สวรรค์ลา!

พุด


สำนึกในบ้านเกิด 

คืนนี้ เขตนอนไม่หลับเลย 
กระวนกระวายใจเป็นที่สุด เร่งอยากให้ถึงเวลานัดหมาย..โดยเร็ว. 
แผนการผจญภัย ที่วางไว้ กับสามสหายคู่ใจ ก้องในหู 
รบเร้าใจและตาพากันให้อยากสามัคคีชวนเท้า 
ก้าวเดินออกจากบ้านก่อนฟ้าสาง
 แผนการนี้ เริ่มในตอนเย็นของทุกวัน 
หลังเลิกเรียนที่ เพิงพักหมาแหงน ชายทะเล 
นานเป็นอาทิตย์ ก่อนที่จะเกิด การปฏิบัติการจริง ในคืนหมาหอน . 
คืนที่ฟ้ามืดมิดเป็นใจอย่างค่ำคืนนี้.....
 

เขต..แทน..เดช และอ้วน เป็นสี่สหาย 
ที่ใครๆ พากันรู้จักดี ทั่วทั้งเกาะพะงัน......... 
วีรกรรมบวกวีรเวรมากมาย
ที่สร้างสมไว้ไม่ว่ากับคน หรือกับสัตว์ทั้งบนบกและในน้ำ 
ชวน ให้เป็นที่ตราตรึงใจในด้านลบแก่ทุกคนที่ได้ยินได้ฟัง..
แม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็กๆ....ก็ตามที 
เขตมักตั้งตัว เป็นผู้บัญชาการรบ 
โดยไม่จำเป็นต้องผ่านโรงเรียนเสนาธิการที่ไหน ให้ยุ่งยาก มากเรื่อง
 เพราะการบัญชาการรบแบบของเขต เรียกการรบ นอกรูปแบบ..แบบเด็กๆ 
ที่บัญชาการ 
ก็เกิดจากน้ำพักน้ำแรงของทั้งสี่คน 
ช่วยกันสร้างขึ้นมาอย่างมุ่งมั่น..... 
เป็นเพิงที่ใช้จาก..มุงหลังคา
ที่แอบไปหยิบโดยไม่บอกมาคืนละตับสองตับจากบ้านป้านวล ที่แกเย็บไว้ขาย 
เสานั้นไปช่วยกัน ลากต้นมะพร้าวที่ล้มเพราะโดนพายุ 
แล้วเอาเลื่อยมาช่วยกันตัด เป็นสี่ท่อน 
ส่วนฝาบ้านนั้นก็ใช้ทางมะพร้าวแห้งมาเรียงกัน
 และอาศัยฝีมือแสนจะปราณีตแบบ 
เด็กๆอีกนั่นแหละ....ช่วยกันทำจนสำเร็จ.... 

และแล้ว ที่วางแผนการ ระดับเด็กท้องถิ่น 
ก็เป็นรูปเป็นร่าง พอไปวัดไปวา คุ้มแดด คุ้มฝน 
ได้.....
ไม่มีใคร เฉลียวใจเลยว่า อีกไม่นานต่อมา ..
ณ..ที่แห่งนี้จะฝังฝากความทรงจำไว้ในใจทุกคน 
เนิ่นนาน...........ยากที่จะลืมเลือน......

