ใบไม้หล่นคว้าง.. กลางพฤกษาเงียบงัน สายลมพัดแผ่ว พรอดเพลงสงัดในค่ำคืน จันทราหม่นพร่าพราย ท่ามสายหมอกหมอง นกกาไร้คู่ยืนอยู่เดียวดาย หลับไหลบนกิ่งไม้ โดยไม่ไหวติง ฉันมองออกไปนอกหน้าต่าง ทัศนาฉากรัติกาลอันมืดมิด ท่ามกลางความอ้างว้างเกาะกุม รำพันถึงผู้หนึ่ง... ผู้พลัดพรากจากกันแสนไกล เมื่อไหร่หนอ..เราจะได้พบกัน ราตรีนี้ช่างยาวนาน ฤๅเราต้องพบเจอกับรัติกาลอันโหดร้ายเช่นนี้ ไปชั่วนิรันดร์....
5 มกราคม 2553 09:45 น. - comment id 1081997
ค่ำคืน อันอ้างว้าง และโหดร้าย ทุกครั้งที่ฉันมองบนท้องฟ้า เพื่อหาดาวดวงหนึ่ง ซึ่งเปล่งแสงระยิบระยับ แต่ดูเหมือนว่า ดาวดวงนั้นหายวับไปลับตา ฉัน....จะไม่ยอมแพ้ เพราะดาวดวงนั้น เป็นดาวในฝันอันงดงาม ที่มีค่ากว่าดาวดวงใดในโลกนี้
5 มกราคม 2553 11:54 น. - comment id 1082022
เอกากายค่ำนี้ รอเธอ ไกลห่างยังละเมอ ห่วงร้อน กลับมาเพื่อพบเจอ แอบอุ่น ฤาใหม่มีอิงอ้อน อิ่มแล้วลืมฉัน
5 มกราคม 2553 11:57 น. - comment id 1082023
เดียวดายใต้แสงจันทร์ แม้มีฝันแต่กลับไร้คนร่วมฝ่า ถึงยื้อยุดฉุดช่วงดวงดารา ก็ไร้ค่าเพราะไร้คู่ร่วมชู้ชม
5 มกราคม 2553 12:05 น. - comment id 1082034
สักวัน..คงจะไม่เดียวดายอีก...
5 มกราคม 2553 17:11 น. - comment id 1082121
พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน อีกไม่นาน... ความเดียวดายในค่ำคืนคงมายืนอยู่เคียงข้าง แวะมาอยู่เป็นเพื่อนนะคะ ^^
5 มกราคม 2553 17:14 น. - comment id 1082123
ขอบคุณ ดวงดาวแห่งมิตรภาพจากอนงค์นางครับ ขอบคุณโคลงเพราะๆ จากปติ ครับ บทกลอนเศร้าจังเลยนะครับ สุริยันต์ ร้องไห้จนน้ำตาท่วมโลกร่ะ เป็นความรู้สึกหนึ่งในจินตนาการครับ ก่องกิก ขอบคุณทุกมิตรภาพที่แวะมาเยี่ยมเยียนกันเสมอๆ ครับ
5 มกราคม 2553 17:15 น. - comment id 1082124
ค่ำคืนนี้ มีตัวเล็กมาอยู่เป็นเพื่อนเคียงข้าง ความเปล่าเปลี่ยวคงเพลาผ่อน ขอบคุณครับ ^ ^
5 มกราคม 2553 19:25 น. - comment id 1082152
อารมณ์เศร้ามาเชียวนะคุงหมอสุดหล่อ มามะ..เด่วพี่อยู่เปงเพื่อน..
5 มกราคม 2553 23:51 น. - comment id 1082254
ดอกคูนเสียงแคน http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song5080.html http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song1506.html หน้าร้อนอีกแล้ว แล้งจนดินแตกระแหงไปทั่ว เสียงแคนแตร๊นแตรแตร๊นแตรแว่วหวานปานพ้อ มากับสายลมฟ้ากว้างลำประโดงและทิวไผ่ไหวกอ http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song1506.html หนุ่ม ลูกทุ่ง อีสาน สุขสำราญ ไปตาม ประสา ข้อย จากบ้านเมืองมา จนหนักหนาถือแคนเล่มเดียว พบน้องก็ช่างงามนัก ข้อยอยากทักอยากตามไปเกี้ยว เหลือบดูแคนเล่มเดียว เหลือบดูแคนเล่มเดียว เกี้ยวอย่างไรอายใจเหลือเกิน เกี้ยวอย่างไรอายใจเหลือเกิน สาวเอยอย่าเพิ่งเดียจฉันท์ อย่าตัดสัมพันธ์ด้วยการทำเมิน สาวเอยอ้ายอยากขอเชิญ ฟังเพลงแคนเพลินๆสักหน่อย ซุดสะแนนเพลงแคนอ้ายปล่อย ล่องรถไฟละจับใจไม่ย่อย ฟังเถิดสาวน้อยมันอร่อยถึงใจ เสียง แคนบอก สาวเอ้ยฮักบ่เสียง แคนบอกสาวเอ้ยฮักบ่ ใจสิขอสัมพันธ์บ่ยั่นผู้ใด๋ หากได้น้องเป็นคู่เคียงสองหาก ได้น้องเป็นคู่เคียงสอง สิประคองขวัญตาบ่ห่วงหาไผซ่อน บ่ห่วงหาไผซ่อน หาก ว่าอ้ายผิดหวัง จะกลับอีสานบ้านเคยอยู่นอน หากได้เรียงเคียงหมอน ไม่ไถ่ถอนจนวันชีพวาย อีสานสิคนซื่อนัก หากได้ฮักฮักเดียวบ่หน่าย เชื่อหรือเปล่าทรามวัย เชื่อหรือเปล่าทรามวัย อยากดูใจเอ้าเซินเอ้าเซิน เอ้า เซินเอ้าเซินเอ้าเซิน เอ้า เซินเอ้าเซินเอ้าเซิน เอ้า เซินเอ้าเซินเอ้าเซิน... สาวนานวล ยืนอยู่ริมทุ่ง กับดงดอกโสนโอนเอนไหวอ่อนไปตามแรงลมร้อน ในยามบ่ายคล้อยที่แดดยังกล้า ฟ้ายังพร่างระยิบด้วยดวงดอกแดดแผดเผาจนเกิดประกายวิบวับ ผิวแก้มนวล..เนียนราวกับสายน้ำผึ้งรวง ราวกับรวงเรียวสีทองผ่องๆในเงางอบ หากทว่าหัวใจนวลกลับบอบช้ำ หานวลน้ำชุ่มฉ่ำสดใสเหมือนเนื้อนวลสักนิดสักน้อยก็ไม่มี ที่บัดนี้.. แห้งพอกันกับนวลดิน..นา กับฟ้าคราม กับสายลมว่าวผ่าวร้อนรับฤดู หมองไหม้ไร้...แล้งแห้งระแหงไปทุกถิ่นที่ หันไปเห็นทุ่งนาแดนทองราวแดนสวรรค์มาเยือน มาบัดนี้พลันสวรรค์รอลอยเลื่อนลาลับ ราวกับรอปิดประตูไม่ดูดำดูดี จะมีก็แต่องค์พระพ่อหลวงแห่งปวงชนชาวไทย ที่ทรงพระเสโททนไหลบ่ารับทุกข์ ทุกขวัญหล้าทุกหย่อมหญ้าทุกธุลีดิน ทรงรับสั่งให้ทำฝนเทียม เตรียมการณ ์สู้ภัยแล้ง ให้.. พสกนิกรชาวนาไทย เจ้าแห่งผืนนาผืนดิน..มิสิ้นหวัง รอพระพิรุณหยาดหลั่งชโลมหล้า ลงมาจากจากราวฟ้าแดนสรวง รอร่วงหยาดสายปรายโปรย ไปทุกถิ่นที่ ที่มีไร่นาเขียวเขินเนินไพล ให้เรียวรวง...ยังได้พราวพรายไสวพัดโบกไปมาราวคลื่นสีทอง ให้ผ่องแพรพรมพลิ้วขจี สะบัดสีสายงามแสนงามราวลูกคลื่น ราวพรมธารทองห่มท้องนาทาบทาไปทั่วผืนหล้านาไกล ด้วยหยาดน้ำพระราชหฤทัยใสเย็นดั่งหยาดฝน เคียงกมลชนชาวนาชาวไร่ชาวไพรหัวใจทอง ได้พลีผองพลังกำลังสร้างภูมิปัญญาแห่งแผ่นดิน... ให้ลูกหลานไทยมีกินมิสิ้นหวังด้วยความอดหยากหิวโหย คูน....ริมนา. เหว่ว้าห้อยย้อยพวงดวงดอกเหลืองพราวไปทุกราวกิ่ง ราวสายฝนสีทองรอลอยละล่องร่วงกราวพร่างพื้นหล้า ราวกับว่าอยากประท้วงถามดินฟ้า ให้งามหล้ามาไย ไม่ให้น้ำใสมารินหลั่งดั่งสายธารธารามิรู้สิ้น ให้แผ่นดินไทยแผ่นดินทองงามผ่อง ด้วยดวงดอกไม้ไทยไม้ไพร ให้ละอองเรณูหวานใสห่มไปทั้งราวป่า พากันออดอ้อนวอนสายลม ค้อมน้อมพลีบูชาสังเวยแด่หล้าโลก ให้สิ้นโศกสิ้นแล้งสิ้นไร้ ให้..คูนคูนคูนพูนเพิ่มธัญญาหาร เพื่อปากท้องมาจ้องพูดจ้องจ่ายกับปัจจัยที่ห้า ที่มาพร้อมกับความเหงาใจ เชื้อโรคที่แพร่แสนไวเร็วเสียยิ่งกว่าแสง ยอมอดตายมิให้ปากแห้งเลิกเจรจาพาที และ ขอมีความสุขทางปากกับลมลมลอยลอย ยอมอ้อยสร้อยอดเอา... นี่คือ เงาดำมืดในใจสาวนาผู้แสนว้าเหว่แสนรักในวิถีไทย ที่รอยไถมาแปรแพ้รอยน้ำเงินงาม ตามตามรอยกรรมกันไปในกระแสโลกโลกาภิวัฒน์ อันคือวัด..ทางจิตฝังสนิทตั้งแต่ยังมิทันตาย..จริง! ดอกคูนคูณดอกพราวอยู่เต็มต้น คูณกมลเพิ่มพูนบานตระการต่อ ดอกคูนบานไสวไม่เคยท้อ มีคูณต่อคูณเพิ่มเติมน้ำใจ.. คูนดอกงามตามเติมต่อขอรักเพิ่ม ดอกเดิมเดิมดอกดีดีเคียงนาใส คูนดอกงามคูณมากล้นงามน้ำใจ คูนไสวคูณสว่างกลางกมล.. คูนดอกงามขอคูณกลับให้มีสุข ให้หมดทุกข์หมดเศร้ากลางไพรสนธ์ คูนดอกงามสร้างพลังเคียงกมล คูณมงคลคูณดีงามนานนิรันดร์..นะดอกคูน...... .................................. ดอกคูนบานไสวในใจขวัญ ทุกคืนวันพราวพร่างกระจ่างใส ซึ้งน้ำคำซึ้งคุณค่าคุณน้ำใจ ยามหวั่นไหวคูนเคียงข้างไม่ร้างรา.. คูนหัวใจสีทองงามผ่องผุด คูนมิเคยหยุดเคียงหัวใจให้ห่วงหา คูนรู้ไหมคู่ถิ่นไทยแต่เนามา คูนคุณค่าคูนควรคู่รู้ใจกัน.. คูนอย่าท้อนะดวงใจนะยอดรัก สองเราจักเคียงคู่ไปมอบใจฝัน ให้น้องน้อยเก็บไม้งามตามตะวัน ฝากใจขวัญเคียงใจคู่คูนพูนเพิ่มดี..ที่เรานี้อยากฝากฝันและฝากใจ! .................. ดอกคูนพรากพลิ้วปลิวไปไหน. ......... ดอกคูนสีทองพราวราวพฤกษาสวรรค์ รับตะวันเจิดจ้าพาหลงใหล มาวันนี้กลีบร่วงพราวเจ้าหายไป ฤดูกาลผ่านไปไยลาลับกับตะวัน.. เคยเคลียคลอล้อลมไสวไทยทุกที่ ดวงฤดีผลิดอกหวานบานท้าฝัน คู่วิมานวนาบานไสวทุกคืนวัน อวดฉากฝันขวัญสล้างทางสายใจ... ดอกคูนเคยล้อลมอย่าตรมเศร้า คูนดอกพราวรอรับขวัญอย่าหวั่นไหว บานท้าโลกลบโศกตรมนะดวงใจ คูนสว่างบานกลางใจขวัญในวันนี้ที่เฝ้ารักที่เฝ้ารอ.. ............................. http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song5080.html พี่ คนนี้ นั้นมีแต่ให้ เจ้าไฉน ไม่เคยให้พี่ อยากได้อะไร หาให้ ทันที ให้เจ้ามากอย่างนี้ ไม่ดีอีกหรือ แม่คุณ พี่ วันนี้ พี่ก็ยังให้ เจ้าไฉน เห็นพี่เป็นหุ่น เจ้าได้กำไร รู้ไหมใคร ขาดทุน ดอกเบี้ยความรัก สิ้นสูญ ต้นทุนรัก ก็ไม่เห็น ทำ เหมือนพี่ ไม่มีหัวใจ ใคร นะใครที่ช้ำไม่เป็น ให้เจ้าหมดแล้ว พี่ไม่แคล้ว ต้องลำเค็ญ หรือเป็นกรรม ของเราคอยเฝ้าราวี พี่ คนนี้นั้นมีแต่ให้ เจ้า วันไหนเจ้าจะให้พี่ ให้ความจริงใจ ให้ความรัก พี่บ้างซิ ให้เจ้ามาก อย่างนี้ ให้พี่ ไม่ได้เชียวหรือ พี่ คนนี้นั้นมีแต่ให้ เจ้า วันไหนเจ้าจะให้พี่ ให้ความจริงใจ ให้ความรัก พี่บ้างซิ ให้เจ้ามาก อย่างนี้ ให้พี่ ไม่ได้เชียวหรือ...
6 มกราคม 2553 10:02 น. - comment id 1082362
แวะเยี่ยมเยือน เมื่อเลยล่วงค่ำคืนมาแล้ว เดียวดาย..กับเหงา..น่าจะเป็นญาติกันเนาะ สุขอย่าได้สร่าง
6 มกราคม 2553 18:21 น. - comment id 1082533
ยามค่ำคืน เคยคิดว่าราตรีที่เดียวดาย ฉันเหงาทั้งใจและกายเหลือเกิน แต่มาบัดนี้แข็งแกร่งพร้อมก้าวเดิน เพื่อเผชิญอุปสรรคนานาประการ มิหวั่นแม่วัน - ค่ำ ย่ำความเหงา ไม่มีแม้เงาความห่วงหา ความเดียวดายเกิดแสงแห่งปัญญา ฝึกสมาธิสงบพบแสงธรรม...
6 มกราคม 2553 20:42 น. - comment id 1082585
สวัสดีค่ะ คุณธันวันตรี ดอกบัวมาทักทายตรงนี้ก่อนค่ะ ตอนแรกก็ว่าจะเขียนอะไรมาแจมด้วย แต่ว่ายังคิดไม้ออกค่ะ ใบไว้หล่นคว้าง กลางพฤกษาเงียบงัน ในความเงียบงัน ยังมีบางสิ่ง ที่กำลังพลิ้วไหว ไปกับความเงียบงันนั้น คือความนึกคิด ดวงจิตที่รู้ตัวรู้ตื่น มีความสุขเสมอนะค่ะ
6 มกราคม 2553 21:41 น. - comment id 1082633
สวัสดีปีใหม่ค่ะ เคยมีหว่างชีวิต ช่วงหนึ่ง เมื่อไหร่สิ้นแสงแห่งตาวัน... หัวใจก็ร้องไห้ เจ็บร้าวก็ความมืดมน เพียงสายลม ความเงียบ และความมืด เป็นเพื่อน... ขอให้มีความสุขตลอดปีและตลอดไปนะค่ะ
7 มกราคม 2553 19:02 น. - comment id 1082960
ค่ำคืนนี้ คงไม่เดียวครับ เพราะคนเดียวดาย มาเป็นเพื่อน ด้วยแล้ว แนวนี้ ชวนให้คิดถึง พี่ฤทธิ์ เลย อิอิ