หม้อสองใบ
เสี้ยว
ชายชาวอินเดียคนหนึ่ง ห้วงสองปีที่ผ่านมา
ผู้คนจะพบเห็นจนชินตาว่า
บนบ่าของเขามีหม้อดินใบใหญ่วางอยู่ข้างละใบ
หม้อดินใบหนึ่งมีรอยร้าว
ขณะอีกใบสมบูรณ์สวยงาม ไร้ที่ติ
หม้อใบสวยสามารถบรรจุน้ำไว้เต็มเปี่ยมนับจากลำธารจนถึงบ้านเจ้านาย
ขณะที่อีกใบหนึ่งนั้น
เมื่อมาถึงปลายทางกลับเหลือน้ำแค่ครึ่งเดียว
เท่ากับว่าชายผู้นี้ขนน้ำได้เที่ยวละหม้อครึ่งอยู่ทุกครั้ง
แน่ล่ะ...หม้อดินใบสวยย่อมภาคภูมิใจในตนเองที่ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ครบถ้วน
ส่วนหม้อดินใบร้าว
นอกจากอดไม่ได้ที่จะรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจในความไม่สมประกอบของตนเองแล้ว
มันยังรู้สึกผิดกับการทำหน้าที่ได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยอีกด้วย
หลังจากสองปีเต็มที่แบกความทุกข์ระทมขมขื่นนั้นเอาไว้
วันหนึ่ง
มันจึงตัดสินใจเอ่ยกับคนหาบน้ำตรงลำธารว่า
"ฉันรู้สึกละอายใจเหลือเกิน..ฉันอยากขอโทษท่าน..
ตลอดสองปีมานี้
ฉันทำงานให้ท่านได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น
เนื่องจากเจ้ารอยร้าวบนตัวฉันมันทำให้น้ำรั่วไหลไปตลอดทาง"
เมื่อฟังเช่นนั้นแล้ว
คนขนน้ำก็พลอยรู้สึกเสียใจไปด้วย
และแล้วเขาก็พูดว่า
"เอาล่ะ..ระหว่างทางที่เราจะเดินกลับไปบ้านเจ้านาย
ฉันอยากให้เธอสังเกตดอกไม้สวยๆข้างทางเดินสักหน่อย
เธอไม่ได้สังเกตหรอกหรือว่า
ทำไมดอกไม้ป่าเหล่านั้นถึงได้งอกงามเฉพาะฝั่งที่ฉันแบกเธอเท่านั้น
ทำไมมันไม่ขึ้นอีกฟากหนึ่งด้วยล่ะ..
นั่นเป็นเพราะฉันได้ตระหนักในข้อจำกัดของเธอ
จึงอาศัยเงื่อนไขนี้เพาะเมล็ดพันธุ์ดอกไม้ป่าตรงทางเดินฝั่งที่ฉันแบกเธอเสมอมา
และทุกๆวันขณะที่เราเดินกลับบ้าน
เธอเองก็ได้ช่วยฉันรดน้ำให้มัน..แล้วในสองปีนี้
ฉันก็ได้เด็ดดอกไม้สวยๆนี้ไปปักแจกันให้เจ้านายของเราด้วย
นี่ถ้าหากไม่มีเธอแล้วล่ะก็
เจ้านายของเราคงไม่มีโอกาสได้ดอกไม้ป่าอันแสนสวยงาม
ที่ผลิสะพรั่งอยู่ระหว่างทางมาประดับบ้านเป็นแน่"
ปล.เราเองมีคุณค่าดีพอ
ถ้าไม่เปรียบเทียบคนอื่นมากเกินไป
ถ้าคิดว่าสิ่งไหนมันไม่ดีก็พยายามแก้ไขทำให้มันดีขึ้น
ผลลัพธ์ของการกระทำไม่ใช่คำตอบแห่งชัยชนะของชีวิต
จุดมุ่งหมายและความตั้งใจจริงของเราต่างหากคือคำตอบที่แท้จริง
"as good as it gets"