คือเส้นทางสายรุ้งแห่งความฝัน มหัศจรรย์พบพานสิ้นรานหมอง เรียวรวงระย้าระยับราวดั่งทอง เรืองรองพริ้งพราวกับหนาวลม ปรอยฝนปรนสายหมายปลอบโศก ผองชนโลกย์ลบลืมความขื่นขม หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินกลิ่นโคลนตม ท้าแดดลมตรมเช้าค่ำย่ำรอยวน เพียงมุ่งหวังฝังฝากปากท้องอิ่ม ไทยแย้มยิ้มพริ้มเพราไปทุกหน พลีหยาดเหงื่อหยาดน้ำตาแห่งทุกข์ทน หวังเพียงชนทุกชั้นพบฝันดี กลิ่นสาบเหงื่อเสื้อผ้าคือคำตอบ สัมมาชอบคืนแผ่นดินทุกถิ่นที่ ข้าวทุกเม็ดที่เจ้าเคี้ยวนะคนดี กลายเป็นสีเลือดแดงแฝงความงาม...! ........................................ ฝันถึงเรียวรวงระย้าสวรรค์นา...ในหอมใจ... สาวนาฝันทะนุถนอมโลกอ่อนหวาน ให้ดอกเยาว์แย้มบานสิ้นวันหมอง ฟ้างามสวยด้วยเรียวรุ้งยังเรืองรอง รวงพราวผ่องทองไสวในแสงตะวัน โลกที่ยังเต็มไปด้วยภูเขาลำเนาป่า ดาริกาพราวพริบระยิบฝัน สายแสงทองผ่องพรายน้ำผึ้งจันทร์ ธาราขวัญไหลระรินมิสิ้นทาง ปลาว่ายในชายชลอย่างชื่นฉ่ำ หอมร่ำพะยอมป่ายามฟ้าสาง ดาวประกายพฤกษ์ลาดวงรุ่งเรื่อราง น้ำค้างพร่างหลังคาจากฝากพ้อลา หุงข้าวกับก้อนเส้าและไม้ฟืน ปลุกให้ตื่นด้วยไก่ขันมาล้างหน้า เด็ดมะลิริมรั้วลอยในโอ่งริมชายคา ลงคันนาหาผักบุ้งรอรุ่งวัน ไม่มีเงินไม่มีทองท้องก็อิ่ม มีรอยยิ้มสยามงามโลกฝัน ไม่มีเก๋งมีเพียงเกวียนขี่ทุยกัน มีสวรรค์อยู่ที่วัดศรัทธาใจ ไม่มีแสงสีมีเพียงดนตรีธรรม เรไรร่ำจิ้งหรีดร้องเสนาะใส คีตธรรมพรำพรมนวลเนื้อใน ให้ผ่องใสดุจน้ำค้างสว่างวาว ผิงไฟลอมฟองล้อมวงคุย เสียงขลุ่ยออดอ้อนมากับฟ้าหนาว ให้สะเทื้นสะท้านสะเทือนทุกคราคราว ใจของสาวสั่นสั่นมันไม่เคย รักแค่ไหนรู้อดทนรู้กลืนกล้ำ ค่างามล้ำกุลสตรีอย่ารีบเผย ใครรักจริงหวังแต่งมาขอเลย จากเฉยเฉยด้วยไม่เคยอาจคุ้นชิน....! ................................ http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song655.html คอยสาวบ้านนา ทนงศักดิ์ ภักดีเทวา ทุ่งนาฟ้างามยามสนธยา วิหกนกกา ถลา กลับ รัง ตะวันรอนๆ ขอวอนช่วยสั่ง ให้เธอคืนหลัง กลับยังบ้านนา ของเรา ทุ่งนาบ้านเรา ข้าวเริ่มออกรวง เจ็บปวดร้าวทรวง เพราะหวง ถึง เขา อยากให้เขาคืนทุ่งนาบ้านเก่า บ้านถิ่นเกิดของเรา เป็นของเราจนเติบโต มา พ่อและแม่ก็คิดถึง เฝ้ารำพึง คนึง บ่น หา เธอกลับไปหลงพวงเมืองฟ้า ลืมแล้วหรือบ้านนา ยังมีคนท่า เขายังรอคอย ทุ่งนาบ้านเรา ช่างเหงาวังเวง มีแต่เสียงเพลง จากขลุ่ย พริ้ว ลอย รู้ไหมบ้านนา ข้างเรือนโคนขล่อย ป่านนี้ยังมีคนคอย คอยสาวน้อย กลับบ้านนา ทุ่งนาบ้านเรา ช่างเหงาวังเวง มีแต่เสียงเพลง จากขลุ่ย พริ้ว ลอย รู้ไหมบ้านนา ข้างเรือนโคนขล่อย ป่านนี้ยังมีคนคอย คอยสาวน้อย กลับบ้านนา... แด่วันข้าวและวันชาวนา กำหนด5มิ.ย. วันที่ 6 มิ.ย. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ " เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์" ถึง.. วันสิ่งแวดล้อมโลก ว่า วันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา ถือเป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก อยากฝากไปยังประชาชนว่า ควรให้ความสำคัญ กับเรื่องของระบบนิเวศวิทยาและสิ่งแวดล้อม เพราะถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ และมีผลกระทบประชาชนทุกคน ในส่วนนี้ทุกคนสามารถช่วยกันได้ ด้วยการลดใช้ถุงพลาสติก ระมัดระวังในเรื่องของพฤติกรรมการกิน การใช้และการบริโภค เพื่อลดปริมาณขยะที่เพิ่มมากขึ้น นายกฯ กล่าวว่า นอกจากนี้ วันดังกล่าว ทาง ครม.ยังกำหนดให้เป็น *วันข้าวและวันชาวนาแห่งชาติ*ด้วย เพื่อให้ประชาชนตระหนักและตื่นตัว ในเรื่องของความสำคัญของข้าวและชาวนา เพราะ.... ประเทศไทยถือเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวอันดับ 1 ติดต่อกันมาถึงกว่า 20 ปี ขณะนี้รัฐบาลกำลังทำให้อาชีพเกษตรกร มีความมั่นคงและมีหลักประกัน เนื่องจากปัจจุบัน มีผู้ที่ประกอบอาชีพเกษตรกรและชาวนาลดลง เพราะ.. ต้องประสบกับปัญหาขาดทุน รัฐบาลจึงจัดทำโครงการประกันรายได้ และ... ประกันภัยพืชผล เพื่อเป็นหลักประกัน ให้กับเกษตรกรไทยทุกคน รวมทั้งในอนาคต รัฐบาลยังมีแนวคิด ที่จะก่อตั้งกองทุนสวัสดิการของชาวนาอีกด้วย นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงปัญหาภัยแล้งว่า ภัยแล้งปีนี้ถือเป็นปัญหาที่หนักหน่วงพอสมควร เพราะ.. เกิดปรากฏการณ์เอลนินโญ ที่ทำให้เกิดภาวะฝนตกน้อย และ.. เกิดความแห้งแล้งเป็นพิเศษ ปริมาณน้ำฝนที่ตกมาในรอบ 5 เดือน ที่ผ่านมาพบว่า ทุกพื้นที่ในประเทศ ยกเว้นภาคตะวันออก มีฝนตกเฉลี่ยเพียงร้อยละ 30 เท่านั้น ผลที่ตามมาทำ ให้ปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนหลักๆ น้อยกว่าปกติ ทำให้น้ำในเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนป่าสักและเขื่อนอื่นๆ มีระดับน้ำที่ต่ำในรอบ 20 ปี ทำให้เราต้องมีการบริหารจัดการน้ำอย่างระมัดระวัง นายกฯ กล่าวว่า กรณีที่น้ำไหลลงเขื่อนน้อย อาจทำให้เราสามารถ บริหารจัดการน้ำได้อีกประมาณ 2 เดือนเท่านั้น ในส่วนของน้ำประปา มีการกำหนดแนวทาง และสำรองน้ำไว้ ซึ่งในพื้นที่ กทม. และปริมณฑลมั่นใจว่า จะมีการกำหนดแนวทางในการบริหารน้ำได้ ปัญหาที่เกิดขึ้นตน ได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรฯ ไปดำเนินการประกาศเลื่อนการทำนาปี และ ให้ทำความเข้าใจกับเกษตรกร รวมทั้งหามาตรการในการแก้ไขอย่างยั่งยืน คาดว่าจะมีการเสนอแนวทางแก้ไข เข้าสู่ที่ประชุม ครม.ได้ประมาณ 1-2 สัปดาห์นี้ นอกจากนี้ ยังทราบว่า เบื้องต้นปรากฏการณ์เอลนินโญนั้น เริ่มจะสิ้นสุดลงในประมาณเดือนก.ค.นี้ ก็อาจทำให้สถานการณ์กลับมาดีขึ้น.. .....................................
