URL http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=347 ********* บันดาลใจจากงาน*หอมกลิ่นปทุมลานลุ่มธาร* งานงามของลำน้ำน่านค่ะ รจนาเพื่อจะตอบบทกวีนั้น หากทว่ามันยาวไป..ก็เลยนำมาไว้นะที่นี่นะคะ ด้วยรักค่ะ ************* บัวกลางใจไหวช่อรอน้ำค้าง อุษาสางแว่ววิหคนกไพรฝัน คืนสู่ถิ่นถวิลนาตามตะวัน อรุณขวัญรอรับรักกลับรังใจ... บัวคลี่ดอกจากเปลือกตมระทมทับ นานเนิ่นนับเหยื่อมัจฉาน่าเศร้าไหว บัวแล้งน้ำรอวสันต์พลันพร่างใบ รอน้ำใจหยาดรินสิ้นฤดี.. บัวพ้นน้ำได้อย่างไรไม่มีน้ำ รอสายธารหวานระรินสิ้นชีพนี้ มีสายธารราวสายทองล่องชีวี นำทางที่แสนงามนิยามใจ บัวสีขาวบานพราวหน้าพระพุทธ พระผู้พิสุทธิคุณศรัทธาใส ดอกบัวงามตามแย้มติดเตือนใจ ดอกบัวใจพลันคลี่พร่างกลางสายธรรม เป็นความงามเรียบง่ายทางสายเซ็น น้อมใจเห็นธรรมชาติยามเช้าค่ำ งามแสนงามแสงเทียนในโบสถ์คร่ำ สมาธินำทางใจเลิกไหวรับ เหมือนอรุณหมุนดาวศุกร์แสนสุกใส งามพร่างใจในยามเช้าน้ำค้างจับ แหงนเงยมองผ่านดอกบัวคลี่หวานรับ งามรำงับดับดวงใจไหวรู้ทัน ขุดบ่อบัวบานกลางใจรับงามเงียบ กลางเย็นเยียบงามงอกดอกดวงขวัญ ไม่มีสุขทุกข์ก็หายกลางเงียบงัน ไร้สวรรค์สิ้นนรกยกว่างใจ ขอเพียรธรรมนำทางสร้างกุศล กลางกมลบัวตระการบานไสว พลีรักสิ้นหยาดน้ำตาล้างเท้าเจ้าดวงใจ เดินตามไปในร่มธรรมนำนิพพาน.. เคย..เคยมั้ยคะ.. ที่คุณปลุกร่างและหัวใจ ให้ลุกขึ้นมาจากนิทราฝัน มาดูน้ำค้างพร่างกลางกลีบเกสรดอกไม้ หรือกลางกลีบบัว ใบบัว ที่ชูช่อชันไสว เฝ้าดูดาวพรายฉายแสง ตอนเช้าตรู่ ดูรัศมีแข รัศมีดาวประกายพฤกษ์อันสุกใส และรับพร่างไสวไว้เต็มนัยน์ตาเติมจิตวิญญาณ ผ่านความงามอย่างสงบนิ่ง ลึกล้ำในสมาธิ อย่างที่พระเซ็นเชื่อกัน *ยามเช้าในความหมายของพระเซ็น...โดยชานีในนิตยสารดิฉัน*.. พระเซ็นเชื่อกันว่า..พระพุทธเจ้าตรัสรู้เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ขณะพระองค์ทอดพระเนตรไปยังดาวที่ฉายแสงเมื่อตอนเช้าตรู่ ดาวดวงนี้ คือดาวพระศุกร์ พระองค์ทอดพระเนตรเห็นรัศมีอันสุกใส ของดวงดาวนี้ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ทรงอยู่ในสมาธิ และ ทรงรับเอาแสงสว่างสุกใสนั้นไว้ จนกระทั่งรัศมีเรื่อเรืองนั้นแทรกเข้าไปในพระเนตรของพระองค์ และทำให้พระองค์ตรัสรู้.. และนับแต่นั้นมา..พระเซ็นจะยึดถือเอาการตรัสรู้ ของพระองค์เป็นแบบอย่างในการปฏิบัติ และฝึกสมาธิกันอย่างเข้มข้น จนกระทั่งถึงสัปดาห์แรกของเดือนธันวาคม ซึ่งเปรียบเสมือนการสอบไล่ ที่จะใช้ทดสอบการปฏิบัติที่ผ่านมาทั้งหมด และรอว่าตนจะได้รู้แจ้งแทงตลอดแบบเดียวกับพระพุทธเจ้าหรือไม่* **************** และ เคย เคยมั้ย ที่คุณยอมสลัดผ้าห่มคลุมร่าง และปอกเปลือกความสุขจากเนื้อหนัง ให้ตื่นมาทันได้ เติมพลังใจไฟฝัน พลังสด พลังปราณในยามเช้าอย่างผู้เข้าใจโลก เข้าใจธรรมชาติรักธรรมชาติ รักธรรมะธรรมดาชีวิต ที่ต้องเพียรใช้พลังจิตภายในอันสวยใสสงบงาม..เพียงนั้น จึ่งจักได้มา ซึ่งซึ้ง นาทีทรงค่า ที่จะเติมต่อบ้านภายใน นวลเนื้อใจ ให้เงียบเรียบเย็นแนบสนิทเนียน.. ยามเช้า..ที่ เคย..เคยมั้ย..ที่คุณ เปิดเพลงบรรเลงฝันฟัง อย่าง*สายน้ำนิรันดร์ ริมฝั่งเนรัญชรา สายธารธรรม พระโพธิแก้ว*และ แล้วล้วนตามใจรักใจชอบ หรือฟังบทเพลงกลิ่นอายลูกทุ่งอย่าง.. ดอกจานบานรอ..สี่ในสี่ห้องหัวใจ และสาวชาวสวนส้มโอ.. เพื่อเปิดใจพลีพร้อม..รอ.. ดวงตะวันอ่อนอุ่น ที่จะหมุนโผล่พ้นดงไม้รำไรดงไผ่ ดงดอกหญ้า ระเรื่อเรื่องเหลืองละออละอองทองผ่องผุด หรือ ตะวันแดงฉ่ำตัดฉับรับกับทะเลผืนงามสีมรกตสีเทอร์ควอย์.. อันเงียบงามสงบใจ หรือ ดงป่าปูนกลางกรุงกรง ก็ยังคงให้แสงละมุนงามใจ ในแบบมากับเหลี่ยมมุมตึกดูงามลึกลับ ไม่เลือกที่รักมักที่ซ่อนดวงอ่อนหวาน บานโตเท่ากระด้งฝัดข้าวในราวเมืองใหญ่ และกับไพรพนา ที่มีบึงบัวหลากสีพร่างพรรณ เหมือนอย่างในงานงามลำน้ำน่าน ที่หวานพิสุทธิ์แฝงคำสอนของพระพุทธองค์ ให้พุทธศาสนิกชนทุกดวงใจ เตือนใจงามตามธรรมชาติใจธรรมดาคน ที่ผสานผสม ทั้งดินน้ำลมไฟ ให้เรา ถึงพร้อมยอมรับความเป็นจริง ว่าทุกสิ่งไม่มีอะไรแน่นอน เท่าสัจจธรรม อันเป็นคำสอนจากพระบรมศาสดา จากพระธรรมทองธรรมทานนานนับ มาเกินกว่าสองพันห้าร้อยห้าสิบกว่าปีแล้ว และจักเป็นความจริงอมตะนิรันดร์ชั่วกัลป์กัปป์..
4 เมษายน 2547 00:41 น. - comment id 241149
แวะ..มาขอบัว.. ไปปลูกไว้..หน้าบ้าน..จ๊ะ... งาม..เช่นเคย..พุดจ๋า
4 เมษายน 2547 01:24 น. - comment id 241177
..อ่อนหวาน.. มากเลยคะ... ..แบบ เรน..พยายาม..จะเขียนแบบพี่พุดพัดชา.. มัย? .. เรนเขียน ..ไม่ได้..สักทีนะคะ.. ..อยากเป็น ..ผู้หญิง ..อ่อนหวาน.. ...สร้างงาน ..งดงาม.. ให้ใครๆ..ได้ชื่นชม..นะคะ... ..คืนนี้ ..เรน..คงหลับ..ฝันดี... ราตรีสวัสดิ์ นะคะ...พี่คนดี..ของเรน.. zz z z z
4 เมษายน 2547 01:50 น. - comment id 241180
...บึงใจให้มากล้น........ยากจะค้นถึงบึงใจ ลึกตื้นขืนค้นไป...........ค้นมิได้ถึงก้นบึง... .........................สวัสดีครับ....................
