ฝากดอกไม้รายรอบเรือน..คล้องใจเจ้า.. ฟังเสียงฝนหล่นลาจากฟ้าหนาว ยินเสียงพราวหยาดวสันต์ระรินร่ำ หอมจำปีคลี่นวลท่ามฝนพรำ ไร้แสงจันทร์สิ้นแสงดาวหนาวนวลใจ คิดถึงเอยแสนคิดถึง ใครคนหนึ่งสุดขอบฟ้า ณ..หนไหน ดั่งนกน้อยพเนจรรอนแรมไกล พรากวิมานไพรวิมานดินถิ่นรวงรัง ฝากอ้อมรักอ้อมใจไปกอดเจ้า คลายเหน็บหนาวจากอกอุ่นกระซิบสั่ง กลับบ้านเราเสียทีได้หรือยัง คนอยู่หลังเฝ้ารอจนท้อใจ.. ฝากดอกไม้รายรอบเรือนคล้องใจเจ้า ฝากดวงดาวในคืนค่ำฟ้าไสว ฝากจันทราแทนค่าคำว่าภาคภูมิใจ ฝากดวงใจเคียงคุ้มขวัญนิรันดร...! ...................................... ฉัน...ตื่นขึ้นมา ด้วยเสียงสายฝนกระหน่ำ ที่ซ้ำซัดสาดหลังคากราว กราว และ... เสียงพายุ กรูเกรียว หวีดหวิว... เสียงกิ่งจำปี ที่ติดกับหน้าต่างห้องนอน เสียดสีหลังคาซัดส่ายใบ ไปมาตามแรงลมไหว กระแทกกระทั้น ราวกับเสียงของดนตรีเฮฟวี่... ฉัน...เหลือบดูนาฬิกา.. เป็นเวลาตีสามครึ่ง........ หอมหวานของจำปี และเล็บมือนางริมรั้ว แทรกมากับ..สายฝนฉ่ำฟ้า.... ฉัน..นอนนิ่งๆ..ดูฟ้าที่สลัวมัวหม่น ฉ่ำชื่น กับ.. หยาดละอองฝนพรมพรำที่กระทบหลังคา และหยาดลงมาเป็นสายพรายพลิ้ว.... ฤดูฝน...แล้วสินะ.... แต่จะมีต้นหนาวมาเยือนหรือไม่ ยังไม่แน่... เพราะ.... ฤดูกาล..เปลี่ยนแปรไปหมดสิ้นแล้ว บางครั้ง..ฤดูกาล.. ก็เปรียบได้ดั่ง"ใจคน"เรานี้ ที่มีแต่เร่าร้อน ทุรนทุราย.. ไร้หนาว ไร้ฝน ไร้โรแมนติก ไร้สิ้นแสงดาว ไร้ความอ่อนหวาน อ่อนไหว ภายในใจ... ที่ต้องสับสนหาเช้ากินค่ำกับยุคนี้ ที่เศรษฐกิจทรุด ผู้คนทั้งประเทศ แทบหยุดหายใจ หยุดความเจริญเติบโต... ฉันลงมา..ต้มน้ำชงกาแฟ..เปิดเพลงของ ฮอทเปบเปอร์ เริ่มด้วยเพลงนี้ที่มีชื่อว่า http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song112.html "หัวใจสลาย........." "ดั่งแก้วบางเค้าทุบทิ้งแตก ใจฉันแหลกเพราะน้ำมือเธอ ปวดอกช้ำ คร่ำครวญ พร่ำเพ้อ เคยไหมเธอจะเหลือบเหลียวมา คำทุกคำล้วนซ่อนหยามเหยียด ทั้งรังเกียจลดเลี้ยวระอา เทิดทูนเธอ ดั่งเจ้าชีวา ไยถึงฆ่าฉันลง คงเป็นสุข ได้สมดังใจ ลวงคนให้คลั่งไคล้เหมือนนกเพลินกรง ฆ่าฉันฆาตกรรมได้แสนบรรจง เกินดวงจิตพะวงไว้ใจ ดั่งเหมือนถูกทับไว้ใต้โลก น้ำตาตกทุกค่ำคืนวัน ทุกข์โทษใครให้คนขบขัน "ใจฉันมันง่ายเอง" ............................. เพลงแสนเศร้ารานร้าว บาดใจ คลอเคล้า ไปกับสายฝนและลมเย็นยามใกล้รุ่ง.. ลอยละล่อง. ฝากไปกับแสงดาว เคล้าแสงเดือนกับคืนฟ้าหม่น.. เพื่อ เป็นเพื่อนปลอบประโลมใจ ให้กับใจทุกดวงที่รานร้าวพอกัน.. เปิดประตูครัวออกไป.... ในท่ามกลางสายฝนหม่นมัว.. ฉันมองเห็น.. ร่มเงาไม้ในความมืด ราวเริงร่า ยินดี ที่ได้รับหยาดฝนพรำ ให้ดอกใบนั้นเขียวขจี สดสีงาม.. ในความหนักหน่วงของพายุ.. และ.. สายฝนนั้น.. คือความฉ่ำชื้น ให้ผืนดินและพืชพันธุ์ได้อุดม.. กลิ่นกาแฟ..หอมๆ ที่ฉันนำมารับประทาน กับกล้วยน้ำว้าผ่าเป็นสี่ซีก เป็นอาหารเช้ายามใกล้รุ่ง แบบไทยๆปนฝรั่ง ที่ไปกันไม่ค่อยได้ แต่ใจฉันชอบเสียอย่าง... เลยง่ายงามแบบกล้วยๆ ที่อุดมด้วยวิตามิน... จุดเทียนเจลหอมๆ... ในขวดโหลเล็กๆ ข้างในนั้น จัดเป็นโลกสีครามใต้ท้องทะเล "ที่ดูเร้นลับ น่าพิศวง.. ว่าเอามือเข้าไปจัดได้ยังไง... ทันทีที่..แสงเทียนสว่างวาบ "โลกสีน้ำเงินงามก็พลันวับแวม หวามไหว ล้อลม งามล้ำ มาตั้งล้อหลอกใจอยู่ตรงหน้าฉัน" แสงเทียนวับแวมนี้ บันดาลใจให้ฉันรจนา เรื่อง"ปลายฝน ต้นหนาว" ในยามค่ำคืนนี้..อย่างเงียบงาม... เมื่อวานนี้.... ฉัน...ได้ไปเด็ดดอกไม้ริมรั้ว บ้านร้าง มาอีกแล้ว เป็นพันธุ์ไม้ดอก แสนสวย จับใจ ฉันเสียเหลือเกิน ดอกไม้นั้นคือ. ชบาฮาวายดอกใหญ่เท่าจานหลากสี ดอกพู่ระหงสีแดง ใบนั้นมีฟอร์มเป็นรูปไข่ สีเขียวเป็นมัน กลีบดอกสีแดงหรือสีส้ม จะแผ่โค้งไปด้านหลัง ปลายกลีบเป็นแฉก และหยักเป็นริ้ว ดอกห้อยลงมาแสนอ่อนหวานและอ่อนโยน.... ฉัน..รวบรวม..ดอกไม้นานาพรรณ มาจัดในชามอ่างดินเผา อย่างทะนุถนอมเบามือ..... ดอกไม้ธรรมชาติ ธรรมดาๆ ที่ดูพื้นๆ กลับดูดีและแสนสวยแสนงาม เมื่อนำมารวมสลับสีกัน เข็มแดง เล็บมือนางที่มีสามสี ขาวนวล และ ชมพู โมก ชบาบานพราว เคล้าแซมใบโกศลเหลือบเขียว และ พู่ระหง..