7 มิถุนายน 2553 17:37 น. - comment id 1133421
เห็นข่าวปริมาณน้ำในเขื่อนแล้วใจหายจังเลยค่ะพี่พุดฯ ประเทศเราเคยเป็น แผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ตอนนี้แม้แต่ป่า ยังถูกรุกรานเลยค่ะ แล้วจะเอาน้ำที่ไหนมาเนาะ
7 มิถุนายน 2553 18:29 น. - comment id 1133448
"เหม่อมองทุ่งรวงทองมิหมองแล้ว ข้าวเพริศแพร้วชูช่อดุจล้อแสง อร่ามเรืองเขียวชอุ่มพุ่มพฤกษ์แรง พลิ้วผ่านแฝงสายลมฝนพรมโปรย แลสาวนาเกี่ยวก้อยคล้อยลดเลี้ยว บ้างเก็บเกี่ยวผักบุ้งปรุงแก้โหย เหน็ดเหนื่อยงานท้องทุ่งมุ่งกอบโกย หอมกลิ่นโชยคละคลุ้งผดุงอารมณ์ น้ำพริกแจ่วสร้างไว้ในชามเก่า เพียงรอเฝ้าผักแกล้มแซมสิ่งผสม ต้มยำปลาช่อนนาร้อนซ่อนภิรมย์ เพียงเติมขมดีซ่านผ่านจินตนา ข้าวหม้อดินร้อนคลายสลายเหนื่อย สิ่งปวดเมื่อยคงหายให้หรรษา สุ่มเสียงเพลงลูกทุ่งแว่วมุ่งมา ผ่านทางหาผักจิ้มอิ่มเอิบหทัย." แก้วประเสริฐ.
7 มิถุนายน 2553 20:03 น. - comment id 1133480
แด่น้องโคลอน ด้วยรักนะ เช้าชื่น ปลุกสาวนาตื่นจากหลับฝัน ริมหน้าต่างลั่นทมพรางแสงตะวัน นกเขาขันคูก้องพร้องเสียงสาลิกา เจ้าลาแล้งร้องครางอยู่ในคอก ฟ้าบ้านนอกเงียบงามยามอุษา เด็ดมะลิริมรั้วลอยล้างหน้า กระซิบเมฆบนฟ้ารับวันพร ตรงหน้าใต้ฟ้ากว้าง เวิ้งว้างทะเลทองคำสลอน ทุ่งทิพย์เรียวรวงโอนอ่อน เว้าวอนลมโลมอาบอวล ดอกเลาพริ้งเพราเหนือพงหญ้า ตะแบกบานเหว่ว้ารออ้ายหวน ผักบุ้งพรายพันพ้อทบทวน อย่าเรรวนแรมร้างห่างสาวนา พุดซ้อนซ่อนดวงดอกอรชร การะเวกร่วงรอนปรารถนา บัวบึงชูช่อรอบูชา มะลิลาลาแล้วแก้วกลางใจ....! เช้าชื่น... ดวงดอกบานชื่น ดาวเรือง บานเรื่อเรืองอยู่ในสายแสงแดดสีทอง ที่โลม ลอมฟาง กระท่อมไม้ไผ่ ให้ดวงใจสาวนาแสนละไมละมุน ดวงดอกมะลิลา...โมกยังหอมพราย อวลมากับสายลมร้อน หอม หอมข้าวใหม่ ฟุ้งไปทั่วลานลอม ผักบุ้งนาทอดยอดไสวในบึงบัว วัวควายยังอยู่ในคอกโย้เย้ หาก... คงมิเหว่ว้าเพราะพวกเขาคงรู้ว่า สาวนารักเขาราวเพื่อนใจก็ไม่ปาน ประมาณนั้น ..................... ......................... ............................ เสี้ยวนึงในงาน http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem124494.html
7 มิถุนายน 2553 20:24 น. - comment id 1133486
คืนหนาวสาวนายืนว้าเหว่กับลมเพลมพัดดอกไม้หอม...! ถึงคุณแก้ว..ด้วยดวงใจจ๊ะ คืนหนาวสาวนายืนว้าเหว่ กับลมเพลมพัดดอกไม้หอม กระท่อมดินเดียวดายคล้ายพลอยตรอม เด็ดลั่นทมดอมยิ่งช้ำระกำทรวง อ้ายบอกลาสาวนาไปเมืองนอก กลับมาบอกไม่มีงานในเมืองหลวง มีเพียงฝันลมลมแล้งแล้งรัฐหลอกลวง วันลาล่วงเงินลาพรากจากพร้อมกัน สาวนากระซิบคำยามย่ำรุ่ง ในเงามุ้งกับแสงเทียนอย่าทิ้งขวัญ เงินใช่สิ่งเดียวที่สำคัญ รักนิรันดร์พร้อมอยู่คู่สาวนา ดินยังดำนามีทำฝนไม่แล้ง ยังมีแรงยังมีรักพลิกผืนหล้า หน้าสู้ดินรินหยาดเหงื่ออย่าพรากลา กราบพสุธาพระพ่อหลวงทรงห่วงใย นี่คือแผ่นดินแม่มาตุภูมิภักดิ์ จงแน่นหนักอดทนเริ่มต้นใหม่ อย่าไปหลงโลกแสงสีศิวิไลซ์ ทำเท่าไรจ่ายค่าโทรไม่โก้เลย กลับมาเถอะคนดีอย่าหนีห่าง กลับมาสร้างรวงรังไม่นิ่งเฉย ให้สาวนาอยู่กับดินถิ่นที่เคย อย่าไปเลยเมืองไกลไหนจะคุ้น รู้พอเพียงเลี่ยงหลบแรงกิเลส ที่เป็นเหตุให้เราต้องหัวหมุน ข้าวในนาปลาในน้ำนี่คือทุน เลิกวายวุ่นในวังวนพิกลกรรม อ้ายสบตายิ้มรับกับอ้อมกอด ที่สาวนาสวมพรอดน้ำตาร่ำ สัญญาว่าจะอยู่ไถหว่านดำ เป็นคู่ธรรมคู่ทองเคียงท้องนา..เคียงสาวนา...!
7 มิถุนายน 2553 20:40 น. - comment id 1133507
งามภาพ งามคำครับพี่พุด
7 มิถุนายน 2553 21:29 น. - comment id 1133560
ดอกตะแบกริมนาบานว้าเหว่.....แบกรักเร่แรมร้างผิดทางที่..... แด่กิ่งโศกนะ สาวนานอนเอนกายริมชายทุ่ง ใกล้กระท่อมมุงหลังคาจากงามเรียบง่าย ลมชายนาพัดโชยมาให้หนาวกาย ดวงดอกหญ้าพรายร่ายฟ้อนอ้อนตะวัน อ้ายจากไปหลงแสงสีกี่ปีแล้ว นวลกลีบแก้วผลิรอคืนสู่ขวัญ จำได้ไหมริมลอมฟางกลางแสงจันทร์ กระซิบมั่นคำสัญญาอ้างฟ้าดิน ท่ามแสงทองแสงดาวทองกวาวบาน เดือนปีผ่านสงกรานต์เศร้าเฝ้าถวิล กราบหลวงพ่อในโบสถ์น้ำตาริน ให้หมดสิ้นวิบากรักเสียสักที ดอกตะแบกริมนาบานว้าเหว่ แบกรักเร่แรมร้างผิดทางที่ กลับมาสู่อ้อมรักเก่านะคนดี มากอบกำดวงชีวีสาวบ้านนาอย่าให้ตรอม..!
8 มิถุนายน 2553 00:47 น. - comment id 1133637
คิดถึงความสวยงามของธรรมชาติบ้านเราจังเลยนะคะ ทุกวันนี้โดนทำลายไปเยอะ รู้สึกเสียดายมากเลยค่ะ
8 มิถุนายน 2553 01:16 น. - comment id 1133648
ทุ่งนาอันแสนสงบจะไม่มีอีกต่อไป เพราะถูกรุกรานโดยผู้เห็นแก่ตัว เพื่อผลประโยชน์พรรค ผลประโยชน์ชนชั้นสูง ผลประโยชน์กลุ่มที่แสวงหาประโยชน์ และกลุ่มเผด็จการทหาร ที่ครองเมืองไทยมานานนักหนา นับแต่นี้คงมีแต่ความคับแค้นใจไปทุกหย่อมหญ้า ความแตกร้าวของสังคมไทยที่คนหยิบมือ ไม่ยอมให้สังคมเปลี่ยนผ่านไปสู่ความเท่าเทียม และประโยชน์ของพี่น้องไทยจะได้ลืมตาอ้าปาก สงครามใต้ดินจะบังเกิดขึ้น การลอบทำร้าย การทำลาย การฆ่า การจับกุม สู่ยุคมืดแห่ง "สยามเมืองยิ้ม"
8 มิถุนายน 2553 09:07 น. - comment id 1133717
ทิวาหวาน ทิวาสวัสดิ์จ๊ะ น้องการัณยภาส สุริยาแย้มยิ้มมาทายทัก กระซิบรักเราอย่างอ่อนหวาน อรุณรุ่งในดวงใจลืมเรื่องราน ดั่งบัวบานเหนือโลกลบโศกตรา...!
8 มิถุนายน 2553 09:15 น. - comment id 1133721
ถึงคุณไม่มีสี ไม่มีเส้น... โลกคงเป็นเช่นฉะนี้ มากมีเรื่องราวขวัญผวา แท้ตั้งอยู่เกิดดับธรรมดา สัจจชีวาสอนรู้วางร่างแลใจ....!
8 มิถุนายน 2553 09:21 น. - comment id 1133723
เพิ่งเจอน้ำค้างคำของอิสระชน ในงาน *ทรุดจูบดิน..อันหอมอุ่นละมุนละไม...กระซิบว่าลูกเข้าใจ..แล้วชีวิต...!* http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem122823.html โดนใจจัง ขอบคุณนะครับ อิรสะชน 24 เม.ย. 52 - 13:37 IP 125.26.233.235 .................................. อาทิตย์ดวงแดงแห่งฤดูหนาว ฉายแสงพราวพรายพร่างประดับฟ้า เริ่มรุ่งใหม่รัศมีรุ้งงามจับตา ดูราวว่าวันนี้ฟ้าสีทอง ทายทักท้องนาอย่าเหงาโศก อยู่กับโลกสงบสุขสิ้นทุกข์ผอง พสุธาไทใต้ร่มรัตน์ฉัตรเรืองรอง ทั้งบึงคลองยังมีปลานาอุดม นั่น..ดูตาลยืนต้นดูว้าเหว่ รอลมเห่ดนตรีไพรผสานผสม ภาคภูมิแผ่นดินนี้ดินน้ำลม ยังธำรงร่มรัตน์กษัตรา ฟ้าที่ไหนจะงามเท่าเจ้ารู้ไหม เท่าฟ้าไทยเอื้อโอบมานานช้า ดินที่ไหนให้เจ้าหยัดยืนอย่างอิสรา ยังสายใจเจ้าพระยาไหลระริน รักกระท่อมดินดงกระถินงามชูช่อ ตำลึงเลื้อยคลอให้เก็บกินมิรู้สิ้น ทั้งฟักแฟงแตงกวาทรัพย์ในดิน รอเจ้าคืนถิ่นบ้านนารู้ค่าชีวิต อยู่กับดินกับดาวในทุ่งกว้าง กับอรุณเรื่อรางสว่างจิต หอมข้าวใหม่มะลิไพรโมกดอกนิด ราวฝันทิพย์ฝนทองครองเนื้อใจ รอสายฝนปราดโปรยให้ชื่นฉ่ำ รวงระบำร่ายฟ้อนอ้อนฟ้าใส ทรุดจูบดินอันหอมอุ่นละมุนละไม กระซิบว่าลูกเข้าใจ..แล้วชีวิต...!
8 มิถุนายน 2553 11:48 น. - comment id 1133785
เห็นภาพแล้วอยากเห็นสาวบ้านนาจังเลยครับ คงจะคมขำดีนะครับ
8 มิถุนายน 2553 14:03 น. - comment id 1133875
สวัสดีค่ะ ตอนนี้ที่เขื่อนป่าสักฯน้ำลดลงมากเลยค่ะ มองเห็นสะพานเก่าที่เคยใช้ข้ามทางกันทีเดียว แล้งจนน่ากลัวจริงๆปีนี้ เกษตรกรคงลำบากค่ะ
8 มิถุนายน 2553 16:03 น. - comment id 1133939
อ้ายฮักแท้สาวนาที่ข้าฮัก อ้ายประจักษ์ท้องถิ่นแผ่นดินไสว อ้ายจะอยู่อีนางอย่าฮ้างไกล อ้ายจะไห่แม่เจ้าเคล้าคลอดิน อ้ายไปเมืองบ่เว้นฮักสักนิด อ้ายยังคิดสาวนาครวญหาถวิล อ้ายคนจนยากไร้ไม่ไร้จินต์ อ้ายไม่สิ้นท้องทุ่งมุ่งสาวนา อ้ายนั้นฮู้บ่เว้นฮักเป็นนิจ อ้ายความคิดมิร้างห่างหวนหา อ้ายคิดถึงควายทุยลุยท้องมา อ้ายสรรค์หารวงข้าวเฝ้าเป็นทอง อ้ายกลับแล้วสวมกอดยอดที่ฮัก อ้ายอีนางลุยผักปลาทั้งผอง อ้ายบอกเจ้าฮักแท้แม้เงินทอง อ้ายไม่จองเพื่อสาวนาข้ายอม. ฮักอีกนางเด้อ แก้วประเสริฐ.
8 มิถุนายน 2553 16:26 น. - comment id 1133960
กลิ่นสาบเหงื่อเสื้อผ้าคือคำตอบ สัมมาชอบคืนแผ่นดินทุกถิ่นที่ ข้าวทุกเม็ดที่เจ้าเคี้ยวนะคนดี กลายเป็นสีเลือดแดงแฝงความงาม...! นานแล้วนะที่ไม่พบสาวนาในจิตวิญญาณแบบนี้ นี่หล่ะจิตวิญญาณสาวนาต้องเป็นแบบนี้ไม่ใช่แบบไหน หรือแบบอื่นแบบใด นี่หล่ะของแท้ต้องแบบนี้เท่านั้น