เขตอายุ14 ย่าง 15 ปี ผิวคล้ำ สูงโปร่ง รูปหล่อ 
มีเพียงพ่อเท่านั้นที่ไม่รวยและคงไม่มี 
วันรวย ทุกอย่างที่เป็นเขตก็ลองนึกถึงพี่ชาติชาย งามสรรพ์ 
ตอนที่เป็นเด็กดำ ในเรื่องฟ้าทะลายโจร 
ก็แล้วกัน....... 
ส่วน...แทน..นั้น น่าจะเติมคำว่า..ไท..เข้าไป 
จะได้ดูเหมือนมีคุณพ่อแบบคุณเสกสรรค์ 
ประเสริฐกุล นักคิดนักเขียน นักวิชาการผู้มีอุดมการณ์ 
ที่มีลูกชายชื่อแทนไท ที่แสนเก่ง 
ตามรอยเท้าพ่อจนได้ทุนไปเมืองนอก 
ไม่รวมคุณแม่กวีซีไรท์อีกคน นี่กระมังลูกไม้ จึงหล่นใต้ ต้นไม่ห่างไปไหน.. 
แต่..แทน..คนนี้..
มีชีวิตที่ไกลห่าง จากครอบครัวนี้มากนัก 
แทนมีพ่อขี้เหล้า เดินไปเดินมา 
แทบทรงตัวไม่อยู่ มีอาชีพเป็นหมอนวด 
แต่ใครๆก็ไม่อยากให้นวด แกชื่อหมอซ้ำ 
เวลาเดินผ่านบ้านใครแกก็จะถามด้วยเสียงที่เบาแสนเบา......
นวดไม่นวด.....นวดไม่นวด...... 
และแทบทุกคนจะปฏิเสธแก อาจจะเป็นเพราะว่า
 แค่ได้ยินเสียง ทุกคนคงเกิดปุจฉา 
ขึ้นในใจทันทีว่า....แกจะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนมานวดให้ใคร
 เมื่อตัวแกเองพูดยังแทบจะไม่ได้ยิน 
เอาเสียเลยแล้ว.. 
แทน..จึง..ต้องใช้ชีวิตแทนให้เป็นประโยชน์ 
สมชื่อ ด้วยประการละฉะนี้.......... 
โดยการทำทุกอย่างแทนพ่อ 
รับจ้างงานทุกประเภท หนักเอา เบายิ่งอยากสู้ 
และยิ่งต้องทนสู้ ในทุกๆเรื่องเพราะแทนไม่มีแม่......
แทนเสียแม่ไปตั้งแต่แทนยังแบเบาะ 
แทนจึงบึกบึน หล่อล่ำ และขยันทำงาน 
ด้วยจำเป็นยิ่งต่อชีวิต และโดยเฉพาะต่อชีวิต 
แสนลำเค็ญนี้.
 
...เดช.....ฟังชื่อแล้วอย่านึกถึงท่านขุนนะ 
เพราะเดชนั้นไม่มีคำนำหน้าและต่อท้ายชื่อ 
เดชคือเดช แม้ในเวลาต่อมาจะมีผู้เติมท้ายชื่อ
โดยไม่มีการขอพระราชทานว่า เดชลือลั่นสนั่นเกาะ 
เดชคนนี้ค่อนข้างใจนักเลง สมชื่อ 
เป็นเด็กที่มีพ่อเป็นถึงกำนัน แบบชั่วกาลนาน 
เพราะตำแหน่งนี้ของตำบลที่มีพลเมืองไม่ถึงพันคน 
ไม่มีใครอยากรับตำแหน่งเกียรติยศ 
ที่แสนเหน็ดเหนื่อยโดย ไม่มีเงินเดือนมากมายตอบแทน..... 
คำว่าลูกกำนัน ทำให้เดชรู้สึกดีเมื่อเดินไปไหนๆ...
และเดชก็โตพอที่จะรู้ว่าลูกกำนันนั้น 
ควรจะสร้างบารมีบ้าง ให้เหมาะสม กับการยอมรับนับถือ.....
เดชพยายามทุกวิถีทางที่จะให้แทนและ อ้วน ยอมรับตัวเองมากกกว่าเขต 
ซึ่งเดชคิดว่าน่าจะไปเป็นพระเอกลิเกเสียจะดีกว่า.... 
ระหว่างเดช และเขตจึงหักเหลี่ยมเฉือนคม
 ดูเชิงกันเรื่อยมา ด้วยสมองและพละกำลัง 
แต่เดชก็ไม่เคยชนะได้เลย..... 
 
