...กลอนเก้าคำจำไว้ด้อยไพเราะ เขียนให้เหมาะแปดคำเพชรน้ำหนึ่ง แต่ละวรรคหนักแน่นดุจแกนกลึง กลอนจะซึ้งติดใจและให้คุณ คำสุดท้ายวรรคแรกแยกพิเศษ สามัญเขตหวงห้ามตามเกื้อหนุน ท้ายวรรคสองต้องรู้อยู่เป็นทุน เอก-โทจุนจัต-วาประพนธ์ ท้ายวรรคสามวรรคสี่นี้จำมั่น เสียงสามัญ-ตรีใช้ได้ทุกหน สัมผัสซ้ำจำจดงดปะปน จงคิดค้นถ้อยคำที่จำเป็น ไม้ไต่คู้ใช้กับไม้ไต่คู้ เมื่อฟังดูเด่นดีทั่งที่เห็น เสียงสั้นยาวก้าวก่ายหลายประเด็น อย่าบำเพ็ญพ้องกันนิรันดร อย่าเขียนให้ใจความตามเพ้อนึก จงตรองตรึกตระหนักเรื่องอักษร คติธรรมนำใส่ให้สังวร รวมสุนทรถ้อยไว้ให้งดงาม จุดจบก็ขอให้กินใจหน่อย มิควรปล่อยเปะปะเหมือนสะหนาม จบให้เด่นเห็นชัดจำกัดความ ให้ตรงตามเค้าโครงเรื่องโยงใย เขียนเสร็จสรรพกลับมาตรวจตราผิด ตรวจชนิดเรียงตัวทั่วกันใหม่ เมื่อเห็นเพราะเหมาะดีจี้หัวใจ จึงเผยให้ประชาชนตราตรึง กลอนเก้าคำจำไว้ด้อยไพเราะ เขียนให้เหมาะแปดคำเพชรน้ำหนึ่ง แต่ละวรรคหนักแน่นดุจแกนกลึง ผู้อ่านจึงจะชอบชมขอบคุณ... ........................ **..**....................... โอ้ชีวิตมนุษย์สุดแสนสั้น ศิลปะเท่านั้นจีรังไม่จางหาย อนันตกาลกว่าสิ้นชีวินวาย งามเฉิดฉายยงอยู่คู่ขวัญกัลป์ เสกสรรค์สร้างสร่างโศกโลกมนุษย์ ให้วิสุทธิ์สันต์ยิ่งทุกสิ่งสรรพ์ สวยด้วยศิลป์สูงค่าสารพัน คลายจาบัลย์ด้วยลักษณ์อักษรไทย เธอ...วรรณกวีผู้วิศิษฏ์ จงนิรมิตมนต์กลอนอันอ่อนไหว เสนาะสวรรค์จรดหล้าละเมียดละไม เลิศวิไลสมสยามนามอมร มโนมัยลอยลิ่วปลิวฟ้า ไหวลีลาหลากหลายลายอักษร ผจงถ้อยร้อยถักสลักกลอน ให้สุนทรสุนทรีย์ชูชีวัน น้ำรุ้งร่วงโรยราวพราวโปรยเพชร ดั่งกลเม็ดพริ้งเพริศอย่างเฉิดฉัน รวมความงามความหมายไว้ด้วยกัน เลอเลิศสรรพ์กุศลศิลป์กินใจเมือง ปณิธานจารไว้ให้จำจด เพื่อหยาดหยดความงามตามต่อเนื่อง อ่อนละลวยพวยพุ่งสู่รุ่งเรือง ให้ฟูเฟื่องอมตะอกาลิโกฯ
24 ธันวาคม 2553 08:56 น. - comment id 216763
จะทำได้มั้ยเนี่ย เดี๋ยวขอลองซักตั้งหนึ่งก่อนนะค่ะ
11 เมษายน 2547 19:21 น. - comment id 245473
การจะแต่งกลอนให้เก่งได้นั้น ต้องอาศัยหลายอย่างเป็นต้นว่าอย่างแรกที่ควรจะรู้ คือหลักฉันทลักษณ์ของบทกลอน เมื่อรู้ดีแล้วก็ค่อยๆฝึกแต่งไปทีละนิด ไม่มีใครหรอกที่จะแต่งได้เก่งมาตั้งแต่เกิด หมึกมรกตก็เช่นกันตอนแต่งแรกๆบทกลอนห่วย ไม่เข้าท่าเอาเสียเลย เมื่อกลับไปอ่านบทกลอนเก่าๆ ที่เคยแต่งไว้ ก็ล้วนมีข้อบกพร่องแทบทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นเราพี่น้องชาวไทยโพเอ็ม..มาเถิด..จับมือกัน..มาช่วยกันรังสรรค์ให้บทกวีของเรา..กลายเป็นเพชรน้ำหนึ่ง...คู่ควรแก่การจารึกไว้..คู่แผ่นดิน...ตราบนานเท่านาน ...จะเป็นกำลังใจให้เธอ..นิรันดร์... หมึกมรกต
11 เมษายน 2547 19:58 น. - comment id 245485
ศิลปะสวยงามตามท่านกล่าว เขียนเรื่องราวกล่าวขานผ่านลายสือ ข้าความรู้ยังน้อยค่อยฝึกปรือ ถ้าลายมือไม่สวยช่วยแนะนำ
11 เมษายน 2547 22:54 น. - comment id 245598
เป็น..บทกวี..ที่งดงาม..มากเลยคะ.... เรน..แวะมา..ขอบคุณ..พี่ชาย..นะคะ.. ... เรน..มารับ..กำลังใจ...จาก..พี่ชาย...นะคะ...
11 เมษายน 2547 23:39 น. - comment id 245632
กลอนไพเราะมากๆๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ มาชื่นชมผลงานนะค่ะ อ่านได้หลายรอบค่ะเป็นกลอนที่แนะนำวิธีการแต่งกลอนได้ดีมากๆๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ
12 เมษายน 2547 04:06 น. - comment id 245772
:)
12 เมษายน 2547 09:58 น. - comment id 245816
...ทราบแล้วเปลี่ยนค่ะ...
12 เมษายน 2547 10:59 น. - comment id 245836
ความงามในบทกวี สุนทรีเมื่อได้อ่าน สืบทอดมาเนิ่นนาน ร่วมสืบสานมรดกไทย.... ครับเห็นด้วยบทกวีมีความงามและเป็นอมตะจริงๆ
12 เมษายน 2547 11:32 น. - comment id 245846
สุดยอดจริงๆ เลยอ่ะพี่ดอย.. เก่งกำลังสองเลยคับ..^_^
12 เมษายน 2547 20:59 น. - comment id 246100
ขอบคุณ -น้องแพ็ค -พิราบสีขาว -กุ้งหนามแดง -พี่ติกิ -พี่ตุ้ม -น้องเรน -น้ำตากับท้องฟ้าสีคราม สัญญานะครับ ว่าเราจะจับมือไปให้ถึงฝั่งฝัน..ด้วยกัน.. ..จะเป็นกำลังใจให้เธอ..นิรันดร์.. :)
3 สิงหาคม 2551 20:47 น. - comment id 263569
เขียนได้ไพเราะมากๆค่ะ
18 กันยายน 2548 20:41 น. - comment id 389729
ก็แต่งดีนะครับ กลอน ถ้าจะให้ดีขอให้เขียนไว้ด้วยว่าแปลว่าอะไร - -\"