http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=304 ใน...ราตรีหนึ่ง ไพลนั่งดายเดียวเดียวดาย ดูไฟพริบพราวบนตึกสูง..สูงลิ่ว กับลมหนาวละลิ่วละล่องมาปะทะร่างราน.... แลละลิบลงเบื้องล่าง แลรายรอบราวเมืองสวรรค์ฝันสับสน.. กับชีวิตผู้คน..อลวนอลเวง..ในเมืองลวง และ.. รอดาวนำทางใจศรัทธาใจดวงไกล ที่กำลังลอยละลิ่วปลิวด้วยลมรักลอยมาหา มาปลอบประโลมใจ ยามที่ไพลราวธุลีเล็กนิดเดียว ในโลกอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ ที่ไพลเฝ้าเพียรแต่สงสัย ถามใจตัวเองว่า.. จะมอบนิยามใดให้แก่โลกใบนี้ดี..ละหนอ ละหนา ที่มีทั้ง ดิ้นรนเหว่ว้าสับสนต่อสู้ สุขแสนสุขในบางมุมของโลก และโศกแสนโศกโลกแทบสะเทือนไหวในบางชีวาชีวิต ที่ถูกลิขิตไปตามกาลไปตามแกน ความงามซ่อนอยู่มากมาย ความชั่วร้ายก็ซ่อนอยู่มากมี สุดแต่ใจเรานี้จะไขว่คว้าและ ชะตากรรมนำพาหมุนวนให้ไปพานพบกับสิ่งใด บางวันสุขล้นหัวใจอยู่ดีดี.. พออีกนาทีต้องมานั่งเศร้าดายเดียวลำพัง น้ำตาพร่างพลันพรู ร้างไร้ผู้ใดรู้เห็น.... โอ้ช่างไฉนเลย สวรรค์เอ๋ยสวรรค์ลา สวรรค์ปิด ........ ไพลจึงพลันคิด.. ฝันใฝ่ ใส่จินตนาการงาม..ให้..เมืองมลังเมลือง เบื้องล่างนั้น คือเมืองสวรรค์ในฝัน.... ที่มีแม่น้ำเนรัญชราไหลผ่าน มีม่านหมอกราวสายไหม มีดวงดอกไม้หวานแอร่มแต้มไพรระดะดวง มีเส้นทางสายงามทอดทาบราวอาบทองทา นำพาไปสู่ป่าหิมพานต์ ณ.แดนดินแห่งมนต์ขลัง เป็นป่างามสะพรั่งพรรณตระการตา มีดวงดาราพร่างดาระดาดกระพริบพราว มืทางช้างเผือกงามอะคร้าว ราวรุ้งเรียวรอรับร่างขึ้นไปไกวชิงช้าเมฆ เสกรวงดาวหว่านพราวพร่างพรมห่มให้โลกงามเลยค่ะ.. ไพล..พรรณนายากจังเลย หากวาดเป็นภาพออกมาได้คงดีนะคะ.... . หยาดน้ำค้างพร่างพรมลมลูบไล้ แสงจันทร์ฉายคลายเศร้าคอยเฝ้าขอ ไกวชิงช้าเมฆเสกรวงดาวพราวสร้อยคอ คล้องขวัญรอขอเกี่ยวใจไปนิรันดร์... ไพล.. ใส่เสื้อหนาวชาวเขา ออกมานั่งรอดูดวงดาวแห่งศรัทธารัก หวังจักโชนแสงส่องมาปลอบประโลมใจ ในยามเหว่ว้า และดาวในดวงชีวาก็พลันส่องกระจ่างกลางใจ ดาวประจำใจดาวประจำเมือง..แห่งรักเราสอง รอหัวใจไพลลอยละล่องติดปีกฝัน พลันสู่ไพรพฤกษ์พงเลยค่ะ. ในฝัน ไพลนุ่งผ้าถุงชาวเขาผืนงาม และคลอคล้องร่างห่มพรายให้หนาวคลาย ด้วยผ้าไหมทอทอดสอดดิ้นทองสีไพล.. และ บนภูผาสีเงิน ที่ใกล้แสนใกล้ ราวเอื้อมมือคว้าดาวสุกใสเอามาใส่อุ้งมือได้ ไพลมีเขาคนนั้นยืนนิ่ง ให้พิงไหล่อยู่ในอ้อมโอบอ้อมอกอุ่นละมุนหอมหอมหอม ทั้งกรุ่นกลิ่นดอกไม้ไพร. และกลิ่นอุ่นไอไออุ่นจากอ้อมอกแนบละมุนละไม.. ไปถึงหัวอกหัวใจให้หนาวคลาย..ให้คลายหนาว และใครคนนั้นพลันชี้ชวน ให้ไพลชมทางช้างเผือก ไพลกระซิบขออธิษฐานใจ.... ใครละหนอ ใครกันละนี่ ที่จะได้รับรู้รับทราบ หรือ.. อาจมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ได้ยินได้ฟัง.. พระเอกในฝันในใจ หรือมีเพียงใจดวงเศร้าร้าวไหวของไพลได้ยินคำดายเดียวลำพัง.. . ฉันเห็นเธอในดอกไม้สายลมไหว มวลนกไพร ในฝนพราย แมกไม้ฝัน ในดวงดาว ในอุ่นแสง แห่งตะวัน ในความฝัน ในยามตื่น ชื่นฉ่ำใจ.. ฉันเห็นเธอ ในดวงจันทร์ ฝันเคียงฟ้า ในเมฆา ในเรียวรุ้ง กระจ่างใส ในผีเสื้อ ในสายน้ำ ในขุนเขา ในเงาใจ เธอสถิตอยู่กลางใจในเรียวตาในศรัทธาในรักนี้ มิมีวันจะลบเลือน!.> *************** ทะเลเมฆเสกรวงดาวละลิบลิ่ว ราวโปรยปลิวพริ้วสายไหมทอไยฝัน วิมานใดไหนเล่างามเทียมทัน ลุ่มหลงฝันวันแสนดีราตรีไพร... เดือนหยาดหวานปานโปรยโรยน้ำผึ้ง ใจดวงซึ้งซ่านสุขซุกหวามไหว กุหลาบงามยามนี้คลี่กลีบหอมยวนใจ ดอกไม้ไทยไหวกิ่งก้านหวานรับลม... ลั่นทมระทมช่อล้อลมไหว หอมเศร้าใจยิ่งไหวหวั่นวันขื่นขม ลำธารหอมหลอมระรินกลิ่นลั่นทม หมอกพร่างพรมห่มร่างร้าวช่างหนาวใจ.... ฝันฝากร่างอ้างว้างกลางไพรพฤกษ์ ดาวยามดึกพริบพราวว่าอย่าร้าวไหว อีกไม่นานดอกไม้หวานบานรับใจ ไม่ห่างไกลทิ้งใจร่างกลางผืนไพรดาวพร่างพรม ******** วันนี้ไพลเด็ดการะเวกเสกมนต์เศร้า นำเข้าไปวางให้คุณหมอ.ที่โรงพยาบาล.. คุณหมอพระเอกทอลดาร์คและแสนดี ผู้เป็นดั่งศรัทธารักในดวงใจไพล... ยิ้ม..หวาน และบอกว่าหอมจังเลย! ค่ะ แค่นี้ เพียงแค่นี้..หัวใจไพลก็แสนมีความสุขแล้วละคะ..ทุกดวงใจ!
29 ตุลาคม 2546 00:06 น. - comment id 177000
แต่งได้ดีมากเลยค่ะ และผู้หญิงไร้เงาก็ชอบเป็นพิเศษกับกลอนบทข้างล่างนี้นะค่ะ ชอบค่ะ เป็นอะไรที่ถูกต้องที่สุดเลยค่ะ ความงามซ่อนอยู่มากมาย ความชั่วร้ายก็ซ่อนอยู่มากมี สุดแต่ใจเรานี้จะไขว่คว้าและ ชะตากรรมนำพาหมุนวนให้ไปพานพบกับสิ่งใด
29 ตุลาคม 2546 00:07 น. - comment id 177001
สุเทพ-สวลี : : Key C ญใครคนนั้น ที่ ฉัน ฝันถึงเขา ใครคนนั้น ยิ้มเศร้าเศร้า เขาอยู่ไหน ใครคนนั้น ที่ฉันรัก เหมือน ดวงใจ อยู่ที่ไหน นะจันทร์ ฉัน หลงคอย ชอยู่ที่ไหน ไม่สำคัญ หรอกขวัญ จิต โปรดจงคิด ถึง กัน สักวันละหน่อย อาจแทรกอยู่ กับน้ำค้างตาม ดาวลอย อาจจะยิ้ม อย่างละห้อย คอยสัมพันธ์ ญเธออยู่ไหน ชฉันอยู่นี่ ที่รัก จ๋า ญเธออยู่ไหน ชในดาราคือตาฉัน ญเธออยู่ไหน ให้ฉันเห็น เป็น สำคัญ ชที่กลางใจ เธอ นั้น คือฉันเอย ญเธออยู่ไหน ชฉันอยู่นี่ ที่รัก จ๋า ญเธออยู่ไหน ชในดาราคือตาฉัน ญเธออยู่ไหน ให้ฉันเห็น เป็น สำคัญ ชที่กลางใจ เธอนั้น คือ ฉัน เอย...
29 ตุลาคม 2546 02:25 น. - comment id 177004
อ่านบทพรรณรา พลันน้ำตาเริ่มซึม ราวกับจะรับรู้และซึ้งค่าไปกับไพร ที่คืนนี้ แทบจะนอนไม่หลับ คิดถึงฟ้ากว้าง และทางช้างเผือกที่ยืนชี้ชม หมู่ดาวพราวฟ้า.....โลกหนอโลกช่างงดงาม และมีค่ายิ่งในหัวใจละมุนละไมนี้ อยากบอกไพร พร้อมกับในวินาทีนี้ที่บทเพลง แห่งสายน้ำนิรันดร์กำลังบรรเลง ในห้วงดึก กับบทกวีที่ไหวนหวานและงดงาม เสมอในหัวใจดวงนี้ที่ไม่มีวันจางคลาย เก็บสายน้ำนิรันดร์มาฝันใฝ่ เก็บดวงใจละมุนละมัยในรอยรัก มาห่มอุ่นกรุ่นไอให้พร้อมพรัก ได้บานทักอีกครั้งในวันนี้ เก็บเสียงเพรียกดาราแห่งฟ้ากว้าง มาสานทางไต่ดาวหน้าหนาวนี้ กี่วันคืนฤาจะห่างร้างไมตรี เพียงดวงใจดวงดีมีศรัทธา
29 ตุลาคม 2546 05:45 น. - comment id 177010
ทุกคนล้วนมีความฝัน ล้วนหลายหลากมากมายเกินกว่าที่จะพรรณาได้ แต่ปลายทางแห่งฝัน มีใครบ้างหนอที่จะพบประสบยังสิ่งที่ตนวาดหวังเอาไว้ ผมดีใจด้วยที่ตอนนี้ความฝันของพุดมีพระเอกมาก่อร่างสร้างฝันเคียงคู่มาด้วย พุดผู้ที่นำเอาความฝันกลางดงพงไพร ท่ามกลางแสงดาว ดงดอกไม้ สัตว์ที่แสนสวย สายน้ำลำธาร ซึ่งน้อยคนนักมักจะฝันถึงเรื่องแบบนี้ ขอสนับสนุนให้ฝันที่วาดไว้ อย่างวาบหวาม ขอให้สมหวัง เมื่อเวลามาถึง ในวิมานที่วิลาสวิลาวัณย์ครับผม
29 ตุลาคม 2546 07:13 น. - comment id 177023
..รักทุกบทกวี..ของพี่พุดพัดชา...นะคะ.. ..ในฝัน..ตรงนั้น... ..ในวัน..ที่เดียวดาย... ..ขอแค่..เกิดจากสิ่งภายใน... ..ขอเรนได้..รัก..สิ่งที่เรนฝัน...เหมือนพี่พุดพัดชา..บ้าง... ..ขอเรน..แทรก..ตรงกลาง... ..ขอที่ว่าง.. ให้เรน..ได้รัก..นะคะ.....
29 ตุลาคม 2546 08:30 น. - comment id 177035
:) หวัดดีครับ
29 ตุลาคม 2546 09:46 น. - comment id 177045
http://greenmusic.org/thai/index.html อ่านแกล้มCOLD WIND และ WHISPER OF THE WIND นะคะคนดีทุกดวงใจ พุดร้องไห้กับชัยชนะอีกแย้ว จะบ้าตาย และจะมากล่าวคำซึ้งใจหลังจากหายซึ้งน้ำตาพร่างเสียก่อน..ค่ะ รักสุดใจ
29 ตุลาคม 2546 09:59 น. - comment id 177048
ไพล .. นามนี้คุ้นตานัก เมื่อใครคนหนึ่งคร่ำครวญหาอยู่เนืองๆ แรกเริ่ม รู้สึกระคนใจยิ่ง จนกระทั่ง เวลาผ่านไป ผ่านไป และผ่านไป เหมือนกับว่า ชื่อนี้กลายเป็นเงาของบุคคลหนึ่ง อย่าเหงาเลยคนดี อย่าเศร้าเลยคนดี ฉันอยู่ตรงนี้ ใช่ว่าจะไกลไปไหน อย่าโศกเศร้าเลยนะยอดดวงใจ และอย่าหวั่นไหว หวาดระแวง มองโน่นสิดวงดาวบนฟ้า จรัสแจ่มจ้าประกายแสง ส้มเหลืองระยิบระยับวับวาวแดง สะท้อนแย้งเงาบุหลันพลันนภา สายลมโชยพริ้วอ่อน เหมือนจะซ่อนน้ำค้างกลางเวหา มิให้หล่นกระทบคราบน้ำตา ยามที่ใจเหว่ว้า..ระทมดาย ไพล..ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงนามสมมุมติ แต่ใจพิสุทธิ์มากล้นในความหมาย เพียงผ่านมา และฝากคำก่อนลากาย อย่าเดียวดาย .. นะไพล คนงาม .. :)
29 ตุลาคม 2546 21:55 น. - comment id 177189
เพชรหมื่นเหลี่ยม