ผู้หญิงคนนี้ที่มีเนื้อหัวใจละไมละมุน และชอบใส่เสื้อสวยเศร้าราวสีเปลือกมังคุด! ********* ราตรีนี้.. นะกระท่อมไม้ใต้ต้นจำปี ผู้หญิงในเสื้อยืดสีเปลือกมังคุด ผมสยาย นัยน์ตาโศกซึ้งสะเทือน เฝ้าแหงนเงยมองดาวประจำเมือง และ..เดือนเสี้ยวดวงเศร้า เคล้ากลิ่นดอกโมกช่อพราว กับกองามพรายราวรักร้าวของดงดอกราตรี.. และลั่นทมสะพรั่งพรึบ. หลายวันมาแล้ว.. ที่ดวงใจของฉันหม่นมัว ราวกับมีหมอกบางๆครอบคลุม คิดไม่ออก เขียนไม่ได้ หัวใจรานร้าว ราวถูกกดทึบ ติดหนึบอยู่กับบางสิ่งที่ค้างคาใจ.. และ.. กับค่ำคืนเดียวดายนี้ที่.. บทเพลงนี้กำลังครวญคร่ำ... ค่ำแล้วในฤดูหนาว พอย่างเข้าเขต หน้าหนาว ลมหนาวก็โชย พัดกระหน่ำ สายลมเอื่อยมา ในเวลาค่ำ ฮึม ฉ่ำชื่นกว่าทุกวัน น้ำค้างพร่างพรมลมเย็นรำเพย หนาวโอ้อกเอ๋ย หนาวจนสั่น เสียงเรไรร้อง ก้องสนั่น ฮึม ทำให้ฉัน เป็นสุขใจ เสียงเพลงค่ำแล้วๆ ๆ ดังแว่วมาแต่ไกล นี่ใครหนอใคร ฮึม ช่างประดิษฐ์คิดเพลงค่ำ ๆ หนาวลมยิ่งทำให้ใจคนึง คิดถึงแต่รักที่หวานฉ่ำ หารักอื่นใดไหนจะหวานล้ำ ฮึม ฉ่ำเท่ารัก เราไม่มี สวนลุมพินีถิ่นที่เคยไป เขาดินถิ่นไกลก่อนนี้เคยชื่น เดี๋ยวนี้ผ่านไปเห็นแล้วขมขื่น ฮึม ไม่ชวนชื่นเหมือนก่อนนั้น นภาสะอาด ดูงามสดใส ฉันรักจับใจ สะอาดน่ะนั่น หนาวลมเยือกเย็นนั้นทำให้สั่น ฮึม จิตใจฉันเลื่อนลอยไป เสียงเพลงค่ำแล้วๆ ๆ ดังแว่วมาแต่ไกล นี่ใครหนอใคร ฮึม ช่างประดิษฐ์คิดเพลงค่ำๆ คิดถึงร่วมทางเคยเที่ยวด้วยกัน ทุกคืนก่อนนั้นหนาวชื่นฉ่ำ ทุกทีที่ไปฝังใจจดจำ ฮึม ไม่ลืมคำที่ฝากกัน ******* และ ท่ามกลาง..เสียงเพลงลมหวล ลมหวน ...ที่ชวนให้น้ำตา ละหลั่งรินถวิลหาใครบางคนที่เราแสนรัก ที่ลาเลยลับ และอยากกลับมา..แต่ก็สายเกิน!... ลมหวน ชวนให้คิด ถึงความหลัง พะวังจิต คิดขื่นขม ระทมใจ ตัวใครเป็น คนผิดอยากถามนัก รักไย ใจจึงกลับ ดังลมหวน ใกล้เรา กล่าวถ้อย ในที่รัก เจ็บนัก พอถึงอื่น ก็คืนคำ มาทำชิด สนิทไม่ ใครจะเชื่อ เบื่อแล้วไยจัก มารับกลับคืน ตัวใครเป็น คนผิดอยากถามนัก รักไย ใจจึงกลับ ดังลมหวน ใกล้เรา กล่าวถ้อย ในที่รัก เจ็บนัก พอถึงอื่น ก็คืนคำ มาทำชิด สนิทไม่ ใครจะเชื่อ เบื่อแล้วไยจัก มารับกลับคืน... ********. ฉันจุดเทียนหอม เปิดโคมไฟอบอุ่น นั่งนิ่งนิ่ง พินิจดูดอกไม้หลากสีในโถแก้วตรงหน้า ชบาแดงซ้อนกลีบหวานจัด ปนกับเล็บมือนางสามสีสามสวยชมพู ขาว แดง แซมแตะแต้มด้วยพวงเข็มขาว เข็มแดงที่บานแฉ่ง อวดดอกดกริมรั้วบ้านมองแทบไม่เห็นใบ แดงโดดละออตา อวดงาม ที่ฉันเพิ่งเด็ดมาคลอเคล้า ให้หวานอวลจรุงใจ อยู่ในนาทีนี้... กรอบรูปตรงหน้า คือภาพหญิงสาวในชุดบิกีนี่สีขาวกำลัง สะบัดผมกลางทะเลกว้าง ล้อเล่นสายน้ำจนเกิดประกายวะวับวาว ราวสายเพชรพร่างพราย เริงร่ากับทะเลสีมรกตสดชื่นสวยใส งดงามเสียไม่มี..... ตั๊กแตนเตือนใจ ยังแกว่งไกวล้อใจล้อฝันควะคว้าง เฉกเช่นทุกคราที่ทรุดตัวนั่ง ณ..ที่โต๊ะเขียนหนังสือนี้ ที่บัดนี้มีเก้าอี้เบาะแดง เป็นเก้าอี้..ประจำใจประจำตัว ที่ฉันเรียกมันว่า เก้าอี้นักฝัน.. C.D กำลังบรรเลงเพลงของพี่แจ้ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ราวกับจะให้ทะลุทะลวงไปถึงดวงใจ ใครบางคน..ที่แสนไกล แสนคิดถึง....... ************. ตามมาด้วยบทเพลงแสนเศร้าเว้าวอน. http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=2438 ที่สุดของหัวใจ หากข้ามคืนนี้ หัวใจไม่แหลก ยับเยินเสียก่อน จะไปอ้อนวอน ขอเธออย่าตัดรอน รอก่อนวันพรุ่งนี้ เคืองกันเรื่องไร พรากกันด้วยเหตุใด ฉันยังไม่เข้าใจ เพราะฉันใช่ไหม หรือเธอเปลี่ยนไป ไยถึงไม่เหมือนเดิม แต่ถ้าพรุ่งนี้ ดวงใจยังโกรธ ฉันโทษใครได้ เป็นกรรมของใจ พบเธอโดนผลักไส ทำอย่างไรพรุ่งนี้ นับช้ำมากี่ครั้ง หัวใจยังไม่จำ ซ้ำยังยอมให้ทำ เพราะรักมากไป เพราะซื่อสัตย์ไป จึงช้ำใจ อดทนไว้ก่อนนะใจเจ้าเอย ข้าวอน จงแข็งแกร่ง แล้วทน รอให้ถึงพรุ่งนี้ พบเธอ แล้วถามเธอ อ้อนวอนให้เธอเห็นใจ แต่ถ้าพรุ่งนี้ ดวงใจยังโกรธ ฉันโทษใครได้ เป็นกรรมของใจ พบเธอโดนผลักไส ทำอย่างไรพรุ่งนี้ นับช้ำมากี่ครั้ง หัวใจยังไม่จำ ซ้ำยังยอมให้ทำ เพราะรักมากไป เพราะซื่อสัตย์ไป จึงช้ำใจ... ******. และ ที่น่าแปลกใจมีเสียงนกมาร้องระงมจุ๊บจิ๊บ พร้อมกับเสียงเพลงลมละเมอเพ้อครวญ ************ เสียง ลมพัดมาแต่ไกล ฟังแล้วตรมจิตใจ ฟังเหมือนใครคร่ำครวญ ฟัง..ดังเสียงเธอเรียกครวญ เป็นสำนวนเศร้าใจ ฟัง ดังเสียงเธอ กู่ไกล พาหัวใจเศร้าไม่วาย ลมเอ๋ย ลมพัดเลยเรียกหา ขอเพียงหมายใจ ให้ลมพาขวัญใจคู่ชมมาภิรมย์แนบกาย ลมไม่รับคำดั่งหมาย พาเสียดายใฝ่มองหา ฉันครวญ เพราะความเศร้าใจ ครวญเสียงดังอย่างไร ไม่เห็นใครตอบมา วอนลมเอ๋ย..จงเมตตา จงหวนมาแต่ไกล ขอเอ่ย น้ำคำออกไป พาสมใจได้ชื่นชม ลมหวน ลมพัดทวนรื่นรมย์ ฉันทวนน้ำคำพร่ำไป ลมเอ๋ยจงหอบไป บอกขวัญใจเถิดลม ลมไม่รับคำให้ตรม ลมหนอลมช่างใจดำ..... *********** ฉันฟัง CD ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เรียกอารมณ์ เรียกหัวใจ เรียกพลังใจ กลับมาเพื่อรจนางานสักเรื่อง.. แปลกดีนะ..ที่บางครั้งครา ราวกับว่าชีวิตและไฟฝันของเรากำลังจะมอดดับ มันมอดเสียจนน่ากลัว.. ฉันถามตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า.. เกิดอะไรขึ้น กับหัวใจผู้หญิงช่างฝัน ขยันเขียนคนนี้ ทำไมทุกอย่างถึงดูราวกับจะชะงักงัน. .นิ่งเงียบจนน่าตกใจ..ฉะนี้หนอ... และก่อนที่หัวใจจะแย่ยิ่งไปกว่านี้ ฉันจึงฝืนจับปากกาเพื่อจะบอกว่า..ฉันจะมิมีวัน ยอมแพ้ ยอมหยุดเขียน.. กลิ่นดอกไม้ไทยนานาพรรณ รายรอบบ้านกำลังส่งกลิ่นหอมจรุง อวลร่ำมาอบร่ำให้หัวใจช่างฝันของฉันหลอมละลาย ให้ใจดวงร้าว พยายามต่อไฟฝัน เติมพลังใจอีกคราครั้งในค่ำคืนนี้... ท่ามกลางแสงเทียนและโคมไฟอันอบอุ่น.. กับกลิ่นกำจายของดอกไม้หอมละมุน กับแสงเทียนพรายพร่าง กับเสียงเพลงหวานหู มีมนต์ขลัง ที่กำลังปลอบประโลมใจ ให้หัวใจเลิกไหวสะเทือน.. เป็นคืนค่ำที่แสนดี..ในวิมานดินแห่งนี้ ที่แสนรื่นรมย์ แสนสุขสงบ เงียบงาม.... ..................... มองออกไปในฟ้ากว้างสว่างเรืองรอง จะเห็นนวลแสงดาวพราวพร่างฟ้า และในราตรีงาม จะเห็นดอกปีบ กำลังโปรยสายลงบนลานสวย พราวพราย งดงาม ในคลองตาคลองใจ ใสสวยเป็นยิ่งนักแล้ว... ฉันกำลังบอกกับใจตัวเองว่า.. โลกนี้..คงไม่มีวัน... ที่เราจะสุขไปทุกวัน หรือเศร้ามันทั้งปี ทุกชีวีจะมีวันแสนดี คืนที่แสนงาม ขึ้นอยู่กับใจเรา ที่จะมองโลกให้เป็นให้เห็นงามหรือไม่เพียงนั้น ลุกขึ้นมาสู้ มาสร้างไฟฝันให้กับตัวเอง มิใช่ใคร!... ฉันเปิดเพลงให้ดังอีกนิด.. ฝากสายลม ฟากฟ้ากว้าง ดวงดาวทุกดวง ถึงทุกดวงใจ ในเรือนไทยนี้ที่แสนรัก แสนคิดถึง นะคนดี เพื่อทุกชีวีได้ผ่อนพักพิงใจไปด้วยกัน ไปสู่ฝันหวานหวาน สร้างงานตระการใจ ในยามนี้ กับเสน่หาราตรีที่เงียบงาม และสงบสุขเป็นยิ่งนักแล้ว....
