ในราตรีนี้ ไพล..ออกไปยืนตรงระเบียงบนมองฟ้ากว้าง.. ยามอุษาสาง..ฟ้าใกล้สว่างรำไรๆ ที่ฟ้าหนาวดูเศร้าสร้อยเทาทะมึน มองฟ้าไกลออกไป.. เป็นฟ้าไสวที่ถูกกระจายด้วยสีหม่นมัว สลัว สลัว จนพาให้ฟ้าเศร้าไปอีกแบบหนึ่ง.... วูบหนึ่ง..ของสายลมเย็นที่พัดผ่านมา ทำให้รู้ว่าลมหนาวแห่งฤดูกาล ที่มาเยี่ยมเยือนทายทัก... เป็นลมจากฟากฟ้าไกล ที่ไหนสักแห่ง ที่นำความชุ่มเย็น มามอบให้โลกนี้ และทุกดวงใจที่กำลังเร่าร้อน ได้เยือกเย็นลง..แม้ชั่วยาม........ หยาดน้ำค้าง..โปรยสายระรินพร่างกลางใบไม้..อย่างแผ่วเบา พลิ้วๆ พรายๆคล้ายหยาดละอองผ่องใส.. ให้ใจและกายได้เย็นชื่น..รื่นๆฉ่ำๆและ พาให้ใจไพลคิดถึง..เหมันต์ ในคืนฝันวันที่ผ่านมา.... วันที่ฟ้างามเป็นใจ..ยามได้ผิงไฟอุ่นริมหาดกว้าง.. และด้วยฝันสล้างกลางใจ..ไพลกลับกระโดดลงไปลอยคอในน้ำทะเล ที่อุ่นแสนอุ่นราวอ่างจากุชชี่ก็ไม่ปาน รอฟองคลื่นหวานซัดสาดประเล้าประโลมร่างและใจ.. ให้ปลดปล่อยพันธนาการทางใจราวนกเสรี.. และ นี่คือเสน่หา..ยามราตรี หากมีใครสักคนลองสัมผัส กับแดนดินแห่งความฝัน มนต์รักทะเลใต้เกาะเมืองร้อน ที่ซ่อนซุกสุขซึ้งให้ลองไปค้นหาทุกดวงตาทุกดวงใจ ที่หลงใหลรักธรรมชาติ.. ในท่ามกลางอ้อมกอดแห่งท้องทะเล ไพลรู้สึกดี ที่ได้ปล่อยให้ร่างกายได้สัมผัสรัดรึงด้วยงามล้ำธรรมชาติ ท่ามกลางฟ้ากว้าง ที่ดาระดาดด้วยดวงดาวสุกใสพริบพราว....ใกล้แค่เอื้อมมือคว้า กับดวงจันทราที่หยาดสายหวาน ราวม่านมนตราพาพรายพร่างอาบทะเลเงินงามระยิบ คิดถึงวัยฝันวันอันแสนดี ที่ฝังลึกติดตรึงใจมาช้านาน ที่มันอาจจะหายไปบ้างกับวิถีคนเมืองมากมี ที่อยู่ใต้ผืนฟ้านี้ แต่กลับกลัวน้ำ..... ผิดกับเราที่เห็นคืบก็ทะเลสอกก็ทะเล ให้เหว่ว้าใจยามไกลตา ********** *********** หยาดเพชรพราวราวร่วงดวงตาเศร้า คลอแก้มวาววะวับรับรอยหมอง ฟ้าหลังฝนวนกลับรับรุ้งคอยแหงนมอง แสงระวีส่องลบรอยร้าวบนแก้มสาวราวรุ้งเยือน ************** http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=417 เพียงแค่นี้ เพียง แค่นี้ ยังผิดวาจา ต่อไป ถึงวัน ข้างหน้า จะรัก ตลอด อย่างไร จะฝาก ใจฝัง ก็ยัง กริ่งเกรง หัวใจ ผูกพัน รักกัน ใหม่ใหม่ แต่ หัวใจ เธอไม่ มั่นคง เพียง แค่นี้ ยังหลอก ตัวเอง ต่อไป ฉันเกรง จะหลอก ความรัก ไม่ซื่อ ไม่ตรง ไม่อยาก จะคิด สะกิด ใจคอย พะวง แค่นี้ เขาทำ ได้ลง อย่า พะวง ว่า จะกลับคืน ลืม ฉัน เสียเถิด ที่รัก ว่าเรา ไม่เคย รู้จัก สัก-วันหนึ่ง คงคลาย ขมขื่น ฉันเจ็บ และจำ จะทำ เฝ้ากล้ำ เฝ้ากลืน แค่นี้ ก็พอ จะฝืน อัน รักอื่น มิ ปรารถนา เพียง แค่นี้ ยังบาด อารมณ์ เจ็บจำ ช้ำใจ เหลือข่ม จนตรม ตาย จาก อุรา ห่างกัน เพียงไหน ยิ่งไกล จะโม-ทนา แค่นี้ ช้ำ ไป จนกว่า สิ้น ชีวา นั่นแหละ คงลืม ลืม ฉัน เสียเถิด ที่รัก ว่าเรา ไม่เคย รู้จัก สัก-วันหนึ่ง คงคลาย ขมขื่น ฉันเจ็บ และจำ จะทำ เฝ้ากล้ำเฝ้ากลืน แค่นี้ ก็พอ จะฝืน อัน รักอื่น มิ ปรารถนา เพียง แค่นี้ ยังบาด อารมณ์ เจ็บจำ ช้ำใจ เหลือข่ม จนตรม ตาย จาก อุรา ห่างกัน เพียงไหน ยิ่งไกล จะโม-ทนา แค่นี้ ช้ำ ไป จนกว่า สิ้น ชีวา นั่นแหละ คงลืม...
25 ธันวาคม 2546 11:53 น. - comment id 194227
หยาดสุชลบนแก้มแซมความหมอง ยามรักล่องหลบหายมาคลายเคลื่อน ความผูกพันมั่นมิตรใยบิดเบือน ปล่อยให้เพื่อนเงียบเหงาเคล้าน้ำตา คงลืมสิ้นขอยินดีกับมีใหม่ เราคนไกลไร้สิทธิ์คิดใฝ่หา แม้ตรอมตรมขมขื่นฝืนเรื่อยมา ยังดีกว่าถลำรักมากกว่านี้...
25 ธันวาคม 2546 14:16 น. - comment id 194262
หยาดน้ำหยดรดลงบนหลังมือ นั่นก็คือน้ำตาครารินไหล เศร้าหรือสุขบีบคั้นกลั่นจากใจ หากน้ำตาตกในใจตรมตรอม....... น้ำตาไหลอาจจะทุกข์หรือสุขก็ได้ แต่ถ้าน้ำตาตกในละก็ ทุกข์สถานเดียว อิอิ
25 ธันวาคม 2546 15:00 น. - comment id 194276
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=147 ผิดทางรัก ************ ความ รักประจักษ์ใจฉัน ตั้งแต่วัน พบ เธอ วัน แรก ความ รัก ดู ดู ก็ แปลก ไม่เอาพระเจ้าก็แจก ให้ ลอง รัก พอ รู้เธอคู่กับใคร ต้องตกใจ เสียใจเสียจริงยิ่งหนัก อนา คตเราคงอกหัก ห้ามใจไม่ทันจึงรัก รักคนมีเจ้าของ ถ้า รู้ตัวเสียนาทีแรก พระเจ้าเอารักมาแจก ก็คงไม่รับมาครอง คงจะเมิน หนี หน้า ไม่ มอง หนีนาทีทอง ที่เคลือบด้วยความระทม มี รักก็ต้องมีหวัง เมื่อหมดหวัง หัวใจก็พาลระบม มี แผลมีรอยระทม คิดไปน้อยใจเหลือข่ม ขม อารมณ์ ไม่ วาย ถ้า รู้ตัวเสียนาทีแรก พระเจ้าเอารักมาแจก ก็คงไม่รับมาครอง คงจะเมิน หนี หน้า ไม่ มอง หนีนาทีทอง ที่เคลือบด้วยความระทม มี รักก็ต้องมีหวัง เมื่อหมดหวัง หัวใจก็พาลระบม มี แผลมีรอยระทม คิดไปน้อยใจเหลือข่ม ขม อารมณ์ ไม่ วาย...
25 ธันวาคม 2546 17:20 น. - comment id 194322
ความหม่นหมองคล้องใจอยู่ใกล้ฉัน ไม่เคยห่างจากกันไปทุกหน อยากจะลืมให้สิ้นทั้งกมล แต่ก็จะจนทุกหนไม่เคยลืม *-*ชอบบรรยายแบบนี้นะค่ะ อยู่ใกล้ทะเล บรรยากาศน่าสัมผัสดีค่ะ ซึ่งบ้านผู้หญิงไร้เงาก็ติดทะเลเหมือนกันค่ะ อยู่ติดทะเลอันดามันเลย เป็นอะไรที่น่ามาสัมผัสมาก ถ้าสนใจเชิญได้นะค่ะ*-*
25 ธันวาคม 2546 18:30 น. - comment id 194372
:)
25 ธันวาคม 2546 20:10 น. - comment id 194420
ตั้งแต่คบกับพุด ถูกหลาน ๆ ต่อว่าประจำว่าเป็นคนโปราณ ก็ฟังเพลงสุนทราภรณ์ คงคิดว่าเป็นคนเก่าลไม่ทันสมัย แต่ผมว่าเนื้อหาของเพลงสมัยเก่า มีความหมายดี ลึกซึ้งกินใจมากกว่า เพลงปัจจุบันบางเพลงฟังไม่รู้เรื่อง โอ๊ โอ๊ เย เย อะไรก็ไม่รู้ ก็คงพูดนอกเรื่อง เอาเป็นว่าขอให้ความฝันใฝ่อันจับจิตจับใจ จนอยากจะเบียดกายแทรกเข้าไปในความฝันที่ได้พรรณามา(เติมน้ำตาลซักหน่อย) จงอย่าได้เป็นฝันค้าง แต่ขอให้เป็นฝันข้างนะครับ คนดี
25 ธันวาคม 2546 20:51 น. - comment id 194437
เพียงแค่นี้! คนดีที่ฉันรัก มอบใจภักรักเธอไม่สร่าง ถึงแม้เราจะเคยร่วมสร้าง เป็นทางยาวของเราสองคน แต่วันนี้พอทีได้ไหม พอกับใจที่อยู่กับฉัน เมื่อไม่รักกันแล็วก็ไปจากกัน เมื่อไม่เห็นความสำคัญกันอีกต่อไป เขียนได้ดีอีกแล้วนะ ครับ คุณ พุด ขอให้เหมือนอย่างที่เป็นนะครับ
25 ธันวาคม 2546 23:23 น. - comment id 194495
ชอบเพลงคอนเสริทคนจน จังค่ะ ไม่รู้ว่าจะขัดใจจิ๊กโก๋เมืองดอกบัวหรือเปล่า .. พี่พุดเคยฟังไหมคะ ที่ร้องว่า โอ้ เย โอ๊ะ เย โอ๊ะ โอ๊ เย .. โอ้ เย โอ้ เย..