.....ตะวันทอแสงอ่อนก่อนอรุณ สัมผัสกลีบละมุนมวลดอกไม้ ขับสีสันให้กระจ่างพร่างพฤกษ์ไพร ส่งกลิ่นหอมละไมไปกับลม สายลมไหว..กลิ่นดอกไม้ก็กรายถิ่น แมลงภู่เพียรโบยบินมาสู่สม สัมผัสกลีบ.ดอกไม้.ได้เชยชม และผสมเกสรก่อนจากไป ธรรมชาติอิงอาศัยให้ประโยชน์ มิเคืองโกรธ หวงแหน แค้นสิ่งไหน สุริยายังสาดแสงอยู่เรื่อยไป มวลดอกไม้แย้มบานรับกับอุทัย หมู่ภมรก็บินร่อนลงเชยกลิ่น ผสมสิ้นเกสรก่อนผลักไส เป็นพืชผลธรรมชาติดาษดื่นไป หล่อเลี้ยงให้ชีวิตยั่งยืนมา ทุกๆสิ่งมีหน้าที่ของตนเอง อย่าหวั่นเกรง สับสน หรือค้นหา ทำหน้าที่เต็มกำลังสติ-ปัญญา ผลแห่งงานจะเจิดจ้าเยี่ยงสุรีย์
11 มิถุนายน 2546 09:46 น. - comment id 146367
อีกบทกวีที่ชอบมากครับ มีคำกล่าวว่า จงใช้งานเป็นฐานแห่งการฝึกสติปัญญาและความเจริญทงจิตวิญญาณ เพราะในเนื้องานนั้น ทำให้เราฝึกจิตไปด้วยครับ ผลที่ได้จากการกระทำ เหมือนยิงนกสองต่อ ได้ความเจริญทางจิตและได้ผลแห่งงานด้วยครับ
11 มิถุนายน 2546 10:54 น. - comment id 146375
ท่านลำน้ำน่านงานทำได้ตลอดชีวิตอะ แจมขยัน มดตัวน้อยตัวนิดมีฤทธิ์งาน สามัคคีสำราญเป็นทีมขยาย รักพวกพ้องร้องรำสุขสบาย แม้นมลายในการหาญรสธรรม ไปทำงานก่อนนิ
12 มิถุนายน 2546 20:08 น. - comment id 146775
แวะมาทักทายนะคะอยากจาเก่งเหมือนพี่จังค่ะ