(เด็กน้อย) ยิ้มหวานหวานหว่านยิ้ม ยินใจ วิ่งเล่นล้อลมไหว ว่ายฟ้า ประสาเด็กตาใส ซนซุก สนานสนุกกลางทุ่งหญ้า ย่ำเท้าวิ่งเดิน มือหนึ่งถือดอกไม้ มอบแด่ คนผ่าน มือหนึ่งคอยดูแล เหล่าไม้ โลกหมุนหยุดอยู่แค่ ขอบทุ่ง โลกแห่งฝันวาดไว้ ว่าฟ้าคงสวย นั่งล้อมวงแบ่งข้าว ขนมกิน ไม่แบ่งชั้นผิวดิน ดอกหญ้า น้ำใจหลั่งไหลริน รดแผ่น ผืนโลก หวังแค่จะเติบกล้า ก่อสร้างโลกสวย (Leader..1) ยิงอีกยิงยิงเข้าไปให้พินาศ ทั้งบ้านเรือนเกลื่อนกลาดกวาดให้หมด เพื่อศักดิ์ศรีกูจะฆ่าไม่ละลด ไม่สนใจอนาคตโลกมนุษย์ บินอีกบินบินไปลอยปล่อยระเบิด เสียชาติเกิดต้องบอมบ์รัวให้หัวกุด ถึงมันหนีกูก็มีขีปนาวุธ ส่วนพวกคนบริสุทธิ์กูไม่คิด เลือกสิเลือกเลือกข้างไหนไปสักข้าง อย่าทำกร่างอยากเป็นกลางไม่มีสิทธิ์ ศึกครั้งนี้กูเดิมพันด้วยชีวิต เพราะฉะนั้นอย่ามาคิดเป็นศรัตรู (Leader..2) แม่งสะใจเป็นบ้า ตึกระฟ้าข้าถล่ม สนองตัญหาอารมณ์ คนเรือนหมื่นสิ้นชีวิต แม่งบีบคั้นข้านัก เอ็งรู้จักน้อยไปนิด ระเบิดพลีชีวิต นี่แหละคือวิธีข้า ถ้าเอ็งอยากแก้แค้น เชิญที่แดนอนาถา คือที่ซ่อนของข้า ข้าซุกหัวเอาตัวรอด ข้าอยู่เยี่ยงราชา ตามซอกผาที่ยาวทอด ต่อให้เอ็งหาตลอด บ่มีทางหาข้าพบ ต่อให้เอ็งถล่ม บอมบ์ปูพรมหลายคำรบ คนที่จะเป็นศพ แค่พลเมืองตาดำดำ เอาสิ!ทำลายล้าง โลกสีด่างอันหมองคล้ำ เผาสิ!อารยธรรม ยิ่งสะใจหัวใจข้า ข้าจะพยายาม ปลุกสงครามศาสนา ข้าจะใช้วาจา ปลุกศรัทธาให้ลุกฮือ มันดูถูกศาสนา คิดเข่นฆ่าผู้นับถือ ขอท่านจงร่วมมือ ร่วมกันรบต้านพวกมัน (เด็กน้อย..กับแม่) - แม่จ๋า..ทำไมดอกไม้จึงมีหลายสี? + ดอกไม้มีหลายสี เหมือนที่โลกมีหลายศาสนาไงจ๊ะ - แล้ว..แม่จ๋า..แล้วความเหมือนในความต่างของแต่ละศาสนา คืออะไร + คือกระพี้ของคำสอนไงลูก..ทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี..จุดมุ่งหมาย สูงสุดของทุกศาสนา..คือความรัก..และสันติภาพของโลก - ถ้าอย่างนั้น..แม่จ๋า..บางคนที่ไม่มีความรัก..ไม่มีสันติในหัวใจ.. เข่นฆ่าเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน..ปลุกระดมให้มนุษย์ฆ่ามนุษย์ในนาม ของศาสนา..ทำไมถึงเรียกตัวเองว่าคนเคร่งศาสนาล่ะคะ + ...... + ลุกจ๋า..แม่รักลูก
25 กันยายน 2544 13:14 น. - comment id 12874
They would learn to watch you play.
25 กันยายน 2544 17:17 น. - comment id 12882
ติดตามมานาน ชอบความเป็นอาร์ทติสท์ของคุณจังค่ะ
26 กันยายน 2544 10:29 น. - comment id 12985
อืม...หลากหลายอารมณ์หลากหลายมุมมอง..หลากหลายแง่คิด....แต่พออ่านจบอยากย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กน้อยจัง
26 กันยายน 2544 13:44 น. - comment id 13011
อยากจะบอกคุณว่า ฉันก็ใช้ความพยายามมากกว่าจะอ่านกลอนของคุณหมด......ชอบทุกอย่างที่คุณเรียงร้อยออกมาเป็นถ้อยคำที่สวยงาม ชอบทุกความรู้สึกที่คุณตั้งใจถ่ายทอดออกมาผ่านตัวอักษร ชอบทุกอย่างที่เป็นความคิดของคุณ ....จะคอยติดตามอ่านไปเรื่อยๆนะคะ ชอบมากค่ะ แล้วก็ขอ
26 กันยายน 2544 22:30 น. - comment id 13043
อืม.......ดีค่ะ
1 ตุลาคม 2544 05:39 น. - comment id 13392
ตะวัน เสี้ยวขอบคุณตะวันมากๆเลยนะ สำหรับกลอนบทนี้ ตรงใจเสี้ยวมาก แล้วก็ใช้คำได้ดีจริงๆ เก่งมากๆเลย
2 ตุลาคม 2544 10:01 น. - comment id 13449
เห็นด้วยๆ
15 ตุลาคม 2544 07:46 น. - comment id 14904
มาเห็นช้าไป แต่งได้แปลกอารมณ์จากกลอนเก่าๆมากนะตะวัน ชอบบทพูดของเด็กกับแม่เอามาคิดดูมันสะเทือนใจดี
16 ตุลาคม 2544 04:02 น. - comment id 14992
อารมณ์ไหนค่ะ ที่เขียน
16 ตุลาคม 2544 04:03 น. - comment id 14993
โลกนี้ ไม่น่ามีสงคราม เพราะรบกันก็มีแต่ศุนย์เสียคนชนะก็ได้ แต่ของหักๆ พังๆ เห็นด้วยไหม
30 ตุลาคม 2544 13:56 น. - comment id 16696
ซาบซึ้ง มากนะครับ แต่สะดุดนิดนึงตรงคำว่ากระพี้น่ะครับ
3 พฤศจิกายน 2544 07:15 น. - comment id 17261
กระพี้คือส่วนที่หุ้มแก่นไว้ครับ เป็นส่วนที่เกือบอยู่ลึกที่สุด ผมไม่อยากใช้คำว่าแก่น เพราะหากใครเข้าถึงแก่นธรรมได้คนนั้นก็คงหลุดพ้น ----------->ดีใจมากครับที่คุณไม่ได้อ่านผ่านๆ