.อ้วน..อีกคนที่เราจะลืมไม่ได้เลย 
อ้วนจะเป็นเด็กอ้วนกลม จอมตุ๊ต๊ะตุ้มตุ้ยแก้มยุ้ย 
น่าหยิก ขาดอ้วนทุกคนก็เหมือนขาดน้ำ
 เพราะอ้วนจะทำให้โลกที่ร้อนรุ่มดูเยือกเย็นลงได้ 
ด้วยความใจดี ใจเย็น การพูดช้าๆและ การที่อ้วนไม่เคยโกรธใครเลย.......... 
อ้วนหนุ่มน้อยคนเดียว..ที่ดูจะมีชีวิตสบายที่สุด เพราะเป็นลูกชายคนเดียว..... 
ของตระกูลลิ้ม.....อาชีพขายหมูในตลาด...
มีฐานะพอที่จะบำรุงลูกชายคนเดียวให้เป็นลูกหมูน่ารัก 
น่าเอ็นดู อีกคนหนึ่ง.......
ส่วนหนึ่งเพราะ..อ้วนชอบกินข้าวกับกากหมูร้อนๆ ที่เตี่ยเจียวเพื่อเอา 
น้ำมันไปขายที่ตลาด...และที่น่ารักที่สุดคือ
อ้วนจะแบ่งปันทุกอย่างให้กับ..แทน..และเขต..
ด้วยความดี..มีน้ำใจต่อเพื่อน.ผู้ยาก.....  

อ้วนทำให้แทนแสนซาบซึ้งใจ...
ในวันหนึ่ง เมื่อแทนหมดทางที่จะหาเงิน..มาจ่ายค่าเทอม... 
เย็นวันที่แทนสิ้นหวัง...และอยากสิ้นใจ เพราะสิ้นหนทาง....
แสนอับจน ข้นแค้นใจในเวลา ที่ใกล้จะต้องสอบเทอมใหญ่...........
อ้วนปรากฏตัวขึ้น....หน้ากระท่อมโย้เย้ของแทน......... 
พร้อมหิ้วถุงกรอบแกรบยู่ยี่มาส่งให้เช่นทุกวัน....
แทนเปิดดูคิดว่าคงเป็นกากหมู.......... 
หรือไม่ก็เนื้อหมู ที่อ้วนแอบเตี่ยเอามาให้แทบทุกเย็น............... 
แต่....มันกลับกลายเป็นหมูออมสิน แสนหนักอึ้ง.....
นาทีนั้นทั้งคนที่คล้ายลูกหมูและ 
หมูกระเบื้องออมสินแสนหนัก....
ทำให้ความหนักใจของแทนโบยบิน...รู้สึกใจเบาสบาย 
น้ำตาเอ่อล้น..เมื่อตบบ่าเพื่อนรัก..ผู้มากล้นน้ำใจ......... 
โดยไม่สามารถหลุดคำพูดใดใดออกมาได้........................ 
อ้วน...เป็นผู้ฟังที่ดี..เพราะพูดติดอ่าง.....
เป็นผู้ตามที่ดีเพราะเดินช้าด้วยสรีระที่เป็นอุปสรรค 
ทุกอย่างที่เป็นอ้วน ล้วนแล้วแต่ดูน่ารัก น่าชัง น่าหยอกเย้า ในสายตาเพื่อนเสมอ....... 

แผนการที่ สี่สหาย..คิดกันไว้ 
ตั้งใจจะไม่ยอมให้อ้วนร่วมสังคกรรมด้วย....เพราะกลัว 
จะเสียแผนจากการเคลื่อนไหวช้า 
ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญอย่างยิ่งยวด ............. 
.ต่อปฏิบัติการแห่งคืนหมาหอนนี้........
ที่กำลังจะกลายเป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่ง..... 
ของเกาะพะงันแสนงาม......แห่งนี้................. 