4 เมษายน 2547 07:40 น. - comment id 241187
บึงกลางใจ บึงนั้น ช่างสรรสร่าง หอมกลิ่นจาง ลางเลือน เหมือนครบครัน ความงดงาม น่าชัง ดังสวรรค์ เหมือนความฝัน วันวัย ไร้เดี้ยงสา งดงามจริงๆครับ ชื่นชมด้วยหัวใจ
4 เมษายน 2547 07:55 น. - comment id 241192
http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_26645.php งานชิ้นนี้พุดพัดชาไม่ได้ลงในหน้าส่วนตัวค่ะ เลยนำมาเก็บไว้ที่นี่อีกครานะคะ ด้วยรักล้นใจค่ะ บัวกลางบึงบัวบังใบ พุดพัดชา อุบลชาติมากมีกว่าสี่ร้อยชนิด ต่างกันนิดผิดตรงสีกลีบกลิ่นหอม บัวกินสายรายเรียงนาโอบรายล้อม ชมพูหอมเจือขาวพราวตาพาหอมไกล.. รัตนอุบลหรือสัตตบรรณนั้นสีแดง บานยามแสงสนธยาเยือนเคลื่อนหลับไหล เวลาเช้าเจ้าหุบดอกกลัวแดดไกว ดอกบานใหญ่ใครเห็นหอมอยากดอมดม... สัตตบุษย์ภาษากวีเรียกชื่อนี้เศวตอุบล หอมหวานจนหลงละไมใจสุขสม บัวสีขาวพราวพุทธหยุดระทม เหนือโคลนตมโผล่พ้นน้ำยามรู้ธรรม... ดอกบัวผันนั้นมีขนาดเล็ก งามอยากเด็ดสีครามอ่อนวอนถลำ กลายเป็นม่วงพวงชมพูคู่ใจไกลระกำ บัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่นหมุนพรากใจ... บัววิตตอเรียระเรี่ยน้ำขอบกระด้ง ถิ่นลุ่มหลงลุ่มแม่น้ำอะเมซอนอเมริกาใต้ มีเมล็ดชาวพื้นเมืองปรุงกินได้ เป็นบัวไว้รับประทานบานเบิกใจ... ดอกบัวคือดอกไม้ชาวพุทธใช้บูชาพระ แต่ใช่จะประโยชน์เพียงนั้นฉันขานไข กลีบบัวหลวงใช้เป็นยาบำรุงหัวใจ เป็นยาไทยแก้ไข้และโรคตับ..จับมามวน(ตากแห้งแล้วนำมามวนเป็นบุหรี่ไทย) กลีบบัวสดนำมาห่อเมี่ยงเคียงอาหาร ทอดให้หวานกรอบอร่อยทานในสวน เกสรตัวผู้บำรุงใจไม่เรรวน ใบอ่อนล้วนชวนจิ้มน้ำพริกขลุกขลิกทำ.. ฝบบัวหลวงห้ามเลือดแก้ท้องเดิน โลกฝรั่งสรรเสริญใช่ห่อข้าวให้อิ่มหนำ มีกลิ่นหมอหลอมข้าวชาวไทยทำ ประจงทำประจำชาติสวยขาดใจ.. ต้มสายบัวครัวไทยใช้ก้านสายอุบลชาติ ปรุงหลายหลากไม่มีหนามตำเลือดไหล ต้มกะทิกับปลาทูปลาสลิดแซ่บถึงใจ ยำสายบัวไซร้ก็อร่อยคล้อยเคียงจาน... ไหลบัวคือบัวงอกออกจากเหง้าราวสองฟุต กลิ่นหอมสุดนำมาต้มน้ำตาลกรวดเป็นของหวาน แก้ร้อนในใจเคยช้ำอย่าร้าวราน นำมาทานเลิกท้อแท้แพ้พ่ายใจ.. เม็ดบัวมีรสชาติก็คล้ายถั่ว คนจีนทั่วทำไส้ขนมไหว้พระจันทร์ไหว ต้มแล้วทำหวานเย็นทานก็ชื่นใจ แก้ช้ำในระงับประสาทพลาดทำไป.. ดีบัวหรือต้นอ่อนในเม็ดบัว มีดีทั่วทางยารักษาหลอดเลือดใส ไม่นิยมทานกันมันขมไป ชอบหวานไซร้ทั้งรู้ขมตรมเป็นยา.. รากบัวนำมาต้มแก้ร้อนใน ชูกำลังใจแก้กระหายน้ำยามยากหนา ใช้ห้ามเลือดแก้อาเจียนบางเวลา รู้คุณค่าเข้าครัวทำนำสุขภาพดี.. ทำข้าวผัดอร่อยล้ำนำกลีบบัวห่อข้าวสวย รสงามด้วยเค๊กเม็ดบัวกลั้วชาเขียวเกสรสี บ่มใบชาไว้ในดอกบัวค้างคืนซี. ปาร์ตี้นี้วิถีไทยสุขทั้งใจอิ่มทั้งปาก มาฝากท้องน้องสายบัว อย่ามัวช้าอยู่ไย ดีไหมเธอ!
4 เมษายน 2547 08:11 น. - comment id 241197
ขอบพระคุณจากดวงใจถึงทุกดวงใจ แฟนพันธุ์แท้พุดพัดชานะคะ ภู..ตะวัน..คนดีงามดวงใจ ภู..ฤทัยไหวอ่อนรอนแสงหวาน ภู..หนักแน่นแผ่นศิลาตราบชั่วกาล เป็นภูหวานภูหวังภูตะวันส่องทางใจ.. ซึ้งสุดใจกับน้ำใจที่ยังมีความรัก.. เอื้อน้ำใจให้ค่ะ ราวกับอยากถนอมฝันถนอมขวัญ ให้ทำงานที่รักไปนานนาน มิรานร้าวไหวไปกับคำใครคำคน ที่หมุนวน..น่าเบื่อจังน่าเบื่อใจค่ะ ขอเมตตา*รักษ์อัญมณีไพร* ดวงนี้ไปตลอดนะคะ ******** น้องเรนจัง จงอย่าให้พลังใดมาเหนือใจมาลากใจ ให้เลิกหวานแหววพิสุทธิ์ใสนะคะ รักษากายและดวงใจแสนงามไว้ อย่าวายวุ่นไปตามคนไปตามใครค่ะ ******** ผลิใบ.. พี่พุด..ซึ้งใจในเมล์มากค่ามากกว่าแค่ภาพที่ส่งมา..เหนือทุกสิ่งคือความรำลึกนึกถึงพี่พุดค่ะ และฝากขอโทษนะคะ ที่ไม่เคยเมล์ใจเมล์ใดไปตอบค่างามใจนั้น เพียงพี่พุด ไม่ค่อยมีเวลาและพยายามงามสงบใจ ไม่ค่อยได้ติดต่อใครไม่ได้แชทเลยค่ะ ด้วยรัก..หวังเข้าใจนะคะ ***** ใบบอนแก้ว..ใจแพร้วเพริศพอกับใบบัวงามยามพร่างเพชรน้ำค้างกลางกลิ้ง..นะคะ สำหรับดวงใจพพี่พุดที่มองใครก็สวยก็ใสใจก็งาม ..ไปทุกดวงค่ะ รักและรักทุกท่านค่ะ
4 เมษายน 2547 14:51 น. - comment id 241264
การเขียนเป็นการเจริญปัญญา ใฝ่ฝันหาสมาธิสุขสดใส ดำรงค์คงสติได้เร็วไว เป็นกุศลทางใจให้เบิกบาน อิอิ...มาเยี่ยมนิ...ขอให้เขียนมีความสุขตลอดไปนิ
4 เมษายน 2547 15:19 น. - comment id 241284
ยามเช้าในความหมายของพระเซ็น...โดยชานีในนิตยสารดิฉัน*.. พระเซ็นเชื่อกันว่า..พระพุทธเจ้าตรัสรู้เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ขณะพระองค์ทอดพระเนตรไปยังดาวที่ฉายแสงเมื่อตอนเช้าตรู่ ดาวดวงนี้ คือดาวพระศุกร์ พระองค์ทอดพระเนตรเห็นรัศมีอันสุกใส ของดวงดาวนี้ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ทรงอยู่ในสมาธิ และ ทรงรับเอาแสงสว่างสุกใสนั้นไว้ จนกระทั่งรัศมีเรื่อเรืองนั้นแทรกเข้าไปในพระเนตรของพระองค์ และทำให้พระองค์ตรัสรู้.. และนับแต่นั้นมา..พระเซ็นจะยึดถือเอาการตรัสรู้ ของพระองค์เป็นแบบอย่างในการปฏิบัติ และฝึกสมาธิกันอย่างเข้มข้น จนกระทั่งถึงสัปดาห์แรกของเดือนธันวาคม ซึ่งเปรียบเสมือนการสอบไล่ ที่จะใช้ทดสอบการปฏิบัติที่ผ่านมาทั้งหมด และรอว่าตนจะได้รู้แจ้งแทงตลอดแบบเดียวกับพระพุทธเจ้าหรือไม่* แสงอาทิตย์อุทัยในความเงียบ หนาวเย็นเยียบค่อยจางอย่างรู้สึก เปิดเปลือกตาเบิกโลกโศกรำลึก พลิ้วสำนึกไหวคว้างไปตามลม เพลงนิรันดร์บรรเลง-เซนดนตรี หลากเฉดสีใบไม้ร่วง--หน่วงทางถม ณ ดินแดนความนิ่งยิ่งดิ่งจม ซ่อนตรอมตรมลึกรู้--อยู่ภายใน ในความเงียบเรียบง่ายได้สาระ ทุกผัสสะสะท้อนความอ่อนไหว เพียงใบไผ่พลิ้วพรายคล้ายดวงใจ ที่พลิ้วไหวโอนลู่สู่ปัญญา จิตวิญญาณอ่านได้ด้วยความว่าง เมื่อปล่อยวางโซ่ตรวนล้วนปัญหา น้อมอารมณ์ภักดิ์ลงตรงเมตตา เผยคุณค่าเงียบงามตามทางเซน ฝันถึงแดนอาทิตย์ทิศตะวันออก ยามไม้ดอกร่วงคว้างทุกอย่างเห็น เฉกชีวิตล่วงผ่านสู่ธารเย็น ลอยกระเซนร่วงร้างอย่างเข้าใจ ฝันถึงแดนอาทิตย์--อุทัยแรก ยามหมู่ปลาว่ายแหวกลำธารใส อิสระอยู่ท่ามกลาง--ว่างภายใน แล้วสละชีพให้เมื่อถึงครา ฝันถึงสีแสงซ้อนก้อนเมฆขาว ซ่อนดวงดาวผูกเปลเห่กล่อมฟ้า ลอยบางเบาพลิ้วไหวในเวลา รอเป็นฝนหล่นมา..ให้ผืนดิน เมื่อฝนหล่นคล้ายเสียงแห่งดนตรี คือสุนทรีย์ลึกล้ำด่ำทางศิลป์ เพียงสดับรับรสหยดน้ำริน คล้ายปล่อยว่างสูญสิ้นจากตัวตน มาเยียวยาความล้าด้วยฝึกจิต เพ่งความคิดพิศไปในทุกหน จิตภายนอกเงาภายในใต้กมล ดับร้อนรนเข้าถึงปัญญาญาณ เพลงนิรันดร์แห่งเซนยังบรรเลง บ้างครื้นเครงเฉียบคมผสมผสาน จิตวิญญาณตะวันออกผลิดอกบาน ให้สุขซ่านกับสงบ--เพียงพบซึ้ง ใบไผ่พลิ้วไหวหวานนานนับกัลป์ คือสีสันแห่งอุทัยได้มาถึง เซนส่องทางว่างง่ายในคำนึง ส่องสงบอวลอึงอยู่นานนัก เหลืองใบไม้หล่นลงตรงริมทาง ทุกทุกอย่างเข้าใจได้ประจักษ์ เซนอ่อนโยนละออพอให้ภักดิ์ จิตเคยหนักกลับว่าง--อย่างลึกซึ้ง ------------------------------ ในวันที่ดวงจิตกำลังรอวสันตฤดูมาเยียน.. จิตนาการไปถึงดินแดนอาทิตย์อุทัยและจิตวิญญาณตะวันออก ที่ใบไผ่กำลังพลิ้วไหวไปตามลม บ่งบอกเรื่องราวแห่งความว่าง ปรัชญาเซน สะท้อนความสงบงามลึกล้ำภายใน ดนตรีเซนเข้าถึงสมาธิอันซ่อนลึก....อิสระในการกระทำ ใบไม้สีเหลืองปลิดปลิวไปตามแรงลม ใบแล้วใบเล่า แง่คิดและมุมมองในการใช้ชีวิตแบบเซนกลับกระจ่างชัด และผุดพรายขึ้นในห้วงสำนึกในยามนี้....ลำพัง หยิบหนังสือ เส้นทางสายเซน โดยเสถียร จันทิมาธร บรรยายความงดงามแห่งเซนได้อย่างน่าอัศจรรย์ว่า เพลงนิรันดร์ซ่อนตัวอยู่ในความมืดของคืนหนึ่ง ดับความกระวนกระวายใจกับดนตรีเซน... ทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา เพื่อนคนหนึ่งเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ เขาเคยเขียนบทกวีที่ว่า ฝันถึงที่ไหนสักแห่ง ที่จะได้ผูกเปลนอนนิรันดร์ เขาได้นอนนิรันดร์ในผืนแผ่นดิน... ปรัญชาแห่งเซนเรียบง่ายแต่ลึกล้ำด้วยต้องใช้ใจดวงดีตีความ น้อมใจกลับสู่ความสามัญ สงบเงียบ ลึกล้ำ ละวางจากตัวตน แล้ววันหนึ่งเราอาจจะค้นพบว่า ชีวิตด้านในที่กำลังงอกเงย และผลิบานด้วยความเรียบง่ายนี้ เป็นพลังขับเคลื่อนให้ดำเนินไป และเป็นความสุขที่หมุนโลกได้อย่างนิรันดร์ แม้ในวันที่เราเป็นทุกข์ที่สุด ก็กลับยิ้มได้ ด้วย เซน
4 เมษายน 2547 15:55 น. - comment id 241303
บัวงาม ใจงาม ชีวิตงาม... ชวนให้นึกย้อนมองความเป็นไปแห่งโลก... ไหวหวั่นสั่นไหวกับงานงาม....... แม้เข้าใจงามไดมิหมดสิ้น...แต่ยินดีที่ได้อ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่า... อาจเพราะใจมิได้เสมอกัน....แต่ชอบงานคุณจากใจ ขอบคุณที่สื่อที่ส่ง...
4 เมษายน 2547 20:00 น. - comment id 241396
บัวกลางบึงซึ้งใจฉันใฝ่ปอง กลีบไม่หมองมัวไปไร้ฝุ่นหนา ด้วยอยู่ไกลใจกลางหว่างธารา สวยสมค่าคราแดดแผดรอนรอน โปรดอ่านต่อในบทกวี บัวกลางใจ
4 เมษายน 2547 23:00 น. - comment id 241466
มาเยี่ยมคุณพุด เขียนได้ดีเสมอนะครับ.... ขอให้มีความสุขครับ สวัสดี..
5 เมษายน 2547 06:24 น. - comment id 241594
ผมเคยอ่านพุทธประวัติ ในวันก่อนประสูตรเจ้าชายสิทธัตถะ นางมายาซึ่งเป็นมารดา ฝันว่ามีช้างนำดอกบัวมายื่นให้ ตอนประสูติ(ภาคปาฏิหาริย์) สามารถเดินได้ มีดอกบัวมารองรับ ดอกบัวน่าจะเป็นดอกไม้ที่สมควรนำไปบูชาพระมากที่สุดครับ