ่อฟังธรรมะในโบสถ์คร่ำ และ อบร่ำดวงใจใต้ร่มเงาพิกุล ให้ชีวิตใสงาม.. และ อยากทำงานสอนหนังสือเด็ก โรงเรียนใต้ต้นไม้ ในอาณาจักรไพรของพุดเอง เฮ้อ.. พุดก็กำลังบอกขายที่ใกล้ทะเล ทั้งๆที่เสียดายผืนดินเกิดมาก แต่ทว่าพุดต้องตัดสินใจ หากขายได้.. พุดจะได้ไปซื้อที่ใหม่กลางหุบไพรพะงัน และสร้างกระท่อมฝันให้เป็นจริงเสียทีค่ะ แม้นว่ามีบางคนเขายินดีที่จะสร้างให้ แต่พุดอยากได้ที่ของตัวเองค่ะ ช่วยพุดภาวนานะคะนะคะ ทุกดวงใจ