ฟ้ามืด.....เงียบ......ดาวค้างฟ้า......ลมหยุดนิ่งไม่ไหวติง................ 
ร่างของหนุ่มทั้งสี่....ดำทะมึนในเงามืด....
ค่อยๆคืบคลานไปสู่เป้าหมาย......... 
เงียบจนแทบไม่ได้ยินเสียงลมหายใจ...
นอกจากอ้วนซึ่งพยายามเงียบก็ยิ่งดูเหมือนจะหายใจ 
ดังกว่าใคร..ด้วยความเหน็ดเหนื่อยที่ต้องคลานไป 
ตามก้อนหินตะปุ่มตะป่ำ.ริมหาด 
ในเวลาที่ทุกคนควรจะนอนหลับกรนอยู่บนที่นอนแสนสุข.เสียมากกว่า........ 
เขตหันไปมองอ้วน....อยากให้จอมยุ่ง..
.หันหลังกลับ ถอนตัว ถอดใจเสียกลางคัน..... 
หารู้ไม่ว่า...ใจอ้วนตอนนี้นั้น ..
มีแต่เสียงของเขตก้องในหู....กระตุ้นกาย...กระตุ้นใจ.... 
ให้ฮึกเหิม..ลืมทุกสิ่ง.....

.ทบทวนแผนปฏิบัติการ..ก่อนการลงมือจริง......... 
เราทุกคนต้องเงียบอย่างที่สุด.....พอเข้าใกล้เป้าหมาย....ให้ระวังหมาให้ดี........ 
เดชต้องโยนก้อนเนื้อออกไป...อย่าลืมไม่กี่นาที...มันจะสลบไป...... 
และเราทุกคนรีบไปหลังก้อนหินใหญ่ ริมบังกาโลว์ ตามที่ ปิ๊ดมันสืบมา...... 
ช่วยกันงัดหินที่ปิดปากหลุมหลอกๆไว้ตามตำแหน่ง...บนแผนที่ที่เราดู.... 
พวกนายจะได้เห็นของจริง....เราจะดูให้เห็นกับตาโดยใช้ไฟฉายสำรวจอย่างรวดเร็ว 
แน่ใจว่าใช่.....รีบจัดการให้เหมือนเดิม....ย้ำเงียบ.....เงียบทุกขั้นตอน........ 
ไม่มีร่องรอย.....ชัดเจนมั้ย....ย้ำ...ข้องใจมั้ย.....และรีบออกจากที่นั่นโดยเร็วที่สุด....... 

อ้วนหนาวสั่น....ในใจ......
ด้วยความรู้สึกหลายอย่างประดัง......... 
เขต..แทน....เดช...เงียบราวไร้ความรู้สึก...จากเพื่อนที่หยอกเย้าเซ้าซี้.......... 
กลายเป็น..... เงียบ .......จนแทบไม่ได้ยินเสียงลมหายใจ............ 
จากริมหาดที่ต้องเดินเลียบโขดหิน..คลานหลบๆซ่อนๆไปตลอดทาง.... 
ทำให้ใจทุกดวง....หนักอึ้งด้วยความระมัดระวังตัว............... 
ใกล้เป้าหมายเข้าไปทุกขณะ......
. 
จันทร์ไร้แสง.....ดาวลอยต่ำลง.....อากาศเย็นเยียบ...จับขั้วหัวใจทั้งสี่ดวง........ 
ความคิดสับสนไปคนละทาง........
.เขตจำได้ถึงคำพูดก่อนลงมือของทุกคนดี........ 


.เขต.....เราไม่รู้ตัดสินใจถูกรึเปล่านี่....
แต่เรากำลังทำสิ่งดีๆ เพื่อบ้านเกิดของเรา 
เราอยากเป็นฮีโร่กันไม่ใช่เหรอ..
หากพรุ่งนี้แน่ใจแล้วเราจะพากำนันมาให้เห็นกับตาเลยเชียว 
แกคงตะลึงจนพูดไม่ออก.......... 
แทน....เราได้ช่วยเพื่อนมนุษย์วัยเดียวกับเรา...
แกบอกว่าทำดีเราจะได้ดีไม่ต้องกลัว 
.และบางทีเราอาจจะได้ไม่ต้องปวดหัวกับเรื่องค่าเทอม..ถ้าเค้ามีรางวัลให้บ้าง... 
 เดช.........พ่อเราคงเลิกด่าไปหลายวัน
ที่เอาแต่มาสุมหัวกันทุกเย็น..พ่อน่าจะภูมิใจนะที่เรา 
ได้ช่วยพ่อทางอ้อมให้มีผลงานบ้าง......... 
 อ้วน........นี่คือความทรงจำที่ดีที่สุด 
ที่เราทั้งสี่ คนช่วยสร้างมันขึ้นมา เพื่อบ้านเกิดของเรา 
ก็แกบอกไม่ใช่เหรอ 
ชาตินี้ทำอะไรดีๆบ้าง ดีกว่าเอาแต่กินจนจะเป็นหมูแล้วไง 
กลัวเตี่ยจะด่า.แค่นั้น หาเรื่องยุ่งอีกแล้วสิ...........

เป้าหมายใกล้ราวร้อยหลา ริมชายหาดสวย...
จะมีบังกาโลว์เป็นระยะปลูกติดกับ 
ก้อนหินอิงธรรมชาติงาม ไว้ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ.......... 
เสียงสุนัขเริ่มเห่า.......
ก่อนที่ทุกคนจะทันตัดสินใจทำอะไร......... 
เดช.....ช้าจังไอ้ห่าเอ๊ย.......หาพระแสงอะไรอยู่วะ........ 
เขตตะคอกด้วยเสียงกระซิบ......เสียงเดชกระเส่าราวจะขาดใจ......... 
....เนื้อหาย....สงสัยตอนคลาน มันหลุดจากถุง........... 
.....ตายละซีมึง....ทำไมวะ....
เขตตะคอกแทบไม่เป็นภาษามนุษย์....และทุกคน 
หัวใจแทบหยุดเต้น...ด้วยความกลัวสุดชีวิต........ 
พร้อมๆกับเสียงหมาเห่ากระชั้น...เข้ามาใกล้ทุกขณะ....ใกล้เข้ามา.... 
เขต....ตะโกน...บอกทุกคน...วิ่ง.....วิ่ง....วิ่ง...หนีเร็ว......วิ่ง...วิ่ง.....เร็ว........................... 
ทุกคนหันกลับหลัง.....วิ่ง ...วิ่งสุดชีวิต....สุดหัวใจ ให้พ้นทั้งหมา...และคน........ 
.แต่ช้าไปเสียแล้ว......สำหรับอ้วน............. 
แสงจากปลายกระบอกปืน......เปรี้ยง......ปัง......จนแสบแก้วหู.......... 
ท่ามกลางเสียงร้องอย่างตระหนก............ 
ร่างของอ้วน....ทรุดลงไปกองกับพื้นทราย.............. 
พร้อมๆกับ สิ้นเสียงปืน............. 
หัวใจของหนุ่มน้อยทั้งสาม กำลังจะหยุดเต้นไปพร้อมๆกับเสียงร้องโอ้ย............ 
อย่างเจ็บปวดของอ้วน....................... 
เสียงฝีเท้าวิ่งตรงมา.....
.แสงไฟจากกระบอกไฟฉาย พุ่งมาจากทุกทิศ ทันทีที่ทุกคนได้ 
ยินเสียงปืน....
รายล้อมรอบร่างของเด็กหนุ่มทั้งสี่ เขต แทน เดช........... 
และอ้วน..ในอ้อมกอดของเพื่อนทั้งสาม...
.ด้วยร่างชุ่มโชกไปด้วยคาวเลือด........ 
ที่กำลังหลั่งรินรดตกต้องผืนทรายขาว.....แดงฉาน........
....... 

ฟ้าเงียบงัน....... 
ดวงดาวราวร่ำไห้..... ลมไม่ไหวติง............... 
ใจของแทน...เดช.....และเขต...
กำลังแหลกสลาย....ยับ...ตามไปกับเพื่อนยาก...... 
ผู้...หลับตานิ่ง....ใบหน้าแย้มยิ้มอย่างคนใจดีที่เคยเป็น.
พริ้มเพรา...ภาคภูมิ....
ต่อสิ่ง ที่ได้เลือกตัดสินใจทำ...
ทิ้งทุกสิ่งไว้เบื้องหลัง......ด้วยใจดวงบริสุทธิ์...ใส.......... 
สวรรค์......โอ้สวรรค์.....เท่านั้นที่จะรับรู้....รับรู้และรอรับ................ 


เสียงปืนทำให้ทุกอย่างสิ้นสุดลง.......
หลักฐานที่ไม่สามารถกลบเกลื่อนได้ทัน..... 
เพราะการตัดสินใจชั่ววูบจากเจ้าของปืน
ที่ต้องการปกป้องเฮโรอิน มูลค่ามหาศาล 
ที่ฝังซ่อนไว้ใต้หินงาม รอจำหน่าย 
ที่เขตได้นำทุกคนไปพิสูจน์ในคืนนั้น....... 
ที่ซึ่งทั้ง สี่สหาย หมายมาดใจว่าจะช่วยให้คนดีๆ 
หลุดพ้นจากการตกเป็นทาสยานรก 
ที่ที่.....อ้วน ฝังฝากใจ แสนดี แสนงาม แสนซื่อ 
ไว้ให้ผืนปฐพีงาม........... 
ด้วยสำนึกต่อบ้านเกิด....ที่ควรค่าแก่การคารวะเป็นยิ่งนัก....หนุ่มน้อยคนดี
 
....................................................................................................... >

เขียนเรื่องนี้ ด้วยแรงบันดาลใจ 
ในสำนึกต่อปัญหาของบ้านเกิดที่นับวันจะรุนแรง 
ทวีมากขึ้นด้วย...ยาเสพติด....
ที่กำลังจะเปลี่ยนเกาะสวรรค์..ให้เป็นเกาะนรก......
				
comments powered by Disqus
  • พุด

    24 กันยายน 2546 10:23 น. - comment id 170228

    MY HEART WILL GO ON   
    Titanic : : Key E  
    Every night in my dreams
    I see you, I feel you
    That is how
    I know you go on
    Far across the distance
    and spaces between us
    You have come to show you  go on
    Near, far, wherever you are,
    I believe
    that the heart does go on
    Once more,
    you open the door
    And youre here in my heart,
    And my heart will  go on and on
    Love can touch us one time
    and last for a lifetime,
    And never let go till
    were gone
    Love was when I loved you,
    one true time I hold to
    In my life well always go on
    Near, far, wherever you are,
    I believe
    that the heart does  go on
    Once more,
    you open the door
    And youre here in my heart,
    And my heart will go on and on
      
    Youre here,
    theres nothing I fear,
    And I know that my heart will
    go on
    Well stay forever this way,
    You are safe in my heart and
    my heart will go on and on... 
    
  • พุด

    24 กันยายน 2546 10:29 น. - comment id 170229

    http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=1324
      อาวรณ์   
    มาลีฮวนน่า : : Key C  
    งานเลี้ยงเลิกรา จำลาร้าง
    ไปตามเส้นทาง
    ทางของตัวเอง
    คนเราต่างคน ต่างมีฝัน
    พันธะผูกพัน
    เงื่อนไขจำเป็น
    สุข เพียง ชั่ว คราว
    เมื่อได้พบกัน
    เวลานั้นน้อยเหลือเกิน
    กั้นเราต้องห่าง
    รอคอยนั้น ยั่งยืน
    หลังเราบอกกล่าวคำลา
    ลาลา
    ในความอบอุ่น อันลึกซึ้ง
    ในห้วงคำนึง
    รู้คิดถึงกัน
    คือการจำยอม ยอมลาร้าง
    ไปตามเส้นทาง
    เพื่อหวังพบกัน
    พูด คุย ทัก ทาย
    ให้กำลังใจ
    ปลอบโยนและห่วงใย
    คือความหวังดี
    ทุกๆสิ่ง ที่ มี
    ซึ้งใจอบอุ่นใจ อบอุ่นใจ
    ในคืนเงียบเหงา ที่ดาวหาย
    อยู่อย่างเดียวดาย
    เงียบเหงาวังเวง
    เจ็บจนยอมแพ้ แก่จุดหมาย
    เจอความหลากหลาย
    สับสนตนเอง
    เหม่อ มอง ผู้หวังดี
    ไม่มีเคียงข้าง
    เหนื่อยล้า มองเห็นเส้นทาง
    ก้าวไกลแสนไกล
    อยากกลับมา ที่เดิม
    เสริมกำลังใหม่
    เช่นอดีต ที่ผ่านมา
    เท่านี้ ก็สุขใจ ก็สุขใจ
    
