๏ เมื่อน้ำค้างใบไผ่วาวไหววับ สะท้อนกับแสงอรุณรัศมี ลมระรวยชวยกลิ่นสุมาลี ไก่แก้วขันกระชั้นที่ท้องทุ่งนา จาบกระจิบลิบลิ่วแถบทิวเมฆ ดั่งปลุกเสกโสตสวรรค์หลั่นสู่หล้า ในหมู่มวลแมกไม้ไกลสายตา ยังหลามล้นต้นกล้ากลอนกวี ไม่เด่นดังอย่างใครในเมืองหลวง ไม่โชติช่วงด้วยปัญญา-สง่าศรี ไม่ลิงโลด,โดดเด่น,เล่นวจี ไม่พอที่จะต่อขานกานท์กลอนไกล แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยดวงใจรัก แม้ไร้ศักดากวีที่ยิ่งใหญ่ ก็จดจารผ่านขั้วของหัวใจ ให้จารึกผนึกไว้คล้ายคล้ายกัน เส้นดินสอจ่อจรดจดอักษร เป็นงานกลอนค่าน้อยค่อยสร้างสรรค์ ไม่น้อย-ใหญ่ ไม่ด้อย-เด่น เป็นสำคัญ เฉกเช่นนั้นย่อมกวีศรีแผ่นดิน ฯะ
5 กันยายน 2552 10:56 น. - comment id 993692
3 กันยายน 2552 13:19 น. - comment id 1035226
ไพเราะเพราะพริ้งมากค่ะ เก่งจริง ๆ ขอชมเชยค่ะ...
3 กันยายน 2552 20:54 น. - comment id 1035403
แบมเองก็เขียนทุกบทออกมาจากใจค่ะ เขียนเพราะความรัก รักที่จะเชียน แม้จะไม่ใช่อ่อนพลิ้วเช่นกวีที่ชำนาญ
3 กันยายน 2552 21:28 น. - comment id 1035416
ผมจะลองทำตาม คำแนะนำ ของพี่ นะครับ ขอบคุณนะครับ ที่แนะนำ ผมอีกที พี่ก็เป็นอีกคนหนึ่ง ที่ผมประทับใจในผลงาน เช่นกัน ครับ
4 กันยายน 2552 01:17 น. - comment id 1035491
จริงแท้แน่นอนครับ
4 กันยายน 2552 05:48 น. - comment id 1035499
ยอดเยี่ยมเหมือนเดิมนะจ๊ะ