ข้าวหอมชลสิทธิ์ นิรมิตจากสวรรค์ ตื้นตันใจเกินรำพัน มหัศจรรย์โลกลบโศกใจ แผ่นดินทองเรืองรองมิสิ้นหวัง ตราบชีพยังปาดน้ำตารินบ่าไหล เรียนรู้ลุกขึ้นสู้เพื่อมาตุภูมิไทย ภาคภูมิไปกับชีพนี้พลีศรัทธา แหละ...นี่คือชะตาฟ้าลิขิต เท่าเทียมสิทธิ์กุมมือมั่นร่วมฟันฝ่า หลอมรวมพลังทั้งเธอฉันขอทายท้า พิสูจน์ค่าของคนในหนทาง สาวบ้านนาอย่าร้องไห้ เลิกเดียวดายรอเวลาฟ้ารุ่งสาง อุปสรรคหนักแค่ไหนใจรู้วาง จิตกระจ่างสว่างแพรวมณีดิน...! ข้าว "หอมชลสิทธิ์" ทนน้ำท่วมฉับพลัน เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2553 ดร.วีระชัย วีระเมธีกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พร้อมคณะ ลงพื้นที่น้ำท่วมอำเภอผักไห่ พร้อมมอบถุงยังชีพ ให้สมาชิกสหกรณ์การเกษตรผักไห่ ที่ประสบปัญหาน้ำท่วม และ เยี่ยมชมกิจการแปลงนาสาธิต การผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว ระดับขยายพันธุ์ ข้าว หอมชลสิทธิ์ ทนน้ำท่วมฉับพลัน ณ สหกรณ์การเกษตรผักไห่ จำกัด อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา จากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้น ในหลายๆพื้นที่ของประเทศไทยในครั้งนี้ ทำให้เกิดผลกระทบต่ออาชีพหลักของเกษตรกร โดยอย่างยิ่งด้านการทำนา ศูนย์พันธุวิศวกรรม และเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (Biotec) สวทช. กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้ทำการวิจัยพันธุ์ข้าว ที่สามารถทนต่อน้ำท่วมขัง "ข้าวหอมชลสิทธิ์ " ซึ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของเกษตรกรในขณะนี้ ข้าวหอมชลสิทธิ์ ผลงานวิจัยโดย ดร.ธีรยุทธ ตู้จินดา จาก ศูนย์พันธุวิศวกรรม และ เทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (Biotec) สวทช. กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เป็นหนึ่งในผลสำเร็จจากการใช้เทคโนโลยีชีวภาพ เพื่อปรับปรุงพันธุ์ข้าวไม่ไวแสง ผลผลิตสูงให้ทนต่อสภาพน้ำท่วมฉับพลัน ซึ่งเป็นลูกผสมของข้าวทนน้ำท่วม กับ ข้าวขาวดอกมะลิ 105 หอมชลสิทธิ์ ถูกคัดเลือกให้มีคุณสมบัติการหุงต้มแบบข้าวขาวดอกมะลิ เมล็ดข้าวมีกลิ่นหอม สามารถปลูกได้ทั้งปี และสามารถทนอยู่ใต้น้ำได้นานถึง 2 อาทิตย์ ดังนั้นจึงเหมาะกับพื้นที่นาภาคกลาง ที่เกิดน้ำท่วมฉับพลันได้ง่าย นอกจากนี้ หอมชลสิทธิ์ ยังทนกับเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล และโรคขอบใบแห้ง มีผลผลิตข้าวเปลือกในระดับ 900 1000 กก./ไร่ ซึ่งสหกรณ์การเกษตรผักไห่ จำกัด ได้รับประกันราคาซื้อให้กับเกษตรกร ที่เป็นสมาชิกของสหกรณ์ฯ ในราคา 1,5000 บาทต่อเกวียน ลักษณะประจำสายพันธุ์ 1. ทนน้ำท่วมแบบฉับพลันในทุกระยะการเจริญเติบโต 2. ข้าวเจ้าหอม ความสูงประมาณ 105-110 เซนติเมตร 3. พันธุ์ข้าวไม่ไวต่อช่วงแสงปลูกได้ทั้งปีอายุเก็บเกี่ยวประมาณ 120 วัน 4. ข้าวเปลือกสีฟางคล้ายพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 5. จำนวนรวงต่อกอประมาณ 15 รวง (นาดำ) 6. ความยาวรวงประมาณ 15 ซม. 7. ลำต้น ใบสีเขียวยาวกว้างปานกลาง 8. ใบธงทำมุมกับคอรวง ทรงกอตั้งแบะเล็กน้อย เมล็ดข้าว ขนาดกว้าง 2.5 ยาว 10.9 หนา 2.0 มิลลิเมตร คุณสมบัติทางโภชนาการ 1. ปริมาณอะไมโลส 18% 2. ระดับค่าการสลายตัวในด่าง (1.7% KOH) ประมาณ 2 ซึ่งต้องการอุณหภูมิมากกว่า 74oC เพื่อทำให้แป้งสุก
3 ตุลาคม 2554 19:53 น. - comment id 1210259
มาอ่านค่ะ เพราะค่ะ..
3 ตุลาคม 2554 20:34 น. - comment id 1210262
น้องกลั่นแก้ว ที่รักยิ่ง วันนี้พี่สาวนาตื้นตันใจมาก ที่ดูข่าว แล้วทราบว่า นักวิทยาศาสตร์ได้ทดลองพันธุ์ข้าว ชื่อ*ข้าวหอมชลสิทธิ์* ที่ทนน้ำท่วมได้สำเร็จ ยอดเยี่ยมมากเลยจ๊ะน้องรัก สาวนาฝันทะนุถนอมโลกอ่อนหวาน ให้ดอกเยาว์แย้มบานสิ้นวันหมอง ฟ้างามสวยด้วยเรียวรุ้งยังเรืองรอง รวงพราวผ่องทองไสวในแสงตะวัน โลกที่ยังเต็มไปด้วยภูเขาลำเนาป่า ดาริกาพราวพริบระยิบฝัน สายแสงทองผ่องพรายน้ำผึ้งจันทร์ ธาราขวัญไหลระรินมิสิ้นทาง ปลาว่ายในชายชลอย่างชื่นฉ่ำ หอมร่ำพะยอมป่ายามฟ้าสาง ดาวประกายพฤกษ์ลาดวงรุ่งเรื่อราง น้ำค้างพร่างหลังคาจากฝากพ้อลา หุงข้าวกับก้อนเส้าและไม้ฟืน ปลุกให้ตื่นด้วยไก่ขันมาล้างหน้า เด็ดมะลิริมรั้วลอยในโอ่งริมชายคา ลงคันนาหาผักบุ้งรอรุ่งวัน ไม่มีเงินไม่มีทองท้องก็อิ่ม มีรอยยิ้มสยามงามโลกฝัน ไม่มีเก๋งมีเพียงเกวียนขี่ทุยกัน มีสวรรค์อยู่ที่วัดศรัทธาใจ ไม่มีแสงสีมีเพียงดนตรีธรรม เรไรร่ำจิ้งหรีดร้องเสนาะใส คีตธรรมพรำพรมนวลเนื้อใน ให้ผ่องใสดุจน้ำค้างสว่างวาว ผิงไฟลอมฟองล้อมวงคุย เสียงขลุ่ยออดอ้อนมากับลมหนาว ให้สะเทื้นสะท้านสะเทือนทุกคราคราว ใจของสาวสั่นสั่นมันไม่เคย รักแค่ไหนรู้อดทนรู้กลืนกล้ำ ค่างามล้ำกุลสตรีอย่ารีบเผย ใครรักจริงหวังแต่งมาขอเลย จากเฉยเฉยด้วยไม่เคยอาจคุ้นชิน....! http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song655.html คอยสาวบ้านนา ทนงศักดิ์ ภักดีเทวา ทุ่งนาฟ้างามยามสนธยา วิหกนกกา ถลา กลับ รัง ตะวันรอนๆ ขอวอนช่วยสั่ง ให้เธอคืนหลัง กลับยังบ้านนา ของเรา ทุ่งนาบ้านเรา ข้าวเริ่มออกรวง เจ็บปวดร้าวทรวง เพราะหวง ถึง เขา อยากให้เขาคืนทุ่งนาบ้านเก่า บ้านถิ่นเกิดของเรา เป็นของเราจนเติบโต มา พ่อและแม่ก็คิดถึง เฝ้ารำพึง คนึง บ่น หา เธอกลับไปหลงพวงเมืองฟ้า ลืมแล้วหรือบ้านนา ยังมีคนท่า เขายังรอคอย ทุ่งนาบ้านเรา ช่างเหงาวังเวง มีแต่เสียงเพลง จากขลุ่ย พริ้ว ลอย รู้ไหมบ้านนา ข้างเรือนโคนขล่อย ป่านนี้ยังมีคนคอย คอยสาวน้อย กลับบ้านนา ทุ่งนาบ้านเรา ช่างเหงาวังเวง มีแต่เสียงเพลง จากขลุ่ย พริ้ว ลอย รู้ไหมบ้านนา ข้างเรือนโคนขล่อย ป่านนี้ยังมีคนคอย คอยสาวน้อย กลับบ้านนา...
3 ตุลาคม 2554 20:40 น. - comment id 1210263
มาส่งยิ้มแห่งมิตรภาพก่อนเข้านอนค่ะ
3 ตุลาคม 2554 20:57 น. - comment id 1210270
คืนหนาวดาวเต็มทุ่งฟ้า ทาบทาท้องนาดั่งฝัน สาวนาจุดเทียนแทนจันทร์ นอนฝันเงียบงามดายเดียว คิดถึงอ้ายคนดี จากไปไม่มีแลเหลียว ทิ้งให้สาวนาเหงาเปลี่ยว ทิ้งเคียวทิ้งควายหมายลวง วันนี้มีคนส่งข่าว เมืองกรุงเหน็บหนาวน่าห่วง ทุกข์ทนระทมถมทรวง ติดบ่วงมายาพันธนาใจ เรียวรวงยังรอแรงรัก อ้อมภักดิ์บริสุทธิ์ใส สาวบ้านนาบ้านป่าไพร ฝากสร้อยสายใย ...อาทร....! ....................... หลับฝันดีจ๊ะน้องรัก
5 ตุลาคม 2554 13:15 น. - comment id 1210432
เข้ามาเยี่ยมชมแล้วอยากเป็นชาวนาเหลือเกิน จะหาพันธุ์ข้าวชลสิทธิ์ได้ที่ไหนกันเนี่ย ปกติประเทศไทยวิจัยแต่ฝรั่งแย่งไปจดกรรมสิทธิ์มิใช่หรือ อิอิ
5 ตุลาคม 2554 16:23 น. - comment id 1210465
ฤกษ์รัก รักฤกษ์ น่าสงสารชาวนาคนรากหญ้า ที่ยากจน แล้ว ยังมารับเคราะห์กรรมจากภัยพิบัติอีก นะฤกษ์