    ในความอบอุ่น อันลึกซึ้ง
    ในห้วงคำนึง
    รู้คิดถึงกัน
    คือการจำยอม ยอมลาร้าง
    ไปตามเส้นทาง
    เพื่อหวังพบกัน
    พูด คุย ทัก ทาย
    ให้กำลังใจ
    ปลอบโยนและห่วงใย
    คือความหวังดี
    ทุกๆสิ่ง ที่ มี
    ซึ้งใจอบอุ่นใจ อบอุ่นใจ
    ในคืนเงียบเหงา ที่ดาวหาย
    อยู่อย่างเดียวดาย
    เงียบเหงาวังเวง
    เจ็บจนยอมแพ้ แก่จุดหมาย
    เจอความหลากหลาย
    สับสนตนเอง
    เหม่อ มอง ผู้หวังดี
    ไม่มีเคียงข้าง
    เหนื่อยล้า มองเห็นเส้นทาง
    ก้าวไกลแสนไกล
    อยากกลับมา ที่เดิม
    เสริมกำลังใหม่
    เช่นอดีต ที่ผ่านมา
    เท่านี้ ก็สุขใจ ก็สุขใจ... 
    
  • Pheem

    24 กันยายน 2546 22:01 น. - comment id 170357

    งานของพุด  ในทรรศนะของภีม  ถือว่าเป็นงานที่เสนอออกมาอย่างนอกกรอบของที่นี่ซึ่งหลาย ๆ คนคุ้นชิน  ต้องให้โอกาสทั้งสองฝ่ายทั้งผู้เสนอและผู้อ่านได้สัมผัสรับรสจากงานและจากคำวิจารณ์  
    ชื่นชมที่พุดใจกว้าง
  • ชัยชนะ

    27 กันยายน 2546 21:10 น. - comment id 170472

    ตามประสาคนคุ้นเคยกันครับคุณพุด ถ้าไม่วิพากษ์วิจารณ์เลยก็ไม่ใช่ชัยชนะ 
    รู้อยู่ว่าคุณใจดี จึงขอบอกไปไม่อ้อมค้อมครับ เรื่องนี้มีหลายรสชาติ 
    อาจจะจบลงด้วยความเศร้า แต่ก็ไม่เหงาหงอย เพราะคุณค่าที่ได้รับได้มากมาย  
    เรื่องตอนที่แนะนำตัวละครเยิ่นเย่อ บ้าง แต่ไม่ถึงกับอืดอาดหรอกครับ 
    เพราะว่าตัวละครมีมาก ผมว่าน่าจะแนะนำเฉพาะพระเอกอ้วนของเราให้มาก 
    นอกนั้นก็แนะนำพอถูพอไถไป(โกรธผมหรือเปล่าครับเนี่ย) 
    ตบหัวแล้วก็ลูบหลังซักหน่อย(ว่าไป) แหม! มาถึงตอน ฟ้ามืด... บรรยากาศ
    เริ่มตื่นเต้นระทึกใจมากครับ ผมนั่งตัวเกร็งลุ้นว่าพวกเขาไปทำชั่วอะไรหนอ
    (ก็ประเด็นที่คุณพูดว่าวีรกรรมวีรเวร) ทำให้คิดผิดไป ก็จบแบบหักมุม
    ผมก็มักชอบงานเขียนเอกลักษณ์แบบนี้ครับ
    
    ผมก็ไม่เก่งอะไรหรอกครับที่มาวิจารณ์รู้สึกว่าวันนี้จะว่าง คนรู้จักไม่เห็นมา
    ก็เหมือนกับเราดูมวยแชมป์โลกสั่งให้ชกซ้าย ชกขวา ความจริงผู้อยู่บนเวที
    หมดแรงแทบตาย ถ้าให้เราขึ้นไปชกเองคงจอดตั้งแต่ยกแรก
    นกระจอกไม่ทันกินน้ำนั่นแหละครับ
    
    ( ตอบรอบใหม่)

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน