ตะวันตกดิน! พุดพัดชา! ที่รัก ผมกลับมาเกาะแสนรักของคุณอีกคราครั้ง..ในวันนี้ ทั้งๆที่ผมเพียรพยายามหนีใจตัวเองมาตลอดระยะเวลาหลายปี ที่ผ่านมานี้.. ผมคิดถึงคุณทุกนาที ทุกสถานที่ที่คุณเคยไปกับผม บนภูหินสูงเสียดฟ้า..ที่คุณบอกว่ามีบางมุมเร้นลับ หากอยากสัมผัสงามดั่งสวรรค์ลอย..เลื่อน..เยือนหล้า คุณจำได้ไหม.. ที่เราต้องจอดรถไว้แค่เชิงเขา แล้วเดินลัดเลาะฝ่าดงหนาม ฝ่าเข้าไปในเส้นทางงามเรียบง่ายแสนยากลำบาก ที่คุณบอกว่าแสนมีเสน่ห์ แต่ผมกลับสงสารคุณที่ถูกหนามเกี่ยวเลือดซิบๆ แต่คุณกลับหัวเราะและกระซิบบอกผมว่า * ในความยากลำบากในความยากไร้นั้น ทุกเส้นทางไม่ว่าเส้นทางใจหรือเส้นทางจริงบนถนนแห่งชีวิต จะมีคุณค่าเป็นบทเรียนสอนชีวิตให้เรียนรู้จักความอกทน เพียรสู้เพื่อทนรอ..นาทีที่ยิ่งใหญ่ ที่มีบางสิ่งที่แสนงดงาม ที่แสนดีมีค่ารอเราอยู่บนเส้นทางข้างหน้า ก่อนที่เราจะฟันฝ่าดั้นด้นไปถึง..นะที่นั้น คุณบอกผม..ก่อนที่ผมจะได้อ่านผ่านตาถึงหนังสือแปล แสนมีค่าทางใจทางจิตวิญญาณเสียอีก.. หนังสื่อเล่มที่คุณส่งมาให้ผมอ่าน*อัฐิอาจารย์* วันนั้น.. ผมได้แค่เดินตามหลังคุณ ใช้คำว่าปีนเขาไต่เขา ตามหลังคุณที่คล่องแคล่ว.คงเหมาะกว่า ผมไม่อยากเชื่อว่าผู้หญิงแสนบอบบางผิวละเมียดละไมอย่างคุณ จะทนให้หนามไหน่เกี่ยวผิวใสใส จนเลือดซิบๆได้อย่างไร โดยไม่สนใจ ไม่บ่นสักคำ.. คุณรู้ไหม.. นี่กระมังที่เป็นความพิเศษในตัวคุณ ที่ทำให้ผมทึ่งผมประหลาดใจ คุณ.บอกว่า.. ชีวิตคุณ จะเล่นบทไหนก็ได้ของชีวิต สาวนักธุรกิจ...อาจารย์..เลขานุการ..หรือแม่บ้านผู้รับบทหนัก แต่ที่คุณแสนถนัดคงเล่นบทนี้กระมัง บทสาวไพรใจสู้ผู้รักผืนดินเกิด และหวงแหนความงามเงียบเรียบง่าย สงบสมถะทุกตารางนิ้ว ที่คุณบอกว่ามันงามเสียยิ่งกว่าจะบอกเล่าผม ผู้มาเห็นผืนดินมาทีหลัง..ห่าง คำว่าแสงตะเกียงเจ้าพายุที่วับแวมในยามค่ำทั่วทั้งทุกหลังคาเรือน ห่างกับคำว่า..กุ้งหอยปูปลามากมายว่ายแหวกราวไม่กลัวคน ในท้องทะเลงามน้ำเขียวดั่งมรกตเนื้อดี.. และมากมีความทรงจำ ที่งามงดหมดจดใจ ผมจำได้... ในยามค่ำริมฝั่งฝันทะเลงามยามหน้าหนาว ยามเข้าไต้เข้าไฟ ที่อาทิตย์ส้มแจ๊ดดวงใหญ่เท่ากระด้งฝัดข้าว กำลังจะลาลับฟ้า ที่เราก่อกองไฟเล็กๆให้อุ่นพอละมุนหัวใจ ทะเลสวยใสที่นะบัดนี้ราวจะกลายเป็นทะเลหมอกแสนงาม ที่หว่านสีหวานสวยเศร้าเคล้าเทาทึม งามซึ้งตรึงใจด้วยส้มอมชมพูคละๆเคล้าๆกัน ราวทองทาทาบอาบไปทั้วผืนน้ำยามอาทิตย์อัสดง คุณนอนบนผืนทรายให้คลุกเคล้าร่างงามอะคร้าวดั่ง ทาทาบด้วยสีเงินยวงละเลื่อมพราย ผมสยายไปเบื้องหลัง ผมตะลึงตัวชา..