ภาพในวัยเยาว์ของฉันมันสวยงาม( เป็นบรรยากาศรอบๆลานนวดข้าวที่พบเห็นมาครับ ) ในลานนวดข้าวของครอบครัวฉัน ที่ จ. อยุธยา เป็นภาพที่น่าจดจำบันทึกเอาใว้ หัดกวีบทที่ 1 * เห็นแสงหิงห้อยลอยวับวับ แสงติดติดดับดับระยับแสง ใต้แสงเดือนส่องสว่างสีนวลแดง หิงห้อยน้อยบินร่อนเปล่งแสงระยิบระยับทั่วท้องนา ชาวนางัดคันฉายกรีดลานข้าว สงงัดเอาเศษฟางพรางเขย่า เม็ดข้าวหลุดร่วงลงบนลานข้าว เอาฟางเบาไม่มีข้าวคัดออกไป แสงตะเกียงเจ้าพายุยังคุแสง เปล่งสว่างส่องแสงนวลชวนหลงไหล แข่งแสงเดือนเกลื่อนสว่างกระจ่างไกล เห็นแสงไฟใกลไกล้ในค่ำคืน เด็กน้อยวิ่งไล่ตามแสงหิงห้อย มือน้อยๆจับกุมขยุ่มแสง หิงห้อยน้อยเปล่งแสงสว่างลอดมือแดง เปล่งพลังแห่งแสงเป็นโคมทอง บ้างมุดฟางนอนนับดาวพร่างพราวแสง น้ำค้างแรงลมหนาวมาคราเดือนสิบสอง ไออุ่นฟางหอมตลบได้พบลอง เอามากองสุมไว้ให้ควายกิน ลานนวดข้าวแบบโบราณนานนมมา ของปู่ย่าตายายได้พบเห็น ฉันยังเด็กตอนเล็กเคยได้เล่น วิ่งหลบเร้นเห็นหิงห้อยลอยเด่นเต็มท้องนา... บรรยาย การนวดข้าวเขาจะใช้ควายเดินย่ำบนลานข้าว เอาข้าวที่เกี่ยวตากแห้งแล้วมารวมไว้ ใช้ควายหรือรถไถย่ำเม็ดข้าวจนร่วงลงแล้ว ก็เอาคันฉายสงหรืองัดฟางข้าวออกไปทิ้ง ( สง คือ เอาคันฉายงัดฟางข้าวแล้วเขย่าให้เม็ดข้าวร่วงลง ) เหลือแต่เม็ดข้าวเปลือกแล้วไปผ่านสีฟัดอีกทีเพื่อเอาแกลบออกครับ กว่าจะได้ข้าวแต่ละเม็ดต้องลำบากมาก * กว่าจะเป็นข้าวแต่ละเม็ดใครเหน็ดเหนื่อยทุกข์ยากสังขาน จงกลืนกินกันด้วยจิตวิญญานนึกสงสารชาวนา กินข้าวในจานควรนึกถึงที่มาโปรดอย่าเหลือทิ้งมันเป็นบาปหนักหนา ถางหญ้ากลางแดดหว่านไถปักกล้ากว่าจะได้เก็บกินหน้าสู้ดินหลังสู้ฟ้า ไม่ได้มากันง่ายๆแต่ละเม็ดข้าวทุกเม็ดเหงื่อใครนำพา ชุ่มชโลมอาบกายทุกข์ซ้ำร้ายชาวนาถูกเขากดราคาอนาจหนาชาวนาไทย... เพลง น้าแอ๊ด คาราบาว
6 มกราคม 2553 08:30 น. - comment id 1082323
ตอนเด็กๆ ที่นาโคราชบ้านผมก็เหมือนกันครับ
6 มกราคม 2553 09:01 น. - comment id 1082334
บทกลอนหวานอ่านแล้วกินใจนัก หิ่งห้อยหักเหแสงแรงห่วงหา อ่านเห็นภาพวาดเหมือนเยือนติดตา กลอนเพราะหนามาขอชมกล่อมกลอนใจ.. ทักทายจ้า..กลอนเพราะคะพี่อ่านแล้วเห็นภาพขึ้นมาจริงๆเลยคะ...
6 มกราคม 2553 09:18 น. - comment id 1082346
กลอนเพราะจังเลยค่ะ
6 มกราคม 2553 11:21 น. - comment id 1082396
ลูกหว้าชอบจังกลอนเพราะพริ้ง แวะมาเยี่ยมคะ
6 มกราคม 2553 15:37 น. - comment id 1082447
โอ้ชาวนาเหนื่อยยากลำบากกาย แต่ว่าใจสุขไปตามประสา ทำเลี้ยงคนทุกข์ทนเวทนา โอ้ชาวนาปลูกข้าวให้เราทาน
6 มกราคม 2553 16:54 น. - comment id 1082486
เพราะจังค่ะ ชอบแสงหิ่งห้อย เอาดอกไม้มาฝากค่ะ อิอิอิ
6 มกราคม 2553 19:20 น. - comment id 1082567
แสงหิ่งห้อยเพริศแพร้ว เพียงจัน ทราฤๅ ฤๅอวดแข่งแสงสัน สว่างจ้า แต่กระพริบพราวพรรณ เพียงเพชร ไพรเฮย สวยสุดสวยลอยหล้า แหล่งท้องทุ่งเรา ชอบวิ่งไล่จับหิ่งห้อยครับ แหะๆ
6 มกราคม 2553 21:32 น. - comment id 1082628
แสงตะเกียงเจ้าพายุยังคุแสง มิโรยแรงส่องสว่างนำทางฝัน แล้วจะให้หมดไฟอย่างไรกัน เมื่อใจมีแสงนั้นคอยนำทาง เพราะมากเลยนะครับพี่ป๋อง พี่ป๋องบ้านเกิดอยู่อยุธยาเหรอครับ แล้วตอนนี้ย้ายไปอยู่ไหนแล้วหรือ ผมน่ะเป็นเด็กต่างจังหวัดแต่มาทำงานที่อยุธยาครับ
7 มกราคม 2553 19:33 น. - comment id 1082975
ขอขอบคุณมิตรสหายพี่น้องบ้านกลอนของเรา ที่มีใจเอื้ออาทรมาให้กำลังใจครับ นางฟ้าซาตาน บทกลอนหวานอ่านแล้วกินใจนัก หิ่งห้อยหักเหแสงแรงห่วงหา อ่านเห็นภาพวาดเหมือนเยือนติดตา กลอนเพราะหนามาขอชมกล่อมกลอนใจ.. ดีใจครับที่มาให้กำลังใจ
7 มกราคม 2553 19:36 น. - comment id 1082978
ขอบคุณมากครับที่มาทักทายกันครับ กลอนเพราะจังเลยค่ะ ที่มาชมกัน จริงๆแล้วผมให้เป็นบทกวีครับเพาะมันไม่คร้องจอง อนงค์นาง
7 มกราคม 2553 19:38 น. - comment id 1082980
ขอบคุณ ที่มาให้กำลังใจกันครับ อนงค์นาง
7 มกราคม 2553 19:40 น. - comment id 1082982
ลูกว้าก็น่ารักครับที่มาทักทายกันขอบคุณนะครับ
9 มกราคม 2553 20:13 น. - comment id 1083648
บ่ง ภาพบรรยากาศ งาม
10 มกราคม 2553 08:08 น. - comment id 1083729
ขอบคุณคนลานเทวาที่แวะมาเยื่อมชมครับ