http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=1675 (สาวนาคอยคู่) เพื่อเป็นที่ระลึกจากคำ.. บรรเจิดใจบันดาลรักจรัสเจรืองค่า เพราะเราคู่กัน..*ดั่งแหล่กขู๊ดกับพร่าวน่าวว.*นะจ๊ะ (กระต่ายขูดมะพร้าวกับมะพร้าวเน่า) มนต์รักที่ราบสูง..ลำน้ำน่าน สิ้นฤดูอีกคราวหนาวจรผ่าน เมื่อดอกจานตูมเต้ายามเช้าใหม่ ลมหนาวเอยโบกพลัดไปแหล่งใด จึงทิ้งใจลอมฟางไว้กลางลาน เหลืองระยับทุ่งทองรอคล้องเคียว รวงข้าวเหนียวโน้มกอคลอรวงสาน หอมวิญญาณบ้านทุ่งจรุงบาน ต่อตำนานมนต์เพลงบรรเลงแล้ว ที่ราบสูงยูงยางสร่างใบ เมื่อลมแล้งโบกไกวบ่วงใบแผ่ว หล่นลาร่วงถมกว้างเต็มทางแนว กี่ดวงใจคลาดแคล้วจะจรคืน มารับขวัญท้องทุ่งหุงข้าวใหม่ ก่อฟืนไฟไล่ล่องท่องนาผืน โห่ลมว่าวหนาวเอยเชยกลับคืน มาพัดครืนเกรียวฟางอย่าร้างลับ เกี่ยวเก็บฝันต้นฤดูมาสู่ท้อง เมื่อดุเหว่าแว่วร้องพร้องเดือนดับ ปลุกวิญญาณนานเนิ่นให้เกินนับ ให้คว้าจับแกะเคียวไปเกี่ยวรวง มนต์ท้องนาป่าไพรในส่วนลึก หว่านผลึกจรดแหล่งแสบงหลวง เกลี่ยเกรียวอาบม่อนเนินดั่งเงินยวง เขียวสุดท้ายรอร่วงอยู่ลิบลิบ เพลงเกี่ยวข้าวกังวานซ่านในอก เมื่อหมู่นกร้องครวญชวนใจจิบ วิหคใดห่างร้างกลางเมืองลิบ หอบชีวิตยากไร้ไปเดียวดาย ลมว่าวเอยอย่าช้าพามนต์ทุ่ง ไปจรุงหอมรินกลิ่นความหมาย แม้นอกสั่นพรั่นพรึงถึงความตาย จงโอบกายผ่อนหนักอย่าชักช้า เพลงฤดูอีกคราวหนาวจะผ่าน ยังกังวานแกล้มกลิ่นรินบุปผา ดอกโสนจานใจไหวกลีบมา เป็นมนต์เพลงมนตราข้ายลยิน แสงแดดฉ่ำสะท้อนย้อนรวงข้าว ริ้วลมหนาวจรจากพรากทิ้งถิ่น มนต์เสน่ห์ที่ราบสูงคลุ้งระริน อบวิมานบนดิน...กลิ่นทุ่งไทย มนต์เสน่ยังหยัดสูงคลุ้งระริน อวลวิมานอบกลิ่น....ผืนดินใคร? เวอร์ชั่นรักพิสุทธิใสจากใจสาวนา ผู้รักเดียวใจเดียว ราวเคียวคมรอเกี่ยวรอเก็บใจมิไหวหวั่น หลงรอท่า..... ผู้*อ้าย*ปากหวานหว่านแค่ลมลิ้น ว่ายังถวิลหานา..สาวนานานเนิ่น.. แลทุกฤดูฤดีที่ลาลับและมิคืนเคยกลับมา..เลย..ชั่วฟ้าดิน.. ******* ตะแบกร่วงพรายพร่างกลางลานหอม นกแรมรอนหว่านคำเพ้อละเมอหา รักหรือลวงเล่นลิ้นถวิลนา เสน่หาหรือแสร้งแกล้งนาคอย..(สาวนาคอย).. รักระยับเรียวรวงไยไม่กลับ ลมระบัดหนาวเนื้อกี่หนาวหนอ เคียวสิ้นคมแขวนคารอและรอ อ้ายมาขอเกี่ยวคู่รวงรู้ใจ... ที่ราบสูงไร้ยางยูงดินแห้งผาก เหมือนคนยากนาน้อยคอยน้ำใส หวังน้ำรักน้ำฝนรินรดใจ(ใบ) ยอดดวงใจหลงแสงสีมิจรคืน... รอรับขวัญกับผ้าถุงทอผืนหอมใหม่ อิงกองไฟดูดาวพรายใกล้นาผืน ท้าลมว่าวหนาวแค่ไหนอุ่นรักคืน ร้อนกว่าฟืนหอมกว่าฟางใจร่างรับ... แล้วหยาดหวานกว่าฝนหล่นเรียวร่าง ดุเหว่าหวานยังหยุดร้องเดือนยอมดับ ปลุกวิญญาณนานเนิ่นเกินนานนับ ให้คว้าจับน้ำผึ้งหวานผ่านร่างรวง... มนต์ท้องนาจะเห่กล่อมจนรุ่งสาง หอมเจือจางดอกจานหว่านหวานร่วง ดาวหัวเราะจันทร์อวยพรอ้อนโอบรวง โศกในทรวงล่วงลาลอยฟ้าไกล.. เพลงเกี่ยวข้าวคลอคู่ใจแสนซ่านซึ้ง หวานตราตรึงนกไพรคืนคอนมิจรไหน วิหคเอ๋ยอย่าหลงเชยไม้เมืองใด คืนสู่ไพรคืนสู่รังหวังเคียงดิน.. ลมว่าวเอยอย่าช้าพัดพาหมอง น้ำตานองเรียวรวงรอถวิล ดอกโสนเหว่ว้าน้ำตาริน ดอกจานสิ้นหว่านหวานประจานใจ.. ดับแดดกลางดวงใจรดน้ำรัก หว่านกล้ารักแตกหน่อกอไสว นาผืนน้อยนาคอยเคียวนาน้อยใจ อย่าแรมไกลหว่านเพียงลมพรมผืนดิน... พรมผืนนา!
5 กุมภาพันธ์ 2547 13:19 น. - comment id 212185
ไม่มีภาพและไม่ขึ้นหน้าส่วนตัวค่ะจะลบก็ไม่ได้
5 กุมภาพันธ์ 2547 15:13 น. - comment id 212212
ไพเราะมากกกก ขอรับ ^^
5 กุมภาพันธ์ 2547 15:50 น. - comment id 212232
ตะแบกแตกใบอ่อนชอนช่อใหม่ รอรับลมลูบไล้ในวันนี้ แต่สาวนาหาลมใจจากไหนมี รอทั้งปียังเปล่าเหงาเหมือนเดิม เออแน่ะ....งงๆ นะ..
6 กุมภาพันธ์ 2547 07:50 น. - comment id 212594
นี่ก้เพราะมาก ๆ เหมือนกันนะครับ... ผมเองบอกตรง ๆ ว่าถ้าให้ใครเค้าถามว่ากลอนใครน่าอ่านกว่ากัน...ไม่ใช่คุณให้มันรู้ไปสิครับ...*-* ลืมอิจฉาตัวเองแล้วนะครับ คุณสาวบ้านนา อิอิ *-*