27 พฤศจิกายน 2546 02:54 น. - comment id 185376
ผู้หญิงคนนี้ที่มีหัวใจและใส่เสื้อสีเปลือกมังคุด! ต้องนอนดึกเลยค่ะ เพราะว่าชอบทำงานให้เสร็จนะคะ ราตรีสวัสดิ์ และฝันถึงผู้ผู้หญิงคนนี้ที่มีหัวใจและใส่เสื้อสีเปลือกมังคุด!และหลับฝันดีค่ะทุกดวงใจ! http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=2438 ที่สุดของหัวใจ แจ้ ดนุพล แก้วกาญจน์ : : Key G หากข้ามคืนนี้ หัวใจไม่แหลก ยับเยินเสียก่อน จะไปอ้อนวอน ขอเธออย่าตัดรอน รอก่อนวันพรุ่งนี้ เคืองกันเรื่องไร พรากกันด้วยเหตุใด ฉันยังไม่เข้าใจ เพราะฉันใช่ไหม หรือเธอเปลี่ยนไป ไยถึงไม่เหมือนเดิม แต่ถ้าพรุ่งนี้ ดวงใจยังโกรธ ฉันโทษใครได้ เป็นกรรมของใจ พบเธอโดนผลักไส ทำอย่างไรพรุ่งนี้ นับช้ำมากี่ครั้ง หัวใจยังไม่จำ ซ้ำยังยอมให้ทำ เพราะรักมากไป เพราะซื่อสัตย์ไป จึงช้ำใจ อดทนไว้ก่อนนะใจเจ้าเอย ข้าวอน จงแข็งแกร่ง แล้วทน รอให้ถึงพรุ่งนี้ พบเธอ แล้วถามเธอ อ้อนวอนให้เธอเห็นใจ แต่ถ้าพรุ่งนี้ ดวงใจยังโกรธ ฉันโทษใครได้ เป็นกรรมของใจ พบเธอโดนผลักไส ทำอย่างไรพรุ่งนี้ นับช้ำมากี่ครั้ง หัวใจยังไม่จำ ซ้ำยังยอมให้ทำ เพราะรักมากไป เพราะซื่อสัตย์ไป จึงช้ำใจ... .
