เปิดประตู หัวใจ ให้กว้างกว้าง สองเท้าย่าง ย่ำไป ในวิถี ก้าวสู่ลาน อักษร กลอนกวี โรยเส้นสี งดงาม ตามอารมณ์ ความคิดเปรียบ อาภรณ์ สะท้อนภาพ คอยซึมซาบ ซอกเซาะ อย่างเหมาะสม มีสุขเศร้า เง้างอน ซ่อนเงื่อนปม แทรกผสม ฝากไว้ ในผลงาน อักษรา คล้ายมี เงาชีวิต โสตสถิต สดับ ยามขับขาน อ่อนโยนและ อ่อนไหว ในดวงมาน ก้องกังวาล ภวังค์ สิ้นกังวล แม้เหนื่อยนัก พักผ่อน เสียก่อนนะ ทุกสิ่งจะ ผ่อนคลาย หายสับสน มาสิฟัง ดนตรี มากมีมนต์ ที่เปี่ยมล้น เสน่ห์ แห่งเสรี ลองนับดาว อย่างฉัน วันละครั้ง เติมพลัง หัวใจ ให้เต็มที่ ขอแผ่นฟ้า แสนกว้าง ต่างเวที เติมแสงสี สดสวย ด้วยจันทรา แล้วเขียนบท กวี ที่แสนรัก เรียงสลัก ทุกช่วง ความห่วงหา อยู่กลางอ้อม แดนสรวง ดวงดารา พักสายตา พร้อมกับ หลับฝันดี เมขลา
22 กันยายน 2554 21:56 น. - comment id 1208832
แวะมาทักทายครับผม อ่านกลอนแล้วชอบมากๆ เพราะจังเลยครับ
22 กันยายน 2554 22:16 น. - comment id 1208836
เขียนได้ไพเราะมากครับ
22 กันยายน 2554 22:21 น. - comment id 1208840
ขอบคุณแทนคนเขียน ที่จากเราไปแล้ว
23 กันยายน 2554 06:36 น. - comment id 1208888
เขียนกลอน..ต้องมีอารมณ์กลอน จะเขียนเรื่องใดต้องใส่อารมณ์เรื่องนั้น
23 กันยายน 2554 09:14 น. - comment id 1208898
เพราะจัง
23 กันยายน 2554 09:46 น. - comment id 1208905
แล้วเขียนบท กวี ที่แสนรัก เรียงสลัก ทุกช่วง ความห่วงหา อยู่กลางอ้อม แดนสรวง ดวงดารา พักสายตา พร้อมกับ หลับฝันดี ๐ บรรจงถัก..อักษร ..เป็นกลอนหวาน เรียงร้อยกานท์..สานให้..ประไพศรี ร้อยเรียงพจน์..จรดจาร..งานกวี แทนอุ่นไอ..ไมตรี..คลี่ห่มทรวง.... แวะมาทักทายครับ....
23 กันยายน 2554 11:08 น. - comment id 1208943
เอาตัวเราเข้าไปในวรรคบท แล้วกำหนดคำรับ-ส่ง เป็นโครงร่าง จะดราม่า คอมมาดี้ มีแนวทาง ปล่อยคำหลั่งลงลานกลอน..ร่อนรำร่าย คือสไตล์ ที่ใช้มา