ห้อยย้อยดอกดวงพวงพู่..... ไม่ต้องอาศัยฝีมือมาก. แค่นำมาวางรวมกัน ก็กลายกลับเป็น "ดอกไม้ที่มีเสน่ห์งามล้ำแบบเรียบง่าย" อย่างไม่มีที่ติ.แสนชื่นตาชื่นใจ... ดีกว่า ดอกไม้ที่บรรจงจัดหรู ดูราวเสแสร้ง.. แม้จะอยู่ในแจกันแพงแสนแพง...ก็ตามที....... ฉันฝัน..เสมอมาว่า.... ชีวิตและบ้านหลังสุดท้ายของฉันนั้น ที่จะอยู่และฝังฝากกายใจ ไปจนตราบลมหายใจสุดท้ายแห่งชีวิต จะต้องอยู่ท่ามกลาง สวนดอกไม้เมืองร้อน เป็น... แบบสวนสวรรค์ที่เป็นดั่งสวนป่า มี.... ลั่นทม..และพันธุ์ไม้ดอกใบ ที่ไม่จำเป็นต้องทะนุถนอมมากมาย แต่ จะให้ดอกดกงามตลอดปี ที่ฉันนี้จะได้ดอมเด็ดดม และนำมาใช้ ในบ้านได้ทุกฤดูกาล... ส่วนตัวบ้านนั้น จะต้องเป็นกระท่อมทับแบบบาหลี ที่เรียบ โล่งกว้าง มีห้องน้ำเปิดรับแสงจันทร์โลมไล้ รับสายฝนโลมร่าง... ฉัน..มีที่ดิน ในฝันแสนสวยแล้วที่เป็นจริง... มีหินก้อนงาม มีที่ทางหลายไร่ และ ที่สำคัญ อยู่ใกล้ทะเล.. สิ่งที่รอ..ให้ฝันเป็นจริงนั้น ใกล้เข้ามาทุกขณะ ฉันแค่รอเวลาที่จะขอบ้าย บาย ร่ำลาจากชีวิตชาวกรุง(กรง).. ที่ราวปลาผิดน้ำสำหรับชีวิตฉัน... ถ้าฉัน..เป็นปลา..ก็เปรียบดังปลาทะเล ที่ต้องการแหวกว่าย ในท้องทะเลกว้างใหญ่สวยใสบริสุทธิ์.. มิใช่ ทะเลน้ำครำดำๆ ทุกยามหน้าฝนมาเยือนอย่างชาวกรุง(กรง)นี้ ที่"เทพ" พยายามสู้.. เพื่อให้ผู้คนที่นี่มีชีวิตที่ดีกว่า.. ให้สมดั่งคำว่า"กรุงเทพเมืองฟ้าอมร" ฝนซา ฟ้าเลิกหม่นแล้ว......... ฟ้าใกล้สว่าง.. มองออกไปฟ้ารำไรฉายแสง สีทอง... เหมือน ดั่งโลกและชีวิตนี้ ที่หมุนวน ไม่เคยหยุดยั้ง... บางครั้งยามทุกข์ทน ก็ดังมีพายุ ฝน พัดผ่านมา ท้าทายให้ลุกขึ้นสู้ ยามดี มีสุข ชีวิตก็ดู สดใส ไร้เมฆหมอก สงบงาม.. เหมือน..."ยามฟ้าหลังฝน" ที่มีสายรุ้งงาม หลากสีทอทาบฟ้า ฉายฉานประดับประดาดวงใจ ให้สดใส สดชื่น อย่างมีความหวัง กำลังใจ.. กับวันเวลา.... และคำว่าชีวิตคือการเริ่มต้นใหม่.... ในทุกคืนวัน..ไม่มีคำว่าสายเกิน.... ฤดูฝน..กับคนเมืองนั้น เคยมีแต่นอนไม่หลับ ไปกับความกังวลว่า"น้ำจะท่วม"มั้ยนะ แต่ด้วยพระบารมี พระมหากรุณาธิคุณ จากฟ้า.. จากน้ำหยาดพระทัย ของในหลวงของปวงชนชาวไทย ทำให้.. เรานอนตาหลับอย่างอบอุ่นเป็นสุขทุกค่ำคืน กับเสียงสายฝนและที่นอนนุ่มนวล.. ด้วยมั่นใจว่า.. น้ำจะไม่ท่วมอีกแล้ว ตั้งแต่มีโครงการพระราชดำริ"โครงการแก้มลิง" ที่เป็นพระปรีชาสามารถ ที่คาดการณ์ถูกต้อง และ เตรียมพร้อมที่จะรับมือและป้องกัน..อย่างทันท่วงที ฝนนี้... จึงทำให้เรามีชีวิตที่แสนดี.. จาก หยาดน้ำพระทัยที่ใสเย็นดั่งหยาดฝน... ที่รินรดให้..พสกนิกรไทยทุกคน และ ทำให้เราได้ตระหนักว่า.... ธรรมชาตินั้นจะโกรธเกรี้ยว ลงโทษ คนที่ไม่รู้ค่าของธรรมชาติสถานเดียวเท่านั้น อย่างสิ้นปรานีเพื่อฝากให้หลาบจำ ไม่มีป่า..เมื่อยามน้ำมา น้ำก็จะท่วมอย่างรุนแรง พาให้สูญเสียอย่างยับเยิน.... และ นี่คือบทเรียน. คือความพ่ายแพ้ ของมนุษย์ ที่บังอาจทำลายธรรมชาติ อันยิ่งใหญ่ และ ยังประโยชน์มหาศาลให้แก่มวลมนุษยชาติ... และ บางคราว..ต้นหนาวกลับไม่หนาว.. ก็เพราะน้ำมือมนุษย์อีกนั่นแหละ จะโทษใคร หากไม่ไตร่ตรองก่อนสายเกิน...... ฤดูกาลผ่านไป ไม่ว่า..กี่ฝน หนาว กี่เศร้า กี่สุข เรา... ผู้ยังเป็นมนุษย์ ก็ต้องคลุกเคล้าเวียนวน ผจญต่อสู้ จนกว่า.. โลกนี้จะ..แตกดับ ไม่ร้อนไม่หนาว หมดสิ้นทั้งฤดู..ฤดี.. ไปพร้อมกันตราบจนชั่วนิจนิรันดร์....! .............................................. พระพิรุณพร่างสายหมายสอนโศก ให้กับโลกเรียนรู้ฤดูฝัน ว่าเพลงฝนหล่นลาอาลัยวัน เสมือนขวัญรอใครพรากทุกฉากตอน หลับตาเฝ้าตามดูในรู้สึก เงียบล้ำลึกฟังเสียงวสันต์สอน แม้นดายเดียวลำพังนิรันดร ใจดวงอรชรเงียบงามยามสนธยา สายฝนเฝ้าครวญคร่ำร่ำแด่โลก วิปโยคสังเวยชนทุกข์ทั่วหล้า ด้วยดวงใจมืดดำจึงเหว่ว้า รินน้ำตาบูชาฟ้าแลดิน แม่พระธรณีกระซิบคำย้ำอย่าตรม อย่าระทมหมองไหม้ใช่ไร้สิ้น ตราบใดใจดวงทองยังครองหอมระร่ำริน นวลถวิลมั่นศรัทธารอฟ้างาม.!
19 มิถุนายน 2552 07:46 น. - comment id 1002005
สามีภรรยาคู่หนึ่ง แต่งงานกันไม่นาน สามีเขาต้องไปทำงานต่างจังหวัดนาน ๆ เป็นประจำ ภรรยาก็ต้องไปเยี่ยมชาวบ้านเขาเรียกว่า เอาปิ่นโตไปส่ง อิอิ แต่ บางครั้งก็ทำให้สามีผิดหวังบ้างเหมือนกัน ตอนหลังเขาจึง อิเมลล์มาบอกภรรยาก่อนจะไปทุกครั้งว่า ถ้ามา ไม่ต้องมา ถ้าไม่มาให้รีบมา อิอิ ก็ไม่ทราบว่าจะเกี่ยวกับ ฤดู ฤดีครวญ อย่างไรเหมือนกัน อิอิ
19 มิถุนายน 2552 08:40 น. - comment id 1002010
สวัสดีตอนเช้าค่ะพี่พุด หากเป็นตัวกบเอง ฝนตกหนักนะคะ ขอซุกตัวอยู่ในผ้าห่มและนอนหลับให้สบายค่ะ คงไม่ตื่นแน่ๆเลยค่ะ อ่านไปเรื่อยๆก็เพลินและนึกภาพตามไปด้วยนะคะ รู้สึกดีจัง มีชีวิตที่เรียบง่ายในสไตล์ของตัวเอง บรรยากาศแบบนี้สามารถเรียงร้อยถ้อย อักษรต่างๆ ออกมาได้มากมาย พูดถึงหลายๆ สิ่ง หลายๆ อย่างต่อเนื่องกันไปอย่างคล้องจองไม่มีสะดุดเลย ชื่นชมแนวคิดและงานเขียนแบบพี่พุดนะคะ ชอบมากๆค่ะ จะพยายามทำให้ได้แบบพี่บ้างนะคะ ขอให้มีความสุขทุกทุกวันค่ะ
19 มิถุนายน 2552 09:47 น. - comment id 1002036
พลีแด่... น้องกบ....... และ... ฤกษ์รัก รักฤกษ์..... ด้วยซาบซึ้งค่ะ ดอกปีบหวานบานเศร้าร้าวรานรัก ดงดอกรักขึ้นเป็นกอรอรู้เห็น ดอกลำดวนหวนหาทุกเช้าเย็น ดอกราตรีไม่เว้น..บานรอท่า.ทุกราตรี ดอกพุดซ้อนซ่อนใจใครกันหนอ ดอกเข็มกอแทงใจใครหน่ายหนี ดอกบานเช้าเย้าย้ำรอคนดี ดอกมะลิที่บ้านนี้ลอยรอเธอ ดอกจำปีกี่ปีแล้วลาเลือนลับ ดอกเทียนนับเป็นร้อยห้อยพ้อเพ้อ ดอกพุทธชาดสวาทหวังยังละเมอ ดอกรอเก้อบานวันนี้ที่รอรอ..
19 มิถุนายน 2552 09:58 น. - comment id 1002039
ทิวาสวัสดิ์ค่ะ .. แหะ แหะ ความจริงตอนเช้าเขียนอรุณสวัสดิ์ไปแล้ว เครื่องดัน hang ก่อนกด submit ค่ะ แต่ไม่เป็นไร สวัสดีกี่ครั้งก็ยังสวัสดีได้ค่ะ :) เมื่อเช้าอัลมิตราโม้ถึงเพลงของเดอะฮ็อตเปบเปอร์ หรือ เรียกขำ ๆ ว่า "กระดาษร้อนฉ่า" นักร้องสองคนนี้ อัลมิตราชอบนะ พี่สาวของอัลมิตรามีเทปของพวกเธอทุกชุดเลย เพลงที่บรรเลงโดยเครื่องสายแบบจีน ๆ ใส่เนื้อร้องไทย ซึ่งขณะนั้น หนังเกี่ยวกับจอมยุทธกำลังฮิต เช่นศึกสองนางพญา ๕๕๕ .. รุ่นโน้นนนนนน น่าทึ่งนะคะ ที่การคอรัสของพวกเธอสามารถทำให้หลายต่อหลายคนยังติดตรึงใจจนถึงทุกวันนี้ เมื่อเช้าอัลมิตราก็ไปค้นหาเพลงนี้จากเวปมาฟังค่ะ เปิดไปเปิดมา จนเครื่อง hang ไป ตอนนี้มีหนังใหม่เข้ามาน่าสนใจทีเดียวค่ะ หนังฝรั่งเกี่ยวกับหุ่นแปลง เป็นหนังโชว์เอฟเฟคกราฟฟิกเต็มที่ ทำให้อัลมิตรานึกสนใจอยากจะเรียนรู้ในด้านนี้แล้วสิ หนังเรื่องนี้ชื่อว่า ..Transformers: Revenge of the Fallen (อภิมหาสงครามแค้น) เป็นภาคสองนะคะ ภาคแรกเคยฉายไปแล้ว อัลมิตรายังติดใจกับบางประโยคในเรื่องค่ะ "No Sacrifice, No Victory" ถ้าไม่มีการเสียสละ ก็จะไร้ซึ่งชัยชนะ ได้เวลาไปประชุมแล้วค่ะ :) ต้องรีบไปแหล่วววว ขอให้คุณพุดพัดชามีความสุขมากมายนะคะ ไว้บ่าย ๆ ถ้าไม่ง่วงโงกเงก จะมาโม้ต่อค่ะ
19 มิถุนายน 2552 12:07 น. - comment id 1002097
แวะมาอ่านและชมภาพสวยๆค่ะ...