27 พฤศจิกายน 2546 06:57 น. - comment id 185396
หากค่ำคืนนี้ไม่เมาเสียก่อน..จะไปอ้อนวอนอาทรเถิดหนา มาฟังเพลงจ้า
27 พฤศจิกายน 2546 08:20 น. - comment id 185414
นึกว่าหมางเมินกันเสียแล้วนะครับ เห็นหายหน้าหายตาไปหลายวัน พุดพัดชามีผลงานมาวันละ ๓ เรื่อง เหตุใดไฟที่เรือง ๆ จะมามอดไป ผมว่าพุดสับสนมากว่าจะเขียนเรื่องแบบไหนดี จึงลังเลใจ(ผมอาจคิดผิดนะครับ) แฟชั่นเปลือกสีมังคุด ผมไม่ยักกะเคยได้ยินมาก่อนครับ แต่ผมว่าอันที่จริงแล้วมังคุดเขาไม่ได้กินเปลือกมันนะครับ เขากินที่เนื้อข้างในนะครับ ผมว่าลิ้มชิมรสแล้วติดใจเพราะความหวาน และก็อร่อยดีอีกต่างหากนะครับ(อย่าไปคิดลึกนะครับ) ผมเขียนนอกเรื่องนะครับ ผมว่าพุดน่าจะเป็นผู้หญิงที่เซ็กซี่ นะครับ ดูจากรูปที่นำเอามาลงส่วนใหญ่ ก็ขัดกันครับกับเรื่องที่ชอบเขียน เพลงของแจ้ผมชอบมากครับเพลงนี้ เอาแถมของแจ้ให้อีกเพลงนะครับเป็นของฝาก ห้องสีขาว นอกหน้าต่าง ทุกอย่างสับสน มีผู้คน เขาเดินมากมาย หลากหลาย ชายหญิงที่อิงคู่กัน มอง ด้วยความปวดร้าว เพราะสาวเจ้า มีกำแพงกั้น ทุกวัน ทุกคืนร้องไห้ลำพัง ห้อง นั้นสีขาว แต่ สาว เจ้าชุดดำ ชอกช้ำ ระกำอยู่เพียงผู้เดียว ทำ ผิดใดหนา จะ หามีใครข้องเกี่ยว เปล่าเปลี่ยว เหลียวมองลอดช่องประตู ในหน้าต่าง ทุกอย่างเงียบเหงา มองเห็นสาว ซ่อนหน้าหดหู่ อยากรู้ คู่รักเธออยู่ที่ใด กรรม ที่เกิดเป็นหญิง เขาเชยชม แล้วทิ้งเจ้าไป ฝากไว้ ความทุกข์กับเวทนา ห้อง นั้นสีขาว แต่ สาว เจ้าชุดดำ คืนค่ำ ดื่มด่ำกับหยาดน้ำตา นั่น คือครั้งสุดท้าย พรุ่งนี้ไป ใครจะเห็นหน้า หากสาว ฆ่าตัวตาย ไปเมื่อคืน ห้อง นั้นสีขาว แต่ โลก เราไม่ใช่ โหดร้าย น่ารักมีอยู่คู่กัน ทำ ผิดใดหนา จะ หามีใครข้องเกี่ยว เปล่าเปลี่ยว เหลียวมอง ลอดช่องประตู ห้อง นั้นสีขาว แต่ สาว เจ้าชุดดำ คืนค่ำ ดื่มด่ำกับหยาดน้ำตา นั่น คือครั้งสุดท้าย พรุ่งนี้ไป ใครจะเห็นหน้า หากสาว ฆ่าตัวตาย ไปเมื่อคืน ห้อง นั้นสีขาว แต่ โลก เราไม่ใช่ โหดร้าย น่ารักมีอยู่คู่กัน ทำ ผิดใดหนา จะ หามีใครข้องเกี่ยว เปล่าเปลี่ยว เหลียวมอง ลอดช่องประตู... http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=3431
27 พฤศจิกายน 2546 17:02 น. - comment id 185474
ยามดึกของคืนเศร้า ช่างอ้างว้างเสียนี่กระไร ไร้ฅนเคียงข้าง ช่างโดดเดี่ยวอะไรเพียงนี้ ชีวิตหนอ ไร้ฅนรัก . . dinso
28 พฤศจิกายน 2546 07:52 น. - comment id 185597
...เรน..มีความเห็นตรงกับ..พี่ชัยนะคะ... ..อย่าว่าเรน..น๊า... แบบ..ตามหลัง..ผู้หย่ายย..... แว๊ปป...
30 พฤศจิกายน 2546 09:42 น. - comment id 186220
ค่ำคืนแห่งความเดียวดาย เมื่อข้างกายไม่มีเธอฉัน ค่ำคืนแห่งความเงียบงัน เมื่อฉันไม่เจอเธอนั้นหลายเพลา *-*หลายกันไปนาน ๆ คิดถึงกันจังเลยค่ะ*-*