๏ ๏ กบฏกฎกวี ๏ ๏

พี่ดอกแก้ว

กวีหรือคือใคร....ใคร่รู้จัก 
จะถามทักความนัยไถ่ปัญหา 
เมื่อเขาเรียกกวีมีชั้นตรา 
ฟังแล้วรู้สึกว่าเป็นอย่างไร? 

งานกวี..เป็นเช่นใดก็ใคร่รู้ 
ต้องเป็นงานชั้นครูนั้นใช่ไหม? 
มีระเบียบบรรทัดฐานประการใด 
ไม่แจ้งใจกับกฎบทกวี 

กวีหรือคือใคร...ใคร่เรียนร่ำ 
ใช้ผู้นำทัศน์ใหม่ในวิถี
หรือผู้ปรับปรุงรสพจนีย์
ประทับตีตราผ่านการร้อยกลอน 
งานกวี..เป็นเช่นใดใคร่เชยชม 
ใช่นิยมเพียงเสียงเรียงอักษร 
หรือสมเหตุสมผลบนวรรคตอน 
ถ้อยสุนทรเช่นโบราณจารวจี 

ความแตกต่างอย่างหนึ่งที่พึงรู้ 
คือเห็นผู้สร้างสรรค์วรรณศรี 
บ้างก็คมคายคำล้ำวาที 
บ้างก็มีคำฟุ่มเฟือยเอื่อยวาจา 

ขอวาดหวังครั้งต่อไปได้เขียนพจน์ 
งามหมดจดรสกวีที่ภาษา 
และสูงส่งด้วยนัยอักษรา 
ให้คุณค่าแก่ผู้อ่านกานท์กลอนเอย 
				
comments powered by Disqus
  • พุด..รักมากบทนี้ค่ะ

    28 มกราคม 2547 11:13 น. - comment id 208590

    กวี คือ    
    ม้าก้านกล้วย  
    บทกวีที่เสนอสรรค์จรรโลงสนาน
    ซึ่งสร้างสานจากคำคมอารมณ์ศิลป์
    ไม่เคยคิดทำร้ายใครให้พ่ายพิน
    ไม่เคยสิ้นสายสุดฉุดอาวรณ์
    เพียงประสมคารมสมความคิด
    เพียงลิขิตตราไว้ให้โอนอ่อน
    เสกเรื่องหลากราวเป็นเช่นละคร
    ร่ายคำกลอนวอนว่าประสาซึ้ง
    กวีคือถ้อยสำเนียงเพียงเสนาะ
    กวีคือเพลงเพราะเพียงบทหนึ่ง
    กวีคือแทนท้อพ้อรำพึง
    กวีคือสิ่งซึ่งระบายฤดี
    กวีเป็นผู้สร้างทางแห่งฝัน
    กวีนั้นคันฉ่องส่องวิถี
    กวีวาดหวังวางสร้างชีวี
    เพราะกวีจึงมีวันฝันสมใจ
    ฉันสร้างตัวแทนฉันขึ้นมาหนึ่ง
    ด้วยซึ้งก็สร้างเธอขึ้นไว้ให้
    แล้วจูงมือร่วมทางฝันอันแสนไกล
    สุขอื่นใดมิเทียบได้แล้วนะเธอ
    แม้นจะต่อว่ากันว่าฝันเฟื่อง
    แม้นขุ่นเคืองเพราะกลัวใจใครจะเผลอ
    แม้นเกรงว่าฉันคงหลงละเมอ
    ยังมั่นคงต่อเธอเสมอมา
    ยังเป็นแค่หนึ่งคนในความจริง
    ยังสร้างทำทุกสิ่งอย่างทรงค่า
    เพียงบางบทของชีวีที่อ่อนล้า
    ขอเวลา ตามใจฝัน ฉันหน่อยนะ
      (ม้าก้านกล้วย) 
    
  • รดา

    28 มกราคม 2547 11:39 น. - comment id 208592

    ชอบจังค่ะ ..^_^..
  • จากพุด..เพื่อนผู้คิดถึงและยังรอเค้าเสมอมาค่ะ

    28 มกราคม 2547 11:40 น. - comment id 208593

    http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_24245.php
    กวี (รวมกลอนกล กบเต้น) 
    
    และด้วยรักมากจากใจจริงเพื่อนนานปีค่ะม้า
    ไปไหนหากยังโขยกไหวน่าจะคืนกลับมาซะทีนะ
    
    แมกไม้สายมูล รี่ไหล
    ฝากรักฝากใจ ไปให้
    ฝากจันทร์จูบเธอเดียวดาย
    ฝากกายไปกับสายลม..
    ฝากกระซิบริมแก้มอย่าเจ้าชู้
    รู้รู้อยู่ว่าใครขื่นขม
    เที่ยวหลงเงาใจจนตรม
    ระทมเพราะหาเรื่องเสียจริงจริง
    
    *************
    เพราะรัก . . . จะเป็นกวี    
    ม้าก้านกล้วย  
    
    เพราะรักจะจรรโลงคำโคลงกลอน
    จึงลิขิตคิดค่อนคำอ่อนหวาน
    จึงจารึกลำนำเป็นตำนาน
    สืบสานบรรณวิถีนี้สืบไป
    ราวลูกปัดเลื่อมลายหลายหลายสี
    ดุจมณีพลอยสวรรค์อันไสว
    มาเรียงร้อยเหลือบรุ้งจรุงใจ
    ถักด้วยไหมสานเอาไว้เป็นสายงาม
    มีจังหวะจะโคนอ่อนโยนซึ้ง
    หรือเร้นคมคำนึงซึ่งเหยียดหยาม
    ก็สร้างถ้อยร้อยเรียงเพียงข้อความ
    เป็นไปตามใจคิดประดิษฐ์คำ
    เรานั้นเป็นเช่นผู้แต้มแต่งกวี
    เพราะหลงไหลในวจีที่เลิศล้ำ
    เอาวลีมาต่อเชื่อมเหลื่อมลำนำ
    ให้คมขำข้อคิดสะกิดเตือน
    ราวช่างผู้อุตส่าห์หาลูกปัด
    มาผูกมัดโยงระยางอย่างเสมือน
    เป็นเทวาร้อยราวด้วยดาวเดือน
    ที่กลาดเกลื่อนกลางฟ้ามาเรียบเรียง
    ถ้อยความหลามหลากจากชีวิต
    แม้นไม่คิดคำคล้องมาพ้องเสียง
    คงแค่ลมปากเป่าเกลาสำเนียง
    คงแค่เพียงเจรจาหาใช่กลอน
    แต่หากหาช่องทางวางสัมผัส
    ตามบัญญัติเล่าขานอาจารย์สอน
    ให้ยุ่งยากยิบย่อยค่อยยอกย้อน
    ก็กลายกลอนเป็นกวีที่คู่ควร 
    ********************
    ปณิธาน กวี    
    ม้าก้านกล้วย  
    
    ก็นับนานที่เติบใหญ่อยู่ในโลก
    พบแล้วทั้งเรื่องโศกหรือสุขสม
    ทั้งเก่งกาจผงาดและพลาดล้ม
    ทั้งชื่นชมทั้งชิงชังช่างโชกโชน
    โลกที่มีมุมมองตั้งมากมาย
    ได้ดีร้ายพลิกแพลงแผลงผาดโผน
    ได้ดุดันกริ้วกะล่อนและอ่อนโยน
    เคยทั้งโดนบูชาและด่าทอ
    คงจะเช่นใครใครอีกหลายคน
    ได้ขุดค้นเรื่อยไปมิได้ท้อ
    ยังไม่ซึ้งสัจจธรรมคำว่าพอ
    เลยต้องต่อสู้อยู่มิรู้ร้าง
    ประสบการณ์หากปล่อยให้ลอยล่อง
    ก็คงต้องเสียดายหลายหลายอย่าง
    จึงขอเอาชีวิตลิขิตวาง
    วงแนวทางแนวคิดชีวิตใด
    จะจารึกโลกไว้ในบทกลอน
    จะวิงวอนด้วยกวีนี้ว่าไว้
    จะเล่าร้อยเรื่องความตามเป็นไป
    จะเลื่อนไหลด้วยสัมผัสจัดบรรจง
    เพื่อจารึกเพื่อปรากฏบทลิขิต
    ไว้เตือนจิตยามใครจะไหลหลง
    ไว้ฉุดรั้งยั้งใจให้พะวง
    ไม่ให้ตกต่ำลงกว่าที่เป็น 
    
