ในลมหอมหลอมดวงใจให้ไหวหวั่น หวานจากจันทร์วันเดือนแรมแย้มเยือนสรวง คืนเดือนเสี้ยวเกี่ยวกิ่งฟ้าเพียงครึ่งดวง ราตรีล่วงรวงดาวพรายร่ายมนต์ใจ... แลละลิบทิพย์ทิวเมฆเสกมนต์เศร้า เดือนแรมร้าวร้างลาเลือนเตือนใจไหว แสงเดือนเศร้าร้าวรอนเว้าวอนใจ ใครหนอใครเคยโลมไล้ใต้เงาจันทร์ วอนลมหอมหลอมดวงใจรอรับรัก เพ้อเพียงภักดิ์พ้อเพียงหลงตรงใจขวัญ เสน่หาอาวรณ์ออดอ้อนจันทร์ ฝากเงาจันทร์ว่าเงาใจใครตรอมตรม.. สิบกว่าปีแล้วหนอรอพบหน้า ชื่นชีวายอดชีวันฝันขื่นขม เป็นความรักหนักแน่นหนาวระทม เป็นความขมจมจับทับทวี ในความรักหนักแน่นผ่านพิสูจน์ ใช่เพียงพูดผ่านกลอนรอนร้าวนี้ ใช่เพียงฝันคือวันจริงในชีวี ใช่ใจนี้ที่ไม่ท้อรอรักจริง หวังไม่นานกาลผ่านไปใจรักจบ ขอเพียงพบสบตากันนิ่งนิ่ง โลกตรงหน้าคงหยุดหมุนดูรักจริง นั่นคือสิ่งรอคอยลบรอยใจ.. เป็นเพียงฝันหรือเปล่าใจเราหนอ? คนที่รอที่รักรู้บ้างไหม มีชายหนึ่งซึ้งในรักหนักแน่นใจ วันสิ้นใจ..ในอ้อมกอด รอยอดรักปิดเปลือกตา.....
14 พฤศจิกายน 2546 22:14 น. - comment id 181598
www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=4729 ยอดรัก จงมองที่ขอบฟ้า โอบๆโค้งลงมา นั้นคืออ้อมกอดจากฉัน ฮือๆ ฮือๆๆ ยามเมื่อเราไกลกัน เธอฉันดังอยู่เคลียไคล้ ยอดรัก สายลมแผ่วละมุน นั่นคือสายลมอุ่น ฉันพรมและจูบลูบไล้ ฮือๆ ฮือๆๆ เธอรู้บ้างหรือไม่ รักใครไม่เท่าเทียมฉัน คืนวัน จะผันแปรเปลี่ยนไป แต่ใจฉันไม่อาจเปลี่ยนเวียนผัน ซื่อตรง จงรักจนนิรันดร์ หากลืมฉัน ฉันคงต้องกลั้นใจตาย ยอดรัก การจากทั้งผูกพัน ย่อมจะคิดถึงกัน เร่งวันคืนกลับเคียงกาย ฮือๆ ฮือๆๆ ครองรักไม่รู้หน่าย วันตายนั่นแหละวันลืม ยอดรัก การจากทั้งผูกพัน ย่อมจะคิดถึงกัน เร่งวันคืนกลับเคียงกาย ฮือๆ ฮือๆๆ ครองรักไม่รู้หน่าย วันตายนั่นแหละวันลืม...
15 พฤศจิกายน 2546 02:40 น. - comment id 181695
ฉันมีรักที่หนักแน่นเหมือนแผ่นฟ้า และมากกว่านทีที่มีอยู่ ฉันมีรักให้เธอโปรดรับรู้ และมากค่ากว่าสิ่งใดที่มีอยู่บนโลกนี้ ***ซึ้งใจมากเลยค่ะ ชอบกลอนบทนี้นะค่ะ***
15 พฤศจิกายน 2546 11:44 น. - comment id 181796
อยากย้อนคืนยืนเคียงฟังเสียงหวาน แว่วกังวานฝันเราเคยเฝ้าหวัง แต่เรื่องราวร้าวแยกที่แตกพัง มิอาจตั้งหน้ามาสบตากัน
15 พฤศจิกายน 2546 12:53 น. - comment id 181839
ฝันนวลจันทร์คว้างไกลเกินใครสอย เดือนล่องลอยผ่องฟ้าท้าลมฝน หากมีใครหวังพิศจิตนฤมล ก็ให้ด้นกลอนตอบมอบความนัย
15 พฤศจิกายน 2546 13:01 น. - comment id 181846
สิบกว่าปีหวนกลับมารับขวัญ มือไม้สั่นเสียงพร่าน่าใจหาย อย่าเพบกันดีกว่าถ้าเฉียดตาย คงจะจำกันไม่ได้ใกล้เข้าโลง ก็ไม่ทราบว่ารอทำไมเหมือนกัน อิอิ
15 พฤศจิกายน 2546 14:06 น. - comment id 181868
http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=336 เรา จากกันวันนั้นยังจำ จากกันวันนั้นฝนพรำ พรางม่านกรรม คล้ำครึ้มคลุมเวร ลมครางฝนครวญ ไพรสั่นชวน รวนระเนน ความกดดัน ขั้นเดน เหมือนจะเค้น ฆ่า กัน เรา จากกันวันนั้นนานมา แต่เมื่อวสันต์ลีลา ฤาสร่างซาฝนฟ้าฟูมฟาย ฤดู ฤดี มันไม่มี วันคืนวาย มันสาปใจ สาปกาย คล้ายมนต์ร้าย พรายผี ผี วสันต์ มันหลอก มันหลอน ปีศาจวสันต์วันก่อน ยังสังวรณ์ เวรนี้ ฟัง โถฟัง ฟังฝนตกซี เหมือนนรกตกตี ย้ำ ขยี้ ใจ ตรม ไป จากไป ไปแล้วไปเลย อย่ามาชวนชิดชวนเชย ปีศาจเอย ร้างเลยอารมณ์ ลมมา ฝนมา จงอย่ามา พาระทม เพียงโศกทราม เศร้าซม ฉันจะล้ม ตายแล้ว...
15 พฤศจิกายน 2546 14:09 น. - comment id 181869
รอคอยน้อง ล่องลอยมา ตระกองกอด หวังพร่ำพรอด น้ำคำ ย้ำขับขาน ว่าผูกพัน สัญญามั่น หมายนงคราญ วอนตาหวาน ยิ้มระรื่นให้ชื่นบาน ผมว่าขนาดสาวบ้านนา บอกว่าป่วย ยังมาลงได้ ถึง ๔ กลอน ต้องยอมรับนับถือครับ ขอกราบกรานในเลือดนักสู้ ถ้ายังไม่หายเดี๋ยวจะจัดส่งยาสมุนไพร(ฝนจากรากไม้) ไปให้ทานนะครับ