http://www.thaipoem.com/web/songshow.php?id=367 ฉันนอนนิ่งนิ่ง ดูใบจำปีสีน้ำตาล ปลิดปลิว ร่วงหล่น สู่พื้น ใบเแล้วใบเล่า.. เงาดาว..ส่องกระทบหยาดเพชรปลายตาที่กำลังหลั่งริน.. จุดตะเกียง หรี่หรี่วับแวม พอมองเห็น นอกบ้าน..เงียบสนิท.. มีเพียงจิ้งหรีดและเสียงนกร้องนานๆครั้ง หวานเศร้าของดอกไม้ไทยกำลังประโลมใจเหน็บหนาว.. คิดถึงบ้าน..คิดถึงแม่..... แม่.... ยอดหญิง ยอดงาม .... ที่ได้รับเกียรติให้เป็นคนดีศรีบ้านเกิด..ผืนดินแห่งศรัทธารักของเรา แม่.. ผู้หญิงร่างเล็ก บอบบาง แต่มีใจดวงงาม กว้างกว่ากว้าง ยิ่งกว่าทะเล... แม่.. สองมือหยาบกร้าน กรำงาน ดวงตาข้างหนึ่งเลือนลาง แต่ดวงใจกลับใสงาม อิ่มเต็มทั้งดวง.. พร้อมจะเคียงข้าง แบ่งปันน้ำใจรักนั้น ให้กับผู้คนและสังคมเล็กๆ..บ้านเกิดของเรา..มาตุภูมิของเรา... ยังจำได้...ในฤดูเดือนสิบสอง ที่น้ำทั้งในคลองและทะเลจะเจิ่งนองตลิ่ง พายุพัดแรงมาก จนยอดมะพร้าวไหวเอน ราวจะโค่นล้มตามแรงลม น้ำทะะลสูงเชยหาดซัดสาดดังโครมครืนๆ... ภาพเด็กผู้หญิงตัวน้อยๆค่อยๆช่วยแม่ลากรถเข็นมะพร้าวริมชายฝั่ง ด้วยดวงใจหวัง มิให้แม่เหน็ดเหนื่อยเพียงลำพัง ยอมแม้กระทั่งไปโรงเรียนสาย...เดินดายเดียว.. ภาพคุณย่าแสนรัก..ที่คอยประคับประคองทายาให้มือน้อยๆที่ถูกเชือกบาด จนมีเลือดไหลซิบๆ ..ที่บางครั้งแทบงอมือไม่ได้....เขียนหนังสือไม่ได้! ณ..วันนี้.. ทุกหยาดหยดสายเลือดผ่านร่างรัก.. ทุกสายใจสายไยรัก.. ถักทอผ่านจากสองมือแม่นี้... ที่ลูกได้เรียนรู้ ...ได้ดูด้วยดวงตา ดวงใจใสงาม ในยามวัยเยาว์ หล่อหลอมเป็นสายฝันเป็นพลังรักพลังใจให้สวยงามมิรู้จบ ในทุกยาม..ให้หยัดยืน!..เมื่อพานพบเพื่อนมนุษย์ และพายุใจคน.ที่หมุนวนมาทำร้ายให้ย่อยยับ... ให้ลูกได้รู้จักใช้ความดี แก้ปัญหา....ใช้ใจดวงดีหนีความช้ำตรม! แม่.... เกิด..บนภูสูง สวนสวรรค์ แนวเนินหินธรรมชาติงามสล้าง...ใหญ่ เล็ก ที่ไล่ลดหลั่นลาดเนิน ลงมา..เหมือนฟ้าประทานสวรรค์สรวง บนโลกหล้า ในท่ามกลางหุบเขาใหญ่บังตาที่ซ่อนเงียบซ่อนงาม.. ในยามนี้...เมื่อหลับตาย้อนกลับไป ดั่งภาพฝัน..ดั่งฉากสวรรค์ในเทพนิยาย.. ภาพ..โบสถ์ปรากฏกลางยอดไม้ โผล่ขึ้นมารำไรในเงื้อมเงาภูสูงเสียดฟ้า.. แลทุกยามสนธยา..เมื่อเอนร่างลงนอนดูฟ้ากว้างบนหินงาม แสงตะวันหวานเศร้าสีส้มสุกสีทองสาดส่องรำไรรำไร..ร่ำลา ยามพลบ หลบชายคาเมฆ บนชะง่อนผา..ชะโงกง้ำ.. เสียงระฆัง จะก้องผ่านความวิเวกมาให้สะดับ... รับกับใจดวงน้อยๆที่นิ่งเงียบ..รอ...หง่างเหง่งๆ ที่ค่อยๆแผ่วพลิ้ว ไปกับสายลมละมุน.... อีกไหล่เนิน...ด้านนึงนั้นจะลงสับปะรดพันธุ์พื้นเมือง หวานกรอบฉ่ำไว้ และมีดงไม้ลูกสีดำ..ที่หวานทุกคำเคี้ยว ให้เราเด็กๆปากแดงๆ..ได้อร่อยลิ้น และเก็บใส่ตะกร้าไว้กิน..ยามนอนนับดาวเคียงเดือน..ยามค่ำคืน ทีมีเสียงดนตรีธรรมชาติ หรีดหริ่ง เรไร กับเสียงกระรอกกระโดดไล่จับกันไปมาตามยอดมะพร้าวไหวเอน ทุกคืนฝันวันมหัศจรรย์ ..ทุกฤดูร้อน ฉันจะเดินตามแม่ต้อยๆ... บนศรีษะแม่ จะทูนกะเฌอใบใหญ่ไว้ ที่เพียบเต็มไปด้วยข้าวของอาหารเพื่อยังชีพ.. ข้ามทุ่งนา ลำธาร..ดอกไม้ป่าหวานๆส่งกลิ่นหอมๆ ผ่านกระท่อมมากมาย.. ข้ามราวไพรที่ดูราวกับป่าลึกลับ.. เป็นสมมุติฝันสำหรับเด็กช่างคิดช่างฝันอย่างฉัน ที่ชอบสร้างภาพว่ามีเสือ กระต่าย หมี มากมาย และต้องคอยเดินเหลียวหน้าเหลียวหลัง..ตลอดเส้นทาง... เป็นเส้นทางสายฝัน..เส้นทางใจในโลกจริงที่ยังแจ่มกระจ่าง พร่างงามไสวอยู่ในใจดวงนี้..ที่จะเป็นนิรันดร์!.. ทุกก้าวย่าง จากรอยเท้าแม่ จารจารึกให้ล้ำลึกดื่มด่ำกับสำนึกในวันนี้ ที่เป็นพลังใจให้กตัญญุตาก่อเกิดกลางใจ..ดำเนินตามรอยไป.. ตามเส้นทางใจที่ใช้สายไยรักเพียงนั้น..ถึงได้มา...ถึงจะมี..! แม่.. คือดอกไม้ป่า..บานบริสุทธิ์ ในราวไพร ประดับหล้า เคียงใจให้กับทุกผู้คน ที่แม่พานพบ..และเกียรติยศที่แม่ได้รับ.. คือของขวัญ..จากหยาดน้ำใจของแม่เอง..ทั้งสิ้น ที่ดวงใจดวงตาสวรรค์เบื้องบนทรงเล็งเห็น.. และมอบคืนกลับให้รับรู้เป็นพลังใจ.. ฉัน..สัญญานานมา จะเขียนถึงเกาะสวาทหาดสวรรค์ เพชรเม็ดงามนี้ที่ผุดพร่างกลางอ่าวไทย อ่าวใจ.. ที่รองรับให้คนหลายล้านคนจากทั่วทุกมุมโลก ข้ามทะเลโลกย์ ทะเลโศก ทะเลใจ มาอาศัย..หลบ พักพิงอิงแอบเอาอ้อมฝันอ้อมใจ อันโอบเอื้อเพื่อสู้โลกข้างนอก..ผ่อนเร่าร้อนแย่งชิง..ให้ก่อให้เกิดงาม.. ฉัน..ผู้เหลือไฟฝันเพียงริบหรี่.. ผู้ที่ถูกเงื้อมมือโลกเสกโศกสะเทือน จนแทบขยับปากการจนาเรื่องงามงามไม่ออกเอาเลยแล้ว.. ฉัน ..อยากรจนา อยากกล่าวถึงงามสล้าง เงางามในอดีต ฝังเนาในใจ และกลับไปเสาะหาที่มาของชีวิตดิบเดิมเรียบง่าย ของชาวเกาะของเราผ่านมา เพื่อฝากไว้ให้โลกหล้าได้รับรู้ในวิถีนี้ ที่เคยดำรงอยู่. และหวังอยากให้ดำรงคู่ใจใครต่อใครมากมี ตราบนานเท่านาน และเพื่อเซ่นสังเวยมาตุภูมินี้ ที่สร้างชีวี สร้าง..งามดวงใจใครเลยจะรู้.!... ให้กับลูกผู้หญิงคนนี้ที่แสนภาคภูมิใจ..ในพสุธาที่ข้ารักเป็นยิ่งนักแล้ว ฉันคงจบลงตรงคำว่า..คิดถึงแม่..คิดถึงบ้าน....... กับใจดวงร้าวในยามนี้ ที่ใครบางคนกำลังลงมือลงมีดประหัตประหาร!ใจ! ขอแค่หลับตา.... พาตัวเองหนีไปให้ไกลสุดหล้าฟ้าดิน ไปทรุดตัวลงกอดผืนทราย กราบเท้าแม่...และซุกอกร่ำไห้! ขอฝากจูบไปกับสายลมแห่งความรัก ให้พัดพาคะนึง..ถึง..ทะเลงาม..ฟากฟ้ากว้าง ตะวันตกดิน.. กับสายถวิล.... ในใจดวงนี้..ที่กำลังอยากคืนหลัง..ให้เกลียวคลื่นริมฝั่งลบเลียแผลใจ!
31 กรกฎาคม 2546 11:31 น. - comment id 157640
:)
31 กรกฎาคม 2546 14:26 น. - comment id 157679
น้ำตาหยดลงแป้นคอมน้อมระลึก อกระทึกหวนคิดถึงมิตรหญิง หญิงคนแรกที่ได้กอดพลอดแอบอิง แม่คือสิ่งเหนือค่ากว่าใครใคร แม่เล่าว่าเวลากินนมข้างหนึ่งยังเอามือจับอีกข้างไว้ไม่ให้ใครมาแบ่งแย่ง หวงขนาดนั้นอิอิ
31 กรกฎาคม 2546 15:16 น. - comment id 157685
^________^ ใช้เวลาอ่านพอสมควร ซึ้งค่ะ........คำเดียวสั้นๆ ได้ใจความ
31 กรกฎาคม 2546 18:22 น. - comment id 157752
เป็นอะไรที่ลึกซึ้งกินใจมากเลยค่ะ
25 มกราคม 2554 17:02 น. - comment id 195033
อ่านแล้วคิดถึงแม่จังเลย ตอนนี้ไม่ได้อยู่กับแม่ เหงามาก นำตาไหลเลยครับ
28 มิถุนายน 2547 11:10 น. - comment id 283061
อ่านแล้วซึ้งครับ...แอบมาอ่านครับ อิอิ *-*