  • วิศย์

    28 มกราคม 2547 12:58 น. - comment id 208627

    ในบทกวี...
    ควรจะมีความงาม ไร้ความขัดแย้ง
    ควรจะมีความไพเราะ ไร้ความหยาบกระด้าง
    ควรจะมีความสร้างสรรค์ ไร้ความตกต่ำ
    
    ที่ผ่านมาก็เห็นว่า มีความขัดแย้ง ต่างแสดงทัศนะของตนๆ ไม่ยอมแพ้แก่กัน
    
    น่าเศร้านักหากเกิดเหตุการณ์เช่นนั้นในบ้านหลังนี้
  • อัลมิตรา

    28 มกราคม 2547 13:21 น. - comment id 208631

    :) กวี เป็นผู้ที่ถ่ายทอดหัวใจอันงดงามให้เป็นบทกวี ..
    
    หากกวีตีกรอบตัวเอง ให้อยู่ในมุมอับแล้ว .. พันธนาการต่างๆก็ยากจะปลดเปลื้องได้ ..
    
    กวีคือ..อิสระชน ..
  • ทิกิ_tiki เกือบลงทะเบียนค่ะ

    28 มกราคม 2547 13:50 น. - comment id 208634

    อ่านของพุดแล้วปลื้มมากพอพอกับของคุณดอกแก้ว
    ชื่นใจ
  • คีตะ

    28 มกราคม 2547 13:53 น. - comment id 208636

    กวี ก็คือ คีตะนี่แหละค่ะ
  • เอม

    28 มกราคม 2547 14:31 น. - comment id 208647

    กวีหรือคือผู้วาด
    และประกาศความใฝ่ฝัน
    จรรโลงโคลงกลอนฉันท์
    ประพันธ์กาพย์ภาพชีวิต
    
    สวัสดีค่ะพี่ดอกแก้ว
  • toneliu

    28 มกราคม 2547 14:33 น. - comment id 208648

    ...กวีกูผู้สร้างวิญญาณกล้า
    
    เป็นแถวหน้าท้าโลกย้ำโยกไหว
    
    ชีวิตเห็นเส้นสีงามที่ใจ
    
    ขอรับใช้ใครยากแค้นข้นแผ่นดิน....
  • ~::นางมารพเนจร::~ (เกือบจาล๊อก อิน)

    28 มกราคม 2547 17:42 น. - comment id 208718

    ...กวีคือนักรบ
    พบเลือดเชือดด้วยคำแฝง
    ซ่อนดาบในอักษรไว้สำแดง
    กล้าแกร่งแรงร้ายในคมคำ
    ...กวีคือดอกไม้
    อ่อนไหวในทุกสิ่งสรรค์
    หลายอารมณ์สุขสม,จาบัลย์
    คอยร้อยคืนวันใส่คำไว้
    ...กวีคือชีวิต
    เปี่ยมด้วยจิตแรงกล้าฝันใฝ่
    ซึมซับอักษรด้วยใจ
    รับรู้ได้ถึงรสบทประพันธ์
    
    **ไม่ว่ากวีคือใคร ล้วนสวยงามในความรู้สึกค่ะ
    กลอนไพเราะมากเลยนะคะ^^**
    
    
    
  • tiki

    28 มกราคม 2547 19:47 น. - comment id 208741

    มาอ่านอีกรอบ
    เพราะเพราะกันทั้งนั้น
    ปลิ้ม
  • พี่ดอกแก้ว

    28 มกราคม 2547 20:10 น. - comment id 208750

    @...น้องพุดคะ...
    
