url=http://www.sansuk.com/musicroom/song09.html พาหัวใจไปร้องไห้กับทะเล!.. มองทะเลชะอำยามเย็น เป็นทะเลโศก ราวโลกกำลังใกล้ถึงเวลาแหลกสลายลง..... ท้องฟ้าหมองหม่น อมเทาทึม แตะแต้ม สีส้มขลิบทอง มองเป็นช่อชั้น ฝันซ่อนเร้น เฉกเช่นวิมานหมอก... ที่นางฟ้าตรมตรอมน้ำตา มิกล้าเผยหน้าต่างเมฆ มาทายทัก กับตะวันสีทอง..อ่อนอุ่นเคยคุ้นใจก่อนจากลา....... ลืมฝันลืมคืน ลืมเพื่อนใจ. ......... ลืมวันร่ำลาอ้อยอิ่งทิ้งแสงสวย..ฝันฝากใจ.. ว่าจะได้พบกันใหม่ในวันพรุ่งอรุณรุ่ง..... ตลอดไป นานนิรันดร์..... ฟองคลื่น..ยอดขาวราวไล้ด้วยฟองเมฆ ระลอกแล้วระลอกเล่าเคลียเคล้าซัดฝั่ง ถาโถมตามติด ทั้งอ่อนโยน เร่าร้อน อ่อนหวาน ซาบซ่านประสานรับซ่าซ่า กระแทกกระทั้นราวเสียงดนตรี สอดสมกลมกลืน ม้วนตัวกลืนกันเป็นหนึ่งเดียว ก่อนสลายคลายตัวอย่างเหนื่อยอ่อน ซ่านสุขเศร้าซัดสาด..กับหาดทราย...มิรอรา.... หาดกว้างสุดสายตา ไร้ร้างราผู้คน ด้วยลมแรงพัดไกว ต้องสนใบซู่ซู่ หวิวหวิว ส่ายส่ายไหว ไปมา ราวจะหักโค่นลง....... ทะเล....เดินทอดน่องช้าช้า ลมแรงปะทะหน้า จนผมปลิวสยาย ยุ่งเหยิง ผ้าผืนบางลายดอกไม้รัดร่าง เรียวขาตามแรงลม เห็นกลมกลึง..ยามย่างเท้า... รอยเท้าบนผืนทราย..มีรอยเท้า..ทะเล..ย่ำดายเดียว ทรายสะอาดราวถูกกวาดไว้เรียบงาม..... มองทะเลไกล ไร้ขอบเขตเส้นตา โค้งฟ้า โอบกอด ผืนน้ำ อ้อยอิ่ง ประโลม...ไร้เกาะแก่ง.. ทะเลแถวนี้... ไม่เหมือนพะงันกับสมุยที่เคียงคู่กันฉันท์คู่รัก คอยกวักไกวใกล้แค่เอื้อม และสีทะเลไม่สวย มรกตน้ำงามอย่างไข่มุกกลางอ่าวไทย และอย่างที่เกาะสวาทหาดสวรรค์ บ้านเกิดเมืองฝันของทะเลที่เติบโตมา...... ทะเล..ลูกทะเล ไม่เคยว้าเหว่ใจ ยามได้กลับมาพาใจสัมผัสเพื่อนรัก แม้บางครั้งจะมานั่งถวิลหาและ รำพึงรำพันฝากฝันฝากใจและร้องไห้ไปกับทะเล ที่ครวญคร่ำ..ราวรู้ใจ...เพื่อนเก่าแสนดี พร้อมที่จะรอรับการกลับมาทุกนาที... . มานานเนา. . และด้วยใจที่เป็นหนึ่งเดียวรวมกันมาตั้งแต่เยาว์วัย ในคลองฝันนับจนถึงวันที่เติบใหญ่ในวันนี้.. ที่ยังสถิตที่กลางใจให้โหยหา...... ทะเล...เดินย่ำเท้าไปเรื่อยเรื่อย เหนื่อยใจก็หยุดพัก ใต้กิ่งสนวับแวมริ้วลายใบบัง เอนอิงพิงหลัง แล้วหลับตา ปล่อยฝันระทม มองเหม่อทะเลตรงหน้าที่เอาแต่พากันร่ำไห้.... โลกหนอโลก ไยต้องโศกกันนัก มิพักพึ่งใจ ไฉนได้นานเลย.. เสียงร้องของนกกา พากันบินกลับรัง ระงมว่อน... ทำให้ภวังค์ลื่นไหลไปกับไกลลิบ.. ทะเลเอนตัวลงนอนคลุกทรายให้ แตะแต้มร่างประโลม นุ่มนวล เนียนไล้ ราวกากเพชรพราวขับผิวขาวให้ละมุน นุ่มดั่งสีงาช้าง... งามจนน่าตะลึง......หลง.... แล้วไย..เล่า....หนอ! ทรายติดผมปลิดปลิวเคลียไคล้แก้ม แต้มระยิบ ไร้มือใครมาไลมไล้ให้อย่างละมุนมือ ละไมหวามไปถึงใจ. . จนต้องเอามาแนบแก้มด้วยรักล้นใจในอ่อนโยน.... อย่างสัญญา ที่ผ่านมาแต่หนหลัง ยามใครคนหนึ่ง เคยฝังฝากใจซ่อนซึ้งสุข.... ลาลับดับสิ้นแล้ว ในยามนี้ ไม่มีน้ำตา..รินหวานผ่านปลายตา เฉกเช่นเคย เหมือนก่อน ปล่อยให้ไหลย้อนคืนกลับสู่ใจ อย่างผู้หญิง..ทรนง ที่จะไม่มีวันมีน้ำตาอีกต่อไป.. ในวันนี้ ขอสัญญา...กับฟ้าดิน กับเงียบงาม กับทะเล..เพื่อนตาย.. ในยามค่ำ ย่ำสนธยา... เผลอราวฝันไป.. จนตะวันใกล้ค่ำ ทะเล..ย่ำเท้ากลับ.... ดังภาพฝัน ยามอาทิตย์ใกล้ลาลับ ..... แสงหวานเศร้าสีทอง จับร่างงาม..... เดินดายเดียว กับลมแรง กับฟ้ากว้าง กับหาดทรายลิบตา กับดวงดาราสุกสว่าง...กลางฟ้ามืด.... เร่งฝีเท้า ทุกก้าวย่าง ฝากรอยไว้ ให้จำจด เพื่อให้คลื่นลบรอย ในวันพรุ่ง...รอรับอรุณงาม..... อีกคราครั้งนะดวงใจ...... .................. เมื่ออยู่ริมฝั่งชล ฉันยลทุกยามเย็น พักใน ร่มเงาไม้เอน ฉันมองเห็นนกบินกลับรัง ตะวันใกล้จะลับแล้ว เห็นเรือแจวอยู่ริมฝั่ง เฝ้าแต่ครวญ แต่ครวญหา น้ำตาหลั่ง จึงร้องสั่งอาลัย * เฝ้าแต่ครวญสั่งคำ แม้เรือลอยรำไป พบคนที่เคยซึ้งใจ ขอเรือนำเธอมาให้ที ** ตะวันใกล้จมแผ่นน้ำ สายชลงามดั่ง กำมะหยี่ โอ้ว่าดาว....ว่าดาวดวงนี้ แสงพลันริบหรี่ คงริบหรี่เช่นเรา (ซ้ำ * , **)
21 กรกฎาคม 2546 10:24 น. - comment id 155614
..ฟ้าชะอำยามเย็นไม่เห็นเพื่อน คงจะเลือนลบหายจากใจสิ้น ทิ้งให้เหงาเคล้าน้ำตาเป็นอาจินต์ ยังรอวันย้อนถิ่น..ดินแดนชะอำ.
21 กรกฎาคม 2546 11:31 น. - comment id 155625
อยากไปทะเลลลลลล
21 กรกฎาคม 2546 12:06 น. - comment id 155630
อาทิตย์แดง จมดิ่งลง หัวใจพี่ปลดปลงเพราะไกลกว่า ตะโกนเสียงเพียงถามฟ้า ว่าน้องจ๋าอยู่ดีหรือไฉน อิอิ มาส่งยิ้มวันใหม่นะ
21 กรกฎาคม 2546 17:24 น. - comment id 155690
โหแต่งลงเป็นชุดเลย แถมเพลงให้ด้วย คลาสสิกครับ ^o)