ปลายปากกาจรดลงบนกระดาษ จึงเริ่มวาดอักษรวรรณศิลป์ ร่ายทำนองกรองกานท์ตามจินต์ อยู่ในถิ่นวงศ์วานแห่งกวี น้ำหมึกรินไหลเลื่อนเป็นอักขระ เกิดวาทะคำกลอนอักษรศรี เป็นลำนำคำกานท์อันสุนทรีย์ เพื่อสดุดีกวีกลอนแต่ก่อนมา ปลายปากกาจรดลงบนกระดาษ อักษรสาสน์ส่งไปยังฟากฟ้า สู่สวรรค์ชั้นกวีขอบูชา เหล่าบรรดาครูกวีที่นิยม อรุโณทัย ๑๑ กันยายน ๒๕๕๒
11 กันยายน 2552 22:33 น. - comment id 1037851
ขอเจิมค่ะ
11 กันยายน 2552 22:45 น. - comment id 1037858
แวะมาอ่านงานงามครับ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
11 กันยายน 2552 22:48 น. - comment id 1037859
ขอร่วมรำลึกด้วยนะค่ะ
11 กันยายน 2552 23:58 น. - comment id 1037895
มาเคารพครูด้วยคนค่ะ
12 กันยายน 2552 10:56 น. - comment id 1038028
แม้มิใช่กวีดั่งศรีปราชญ์ บรมราชครูกลอนอักษรสาร แต่เราก็เป็นศิษย์มีอาจารย์ สืบตำนานเรียนรู้อยู่คู่ตน **ยกกวีและผู้รู้ทุกท่านเป็นครู-อาจารย์ค่ะ** ขอให้มีความสุขเสมอคะพี่ ดุแลสุขภาพด้วยค่ะ
12 กันยายน 2552 11:08 น. - comment id 1038035
12 กันยายน 2552 18:48 น. - comment id 1038116
อนุโมทนาในความดีงามด้วยครับ
13 กันยายน 2552 08:09 น. - comment id 1038232
กลอนของครูสุนทรภู่ ขอเอามาลงเพื่อบูชาครู ***มาถึงบางธรณีทวีโศก ยามวิโยคยากใจให้สะอื้น โอ้สุธาหนาแน่นเป็นแผ่นพื้น ถึงสี่หมื่นสองแสนทั้งแดนไตร เมื่อยากไร้กายเราก็เท่านี้ ไมมีพี่พสุธาจะอาศัย ล้วนหนามเหน็บเจ็บแสบคับแคบใจ เหมือนนกไร้รังเร่อยู่เอกา (จากนิราศภูเขาทอง ของสุนทรภู่)