สงครามกับความเขลา .... !!

ลานเทวา

แลรนรนกึกกร้าว  ตะโกนกู่
ว่าเหล่าแดงสีกู ผู้ชนะ
ให้ปิติปลื้มปลุก ทุกขณะ
เอาละ วะ งานนี้แดงมีชัย
 
แลรนรนหลบเลี่ยง เสียงสุภาพ
หวังสงบกำราบ การเคลื่อนไหว
จักตอบโตความระยำ มันทำไม
รัฐบาลเย็นใจ ดับรุ่มร้อน
 
แลเซ็งเซ็งเบื่อเบื่อ เหลือจะกล่าว
เสียงพร่ำบ่นปนข่าว ไม่เหมือนก่อน
ทบวิถียะถา มหานคร
ใครระยำตำบอน เข้าก่อการณ์
 
เผาบ้านเมืองกันแทบตาย วายปวง
โอ้ประชาธิปไตยกลวงกลวง ช่างหอมหวาน
เถอะอำมาตย์ ไพร่สถุล จัณฑาล
วิบัติใครสามานย์ ปานนั้น
 
ท่ามเสียงเพรียกร้อง ที่ไม่เคยสิ้นสุด
ตัณหาแห่งมนุษย์ กลืน นรกสวรรค์
ความโง่เขลาเจ้ากอบไว้ สิ่งใดกัน
จึงชีวิตเทิดสำคัญ หลงบูชา
 
ไร้สำนึกตรึกแจ้ง แสวงหน
ความเป็นคนเสกสรรค์ แต่ตัณหา
กี่บทเรียนเขียนย้ำ เป็นตำรา
กี่อดสูรู้มา ยังเชือนแช
 
เรื่องนี้ไม่มีหรอก ผู้ชนะ
รวมทั้งไม่มีพระ เป็นผู้แพ้
ท่ามการเมืองและความฝัน ที่ผันแปร
ธรรมชาติสิเฝ้าแล อยู่เฉยเฉย
 
ไม่รู้หรอกประเทศนี้ สีอะไร
ถึงกรีดเลือดกรีดหัวใจ ออกมาเอ่ย
การเมืองสามานย์ เพียงผ่านเลย
ชีวิตเราต่างคุ้นเคย อยู่เช่นนั้น
……………………
โดยคำ ลานเทวา

				
comments powered by Disqus
  • ปอกำปั่น

    2 พฤษภาคม 2553 20:10 น. - comment id 1125010

    23.gif29.gif
  • ใจปลายทาง

    2 พฤษภาคม 2553 20:16 น. - comment id 1125015

    ทางออกอยู่ตรงไหน  
    
    ฝ่ายหนึ่งตะโกนว่าฆ่าประชาชน
    
    อีกฝ่ายตะโกนว่า เมื่อไรจะฆ่าพวกมันเสียที
    
    
         ไม่รู้รัฐจะจัดการยังไง
    
      สวัสดีค่ะ
  • สุริยันต์ จันทราทิตย์

    2 พฤษภาคม 2553 21:50 น. - comment id 1125036

    แวะมาร่วมสังเกตการณ์ครับผม....
    31.gif31.gif31.gif
  • มีเมตตา..มหาสติ

    3 พฤษภาคม 2553 09:29 น. - comment id 1125094

    ๑) เราอยู่ในใจกลางแห่งลางร้าย              
    
    
    กลางดึกดิบความตายสะเทือนขวัญ
    
    
    ในท่ามกลางแห่งมหาอารยธรรม์
    
    
    เราดิ่งลึกสู่โลกันต์มหาประลัย
    
    
    (๒) เราก้าวย่างวางเท้าในร้าวลึก
    
    
    ด้วยดิบดึกตัณหากว่าครั้งไหน
    
    
    เรานิยามความต่างอย่างจังไร
    
    
    ด้วยเสื้อสีสวมใส่ความเกลียดชัง
    
    
    (๓) จึงถนนทุกสายคล้ายนรก
    
    
    มีความตายหล่นตกอยู่บ้าคลั่ง
    
    
    โอ้ผ่านฟ้าฟ้าแค้นแน่นประดัง
    
    
    ด้วยเลือดไทยไหลหลั่งชโลมทา
    
    
    (๔) แยกคอกวัววัวควายก็วายวอด
    
    
    เมื่อความตายโอบกอดอยู่แน่นหนา
    
    
    ชั่วบ่ายคล้อยเคลื่อนทับสนธยา
    
    
    ไฟนรกกวาดพายับระยำ
    
    
    (๕)ราชประสงค์ในวงล้อมของป้อมค่าย
    
    
    มัจจุราชกรีดกรายอยู่คลาคล่ำ
    
    
    ราชประสงค์ประสงค์ศึกผนึกนำ
    
    
    เอาราษฎร์ล้อมขึงประจำเป็นโล่คน
    
    
    (๖)เมื่อสุกี้พระนายกองผยองท้า
    
    
    จึงสีลมอ่วมระอาไปทุกหน
    
    
    ศาลาแดงแดงเดือดเลือดเคล้าปน
    
    
    ทุกศาลาเกลื่อนกล่นด้วยคนตาย
    
    
     (๗) โอ้รู้สิ้นดินฟ้ามหาสมุทร
    
    
    และช่ำชองกลยุทธ์อันหลากหลาย
    
    
    วางกำหนดกฎเกณฑ์เสียมากมาย
    
    
    และนิยามความหมายทุกสิ่งมี
    
    
    (๘)  ใช้เกมกลวาทกรรมเป็นอำนาจ
    
    
    โดยสื่อสารแพร่ระบาดอยู่อึงมี่
    
    
    ให้เกลียดชังถั่งโถมทุกนาที
    
    
    ร่ายเวทมนต์กาลีประจำวัน
    
    
    ๑๑) เราจึงอยู่ท่ามกลางของลางร้าย
    
    
    ในโอบกอดความตายหลากสีสัน
    
    
    ในมือเรามีไฟโถมใส่กัน
    
    
    พ่นละอองของน้ำมันเข้าใส่ไฟ
    
    
    (๑๒) จึงเลยผ่านการใดไปทั้งหมด
    
    
    สันติธรรมกำหนดถูกผลักไส
    
    
    กลับไปสู่ฐานที่ตั้งระวังระไว
    
    
    รอเวลาเหนี่ยวไกเปิดสงครามฯ
    
    
    
    
    ไพฑูรย์ ธัญญา
    
    
    พฤษภาคม ๒๕๕๓
  • โคลอน

    3 พฤษภาคม 2553 08:42 น. - comment id 1125098

    55.gif55.gif55.gif
  • Darkness_Hero

    3 พฤษภาคม 2553 11:01 น. - comment id 1125123

    เพระาเป็นแต่เรียกร้องไม่สุดสิ้น
    เหมือนเด็กดิ้นอยากได้ของที่ตนหวัง
    พอไม่ได้ดังใจก็ใช้กำลัง
    ถ้าหยุดยั้งหวังสิ้นสุดต้องจับตี
  • เฌอมาลย์

    3 พฤษภาคม 2553 22:02 น. - comment id 1125295

    29.gif29.gif29.gif
  • ปู่กิ่งฯ

    4 พฤษภาคม 2553 09:51 น. - comment id 1125396

    41.gif41.gif41.gif
  • กวีน้อยเจ้าสำราญครับ

    5 พฤษภาคม 2553 14:04 น. - comment id 1125614

    แรงงงงงงง สุดยอดดดดดด
    
    29.gif36.gif16.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน