หอมกรุ่นกลิ่นดินชื้นเมื่อคืนหนาว กี่ปวดร้าวก่อนพฤษภาจักมาถึง หมื่นพันแสงแห่งจันทรายังตราตรึง ค่ำคืนหนึ่งดึงดาวอยู่เปล่าดาย เหมือนใต้ถุนคุ้นตาฝากระดาน คล้ายนอกชานบ้านเรือนเริ่มเลือนหาย แลนกหนูปูปลามาลาตาย ทิ้งรังฟางร้างเดียวดายอยู่ชายคา ยินเพียงเสียงสำเนียงเถื่อนเยือนกระซิบ อีกเงียบกริบเด็กหญิงชายไร้เดียงสา เก็บคำพูดว่าถึงคราวปลูกข้าวปลา กลับเป็นเสียงเจรจาน่าอัศจรรย์ ไล่ตะเพิดพลัดพรากจากใต้ถุน วิ่งหัวซุนฝุ่นตลบไม่ขบขัน ยังยุ้งฉางอ้างว้างกลางตะวัน แล้วสร้างสรรค์ปืนเครื่องบินจินตนาการ เปรี๊ยง! ปั๊ง! ดังวังเวงบรรเลงแผ่ว ไร้วี่แววนัยน์ตาน่าสงสาร แอบข้างโอ่งเฝ้ารอทรมาน รอสายฝนดลบันดาลเต็มลานดิน ปลุกผู้คนจนยากจากฟากนา นั่งบนร้านเจรจาคลายถวิล คุยเรื่องนกเรื่องนาเรื่องหากิน เตรียมเพาะปลูกดอกดินบนถิ่นเดิม ให้เสียงสากเสียงครกตกกระทบ มีเสียงจอบขุดทำนบคันนาเสริม แล้วกลิ่นพริกกลิ่นกระเพราจักเข้าเติม จนดังเดิมเริ่มใหม่ใต้ฟ้างาม แด่เพื่อนพ้องน้องพี่ที่หนีหาย อีกทั้งตายใต้เงื่อนงำหมื่นคำถาม แล้วแผ่นดินจักจำจดความงดงาม ทุกผู้นามความจงรักและภักดี นาคะพรรณ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๓
31 พฤษภาคม 2553 18:41 น. - comment id 1130871
เหมือนความตายนิรนามที่ถามหา
31 พฤษภาคม 2553 19:35 น. - comment id 1130880
แวะมาเสพกลอนงาม ๆ ฮับ
31 พฤษภาคม 2553 20:38 น. - comment id 1130930
งดงามมากครับ แฝงข้อคิดได้ดีมากเลยครับ
1 มิถุนายน 2553 00:32 น. - comment id 1130978
สวัสดีคะ คุณนาคะพรรณ เยี่ยมคะ
1 มิถุนายน 2553 09:18 น. - comment id 1131033
๐ ส่ำเสียงตำโขกข้าว........ ครกมอง แสงตกยกแสงทอง......ล่วงฟ้า ควันความคร่ำเนืองนอง.....เรือนนับ นาเฮย คือวิถีชนชาวหล้า......แต่เบื้องโบราณ ฯ ร่วมแจม ให้ใต้ถุนบ้านหลังใหญ่นี้ มีแต่ความหฤหรรษ์ครับ
1 มิถุนายน 2553 13:45 น. - comment id 1131175
1 มิถุนายน 2553 15:38 น. - comment id 1131219