    กวีคือผู้มีศิลปสาร
    ก่อตำนานเรื่องจริงและสิ่งฝัน
    ใช้ภาษาเรียงรสบทจำนรรจ์
    สื่อถึงกันทั้งสุข เศร้า หรือเหงาใจ
    
    ขอบคุณมากค่ะน้องพุดที่น่ารัก..ที่นำตัวแทนความรู้สึก..
    กวีคือ ..เพราะรักจะเป็นกวี ..และปณิธานกวี
    ผลงานของคุณม้าก้านกล้วยนี้
    ช่างสวยงามและจรรโลงใจนัก
    พี่ดอกแก้วเองก็ชื่นชอบมากค่ะ
    
    กวีอาจมีความหมายหลายอย่าง..ตามแต่ใครจะนิยาม
    แต่ในความหมายของพี่ดอกแก้วแล้ว
    คือผู้สร้างสรรค์ศิลปในภาษา ..ถ่ายทอดนามธรรมให้ปรากฏ
    
    ไม่ว่าจะดำเนินตามรอยครู
    หรือพัฒนาไปสู่เส้นทางเฉพาะตน 
    ก็นับเป็นคนที่มีคุณค่าทั้งสิ้น
    
    
    ขอให้เพื่อนที่รักของน้องพุดกลับมาโดยเร็วนะคะ
    
    
    
  • พี่ดอกแก้ว

    28 มกราคม 2547 20:14 น. - comment id 208753

    @...รดา...
    
    ขอบคุณที่มาแวะเยี่ยมเยียนนะคะ
    การได้เห็นมุมมองทางความคิดของผู้อื่น
    อาจทำให้เราได้ประโยชน์แก่ตน
    โดยเฉพาะความรอบคอบ รอบรู้
    
    ขอให้รดา..เป็นผู้ที่มีความสำเร็จยิ่งๆขึ้นไปนะคะ
    
  • พี่ดอกแก้ว

    28 มกราคม 2547 20:24 น. - comment id 208755

    @...วิศย์...
    
    มุมมองที่แตกต่าง
    มักจะสร้างงานแบบใหม่
    อาจชอบ..ไม่ชอบใจ
    ก็เป็นไปเพราะใจต่างกัน
    
    
    ความขัดแย้งอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ก่อให้เกิดพัฒนาการที่น่าสนใจ
    
    ผู้ที่รักจะใช้รูปแบบตามรอยครู
    ก็ควรที่จะเป็นผู้มีระเบียบวินัย
    
    ส่วนผู้ที่ต้องการสร้างสรรค์สิ่งใหม่
    ก็มิควรจะนำของเก่าไปเหยียบย่ำตามใจตน
    
    เมื่อไม่พอใจที่จะใช้รูปแบบนี้ก็ควรคิดค้นหารูปแบบของตนขึ้นใหม่...งานใหม่ๆที่เรียกว่าพัฒนาการก็จะเกิดขึ้นให้ผู้อยู่ภายหลังได้เลือกใช้ ...
    ดังเช่นที่เราเลือกที่จะเขียนกาพย์ กลอน โคลง ฉันท์ เรื่องสั้น บทความ ตามแบบต่างๆ ที่นักปราชญ์นักคิดผู้เป็นบัณฑิตในสมัยโบราณท่านสร้างไว้
    และก็มีการสร้างแนวทางใหม่เพิ่มเติมกันกันทุกสมัย
    
    
  • พี่ดอกแก้ว

    28 มกราคม 2547 20:37 น. - comment id 208757

    @...น้องอัลมิตรา...
    
    ความรู้สึกใน.....เสรีภาพ...กับ..เผด็จการ..
    บ่งบอกถึงความหมายในจุดยืนของน้องอัลมิตราอย่างชัดเจน
    ชื่นชมกับความกล้าหาญที่ประกาศอุดมการณ์
    และบอกถึงความต้องการอย่างเด็ดเดี่ยวนั่นคือ อิสรภาพ
    
    ขอบคุณนะคะ
    
  • พี่ดอกแก้ว

    28 มกราคม 2547 20:49 น. - comment id 208761

    @...tiki...
    
    ขอบคุณมากค่ะ
    ความอึดอัดที่เกิดจากการบีบคั้นของผู้อื่น
    เป็นเหมือนกรอบที่ควบคุมความอิสระของเราไว้
    กระทั่งจินตนาการที่เป็นเรื่องส่วนตัว
    ก็ยังถูกความอึดอัดเข้าไปทำลายเสียมากมาย
    น่าเสียดายยิ่งนัก
    
    งานที่งดงามมักจะออกจากใจที่ไร้เงื่อนไขเสมอ
    ..ใช่ไหมคะ
    
    ขอบคุณมากค่ะคุณทิกิ
  • dinsor

    28 มกราคม 2547 20:51 น. - comment id 208762

    หากวันนี้ อย่ามากล่าวหาว่าฉันเป็นกวีอีกเลย
    ฉันเพียงแต่มีควาฝันอันน้อยนิด ที่อยากจะเป็นเช่นกวีตัวน้อย
    
    หากในวันนี้ ฉันยังคงเป็น นักอยากเขียน อยู่นั่นเอง
    
  • พี่ดอกแก้ว

    28 มกราคม 2547 20:53 น. - comment id 208764

    @...คีตะ...
    
    อ้อ...ได้พบกวีตัวจริงก็คราวนี้
    ดีใจที่มาทักทายนะคะ..อิอิ
  • พี่ดอกแก้ว

    28 มกราคม 2547 20:56 น. - comment id 208765

    @...เอม...
    
    สวัสดีค่ะ ....กวีของเอมเป็นศิลปินที่ขยันและน่ารักจังเลยค่ะ
    
  • พี่ดอกแก้ว

    28 มกราคม 2547 21:02 น. - comment id 208766

    @...toneliu ...
    
    ท่านนั้นเป็นกวีที่มีไฟ
    มีหัวใจใหญ่กล้าท้าความร้าย
    มีความหวานละมุนอยู่มากมาย
    อุดมการณ์พร่างพรายเพื่อผองชน
    
    ช่างเป็นกวีที่มีเลือดเข้มข้นมากค่ะ..นับถือ ..นับถือ
    
  • พี่ดอกแก้ว

    28 มกราคม 2547 21:07 น. - comment id 208767

    @...นางมารพเนจร...
    
    กวีมีความงาม
    จะกี่ยามก็งามพร้อม
    งามรสบทอักษร
    ยิ่งงดงามยามจินตา
    
    ..บทกวีที่นำมาแจมนั้นไพเราะ งดงาม คมมากค่ะ
    ขอบคุณมากๆที่นำมาฝากไว้ที่นี่
    
    
    
  • พี่ดอกแก้ว

    28 มกราคม 2547 21:12 น. - comment id 208771

    @...น้องจ๋า...
    
    สวัสดีค่ะนักอยากเขียน
    
    เมื่อต้องการให้เรียกอย่างนี้
    น้องจ๋าคงจะมีความหมายของคำว่า..
     ..กวีและงานกวีไว้อย่างยิ่งใหญ่
    
    ด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตนนี้..
    ขอให้ความฝันนั้นสำเร็จโดยเร็วนะคะน้องจ๋า
    
    
  • ผู้หญิงไร้เงา

    28 มกราคม 2547 22:41 น. - comment id 208816

    กวีคือใครก็ไม่รู้
    แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นครูอยู่เสมอ
    อาจเป็นคนธรรมดาที่พบเจอ
    แต่ก็สามารถเสนอบทกวี
    
    *-*กลอนไพเราะมากเลยค่ะ*-*
  • พี่ดอกแก้ว

    28 มกราคม 2547 23:22 น. - comment id 208852

    @..ผู้หญิงไร้เงา...
    
    ถูกใจมากเลยค่ะกับบทนี้
    เป็นใครก็ได้เนอะที่เสนอบทกวีได้น่ะ
    
    น่ารักจัง..ขอบคุณมากค่ะ
  • ชัยชนะ

    29 มกราคม 2547 06:54 น. - comment id 208989

    กาเขียน รูปแบบ วิธิการ ถ้อบคำ สำนวนภาษาผมไม่ติดใจ
    
    แต่เมื่อเขียนไปแล้ว 
    คนอ่านประทับใจในอรรถรส
    คนอ่านลึกซึงเข้าใจในผลงานที่เขียน
    ผู้อ่านได้รับความสนุกสนานเพลิดเพลินใจ
    หรือบางทีมีแง่คิด ให้ผู้อ่านได้ประโยชน์บ้าง
    ผมยกย่องบุคลคลเช่นนี้ว่า
    เป็นกวีในดวงใจผมครับ
    
    
    
  • แทนคุณแทนไท

    29 มกราคม 2547 14:17 น. - comment id 209099

    เช่นกันครับ...
     กวีจะเป็นอย่างไรไม่ไคร่ใส่ใจมากมายนัก
    แต่บทกวีเป็นความงดงามทางภาษา 
    และเบ้าหลอมจิตวิญญาณระหว่างจินตนากับความเป็นจริง
    รูปแบบ วิธีการ หรือกลถ้อยอย่างไรไม่ใคร่ติดยึด และยึดติดมากมายนัก
    เพียงแต่คราใดที่ขบเขียน แล้วรู้สึกว่างดงามในจินตนาขณะนั่น ก็อิ่มเอมยิ่งแล้ว
    สำหรับผม...รักถ้อยร้อยวลีเพียงเพราะว่า นี่คือความรู้สึกอันงดงาม งดงาม และงดงาม จึงขบคิด ขบเขียน
    ไม่ว่าทุกข์ สุข โศก หรือสนุกสนาน .หรืออย่างไรก็แล้วแต่..ก็ยังแอบหวังว่าจะเป็นจินตนาที่ถ่ายทอดกันจากความงามในหัวใจ...
    
    ****ชื่นชมคุณดอกแก้วเสมอเสมอครับ****
  • somebody

    29 มกราคม 2547 20:48 น. - comment id 209271

    @...ชัยชนะ...
    
    เป็นนิยามที่ให้คุณค่าและกำลังใจมากเลยค่ะ
    เพราะงานกวีอาจไม่ใช่งานที่ต้องใจใครไปทุกคน
    เพียงสร้างความสุนทรีย์แก่ผู้คนได้ก็นับว่ามีคุณค่ามากแล้ว
    
    ขอบคุณในคำนิยามนี้นะคะ
    
  • พี่ดอกแก้ว

    29 มกราคม 2547 20:51 น. - comment id 209273

    @...แทนคุณแทนไท...
    
    ...ความรู้สึกอันงดงาม งดงาม และงดงาม จึงขบคิด ขบเขียน...
    
    เป็นนิยามที่บ่งบอกถึงแหล่งกำเนิดผลงานที่มีค่า
    และล้ำค่าในการสร้างสรรค์..โดยเฉพาะบ่งบอกว่า
    จิตใจของผู้ให้นิยามนี้งามนักเพื่อสร้างผลงาน
    
    ขอบคุณมากค่ะคุณแทนคุณแทนไท
    
  • น้ำ

    3 กุมภาพันธ์ 2547 22:57 น. - comment id 211535

    กลอนนี้ผมได้รับความรู้มากมายเลยครับ
    และแจมอารมย์ด้วยครับ
    
    เขียนแล้วสบายใจ.....เป็นงานอดิเรกอย่างหนึ่ง
    แลทราบซื้ง.....ในฉันท์ลักษณ์ศิลป์
    ยังเป็นสื่อภาษาหมายมิตรจินต์
    เขียนสิ่งสิ้น ดีดี ในใจเรา
    
    ขอบพระคุณกลอนดีมากมายของครูครับ
    

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน