วันพรรษาสีทองผ่องแสงสงฆ์ หอมกมลสู่แดนฝันนิรันดร์เกษม พุทธชนดั่งบัวบานแสนอิ่มเอม ปลื้มเปรมปิติใจฟังธรรม ตักบาตรถวายเทียนทองส่องนำทาง ให้สว่างสงบสยบทุกข์ระรินร่ำ อธิษฐานภาวนาเฝ้าน้อมนำ เพียรพรมพรำด้วยหยาดน้ำทิพย์อมฤตมนต์ ทุกคืนค่ำย้ำจิตห่างทางสายโศก ทางสายโลกย์ด้วยจิตดวงกุศล กราบพระปฏิมาด้วยมาลัยมงคล ละตัวตนวางว่างกระจ่างใจ พลีเมตตาปรารถนาดีทุกชีวิต พรหมลิขิตร่วมชะตาจากใจใส บนแผ่นดินเดียวกันนะดวงใจ ใต้ร่มไทไสวรัตน์ฉัตรจักรี... เป็นบุญวาสนาแล้วเจ้าแก้วขวัญ ดั่งสวรรค์พสุธาตราบชีพนี้ พบชาติ ศาสน์ กษัตริย์ รู้ภักดี รู้กตเวทิตาตราบฟ้าดิน...ตราบสิ้นใจ.. ................................................ http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song420.html (รางวัลชีวิต) อาสาฬหบูชาน้อมดวงใจให้ใสเย็น... พอบุหลันพรางพรายขึ้นฉายฟ้า ดวงดาราหมื่นนั้นก็พลันหาย เหลือเพียงแสงรัชนีกรพรรณราย อาบโพยมเรียงรายคล้ายวิมาน จุดเทียนทองส่องทางว่างวิเวก ปลั่งเปลวเอกยอดเทียนเพียรอธิษฐาน อาสาฬหบูชามาเวียนวาร นมัสการพระพุทธพิสุทธิ์ใจ หริ่งเรไรระงมชมแสงโสม กล่อมบรรโลมน้ำค้างระวางไหว เสียงสวดมนตร์แว่วดังกังวานไพร จากโบสถ์คร่ำคร่าวัยในเวียงนั้น แสงเทียนทองส่องวับจับดวงหน้า ใต้ราวโบสถ์ปรางปราราวอาถรรพ์ ประภัสพุทธผ้าสงฆ์องค์วงศ์วรรณ รายรอบหลั่นวิหารป่าพนาลัย ขออัญเชิญเสียงมนตร์สู่บนพรหม วโรดมลานธรรมสว่างไสว พลีดวงจิตบูชาพระรัตนไตร ณ วันโสมอาบไพรใต้อัมพร ................ พระจันทร์ วันอาสาฬหบูชาบานเต็มดวง เหลืองทอง สุกปลั่ง ค่อยๆลอยเรี่ยทายทักฟ้างาม ในยามค่ำ อย่างอ่อนโยน นุ่มนวล..... แสงจันทร์งามละออ หวานปานสายน้ำผึ้ง ราวจะหยาดลงมาประโลมใจทุกๆคนบนผืนโลก ให้เยือกเย็น งดงาม หวานฉ่ำพอกันกับจันทรเจ้า.... แสงเทียน ในมือ เสียงธรรม ก้องสองหู จากเสียงสวดของพระสงฆ์... ขณะ ก้าวเดินอย่างช้าๆ.... ไปรอบโบสถ์งาม..... ตามกันไป ในเส้นทาง ของพระพุทธองค์ ผู้ทรงนำทาง ก่อนหน้า พาใจให้บานเบิก ราวบัวชูช่อรอรับ แสง อรุณรุ่ง... แห่งชีวิตนี้ที่ค่อยๆสว่างไสว... ไปกับตะวันเปล่งแสงเจิดจ้า จนกว่ายามสนธยา จะมาเยือน....และ จนกว่าแสงแห่งชีวีนี้ ที่จะเลือนหาย ไปกับสายลม ในยามค่ำ กลิ่นพิกุล หอมเศร้า เคล้าแสงเทียน วับแวม พิกุลร่วงพรูพราว รอคนรู้ค่า นำมาร้อยเป็นมาลัยหอมงาม ไว้ดอมดมชมชื่นใจ ประเพณีไทย ประเพณีงาม ในยามค่ำนี้ วันแสนดีของพุทธศาสนิกชน วันเพ็ญเดือนแปด ที่มีปรากฏการณ์สำคัญ ๆ ในวันนี้มีถึง 4 ประการ ด้วยกันคือ 1. เป็นวันแรกที่พระพุทธองค์ทรงแสดงปฐมเทศนา 2. เป็นวันแรกที่พระพุทธองค์ทรงได้ปฐมสาวก 3. เป็นวันแรกที่พระสงฆ์เกิดขึ้นในโลก 4. เป็นวันแรกที่บังเกิดรัตนะครบสาม เป็นพระรัตนตรัย คือ พระพุทธรัตนะ พระธรรมรัตนะ พระสังฆรัตนะ เช้า..ตักบาตร ฟังธรรม น้อมนำใจ ให้ใสเย็น ตั้งจิตอธิษฐาน กราบกราน พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ให้ได้พบแสงธรรมนำทางทุกๆชาติไป ถ้ายังไม่หลุดพ้น ต้องเวียนวนมาเกิดชดใช้กรรม ค่ำ..เวียนเทียน นำดอกไม้ ธูปเทียน เป็นมาลัยแทนใจ แทนความดี ที่ศรัทธา น้อมบูชา องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า.. ผู้นำทาง สว่างไสว มาสู่ใจนี้ ที่ยังไม่มืดบอด.. อธิษฐานเพิ่ม เติมต่อ ขอให้สุขภาพดี มีคนดี ที่มีใจรักมั่นคง มาเคียงครอง คุ้มผองภัย หวังสิ่งใด ก็ขอให้สมหวัง ถ้าเป็นสิ่งดี ที่คิดปอง กลับบ้าน มานอนดูพระจันทร์ ด้วยฝันเห่กล่อม ในอ้อมแขนของดาวเดือนเพื่อนผู้รู้ใจ ให้ไม่ว้าเหว่.... นอนฟังเสียงลม เสียงจิ้งหรีดเรไร..ในความงามเงียบ แกล้มกลิ่นหวานเศร้า หอมร่ำรวยริน กลิ่นดอกลั่นทม จันทร์ดวงงาม ใจดวงดี ไม่มีอะไรสุขเท่า ขอเพียงคิดเป็น ให้ธรรมชาติร่มเย็น หยิบยื่น ขุมทรัพย์ล้ำค่ามาสู่สายใจ ในทุกวันเวลา ถ้าเพียงรู้คำว่า..เปิดใจ.. ฝากสายลมยามค่ำ ไปกอดเธอ ฝากมวลหมู่ดาว พราวพร่างฟ้า ยามราตรีนี้ กระซิบบอกว่า อย่าร้องไห้นะคนดี ที่คิดถึงฉัน ฝากแสงจันทร์ โลมไล้ ดวงใจให้ไม่สิ้นหวัง โลกและคืนวัน แสนดี ยังมีอีกยาวนานนัก.. และทุกสิ่งจัก..แพ้พ่ายใจ ดวงดีที่มั่นคง ไม่ว่าจะรอนานสักเท่าใด ขอเพียงอย่าหวั่นไหว ในรักนี้ของสองเรา ...!!!! ............................. บัวบูชา อย่างช้าช้าฟ้าแปรเป็นสีโศก โลกทั้งโลกดูราวจะหยุดหมุน ทุกก้าวย่างอ้างว้างวางวายวุ่น แลละมุนรายรอบนาทีนั้น นั่นป่ากกรกเรื้องามเหลือล้ำ วิถีธรรมธรรมชาติดุจภาพฝัน ทุกชีวีพึ่งพิงกันและกัน รู้เท่าทันรู้รักษาฟ้าประทาน หอมบัวบานตระการแย้มกลีบเกสร ยั่วภมรร่อนภิรมย์น้ำผึ้งหวาน บ้างชูช่อรอแสงทองเหนือสายธาร มิยอมรานราโรยรับแสงธรรม บัวสี่เหล่าพระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ ยังเวียนว่ายวิบากเฝ้าครวญคร่ำ รับกิเลสเวทนาวนเพรงกรรม จิตระกำย้ำทุกข์ท้อทรมาน เลือกชูช่อรอแสงทองแสงธรรมนำชีวิต ถูกฤาผิดแค่อดีตให้พ้นผ่าน รักษาศีลสมาธิปัญญาญาณ ให้จิตบานเหนือโลกย์เหนือโศกกรรม...! http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song420.html รางวัลชีวิต ชัชฎาพร ลักษณาเวช พระพุทธองค์ ท่านทรงสอนเรื่องเวรกรรม คนไหนใครทำ กรรมเคยก่อเอาไว้อย่างไร ก่อน นั้น เคยทำกรรมไว้ชาติใด ชาตินี้ต้องได้ รับกรรมที่ทำก่อนนั้น ตัวฉันคงทำ แต่กรรมซ้ำอยู่เสมอ ชาตินี้จึงเจอ เวรกรรมเก่าเข้าย้อนผูกพัน ปวด ร้าว ตรอมตรมขื่นขมอนันต์ ทำดี สารพันรางวัลที่ได้ก็คือเคราะห์กรรม โธ่ เอ๋ย พระเจ้าไม่เคยปราณี ในชาตินี้ ทำดีไม่เคยก่อกรรม หวัง ให้ ผลบุญได้น้อมนำ ล้างเวรที่เคยทำ แต่ชาติ ปาง ก่อน สิบนิ้วประนม สวดมนต์พร่ำบ่นบูชา กุศลนำมา จงนำข้าสิ้นเวรดั่งวรณ์ หากแม้ ชีวีสิ้นลับดับมรณ์ เวรกรรม ทุกชาติก่อน บรรเทาผันผ่อน อย่าตามซ้ำเลย...
7 กรกฎาคม 2552 11:49 น. - comment id 1010967
ประวัติความเป็นมา วันอาสาฬหบูชา ตรงกับวันเพ็ญ เดือน 8 ก่อนวันเข้าพรรษา 1 วัน เป็นวันที่พุทธศาสนิกชนแสดงความเคารพต่อพระสงฆ์ อาสาฬหเป็นชื่อเดือน ๘ อาสาฬหบูชาย่อมาจากคำว่าอาสาฬหบูรณ มีบูชา แปลว่า การบูชาพระในวันเพ็ญเดือน ๘ ถ้าปีใดมีเดือน ๘ สองครั้ง ก็จะ เลื่อนไปเป็นวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๘ หลัง หลังจาก สมเด็จพระพุทธองค์ ได้ตรัสรู้ในวันเพ็ญ เดือน 6 แล้ว ได้ทรงใช้เวลาทบทวนสัจธรรมและทรงคำนึงว่าธรรมะที่พระองค์ตรัสรู้นี้ลึกซึ้งมาก ยากที่ผู้อื่นจะรู้ตาม แต่อาศัยพระกรุณานี้เป็นที่ตั้ง จึงทรงพิจารณาแบ่งบุคคลออกเป็น 4 ประเภท(บัว 4 เหล่า) คือ ๑. อุคฆฏิตัญญู ดอกบัวที่อยู่พ้นน้ำ ๒. วิปัจจิตัญญู ดอกบัวที่อยู่ปริ่มน้ำ ๓. เนยยะ ดอกบัวที่อยู่ใต้น้ำ ๔. ปทปรมะ ดอกบัวที่จมอยู่กับโคลนตม จึงทรงมีพระกรุณาธิคุณ ระลึกอาฬารดาบสและอุททกดาบสว่า มีกิเลสเบาบางสามารถตรัสรู้ได้ทันที แต่ท่านทั้ง 2 ได้ตายแล้ว จึงทรงระลึกถึงปัญจวัคคีย์ ได้ทรงแสดงพระธรรมเทศนาแก่ปัญจวัคคีย์ ทั้ง 5 คือ โกณฑัญญะ วัปปะ ภัททิยะ มหานามะ และอัสชิ ซึ่งล้วนแล้วแต่ เป็นผู้อุปฐากพระพุทธเจ้าเมื่อครั้งยังทรงบำเพ็ญทุกข์กิริยาอยู่ พระธรรมที่ พระพุทธองค์ทรงเทศนาในครั้งนี้มี ชื่อ ธรรมจักกัปปวัตนสูตร ซึ่งมี อริยสัจ ๔ หรือความจริงอันประเสริฐ ๔ ประการได้แก่ ๑. ทุกข์ ความไม่สบายกาย ไม่สบายใจ ๒. สมุทัย เหตุให้เกิดทุกข์ ๓. นิโรธ ความดับทุกข์ ๔. มรรค ข้อปฎิบัติให้ถึงความดับทุกข์ และหลังจากแสดงพระธรรมเทศนาแล้ว ท่านโกณฑัญญะได้ดวงตาเห็นธรรม เป็นคนแรก ได้กราบฑูลขอบวชและพระพุทธองค์ก็ทรงอนุญาต โดยทรงทำการอุปสมบทให้แบบ เอหิภิกขุอุปสัมปทา นับเป็น"ปฐมสาวก" ของพระพุทธเจ้า ดังนั้นในวันนี้จึงเป็นวันแรกที่มี พระรัตนตรัยครบองค์สาม คือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ เนื่องจากพระพุทธองค์ทรงเทศนาเป็นกัณฑ์แรก จึงเรียกเทศฯกัณฑ์นี้ว่า "ปฐมเทศนา" หรืออีกนัยหนึ่งอาจจะกล่าวได้ว่านับเป็นวันแรก ที่พระพุทธเจ้าทรงประกาศพระพุทธศาสนา
7 กรกฎาคม 2552 14:12 น. - comment id 1011022
พี่พุดเขียนได้เห็นความสำคัญ ของวันเข้าพรรษา ได้ดีมากเลยค่ะ มาให้กำลังใจค่ะ
7 กรกฎาคม 2552 14:35 น. - comment id 1011025
งามทั้งภาพ ความหมาย และคำ ช่างจินตนาการจัง พี่พุด ละไมฝนชอบผลงานของศิลปินแห่งชาติท่านนี้เป็นชีวิตจิตใจ ละไมฝนชอบสะสมปฏิทินผลงานภาพเขียนของคุณจักรพันธุ์ โปษยกฤต ครับ โดยเฉพาะปฏิทิน ของ บริษัท AIA... บ้านอยู่อุบล เหรอครับ ละไมฝน
19 สิงหาคม 2552 01:58 น. - comment id 1011033
วันเข้าพรรษา เป็นวันสำคัญในพุทธศาสนาวันหนึ่ง ที่พระสงฆ์เถรวาทจะอธิษฐานว่าจะพักประจำอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่ง ตลอดระยะเวลาฤดูฝนที่มีกำหนดเป็นระยะเวลา 3 เดือน ตามที่พระธรรมวินัยบัญญัติไว้ โดยไม่ไปค้างแรมที่อื่น หรือที่เรียกติดปากกันโดยทั่วไปว่า จำพรรษา ("พรรษา" แปลว่า ฤดูฝน, "จำ" แปลว่า พักอยู่) พิธีเข้าพรรษานี้ถือเป็นข้อปฏิบัติสำหรับพระสงฆ์โดยตรง ละเว้นไม่ได้ ไม่ว่ากรณีใด ๆ ก็ตาม[1] การเข้าพรรษาตามปกติเริ่มนับตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี (หรือเดือน 8 หลัง ถ้ามีเดือน 8 สองหน) และสิ้นสุดลงในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 หรือวันออกพรรษา วันเข้าพรรษา (วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8) หรือเทศกาลเข้าพรรษา (วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ถึง วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11) ถือได้ว่าเป็นวันและช่วงเทศกาลทางพระพุทธศาสนาที่สำคัญเทศกาลหนึ่งในประเทศไทย โดยมีระยะเวลาประมาณ 3 เดือนในช่วงฤดูฝน โดยวันเข้าพรรษาเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาที่ต่อเนื่องมาจากวันอาสาฬหบูชา (วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8) ซึ่งพุทธศาสนิกชนชาวไทยทั้งพระมหากษัตริย์และคนทั่วไปได้สืบทอดประเพณีปฏิบัติการทำบุญในวันเข้าพรรษามาช้านานแล้วตั้งแต่สมัยสุโขทัย สาเหตุที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตการจำพรรษาอยู่ ณ สถานที่ใดสถานที่หนึ่งตลอด 3 เดือนแก่พระสงฆ์นั้น มีเหตุผลเพื่อให้พระสงฆ์ได้หยุดพักการจาริกเพื่อเผยแพร่ศาสนาไปตามสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งจะเป็นไปด้วยความยากลำบากในช่วงฤดูฝน เพื่อป้องกันความเสียหายจากการอาจเดินเหยียบย่ำธัญพืชของชาวบ้านที่ปลูกลงแปลงในฤดูฝน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ช่วงเวลาจำพรรษาตลอด 3 เดือนนั้น เป็นช่วงเวลาและโอกาสสำคัญในรอบปีที่พระสงฆ์จะได้มาอยู่จำพรรษารวมกันภายในอาวาสหรือสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง เพื่อศึกษาพระธรรมวินัยจากพระสงฆ์ที่ทรงความรู้ ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์และสร้างความสามัคคีในหมู่คณะสงฆ์ด้วย ในวันเข้าพรรษาและช่วงฤดูพรรษากาลตลอดทั้ง 3 เดือน พุทธศาสนิกชนชาวไทยถือเป็นโอกาสอันดีที่จะบำเพ็ญกุศลด้วยการเข้าวัดทำบุญใส่บาตร ฟังพระธรรมเทศนา ซึ่งสิ่งที่พิเศษจากวันสำคัญอื่น ๆ คือ มีการถวายหลอดไฟหรือเทียนเข้าพรรษา และผ้าอาบน้ำฝน (ผ้าวัสสิกสาฏก) แก่พระสงฆ์ด้วย เพื่อสำหรับให้พระสงฆ์ได้ใช้สำหรับการอยู่จำพรรษา โดยในอดีต ชายไทยที่เป็นพุทธศาสนิกชนเมื่ออายุครบบวช (20 ปี) จะนิยมถือบรรพชาอุปสมบทเป็นพระสงฆ์เพื่ออยู่จำพรรษาตลอดฤดูพรรษากาลทั้ง 3 เดือน โดยพุทธศาสนิกชนไทยจะเรียกการบรรพชาอุปสมบทเพื่อจำพรรษาตลอดพรรษากาลว่า "บวชเอาพรรษา" นอกจากนี้ ในปี พ.ศ. 2551 รัฐบาลไทยได้ประกาศให้วันเข้าพรรษาเป็น "วันงดดื่มสุราแห่งชาติ"[2] โดยในปีถัดมา ยังได้ประกาศให้วันเข้าพรรษาเป็นวันห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั่วราชอาณาจักร[3] ทั้งนี้เพื่อรณรงค์ให้ชาวไทยตั้งสัจจะอธิษฐานงดการดื่มสุราในวันเข้าพรรษาและในช่วง 3 เดือนระหว่างฤดูเข้าพรรษา เพื่อส่งเสริมค่านิยมที่ดีให้แก่สังคมไทย[4] สำหรับในปี พ.ศ. 2552 นี้ วันเข้าพรรษาจะตรงกับ วันพุธที่ 8 กรกฎาคม ตามปฏิทินสุริยคติ
7 กรกฎาคม 2552 15:56 น. - comment id 1011039
น้องกวีเดินดิน...ที่รัก และ.. น้องละไมฝน...ที่คิดถึง ราตรีนี้... ท่ามพรายพระจันทร์ หวานแสนหวานพูนดวง และ กับแสงเทียนในโบสถ์คร่ำ ที่ผ่องพราวราวสายแสงทองผ่องพิสุทธิ์ คงได้ยินเสียงสวดมนต์ จากพระภิกษุสงฆ์ ก้องกังวานไกล ไปสู่ห้วงมหาดารากาล วิมานเทพยดา สู่แดนสวรรค์ชั้นฟ้า ชั้นพรหม ... และ... พาให้ทุกดวงกมลในแผ่นดินไท ได้เอมอิ่มปิติใจในแรงบุญบารมีค่ะ ขอให้น้องพบความสุข ที่แสนว่างณ กลางใจไปนิรันดร์ค่ะน้องรัก
7 กรกฎาคม 2552 16:50 น. - comment id 1011057
น้องเป็นพุทธศาสนิกชนคนหนึ่งที่ศรัทธาในศาสนา ชื่นชมผลงานของพี่พุดจับใจ น้องเคยมีความทุกข์มากมายจากความรัก ความหลง การยึดติดในตัวอักษรของบางใคร ที่ฝังแน่นมานานเดือน เสียน้ำตามากมายแทบเป็นสายเลือด แต่ทุกวันนี้ ด้วยพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ น้องได้สวดมนตร์ภาวนา ทำใจให้พ้นทุกข์ได้แล้ว แบบใสสะอาดปราศจากมลทินจริงๆค่ะครูพี่พุดพัดชา ดวงตาของน้องสว่างเห็นแสงธรรม ดวงใจของน้องสว่างดั่งแสงเทียนที่ส่องประกายไม่มีวันดับ น้องมองเห็นความงามของธรรมชาติ ความอบอุ่นของแสงแดด ละอองฝน และสายลม น้องขอตั้่งมั่นอยู่ในโลกธรรม โลกแห่งความจริงที่มีคู่ชีวิต มีลูกๆอยู่เคียงข้าง เมื่อรักคืนเรือน จิตใจที่เคยล่องลอยไปได้กลับมา แล้วอย่างเต็มร้อย ความฝันก็มลายสูญสิ้น ไม่มีอีกแล้ว ชายในฝัน ชายที่อยู่เีคียงข้างเราต่างหากคือคนที่เราควรฝัน บางทีการอยู่ด้วยกันนานนับสิบปี ก็ต้องมีมรสุมใจพัดผ่านเข้ามาบ้าง ไหวหวั่น วูบวาบ แต่มันก็ผ่านไปได้ ส่วนหนึ่งต้องยกความดีให้ครูพี่พุดที่เป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่น้อง ทั้งหมดคืำอคำสารภาพจากหัวใจของน้องสายน้ำผึ้ง อนงค์นางที่ขอสารภาพบาปทางใจกับพี่พุดในวันอาสาฬหบูชา ทุกคำพูดคือความจริง ที่นี่เป็นวันนี้ค่ะ เช้าแล้ว เราจะพากันไปทำบุญที่วัด ตอนเที่ยงถึงบ่ายหกโมงเย็น น้องต้องเข้าเวรออกไปกับรถAmbulance งานการกุศลที่น้องได้ผ่านการอบรมครบ 120 ชั่วโมง ได้เป็น Emergency Medical Technician วันนี้จะได้ปฎิบัติจริงค่ะ ต้องทดลองงานอีกหกเดือน เงินไม่ได้แต่ใจได้บุญเหลือพรรณา ขอกำลังใจจากพี่ให้น้องผ่านไปได้ด้วยเถิดนะคะ ตอนกลางคืนจะไปเวียนเทียนที่วัด ส่งผลบุญให้พ่อ ให้ญาติพี่น้องที่เสียไปแล้ว ให้แม่ที่ยังมีชีวิตอยู่ ให้สามี ลูกสาวสองคน ให้ตัวเอง และเพื่อนร่วมโลกทุกคน โดยเฉพาะครูพี่พุดคนดีของน้อง ด้วยรักและศรัทธา น้องสายน้ำผึ้ง
7 กรกฎาคม 2552 17:08 น. - comment id 1011061
มาทักทายวันมงคลค่ะ พี่พุด
7 กรกฎาคม 2552 21:10 น. - comment id 1011215
น้องอนงค์นางที่รักยิ่ง พี่พุดอ่านคำน้องแล้วน้ำตาซึมค่ะ สายน้ำผึ้งหล่อหลอมให้ลูกศิษย์ทุกคน มีรักโอบเอื้อเมตตาแบ่งปัน และที่สำคัญคือ มีคุณธรรมประจำใจค่ะ พี่พุด..ชื่นใจปิติใจที่น้องกล้าหาญ ที่จะเรียนรู้ที่จะยอมรับความจริง และ สามารถที่จะก้าวผ่านพ้น ปัญหาที่ทุกคนต้องเผชิญ กับพายุใจ อย่างมีสติ อย่างที่เข้าใจโลกโศกสุขนี้อย่างถ่องแท้ เพราะ ไม่มีอะไรที่จะเหลือบ่ากว่าแรง และจำไว้นะคะ ไม่มีชีวิตใคร ผู้ใดสมบูรณ์แบบดอกค่ะ คนเราเกิดมา เพราะเรามีวิบากกรรมเก่าเสมือนเงา ตามมา หากเราทำความดีบำเพ็ญบารมีบุญ มีกุศลจิตคิดสร้างเพียงความดีความงาม กรรมที่จะส่งผลร้าย หมายเบียดเบียนเรา ก็คงตามมาไม่ทัน ฉะนั้น... น้องจึ่งแสนโชคดีนักแล้วค่ะ ที่ผ่านพ้นอุปสรรคในชีวิตรักมาได้ อย่างงดงาม พี่พุด... คิดว่าในโลกฝันสวรรค์บรรณพิภพนี้ ต้องตามรู้ให้ทันค่ะ ไม่ตกไปในบ่วงฝันอันคือ มายาลมมายาลวง พี่พุดคิดว่าคนเรา คบกันเพื่อปันไมตรีจะดีที่สุด และ พี่พุดมีความสุขค่ะน้องรัก เพิ่งกลับจากเวียนเทียนมา หัวใจจึงสว่างไสว ราวแก้วใสประภัสสรเลยค่ะ พี่พุดขอแสดงความยินดี ทั้งกับเรื่องงานและเรื่องชีวิต ที่ยอมรับกันและกันได้แล้วค่ะ ด้วยรักน้องมากมาย
8 กรกฎาคม 2552 01:23 น. - comment id 1011312
คุณพุดคะ สุดที่จะบรรยายเลยค่ะ ภาพอันงดงาม ดุจลงมาจากสรวงสวรรค์ บทกลอนอันเสนาะโสต ปรางได้เต็มอิ่มกับบ้านของคุณพุดค่ะ คนงามทั้งกายและใจนะคะ
8 กรกฎาคม 2552 10:09 น. - comment id 1011410
น้องฝน...ที่รัก น้อง...ปรางทองปรางทิพย์..ที่คิดถึง ขอบคุณนะคะ ที่มาร่วมบุญบารมีกับพี่พุดค่ะ เมื่อคืนพี่พุดไปเวียนเทียนมาค่ะ กับฝนปรอยสาย พุทธศาสนิกชนมากมายเลยนะคะ ที่มาร่วมกันถวายพุทธบูชา พี่พุดเตรียมโคมแก้วไป เพราะทุกปีที่วัดจะไม่มี แต่ปีนี้ปิติใจมากค่ะ ที่ทางวัดได้ดัดแปลงขวดพลาสติกขนาด หนึ่งลิตรมาทำเป็นดอกบัว มาเป็นโคมแก้วค่ะ กันเทียนหยดใส่หลังกัน พี่พุดรอฟังพระสวดมนต์ทำวัตร และ ตามท่านเวียนรอบโบสถ์คร่ำค่ะ งามมากค่ะ มาตรแม้นจะไม่มีจันทร์เพ็ญพูนดวง มาส่องสายแสงแสนอ่อนหวานนะคะ ใจพี่พุด ก็เบิกบาน ด้วยความรู้สึกงดงาม อย่างหาที่เปรียบมิได้แล้วค่ะ น้องรัก... ขอให้น้องทั้งสองมีแต่ความสุขเสมอไป ในดวงจิตนะคะ
8 กรกฎาคม 2552 19:15 น. - comment id 1011579
พี่พุด ครับ ผมต้อง ขอโทษด้วย ช่วงนี้ ไม่อาจเอาที่หนึ่งได้ ต้องช่วยกิจการ งานวัด น่ะครับ ไม่ค่อยมีเวลามาหน้ากลอนเท่าไร มะคืน ผมก็ปวดหัวเลยไม่ได้มา อ่านธรรมะดีๆ จากพี่สาวแสนดีคนนี้ ผมชอบ ภาพวาด ล่างสุดรูปผู้หญิงน่ะครับ นึกให้เห็นพี่พุด เป็นสุภาพสตรีไปด้วย ตอนนี้ ผมกำลัง คิดสองทาง ว่าจะคบใครสักคนดีหรือไม่ดี อีกใจ อยากคบ แต่อีกใจ ก็สงบ แบบเศร้าๆ นิดๆ บางทีก็ไม่อยากมีใครน่ะครับ วุ่นวายเหมือนกัน ไม่เป็นของตัวเองเท่าไร แต่อีกอย่าง ก็ยังไม่เจอคนที่ถูกใจ อิอิ จะว่าเจอก็เจอล่ะครับ แต่คนสวยๆ นิสัยดีๆๆ จริตงาม เขาก็ไม่ค่อยสนใจผมเท่าไร หรือไม่ก้มีคู่อยู่แล้ววว พรรษาปีนี้ เงียบเหงา สำหรับผม แต่ก็ไม่เหงาเกินไปหรอกครับ มีเพื่อนในบ้านกลอนดีๆ เยอะแยะ หลายคน รวมถึงมีพี่สาวที่แสนจะใจดีให้กำลังใจผมตลอด จริงๆ ผมก็อยากให้พี่มีความสุข สมหวังในชีวิตคู่ อยากให้พี่ มีภาพเจ้าสาวมาให้ผมดู แต่ปีนี้ ฝนตกหนักเลยครับ ไม่ได้เวียนเทียนกันเลย ทั้งๆที่เหล่าทหาร ค่ายเอกาฯ จ.พิษณุโลก ทุกหน่วยเหล่า มาร่วมเวียนเทียนที่วัด ในเวลา 17.00 น. แต่ก็ไม่ได้เวียนหรอกครับ เพียงแต่วางดอกไม้ ธูปเทียน ไว้ในที่เหมาะแก่การสักการะบูชา เท่านั้นครับ http://www.photoontour9.com/image/gallery/makabucha/32.jpg ขอฝาก 3 ภาพ ให้พี่พุดนะครับ รักแลเคารพ พี่สาวสวยงามแสนดีที่หนึ่งเสมอ
15 กรกฎาคม 2552 11:39 น. - comment id 1014683
บอกได้คำเดียวว่างดงามค่ะ