http://greenmusic.org/thai/index.html http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=1931 (อายฟ้าดิน) .............. ผม..ชอบตื่นมาในตอนย่ำรุ่ง รับอรุณเบิกฟ้า... เฝ้าดูดวงตะวันพาไรแสง เรื่อเรือง รำไร เจือสีหวานใส ทอทอดลอดแสงทองทาทาบอาบท้องฟ้าอ่อนอุ่นอ่อนหวาน ผ่านเรียวเมฆ เสกโลกหล้าให้สล้าง ตื่นจากฝันคว้าง หลับไหล สู่โลกจริงที่ต้องวิ่งดิ้นรนไขว่คว้าหาเลี้ยงชีพชอบไปวันวัน.. ผม..สูดลมหอมสะอ้าน.. ที่พัดพร่างบางเบาให้เนื้อใจเย็นรื่นให้ชื่นฉ่ำใจ อย่างช้าช้า ช้าช้า.. ให้ซึมเซาะลึกซึ้งถึงหัวใจดวงนี้ ที่นับวันจะโหยหาแต่ธรรมชาติไพร ผมเฝ้าดู..มวลหมู่นกกาโผผินบินสู่ไพรกว้าง อย่างที่ผมวาดหวังอยากฝากร่างไร้ตัวตน ติดปีกแห่งรักแห่งฝันพลันเหินบินตามไป... ถลาสู่ไพรพง ดงดอกไม้ ดงดอกหญ้า เนินสล้าง สู่เสรีแห่งจิตวิญญาณ ผ่านขุนเขา เงาเมฆ ห้วยละหาน สายธารหวานระริน ท่องล้ำเข้าไปสู่แดนดินถิ่นลี้ลับที่ราวกับให้มหัศจรรย์ใจ เงียบสงบ สงัด...ร้างไร้ผู้คน มีเพียงมนต์แห่งธรรมชาติ วาดเวิ้งใจให้แสนเงียบงาม และ..แปลกสิ้นดี..! ที่ราวกับมีใครบางคนตามติดสนิทแนบแอบซุกซบ ในอ้อมอกอ้อมใจไปกับปีกแห่งรักแห่งฝันนี้ทุกถิ่นที่ ทุกราวไพร ไฉนเลย..ไม่มีวันสิ้นสุดสลัดหลุดลา..โอ้ว่าฟ้าดินชะตารัก.. ทบทวน... เมื่อคืนนี้..ที่ผ่านมา.. พาผมพบเพื่อนเก่าโดยบังเอิญ เราสองเลยพากันเชิญตัวเองให้มานั่งสวนอาหารโล่งกว้าง ที่รายล้อมด้วยพันธุ์ไม้ไทยใสพร่าง เขียวชะอุ่มงามดั่งนั่งอยู่ท่ามกลางพฤกษ์ไพรพง.. ผมแหงนเงย..มองฟ้า .. ที่สล้างนวลด้วยแสงจันทราสีเงินงามผ่องผุด ที่แทบทำให้ผมอยากหยุดโลกให้เลิกหมุนสักครั้งครา ให้หัวอกหัวใจเหว่ว้าของคนหนุ่มอย่างผมที่กำลังหวามอมชมพู ด้วยแอลกอฮอล์ผสมเลือดรักที่กำลังไหลพล่าน.. ได้รับหวานหว่านโปรย ให้มีพลังรัก พลังใจ จากพลังจันทร์ ให้ขับเคลื่อนสู้ฝันสู้ชีวิตต่อไปในวันพรุ่ง ที่หมุนวนหมุนเวียน ดั่งกงเกวียน กงกรรม ในกรอบใจ ในกรุงกรง มิรู้สิ้นมิรู้จบ นาทีนั้น..หนาวในใจพลันกลายอุ่น โลกละมุนพลันสดใสขึ้น จนอยากโทร..ถึงใครสักคน หาอ้อมใจ อ้อมรัก อ้อมตัก พักซุกซบขออ้อมอกไออุ่น ให้ใจดวงนี้ที่อ้างว้าง ดายเดียว เปลี่ยวเหงา จนซึมลึกถึงเนื้อในเนื้อใจมานานปี ที่นับวัน นับนาที มีแต่ความเบื่อ เบื่อ เบื่อมนุษย์มากมีมากมาย ที่รายล้อม ที่ทุกข์ทนยาก ที่ลำบาก ยากจะเอื้อมมือไปช่วยเหลือใครได้ ที่รายรอบตัว.. เพราะดวงตาภายในดวงที่สาม ทำให้ผมมองไม่เห็นงาม กลับมองข้ามเข้าไปเห็นถึงฝั่งทุกข์ ในทดท้อ เหว่ว้า ในทุกใบหน้า ทุกแววตา ในทุกที่ที่พานพบ.. ป้ายรถเมล์..โรงพยาบาล กลางถนน อลวนอลเวง ราวภาพชีวิตสิ้นไร้ ที่สถิตฝากไว้ให้หัวใจ เศร้าชั่วนิจนิรันดร์ ในวังวนวังเวร ทนทุกขเวทนา...พาให้ใจนิ่งงัน..สิ้นฝันสิ้นอยาก.. ผมเก็บตัว..ในห้องเช่า ราวกรุงกรงกักขัง ที่คอยดูดไฟฝันให้ดับดวงทีละนิดละน้อย ให้หัวใจค่อยค่อยตายแบบผ่อนส่ง ล่วงลาลับ นับไม่รู้จบ จากวัน เป็นเดือนเลื่อนเป็นปีปี และคงอีกหลายหลายปี.. ที่ทุกนาที..ผมเพียรพยายามปลดแอกใจ ไม่ออก หลอกใจด้วยใจดวงฝันฝัน แค่ไหนก็ไม่สำเร็จ.. และมาวันนี้.. ผมยิ่งเบื่อเหลือที่กับหัวใจดวงนี้ ที่มีเนื้อใจไหวละมุนจนเกินไป จนปล่อยให้สายธารใจเยื่อใยรักเย็นฉ่ำที่พร่ำรินรัดร้อย ผูกมัด สลัดแอกรัก แอกใจ มิหลุด เป็นดั่งโซ่พันธนาการจิตวิญญาณ ที่ร้ายแรงยิ่งกว่าพันธะทางร่าง ที่ยังสิ้นสุดหยุดได้ลง.. มันทุรนทุราย ให้ใจหาย ให้ร้าวรวด ให้ปวดร้าว รัดรึงตอกตรึงแน่น แทบสิ้นแรงใจ อยู่ภายใน ที่ยากจะบอกใครยากจะอธิบาย. และทุกคราที่ผมระกำช้ำหนัก..กับรักนี้ที่เป็นไปไม่ได้ ผมจะพาตัวเอง มายืนนิ่ง..ใต้ต้นไม้แห่งนี้ที่เป็นดั่งต้นไม้แห่งศรัทธารัก ใต้ต้นพิกุล..ที่กำลังหอมพราว ดอกดวงเล็กเล็กนิดนิดน้อยน้อยกำลังลอยควะคว้าง กลางสายลมพัดไหว ร่วงผลอยปลิดปลิวลิ่วลอยพร่างพื้น.. ผมจะรอคอย.. ค่อยค่อยกางมือออกไขว่คว้า.. ดอกคว้าง..ให้ร่วงลงตรงกลางอุ้งมือผม อย่างละมุนละม่อมทะนุถนอมราวดอกไม้เพชรพร่างพรม ที่คอยห่มห้องหัวใจรักแสนหวานแสนงามนี้.. หัวอกหัวใจผมจะลอยละล่อง..ครองซึ้งคะนึงถึงภาพ.. เด็กผู้หญิง ใบหน้าหวานเศร้า นั่งดายเดียว ใต้ร่มเงาพิกุล ต้นใหญ่ กำลังร้อยมาลัย สร้อยพิกุล เส้นยาว งามพราวในละมุนมือ อย่างใจจดใจจ่อ.. ผม..ประคองดอกไม้งาม ดอกไม้แห่งความรัก ความฝัน ดอกไม้ในใจ ในพันผูกรัดร้อย อย่างอ้อยสร้อย ขึ้นดอมดมพรมจูบ ด้วยรักล้นใจ ด้วยในอณูนึกทรงจำแสนหวานเศร้า ที่ตามมาติดตรึง ตอกย้ำให้ผมล้ำลึกโหยหา งามดวงใจใครเลยจะรู้..นี้..ที่มีมานานเนา..นานเนิ่น. ผมเอนตัวลงช้าช้า ..... นอนดูฟ้ากว้างผ่านดวงดอกไม้แห่งศรัทธารักมิรู้จบ.. แสงฟ้ายามเย็นทอทอดลอดกระทบเงาน้ำในเรียวตา ที่กำลังละหลั่งรินอย่างช้าช้า เป็นสายพรายพร่าง อย่างมิอายฟ้าดิน! ........... หล้าโลกนิ่งงัน..สิ้นคำปลอบประโลมใจ กับสายน้ำใสจากดวงใจจากดวงตาลูกผู้ชายคนกล้า ที่ยิ่งใหญ่เปรียบประดุจดังสายน้ำแห่งรัก สายน้ำแห่งฝัน สายน้ำนิรันดร.......