19 มิถุนายน 2552 12:31 น. - comment id 1002110
รับอรุณอันอุ่นไอโอบเอื้อ ด้วยหยาดน้ำค้างใจ จากคุณอิม และ น้องwhite roes นะคะ มีเวลาจะคุยยาวๆค่ะ ดวงดอกพุดซ้อนบานหวานอรชร..อยู่ตรงนี้.. http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song3313.html ................ ดวงดอกพุดซ้อนนั่งอรชรอยู่ตรงนี้ ฟัง..จำปีแก้วการะเวกเสกคำหวาน จำปีกล่าวเล่ากับแก้วดอกตระการ กระซิบผ่านดอกนิดน้อยลอยลมมา... เราโชคดีนะแก้วแววประภัสส์ เป็นร่มรักร่มใจไทรสาขา มีหมู่เพื่อนมวลแมกไม้กลิ่นนานา ให้นกกาผีเสื้อแมลงได้แฝงชม.. ให้อวลหอมเจ้าของผู้อ่อนหวาน ผลิกลีบบานแต้มใจให้หอมห่ม ฝากกลิ่นพรายร่ายไปตามสายลม ใครดอมดมดับร้ายหมายฝากดี.. ลั่นทมดอกน้อยลอยหน้าบอก *ไม่ช้ำชอกตามชื่อสมมุตินี้ เพียงเกิดมาให้หอมงามทุกธุลี ก็โชคดีนักแล้วนะแก้วใจ...* วาสนาสะพรั่งพราวรับหนาวลม พร่างผสมผสานความหวานใส *เป็นต้นไม้ให้โชคประดับใจ ก็ภูมิใจแล้วใช่ไหม..แม่ใบตอง* ใบตองอ่อนโยกใบไหวระยับ รับแดดจับพลิกพลิ้วจนงามผ่อง *ใช่..เราโชคดีเกิดมาเพื่อปากท้อง ให้คนลองคนลิ้มกล้วยช่วยโลกไง* ใกล้กันนั้นพญาสัตตบรรณยืนตระหง่าน แผ่ใบบานคล้ายพัดสะบัดไหว เป็น*พญา*ไม้มงคลแสนภูมิใจ ให้คนไทยได้ประโยชน์โลกยิ่งเย็น มะม่วงน้อยห้อยลูกวัยขบเผาะหัวเราะร่า *ใช่สินะเกิดเป็นฉันมันส์เห็นเห็น มีหลายรสหลายพันธุ์ทั้งหวานเย็น ให้เลือกเฟ้นเลือกชิมได้ลิ้มรส..* สักทองต้นงามในท่ามหนาว ฟังเรื่องราวพรรณไม้แสนสวยสด ต่างความดีพลีให้โลกยิ่งงามงด และถึงบทสุดท้ายได้ภูมิใจ.. พุดคลี่ยิ้มอิ่มใจในนิมิต จากดวงจิตอัญมณีที่วับไหว ได้สัจจะธรรมจากดอกไม้ในสวนใจ ดอกพุทธ..จึ่งบานไสวเหนือโลกย์..เหนือโศกแล้ว...! ....................... วันนี้มีความสุขที่สุด มือได้เปื้อนดิน จัดสวน..สวยของใจเรานะ เฟื่องฟ้าสดสีสดใสสดสวยสามสี.. แดง ส้มชมพูและขาวบานแฉล้มแกล้มใจเรา และตัดกับท้องฟ้าสว่างไสวสีน้ำเงินเข้ม..แสนงาม..กระจ่างใจ... โมก..สลัดใบกราวเลย เหลือดอกผลิติดก้านกอกิ่ง ขาวนวลพรายพราวหอมละมุน.. การะเวก..เราปล่อยให้เลื้อยพัน พ้นระแนงจนออกดอกดกละออนวลทองสยายพราวราวคนขี้เกียจ.. กล้วย..ต้นใหญ่มาก อวบอิ่มน้ำ ใบเขียวสดสบัดตามลมจนแตกลายรายริ้ว.. เราปลูกพ้อรอคนไกล ตั้งแต่แทงหน่อ ออกปลี ออกเครือ จนวันนี้... ลูกเหลืองสวยอุดมด้วยวิตามิน..ย้อยระย้า.. รอคนไกลกลับมาปลิดกิน.. หรือไม่ก็ให้เรานี้นำไปบวชชียามชีช้ำใจกินกันวันเศร้าไง ไหนจะมะลิซ้อน มะลิลาช้อนหน้าท้าแดดอ่อนอุ่นโลมเล้า ราวสาวบริสุทธิ์ไร้มือชายเชยชมมาดมดอมหอมนวล.. วาสนา ที่ออกดอกโค้งงอ คลอดิน รอวาสนารักให้สมหวังดั่งฝันดั่งใจนี้.. ที่เฝ้ารักเฝ้ารอ..มาแสนนาน.... กุหลาบ..แดง ..ดอกใหญ่.. เผยอคลี่กลีบหวานบานออกจากช่อตูมตั้ง สยายฝันรอรับหวานจากหยาดน้ำรัก จากใจมือนี้ที่รินรด..ค่อยๆหยดหยาด..ให้หยดค้างบนกลีบดอก.. ราวหยาดน้ำตาจากฟ้าจากใจขวัญ พุดสามสี..ม่วงโศกราน..บานแข่งกับหวานอมชมพู..ของชวนชม.. กุหลาบทะเลทรายที่ให้ดอกดกพราวราวไร้ใบทั้งปี ให้เรานี้ได้เด็ดดมมาลอยในแก้วสีฟ้าใส ตัดฉับกันกับหวานสวยของดวงดอก..ดอกดวงละมุน.... นั่นไงผีเสื้อ..บินว่อนร่อนถลามาเกาะกิ่งโมก.. แอบดูเห็นนกเขาคู มาเกาะขอบอ่างใหญ่ ที่เราใช้ลอยดอกไม้หวานยามมีงานปาร์ตี้บนระเบียงนี้.. ยังมีอีกมากมวลหมู่พฤกษาที่เรานี้หนา พยายามหามาทำให้บ้านเราราวอยู่ในไพรพฤกษ์พงดงไม้งาม ให้ใจหวามไหว ไว้เขียนเรื่องรักฝันในจินตนาการ.. ให้หวานหวามตามใจไฟฝันนี้ที่คงยากที่จะมอดดับ... ...................... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song3313.html โอ้ มาลี นี้ใครชมเล่น กลีบเจ้าเป็น รอยช้ำ ใครทำให้เจ้าเฉา หรือภุมรา แกล้งมาภิรมย์ชมเจ้า มองแล้วพายิ่งเศร้า เจ้าเคยพริ้งเพรา กลับมาอับเฉา เพราะมือ คนชม ใครอยากจะรัก ใครอยากจะดม ใครอยากจะชม นิยม ว่าเด่นดี เปรียบกานดา โสภางามผ่อง โอ้ รูปทองใจทราม มีนามว่ากากี สวยอรชร กลิ่นขจร หอมดังมาลี กรรมของนางเทวี เจ้างามโสภี แต่ใจบัดสี เพราะมีอารมณ์ ใจอยากจะรัก ใจอยากจะชม ใจกลับ ระทม เพราะลมสวาทเอย...
19 มิถุนายน 2552 12:34 น. - comment id 1002112
ฝนก็อยากอยู่ท่ามกลางธรรมชาติสวยๆแบบนี้นะคะในบั้นปลายของชีวิต....
19 มิถุนายน 2552 13:39 น. - comment id 1002160
19 มิถุนายน 2552 14:54 น. - comment id 1002226
แม่ดอกพุดไพร ...... สุดดวงใจในฤดีที่คิดถึง เฝ้าคนึงครวญอยู่มิรู้สร่าง ตราบพบพักตร์รักหวังยังไม่จาง หมายเคียงข้างคู่เขนยมิเคยคลาย ยังรอนแรมแกมเศร้าในเงาฟ้า ม่านน้ำตาในคืนจากหากมิหาย ท่ามแสงเดือนเลือนตานภาพราย มิรู้ร้ายหรือดีนี่อย่างไร ดอกพุดยังอบอวลเต็มสวนขวัญ กะพ้อจันทน์เล่าบานรอเต็มกอไหม พุทธรักษาข้างสระน้ำงามรำไร แล้วเสียงไก่คงยังขันเหมือนวันลา กาสะลองที่น้องรักคงจักหอม พวงพยอมย้อมใจขวัญทุกวันหนา เสียงนกน้อยยังคอยปลุกทุกทิวา และที่หน้าต่างฝันตะวันเยือน ยังคิดถึงคนดีที่ได้จาก ความคิดถึงยิ่งมากจากไพรเถื่อน หักใจเก็บปาดน้ำตาที่พร่าเลือน นับปีเดือนหมดภาระจะคืนเนาว์ รอพี่นะคนดีพี่นี่รู้ ว่าเจ้าอยู่คิดทุกวันกับจันทร์เหงา อยากส่งใจไหวว่างกลางฟ้าเทา บอกนงเยาว์ว่าคนไกลใกล้กลับคืน ด้วยรักและผูกพัน คนกุลา รังนกไฟ ในวสันต์
19 มิถุนายน 2552 16:39 น. - comment id 1002332
สวัสดีค่ะ พี่พุด ขอนั่ง นอน ที่บ้านสวยก่อนค่ะ
19 มิถุนายน 2552 21:10 น. - comment id 1002441
คิดถึง ยามถึงฤดู..ฤดีครวญ..
20 มิถุนายน 2552 09:40 น. - comment id 1002583
น่าอ่านคับ อ่านเพลินคับผม
20 มิถุนายน 2552 10:28 น. - comment id 1002608
ด้วยซาบซึ้งใจค่ะ น้องเฌอมาลย์...... แม่ดวงดอกไม้แสนหวาน สำหรับทุกดวงใจ ในเรือนไทยเรือนทองแห่งผองเราค่ะ คุณคนกุลา..... กวีซีไรท์ได้แน่หากเพียรเขียน เรื่องอื่นๆบ้างมิหลงทางอ้างว้างวกวน ในหนทางเสน่หา..อิอ น้องคณุกระดาษทราย.. ผู้เพียรหมายขัดเกลาลูกศิษย์ ค่ะ น้อง..ฝนผู้น่ารักเสมอต้นเสมอปลาย เสมือนฤดูฝันสวรรค์เยือนเลยค่ะ คุณก่อง...ว่างจากคิวจีบสาวๆ ถึงคราวมาแวะงีบเอาแรงที่เรือนโบราณ น้องวิทย์ ศิริ คับผม ย้วยยานยาวอย่างนี้ บางคนบอกไม่มีเวลาเสพสุนทรีย์ค่ะ สั้นๆหรือยาวๆ ก็สุดแต่ใจใครจะไขว่คว้า รักน้องทุกคนเสมอใจเสมอไปค่ะ จากใจ พี่พุดไพร
20 มิถุนายน 2552 16:06 น. - comment id 1002843
""" แวะมาเยี่ยมครับ..หมตาลายเลยครับ...อิอิ..ขยันจริง..
5 กรกฎาคม 2552 10:02 น. - comment id 1010109
ชอบกวีบทนี้ ช่างฝัน ช่างจินตนาการอ่อนหวานครับ (ภาพประกอบสวยมากครับ)