งานแต่งงานผลาญทรัพย์อัปยศ เงินสิ้นหมดทองหายมลายสูญ เกียรติก่อเกิดพร้อมหนี้สินที่พอกพูน ทวีคูณความสิ้นเปลืองให้เลื่องลือ ขันหมากแห่แหล่ร้องทำนองรัก แจ้งประจักษ์หลักประกันอันเชื่อถือ ทรัพย์สินสอดแสดงไว้ให้ระบือ ทองเต็มมือเงินเต็มพานตระกาลตา ร้อยโต๊ะจีนจัดไว้เอาใจแขก ร่วมกินแหลกแดกไม่หยุดสุดหรรษา กินทิ้งขว้างทั้งไก่เห็ดเป็ดหมูปลา เหล้านั้นหนาเหน็บกลับบ้านสราญรมย์ ณ งานหนึ่งซึ่งใช้เงินจนเพลินหมด กำซาบซดทรัพย์สินอย่างสุขสม บนผืนหล้ายังขาดไร้ความอุดม แก่ฝูงชนให้ชื่นชมถ้วนทั่วกัน เมื่อเสร็จงานสร้างสิ่งใดเอาไว้หรือ หวังสร้างชื่อฤาเกียรติให้เฉิดฉันท์ ทรัพย์ละลายหายไปเพียงข้ามวัน ควรหรือนั่นจะจัดงานประจานตน กลอนแข็งๆจากคนเฉิ่มๆครับ กลับมาเยี่ยมบ้านกลอนหลังไม่ได้เอากลอนลงมานาน คิดถึง เพื่อนๆในบ้านทุกคนเลยครับ >< มิได้คัดสรรคำอันล้ำเลิศ มิได้เพริศพริ้งเพราะเสนาะหู มิได้หวังเทียบชั้นบรมครู เพียงหวังชูเชิดเชลงชโลมใจ
4 สิงหาคม 2552 01:01 น. - comment id 1023010
เป็นมุมมองที่เคยคิดเหมือนกันครับ อันที่จริงมนุษย์ก็คงเป็นแบบนี้อยู่แล้วและเป็นมานานแล้วมังครับ
4 สิงหาคม 2552 07:13 น. - comment id 1023054
อ่านข่าวเมื่อวาน ที่เจ้าบ่าวโดนญาติเจ้าสาวฟาดกะบาลหัวแตก เพราะเงินค่าสินสอดนับแล้วไม่ตรงตามที่ตกลงกันไว้ งานแต่งงานก็เลยกลายเป็นงานละเลงเลือดไป ที่จริงแล้ว แต่งงานโดยใช้เงินหว่านทิ้งไปนี่ น่าเสียดายชะมัด น่าจะเก็บไว้ตั้งต้นสร้างหลักปักฐานของชีวิตคู่จะดีกว่า ยิ่งเศรษฐกิจไม่ค่อยจะดีอยู่ด้วย เลี้ยงดูปูเสื่อคนทั้งตำบลไปแยะ เวลาที่ตัวเองตกยาก ก็ไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปพึ่งใคร อย่างนี้หรือเปล่านะ ที่เรียกว่า ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
4 สิงหาคม 2552 07:16 น. - comment id 1023059
บางคนจัดงานแต่งแต่ได้กำไรก็มี แปลก.. แต่จริง
4 สิงหาคม 2552 09:23 น. - comment id 1023099
งั้นก็อย่า ประจานตน ดีกว่านะครับ แบบพออยู่พอกิน ไม่ต้องเว่อร์ ไม่ต้องน้อย พอดิบพอดี ตามประเพณี และกาลสมัยที่สมควร
4 สิงหาคม 2552 09:57 น. - comment id 1023107
ที่กล่าวมามันก็จริง แต่ถ้าไม่จัดงานก็ถูกดูหมิ่นจากชาวบ้าน จะให้แต่งอย่างไม่บอกแขกก็เป็นเรื่องยากนะ หลายๆคนมักจะยอกว่าแต่งครั้งเดียวขอให้ประทับใจอ่ะค่ะ แต่ที่คุณกล่าวมาเป็นเรื่องจริงทั้งหมดค่ะ
4 สิงหาคม 2552 10:39 น. - comment id 1023126
เป็นประเพณีที่ดีงามมาแต่โบราณค่ะ เรื่องสินสอด ต้องแล้วแต่ครอบครัวอีกฝ่าย
4 สิงหาคม 2552 11:55 น. - comment id 1023157
ผมกับแม่เพิ่งกลับมาจากงานแต่งงานญาติที่กรุงเทพฯครับ.. ทำให้เรามีความรู้สึกที่หลากหลายแต่แม่ก็บอกผมว่าโชคดีครับที่แม่ไม่ได้จัดงานแต่งงานให้น้องชาย..แต่ก็ยังมีผูกข้อไม้ข้อมือให้และพาไปจดทะเบียนสมรส..ครับ..ประหยัดแต่อบอุ่น
4 สิงหาคม 2552 12:01 น. - comment id 1023163
ผูกข้อไม้ข้อมือท่ามกลางเครือญาติสนิทๆ เท่านั้นก็น่าจะเพียงพอแล้วค่ะ ไม่ต้องจัดอะไรให้ใหญ่โตก็ได้ เรียบง่ายแต่ถูกต้องตามประเพณีด้วยค่ะ เดี๋ยวจะเป็นดังคำสุภาษิตที่ว่า ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ค่ะ สำนวนนี้คงจะเอาไว้ใช้สำหรับการแต่งงานอย่างแน่นอนเลย
4 สิงหาคม 2552 22:08 น. - comment id 1023333
ตอนตัวคนเดียวก็คิดประมาณนั้นเหมือนกันครับ.. แต่ตอนตัวเองแต่งเอง..ฮ่า หมดไปหลายเหมือนกันครับ
5 สิงหาคม 2552 15:27 น. - comment id 1023550
สวัสดีท่านออกญาลับแล วันนี้นึกครึ้มอกครึ้มใจเป็นอะไรก็ไม่รู้ เลยแต่งโคลงออกมาบทนึง อยากให้ท่านออกญาได้มาสดับรับรสสักหน่อย จะรอนะ