11 ตุลาคม 2546 19:37 น. - comment id 173771
http://greenmusic.org/thai/index.html สายน้ำนิรันดร์. หายไปแล้วค่ะ หาไม่เจอ ลองฟังเจ้าพระยาแทนละกันนะคะ หากเข้าไป หรือเช้าวันใหม่ จริงๆแล้วไพเราะแทบทุกเพลงค่ะ พุดพัดชากำลังสั่งซื้อค่ะ http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=1931 อายฟ้าดิน พุดพัดชาชอบแช่ม แช่มรัมย์มากค่ะเพราะคิดว่าเขาใส่อารมณ์เพลงได้ถึงใจดี และโปรดเพลงนี้มากคนร้องก็น่าจะเป็นพระเอกในฝันได้นะคะ ........... จะบอกรักใครก็อายฟ้าดิน ความหวังพังสิ้น ทางรัก มืดมน เกิด มา ร่างกายเท่านั้นเป็นคน แต่หัวใจปี้ป่น โดนรักขยี้แหลกราญ จะเอ่ยรักใครให้เอือมระอา เมื่อไร้คุณค่า จนมิ ต้องการ ตราบ จน สิ้นคนมั่นรักยืนนาน ต้องทุกข์ทรมาน ร้าวราน ฤดี ชีวิตต้องสิ้น ความหมาย วิง วอน ไหว้ ฟ้าดินก็ไม่ปราณี เจ็บ ปวด รวดร้าว ชีวี ดวงฤดี มีแต่ ซอกช้ำเรื่อยมา ไม่อยากรักใครให้อายฟ้าดิน กลัวเขาจะสิ้น ความรัก เมตตา สู้ กลืน เก็บความซอกช้ำอุรา ไม่รักใครดีกว่า เดี๋ยวเขาจะอาย ฟ้าดิน ชีวิตต้องสิ้น ความหมาย วิง วอน ไหว้ ฟ้าดินก็ไม่ปราณี เจ็บ ปวด รวดร้าว ชีวี ดวงฤดี มีแต่ ซอกช้ำเรื่อยมา ไม่อยากรักใครให้อายฟ้าดิน กลัวเขาจะสิ้น ความรัก เมตตา สู้ กลืน เก็บความซอกช้ำอุรา ไม่รักใครดีกว่า เดี๋ยวเขาจะอาย ฟ้าดิน... ........... http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=388 ส่วนเพลงนี้เนื้อหาบทเพลงซึ้งสะเทือนดีค่ะ ไม่มีวันที่เราจะพรากจากกัน ดิอิมพอสซิเบิ้ล : : Key Am ไม่ มี วัน ที่ เรา จะพราก จาก กัน ไม่ มี วัน ที่ เรา จะพราก จาก กัน ไม่ มี วัน ที่ ฉัน จะขาดเธอ รัก เธอเสมอ จิตใจ ตัดน้ำ ไม่ขาด ฉันท์ใด เยื่อใย ความรัก ไม่ขาดกัน อยู่ แดน ดิน ถิ่นไหน ไม่เปลี่ยนแปลง รัก เธอไม่แล้ง จากฉัน ชุ่ม รัก ชื่นฉ่ำ ทุกวัน มั่นรัก เธอนั้น ตลอดมา ภมร ไม่ เคย พราก ดอก ไม้บาน สาย ธาร ไม่เคย พรากเหล่า มัจฉา สายลม แทรก รัก ฉันปลิว ไปมา ฝากไว้ ทั่วหล้า ตามติดเธอ ทุกแห่งไป ไม่ มี วัน ที่ เรา จะพราก จาก กัน ไม่ มี วัน ที่ เรา จะพราก จาก กัน ไม่ มี วัน ที่ฉัน จะจืดจาง รัก เธอไม่ร้าง จากใจ อยู่หรือ ตายดับ ลับไป รักยิ่งใหญ่ ซอนไซร้ ซึมใจเธอ ไม่ มี วัน ที่ เรา จะพราก จาก กัน ไม่ มี วัน ที่ เรา จะพราก จาก กัน ไม่ มี วัน ที่ เรา จะพราก จาก กัน... ............... ด้วยรักนี้ที่เป็นดั่งรักรักนี้นิรันดร์แด่ดวงใจคนช่างฝันในเรือนไทยทุกดวงนะคะ
