....หวนเหมันต์ ๏ คำนึงคิดจิตครวญไห้หวนโหย ดังบุปผาดอกดวงต้องร่วงโรย เมื่อลมโชยชวดชมตรมชีวา เหมันต์หวนชวนจิตให้คิดถึง กาลครั้งหนึ่งเคยร่วมเล่ห์เสน่หา ฝากจุมพิตสนิทแนบแอบอุรา ผูกถ้อยคำทำสัญญาประสารัก แต่ด้วยซื่อถือคิดว่าจิตมั่น คำสำคัญคล้องผูกถูกสลัก ใจเจ้าเอยเคยชมภิรมย์ภักดิ์ มาแตกหักเพราะใครในวันนี้ เพราะใจซื่อถือว่าสัญญาไว้ จึงจำเนื้อเชื่อใจอยู่เต็มที่ มิรู้เลยว่าน้องสองฤดี สัญญาพี่จึงขาดกลาดกระจาย จึงจำร้างห่างห้องให้หมองหม่น สูญสิ้นมนต์เหมันต์เคยมั่นหมาย แม้กระทั่งสัญญาคำยังจำคลาย คงซากกายว้าเหว่อยู่เอกา เหมันต์หวนชวนจิตให้คิดถึง กาลครั้งหนึ่งเคยร่วมเล่ห์เสน่หา ยังเฝ้ารอรักรัญจวนหวนคืนมา ประสานรอยร้าวอุราที่อาลัย ฯ
6 พฤศจิกายน 2552 07:05 น. - comment id 1060756
ไพเราะได้อารมณ์ครับ
6 พฤศจิกายน 2552 12:36 น. - comment id 1060853
มนต์เหมันต์ผันผ่านกาลเฉลย ใจเจ้าเอยเคยเหงาเศร้าหม่นหมอง รสสวาทขาดสิ้นยุพินปอง แม้ร่ำร้องก้องไปใช่ได้คืน บทกลอนหวานพลิ้วมากค่ะ เป็นสไตล์ ที่ชื่นชอบค่ะ
6 พฤศจิกายน 2552 12:46 น. - comment id 1060872
6 พฤศจิกายน 2552 14:09 น. - comment id 1060899
ดีครับ พี่ สองวันแระครับ น้ำมูกไหล ปวดหัว เจ็บคอ และปวดตามร่างกาย ขอให้พี่สุขภาพแข็งแรงนะครับ ขนาดอากาศไม่หนาว เท่าภาคอีสาน และเหนือ แถวเชียงใหม่-เชียงราย ผมยังแย่เลย นานๆ จะได้เห็นกลอน เพราะๆ ของพี่ นะครับ