http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=1136 ตะวันโพล้เพล้ เหว่ว้า คนดี วันนี้ดวงขับรถไปที่บึงกว้างอีกครั้ง เอาจักรยานที่พับได้ ไปปั่นรอบบึง มีตะกร้าปิคนิก และผ้าผืนสวยปูทับบนเสื่อ ยามเอนตัวลงนอนดูการแสดงของเวทีท้องฟ้า ในยามเย็น ต้นไม้ ต้นโกร๋นยืนต้นราวรอเราอย่างเหงาเศร้า ณ.ที่เดิม ต้นไม้ที่งามประหลาดในใจดวง ดวงนี้ ต้นที่มีเพียงก้านชะอุ่มสุมทุมพุ่มพฤกษ์กลางต้น เพียงให้นกกามาอาศัย ส่วนรอบรายนั้นพร้อมใจกันสลัดร่วงกราว เหลือก้านกิ่งกระจายไร้ใบ..... มาวันนี้...ดวงเอนกายพินิจดู น่าแปลกที่มีปุ่มปมสีเขียวกำลังเกาะ ทุกปลายก้านกิ่ง...... ดวงเตรียมกระดาษเพื่อลองสเก็ตซ์ ภาพนี้ แต่น่าเสียดายที่ดวงมิใช่นักสะเก็ตซ์ภาพที่ดี จึงออกมาแบบงูๆปลาๆ ถ้ามีคนวาดภาพเก่งมาด้วย ไม่กี่นาที ภาพงามเหล่านี้ คงจะดูราวภาพจริงบนกระดาษ ดวงคิดถึงกล้องถ่ายรูป..... ในขณะที่เห็นความงามงดของอาทิตย์อัสดง... .แสงสวยกระทบผ่านดงดอกหญ้า ต้องตกลงสู่ผืนน้ำ ก่อให้เกิดแสงสีทอง วิบวับวิบวับ สวยสุดใจ และ กระทบกับเส้นผมงาม เกิดประกายจรัส...... เมฆชมพูหวาน ราว สายไหม เกาะกลุ่ม ละเมียด เป็นช่อชั้นราววิมานเมฆ นวลละออน่านอนเล่น ดวงเริ่มวิ่ง.....พร้อมดูไม้ใบ ทุกต้น ทุกดอกดวง.... ชมพูพันธ์ทิพย์......สลัดดอกชมพูพวงร่วงพรู พราวพื้น ราวพรมดอกไม้ลายหวาน..... โมกและแก้ว....... ออกช่อขาวพราวกิ่งแตะแต้มกระจาย กลางกอ.....เขียวขจี ไผ่สีทอง.......ใบเรียว ซัดส่าย เสียดสี เกิดเส้นสายเสียงซอกแซก มากับสายลมบางเบา ราวกับอยู่ท่ามกลางฤดูร้อน ในชนบทไกล...... กล้วยกอ.....จากบ้านริมบึง อวดใบเขียวสมบูรณ์สล้าง มีเคลืองาม คลอตา...... ดวงรักต้น และใบกล้วย ไม้ที่งามเรียบง่ายไร้ปรุงแต่งแฝงปรัชญา น่าไหลหลง คุณประโยชน์มากมี คู่ครัวไทย..คู่ใจผู้ยาก มาช้านาน....... ดวงปลูกไว้หลายกอ รอคนไกล จากวันที่กล้วยแทงหน่อ ทอยอด ออกปลี เป็นหวีงาม จนออกเคลือคล้อย คอยรับการกลับมา บอกว่าจะทำกล้วยบวชชีให้รับประทาน ถ้าคนปลูกไม่ท้อรอราลาไปบวชเสียก่อนน่ะนะ....... คนไกล..ลาลับ..พาใจให้คิดถึง...คิดถึง..และคิดถึง.. น้ำตารื้นชื่นตา เมื่อทราบว่านอนซมด้วยพิษไข้มาหลายวัน สงสารและห่วงใย คิดถึงความน่ารัก น่าสงสาร ที่มากมายด้วยความมั่นคง จงรัก หนักแน่น ดังแผ่นผา สม่ำเสมอ อดทน ได้แต่ภาวนาให้หายในเร็ววัน กลับมาเป็นสายลมอ่อนๆ บางเบาเป่ารดกายใจของเราให้เยือกเย็นชื่นฉ่ำ...... เหมือนทุกคืนวันที่ผันผ่านมานานปี นะคนดี......... โพล้เพล้ โพล้เพล้ ยามนี้ยิ่งพาใจเหงาเศร้า ร้าวรอน บึงกว้าง ว่างตา นิ่งงาม สงบงัน แสงสวยเปลี่ยนสีเป็นส้มเศร้า ซึ้ง.. ไปกับใจดวงนี้ยามสายันณ์ตะวันรอน.... .........
14 สิงหาคม 2546 00:29 น. - comment id 159943
เธอไม่ได้อยู่อย่างเดียวดาย เพราะข้างกายเธอยังมีฉัน เป็นคนห่วงหาอาทรณ์ผูกพัน ในทุก ๆ คืนวันนะคนดี ***เศร้าจังเลยค่ะ***
14 สิงหาคม 2546 19:57 น. - comment id 160087
ได้อ่านประโยคสุดท้าย สายัณตะวันรอก ทำให้ผมนึกถึงเพลงหนึ่งที่ชื่อ ตะวันรอนที่หนองหาน เป็นการรำพีงรำพัน ถึงบรรยากาศใกล้พลบค่ำ ของริมบึงหนองหาน ที่ทุกวันนี้ยังร้องติดปากอยู่เลยครับพี่พุด โอ้ละเน้อ โอ โอ โอ โอ้ ละเน้อ ผู้สาวภูไท ใช่มีแต่ที่เรณู ได้ฮักแล้วพี่ได้ฮู้ คือสาวภูไทสกลนคร ครั้นไปเที่ยวงานพระธาตุเชิงชุม ได้พบบังอร เหมือนเคยร่วมบุญปางก่อน ที่สุดขอบฟ้าก็มาพบพาน แดดอัศดงค่ำลงที่ฝั่งหนองหาร เฮาสองเคยเที่ยวด้วยกัน มนต์ฮักสายัญห์สวาทวาบหวาม สายลมโชยชิ้วทิวสนลิ่ว โอนสอดเสียงกังวาน เหมือนเสียงใจเฮาสาบาน ให้หนองหารได้เป็นสักขี โอ้ละเน้อ หัวใจดังเหมือนต้องมนต์ ท้าวผาแดงและนางไอ่ดล ให้เจอน้อง ณ แดนแห่งนี้ วอนจ้าวช่วยคุ้มฮักยั่งยืน อย่าได้หน่ายหนี เหมือนนิยายมีอยู่คู่หนองหาร คนขานกล่าวชม แดดอ่อนคราใดหัวใจพี่สั่นสะท้าน คิดถึงเคยฮักผูกพัน คิดถึงหนองหารที่เคยรื่นรมณ์ ความหลังฝั่งหนอง ที่เคยประคองนวลน้องแนบชม หัวใจยังครางระงม โอ้แม่สาวสกลที่รัก... http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=367