11 ตุลาคม 2546 20:52 น. - comment id 173781
http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_36140.php มอบเริ่มรุ่งให้ทุกดวงใจในฝันพบยามเช้าที่แสนงามแสนหวานค่ะ
11 ตุลาคม 2546 23:03 น. - comment id 173810
เขียนได้ดีนะค่ะ แต่ก็เศร้ามากๆๆๆๆๆเลยด้วยเช่นกันค่ะ
12 ตุลาคม 2546 01:03 น. - comment id 173839
ลีลาแสนหวานกับเพลงซึ้ง ชื่นใจ อิ่มใจ และประทับใจในฝีมือท่านพี่
12 ตุลาคม 2546 15:28 น. - comment id 173925
สุดยอดเกินบรรยาย
12 ตุลาคม 2546 23:01 น. - comment id 174010
บทเพลงสายน้ำนิรันดร์ กับบทกวีร้อยแก้วที่พี่พุดนำเสนอนั้น ดั่งโดนกระชากหัวใจเอาไปหว่านลงในครรลองแห่งสายน้ำที่อบอุ่น กรุ่นครวญด้วยบรรยากาศแห่งวรรณกรรม จนทำให้วินาทีนี้ น้ำตาซึม ราวกับจะหลั่งน้ำตาสังเวย หลังจากที่อ่านอย่างตั้งใจละเอียดละออทุกๆ ตัวอักษร ราวโดนหัวใจเข้าให้ ..เหนือบรรยาย และเหนือบรรยายออกมา..
19 ตุลาคม 2546 20:36 น. - comment id 175066
ตามธรรมดาของคนใกล้ชิด(จิตใจ) ถ้าจะจับผิดกันคงไม่ว่าเพราะมีคนชมเยอะแยะแล้ว คงไม่เป็นไรนะครับพุดผู้มีหัวใจละมุน เพียงแค่ตอนผู้ชายไปสัมผัสกับดอกไม้ ผมจะรอคอย.. ค่อยค่อยกางมือออกไขว่คว้า... ผมว่าผู้ชายเราไม่ค่อยมีความอดทนถึงขนาดนั้น(ผมอาจเดาผิด) เพราะพุดพัดชา มีความผูกพันกับดอกไม้ในสไตล์ผู้หญิง เวลามาเขียนเป็นชายจึงเอาใจหญิงมาเขียนด้วย ก็ต้องตบท้ายด้วยการขอบคุณ เพราะชายที่คุณเขียนถึงในบางส่วน ผมเดาลาง ๆ ว่าเขาควรเป็นใคร เพลงเพราะมากครับ
31 ตุลาคม 2546 16:40 น. - comment id 177551
ลูกผู้ชายร้องไห้ไม่เป็นหรือไรคะชัยชนะและ ลูกผู้ชายคนดีในดวงใจพุดพัดชาต้องรักและรอดวงดอกไม้ได้นานด้วยดวงใจละไมละมุนละม่อมค่ะ พุดถึงจะยอมค่อยค่อยแย้มบานประตูใจที่ลั่นดาล รักติดสลักตรึงออกรับความพิเศษพิสุทธิของเนื้อใจดวงดีที่นับวันจะหายากยิ่งนัก และน่าแปลกนัก ที่พระเจ้าส่งมากำนัลดวงใจพุดพัดชาแม้นว่าพระเจ้าจะเผลองีบไปนานหน่อย ก็ยังปล่อยให้พุดพัดชาได้พบเจอค่ะ