เห็นเสน่หาในเรือนร่างที่ไร้จริตมายานั้น แต่ทว่าคุณคงกลับไม่รู้ตัว ยังคงดื่มด่ำในภวังค์ฝันและฝัน หลับตาเล่าเรื่อง อดีตวัยเยาว์ที่ผ่านผันอันเป็นความจริงอันแสนหวาน ผ่านหัวใจสวยใสงดงามอ่อนโยนของคุณ คุณบอกผมว่าอยากให้ผมผู้มาใหม่ ได้รู้จักผืนดินที่ราวไข่มุกแห่งอ่าวไทยนี้ ให้ละเอียดละออทุกซอกทุกมุม ให้คุ้มกับที่พระเจ้าประทานพร ให้คนหัวใจสะออนอ่อนไหวอย่างผมได้มานอนนับดาว เคียงเคล้าเคียงข้างคุณ ได้มาฟังเสียงคลื่นลมเคล้า เฝ้าพนอหยอกล้อหาดขาวที่เนียนนุ่มราวแป้งเนื้อดี ที่ฝรั่งทั่วโลกอุตส่าห์บินฝ่าโศกฝ่าโลกสับสนวายวุ่น ข้ามมาสัมผัสความสุขงามง่ายไร้มายานี้ ที่ดั่งมีมนตรา..จากฝ่ามือของพระเบื้องบนที่กำนัลให้แด่มวลมนุษย์ ผู้ยังมีหัวใจพิสุทธิใส ยังมีดวงตาดวงใจมองเห็นธรรม..ธรรมชาติ อันสดสะอาดงามทุกอณูเนื้อใจ มาตรแม้นว่าโลกอารยะกำลังกลายกล้ำมาล่วงล้ำรานรุกทำร้าย ให้ทุกผู้คนหิวกระหายขายแผ่นดินแลกโลหะและคำว่า การยอมรับในสังคมเล็กๆ.. คุณบอกว่า.. คนเรามีสิทธิ์ที่จะคิดและเลือกทางเดินชีวิต บางคนอาจจะอยากนอนบนฟูกก่อนตาย ได้เดินใช้เงินอย่างปรารถนาสักคราครั้ง ซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้าอย่างเมามันส์ แทนความฝันที่จะมีชีวิตดิบเดิมติดดินถวิลไพร ใช้เพียงหัวใจของความพอเพียงเพียงพอเสพงาม แม้นเพียงชั่วโมงยามแห่งชีวิตก็สุขพอ..ตามอัตภาพ.. มิจาบจ้วงทำลายคิดขายสิ้นธรรมชาติ..ขายขายขาย แลกเงินงามมาซื้อความสุขเปลือกนอก ที่หลอนล่อหลอกใจไปวันๆให้ฝันร้าย เพราะบานปลายจากความโลภจากขายแค่ผืนดินถิ่นเกิดเป็นขายชาติ ขายยาเสพติด..ที่อาจจะระบาดไปทั้งเกาะสวรรค์ ให้พลันกลายเป็นเกาะนรกในชัวพริบตา .. โอ้ว่าละหนอหัวใจมนุษย์ผู้ตกเป็นทาสเงิน! ******* คุณพาผมมาถึงภูหินงามจนได้ บนชะง่อนผาสูง....คุณทำให้ผมตะลึงตะไล... แทบลืมหายใจ...ไปกับทัศนียภาพรายรอบที่แลเห็น.......... จากลานหินกว้าง..ที่ข้างล่างคือถ้ำ จะมีทางเล็กๆ เลาะลัดเลียบทอดลงไป........ .แลไกลออกไป....คือโลกสีคราม...กว้าง...ไกล....สุดตา..... เวิ้งทะเล..สีน้ำเงิน...เขียวมรกต..... และโทนสีทะเลที่ค่อยๆไล่สีอ่อนจางลงมาตามลำดับ......... แทรกด้วยฟองคลื่นสีขาว.....เป็นระลอกงาม.............. เรือลำน้อย...ค่อยๆวิ่งฝ่ากระแสชลแตกฟองขาวนวล...... ตรงมายังอ่าวท่าเทียบเรือ......... .ตรงหน้าจะมีเกาะสมุย..... ชิดใกล้ขนาบด้วย..เกาะแตนอก..แตใน.. ราวกับจะห่วงใยว่าเกาะพะงัน จะเหว่ว้า.......... แลลงไปเบื้องล่าง จะมองเห็น... ทิวมะพร้าวสลับซับซ้อนเป็นหมื่นหมื่นต้น......... บ้านเรือนซ่อนตัวอยู่ในดงไม้..เงียบสงบ.... มีก็แต่ควันไฟลอยอ้อยอิ่ง ขับฟ้างามอย่างช้าๆ.............. บนหน้าผา..ชะโงกง้ำ..ลอยเลื่อน..ราวทายทักเมฆ.... จะมีหอระฆัง...และพระพุทธรูป.... ให้กราบไหว้...อธิษฐานจิต...... มีลั่นทมขาวออกดอกพราวไปทั้งต้น..บนชะง่อนผางาม.......... ส่งกลิ่นหวานเศร้า..อบร่ำให้ใจ..นิ่ง..เยือกเย็น..ล้ำลึก.. อวลมากับสายลมเย็น.......กับบรรยากาศ เงีบบงาม..ที่รายล้อม....... ที่รัก....ผมกอดคุณไว้แนบแน่น.... ราวกลัวคุณจะหลุดลอยจากสรวงสวรรค์ตรงหน้า........ จากสวรรค์ในอก...ในอ้อมแขน..ในอ้อมใจของผม............... ผมหยิบลั่นทมทัดหู..ให้คุณ.. พร้อมพรมจูบไรผมงาม อ่อนหวาน อ่อนโยน เท่าใจที่ แสนสุขล้ำจะทำได้... ผมพร่ำบอกคุณว่า...สวรรค์มีจริง..... ด้วยใจทั้งดวงที่เต็มอิ่ม..จากทุกสิ่ง ที่สวรรค์หยิบยื่นและประทานให้ผม..... ในนาทีของชีวิตที่ผมปรารถนาจะให้โลกทั้งโลกหยุดหมุน ผมจำ....... คืนวัน ที่มีคุณ..ไม่ว่าบนภูสูงแห่งนี้.... หรือแม้แต่....กลางทะเล....ในค่ำคืน.... ที่ร่างของคุณถูกแสงจันทราอาบไล้..... นุ่มนวล..งามสล้าง..ราวกับเทพีจากแดนสรวง....* .......... นะวันนี้ ผมกลับมาเยือนมายืนเดียวดายที่นี่ มายืนดูทะเลหมอกห่มทะเลเหว่ว้าหัวใจ มายืนรอฟังเสียงหัวใจตัวเองเต้นว่าคิดถึงๆๆคุณ..ทุกนาที .... หัวใจผมอ่อนไหวอย่างสุดทน จนผมต้องหาทางเยียวยาใจดวงระบมไปวัดเก่า ที่คุณเคยพาผมเข้าไปกราบพระในโบสถ์เก่าคร่ำ คุณค่อยๆจุดเทียน..จากแสงรำไรๆวูบวับ จับพระพักตร์พระพุทธองค์ดูผ่องผุด.. บริสุทธิธรรม..น้อมนำใจเราสองก้มลงกราบนิ่งนาน อธิษฐานใจพร้อมกันอย่าง ดำดื่มล้ำลึกในงามเงียบ คุณจำได้ไหม.. ผมเพียรถามคุณว่าคุณอธิษฐานอะไร คุณตอบผมว่า.. *ชาติหน้าชาติใดหากบุญกุศลใดที่คุณเพียรทำ จงน้อมนำให้หัวใจคุณสะอาด สว่าง สงบ พบชาติ..พระพุทธศาสนา..พระมหากษัตริย์ไทยแบบในหลวงทุกชาติไป ให้หัวใจมีทาน ศีล สมาธิ ปัญญา พาให้หลุดพ้นจากเหตุแห่งทุกข์ ได้พบแค่ทางสีขาวที่ว่างร้างไร้เงียบงามในทุกโมงยามแห่งชีวี และได้มีชีวีที่เรียนรู้การ*ให้* แบบไร้ร้องขอแก่ผองเพื่อนผองชนผู้ทนทุกข์ยาก ในกระแสโลกย์กระแสวิบากกรรม..และที่สำคัญ คุณบอกไม่อยากเกิดมาเพื่อรัก..อีกแล้ว* ที่รัก.. ผมรู้และสวดมนต์ภาวนาให้คุณ ตลอดมาทุกคืนค่ำและตราบชั่วนิจนิรันดร์กาลตลอดไป ให้หัวใจแสนดีแสนงามของคุณหอมกรุ่นด้วยพลังแห่งการคิดดีคิดให้ ได้พบทุกโมงยามนำทางดวงชีวีคุณอย่างที่คุณต้องการ ให้..กุศลจิตที่ดี ที่คุณมอบที่ดินเป็นทานเพื่อแผ้วถางสู่แดนวิปัสสนากรรมฐาน เป็นดั่งงามดวงใจใครจะรู้ แด่ทุกดวงใจเพื่อนมนุษย์นี้ ที่พร้อมพลีจิตวิญญาณและร่างอยากหลุดพ้นทุกข์ จากรักจากการพรายพลัดพรากจากวิบากกรรมเก่า ให้เป็นจริงนะดวงใจ..นะคนดี ที่ผมแสนรักเอยแสนรักในกมล ที่หัวใจผมก็พร้อมพลีหลีกทาง.. แม้นจะอ้างว้างดายเดียวเปลี่ยวเหงา ในหัวใจในลำพัง..สักเพียงใด..!ก็ตามที ************* รจนาสด ต่อจาก*ตะวันลา*http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_33679.php ภาคหนึ่ง..ค่ะ.. จะมีบทพรรณาตรงกลาง..ในผางามที่หยิบมาเติมเต็ม ให้สมบูรณ์..ลงตัว.. บันดาลใจจากบางสิ่งในหัวใจ ที่ยิ่งใหญ่แสนงามมานานวัน และลาลับดับฝันไปตามกาลกรรมเวลา..ล่วงเลย.. พุดพัดชา..อ่อนล้าในดวงใจ.. ในทุกขณะนับนาทีพรากลาในโลกฝัน.. เพียงหวังและฝันรจนา..มามากมาย หวังเพียงได้รับเมตตาน้ำใจรินรด และทุกหยาดหยดสายน้ำใจ จากสายไยรักจากทุกดวงใจ เปรียบประดุจดั่ง หยาดฝนพรำบนหัวใจดวงนี้ ดับแห้งผาก...!
14 ธันวาคม 2546 10:51 น. - comment id 190959
เขียนได้ดีมากๆๆๆๆเลยค่ะ ชอบประโยคนี้มากเลยด้วยค่ะ ในความยากลำบากในความยากไร้นั้น ทุกเส้นทางไม่ว่าเส้นทางใจหรือเส้นทางจริงบนถนนแห่งชีวิต จะมีคุณค่าเป็นบทเรียนสอนชีวิตให้เรียนรู้จักความอกทน ความหมายอยู่ในคำดีค่ะ
14 ธันวาคม 2546 13:36 น. - comment id 191028
อืม เขียนได้ดีทีเดียวค่ะ อ่านแล้วรู้สึกดีดี
14 ธันวาคม 2546 14:27 น. - comment id 191041
เวลาเปลี่ยนสิ่งที่ดี ๆ ไม่เปลี่ยน เนี่ยแหล่ะความทรงจำอันมีคุณค่าทางจิตใจ ของคุณ พุดพัดชา ใช่ไหม อิอิ เนื้อหาดีมากครับ ไม่รู้ว่าเรื่องจริงของคุณเองหรือเปล่านะ
14 ธันวาคม 2546 16:03 น. - comment id 191100
บรรยายได้ดีจังค่ะ :D
14 ธันวาคม 2546 17:20 น. - comment id 191140
เมื่อตะวันตกดิน บางครั้งเราพยายาใคร่ครวญถึงทุกวันที่ผ่านมา และก็จะจบลงตรงที่เก็บไปฝันไปใฝ่ ตะวันตกดินเพียงเพื่อจะกลับมาใหม่ในวันรุ่ง เราปรารถนาที่จะเห็นแสงอรุณเมื่อรุ่งลาง พอๆ กับปรารถนาที่จะเห็นแสงอาทิตย์อัสดง บทร้อยแก้วพรรณาถึงความรู้สึกภายใน ที่เป็นเอก ไม่มีอีกแล้วเนื้อใจแบบนี้
14 ธันวาคม 2546 17:39 น. - comment id 191145
อิอิ รู้สึกจะ RATE R นะเนี่ย
14 ธันวาคม 2546 19:01 น. - comment id 191173
เมื่อวานกะว่าจะเป็นพระเอกขี่ม้าขาว (หน้าแตก) ก็อินกับบทอยู่เรื่อย มาคราวนี้ขออินกับชื่อเรื่อง เลยมาโพลสเวลาตอนตะวันตกดิน เรื่องเนื้อหาก็อิจฉาตัวพระเอกของเรื่อง ที่ออดอ้อนพูด ที่รัก ซะจริง ๆ ไม่คุยเรื่องเนื่อหาก็แล้วกัน ก็ถือโอกาสแวะมาคุยเล่นวันหยุด ตามปกติแล้ว วันอาทิตย์พุดมักไปวัดเป็นประจำ หวังว่าบุญกุศลที่พุดได้เข้าวัดปฏิบัติธรรม จงพบกับความสุข ที่สงบเยือกเย็น ตราบใดที่ยังมีความฝัน ชีวิตย่อมไม่สิ้นความหวัง
15 ธันวาคม 2546 00:14 น. - comment id 191303
มาเยี่ยมเยียนคิดถึงกันเหมียนเดิมครับ
15 ธันวาคม 2546 01:04 น. - comment id 191319
ชอบตะวันตกดินที่เกาะพงัน ไปเห็นมาแล้ว
8 มกราคม 2547 09:13 น. - comment id 199503
ดีมาก