ร่ายรจนาเรื่องรักสักหนึ่งบท ฝากงามงดจากใจดวงอรชรหวาน ให้ทุกชีวาชีวิตได้เบิกบาน เปรียบประมาณโลกนี้มีเพียงเรา เธอรักฉันฉันรักเธอเพ้อเพ้อว่า ปรารถนารัดรึงใจจักไม่เหงา เป็นคู่ขวัญเคียงกันประดุจเงา ตราบนานเนานิรันดร์สวรรค์รอ ทุกจิตคิดมั่นหมายใช่เช่นนั้น พรายพราวจันทร์ดาวดวงร่วงสู่หอ โลกแสนหวานปานน้ำผึ้งยามพะนอ โอ้ละหนอไม่นานนักภักดิ์พรากลา ต่างลืมวันลืมชื่นในคืนแรก สู่ทางแยกแรมร้างเสน่หา น้ำผึ้งพิษหลงจารจิบพร่าชีวา เพียงพริบตามายาสุขทุกข์ไม่รู้จบทบทวี ..! รจนาพิเศษพิสุทธิ์ แด่น้องๆที่ยังจำต้องเรียนรู้ รักให้เป็นรักให้เย็นใสงามค่ะ นะคะ .. เพื่อข้ามพ้น ไม่เฝ้าค้นหาความสมบูรณ์แบบ จากผู้เป็นที่รักรักรัก กระซิบบอกน้องๆ ในงานรักรจนาแทบทุกเรื่องว่า หากจะรัก.. *ต้องลืมคำว่าเสียใจ* และ... หากรักใคร จงอย่าไปคาดหวัง อย่ารับเอาเพียงส่วนดีของเขาของเธอ ต้องรับได้ทั้งสิ้นทั้งหมดใน ชีวินชีวิตจิตวิญญาณเขาค่ะ และ อีกมากมายที่พี่พุดฝากไว้ในงาน ลองหาอ่านในหน้ากล่องเก็บรัก ของพี่พุดในหน้าส่วนตัวนะคะ ..................... และ.. แด่.. น้องsomebody ... น้องที่เข้าใจสิ่งที่พี่พุดเพียรสื่อเสมอมา น้องดอกบัว.... น้องที่งดงามเสมือนนามน้องเลยค่ะ น้องภาสุรีย์....คนนี้รักมากมายจอมซน จอมใจ น่ารักสดใส และแต่งกลอนได้ ตลกดี กลอนอักษรกลางอ่านไปหัวเราะไปค่ะ น้องDaRk_LoRd ... คนนี้มาแรงวันนี้แชทกับพี่พุดคีย์กันระวิงค่ะ ............................ และแน่นอนค่ะ น้องชายที่รักทุกๆสุภาพบุรุษ ที่ยังเพียรเสาะแสวงหาน้ำผึ้งหวาน ประมาณภู่ผึ้งที่ยังอยากคลึงเคล้าเกสรสุมาลี หมายปลอบประโลมค่ะ.... โชคดีในความรัก...ค่ะ... .............................. ...................................... คุณ..ผม..จักรยาน..ร้านกาแฟ. แล้วไย.. ดวงดอกกาสะลองต้องร้องไห้! http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song975.html ไม่อยากให้โลกนี้มีความรัก เรื่องรัก *โรแมนติกแสนเศร้ารานร้าวใจของผม* เริ่มต้นณ..ที่นี่...ร้านกาแฟเล็กๆ ริมถนนสายงามนามห้วยแก้ว ที่มีมหาวิทยาลัยแสนงาม นามไพเราะตามชื่อจังหวัดตั้งอยู่ คุณ.. เป็นเจ้าของร้านกาแฟหอมกรุ่นละมุนลิ้น ส่วนผม..ไม่ได้ชอบดื่มกาแฟ แต่กลับมาแอบชอบบรรยากาศ เพื่อมานั่งจินตนาการสร้างงานรักรจนาสวยๆ ที่ผมชอบระบาย เป็นงานคลายเครียดงานอดิเรก และ ด้วยอีกเหตุผล คือมี..คุณคนสวยรวยศิลปเจ้าของร้าน ที่งามราวดอกกาสะลอง ของเมืองเวียงพิงค์ดั่งเวียงสวรรค์ ที่ราวจะเพิ่งคลี่แย้มแต้มโลก ให้หวานระยับจับดวงจิตทุกดวงใจที่แวะมา แล้ว ไหนยังจะ ประดับร้าน ด้วยภาพศิลปล้านนาที่ผมแสนประทับใจ และ.. ที่แสนสวยงามในใจผมอย่างที่สุด จนหาคำใดมาเปรียบปานมิได้ ที่ยังมิหมดเพียงนั้น ยังมีฝันพิลาสพิไลให้ฝันไกลให้ฝันต่อ เพราะ ร้านคุณคนดีไม่เคยขาดดอกไม้สด ทุกทุกวัน จะงามงดด้วยดวงดอกไม้หวานๆตามฤดูกาล และ ผมเดาเอาว่าตามฤดีคุณ.. เจ้าของร้านคนสวยด้วยแน่ๆเลย เพราะ ดูจากการที่คุณแต่งตัวแบบสาวโบราณ ที่ยังนุ่งผ้าซิ่นตีนจกงามละมุน ห่มพาดสไบสวยคลุมพันทับเสื้อ และยังเหน็บดอกเอื้องสวยนวยนาด ราวสาวล้านนาย้อนยุคแสนงามอยู่เลย และ ไหนยังจะให้เชยชมชิดดวงดอกไม้ไทยไทย ที่ทำให้ร้านคุณทั้งสดชื่น ทั้งหวานหอมกรุ่นด้วยกลิ่นขมกาแฟ และ ในขณะเดียวกัน ก็หวานหอมพลันพร่างด้วยกลิ่นดอกไม้ไพร ดอกไม้ไทยนานาพันธุ์ ที่มีทั้ง มะลิ พุดซ้อน ลำดวน ลั่นทม แก้ว กุหลาบ กล้วยไม้ กาสะลอง ชมนาด เล็บมือนาง .. แต่ ทว่าที่ผมว่างามล้ำงามกว่างามงามเหนืองาม ใดก็คือคุณนั่นแหละ ที่ ผมคิดว่างามแบบชวนให้น่าหลงใหลเสน่หา ราวเอื้องแซะดอกขาวพราวพิสุทธิ์ จากยอดดอยดอกงาม เพราะ คุณมุ่นมวยผมที่ดูราวเส้นไหมนุ่มงามทุกวัน และไม่มีสักวันที่ผมแวะมาแล้ว จะไม่เห็นเรียวหน้ารูปไข่หวานละมุนของคุณ จะไม่ถูกล้อม ให้หอมกรุ่นน่าดอมดม ด้วยดวงดอกไม้ริมเรียวแก้ม หรือหวานหอมล้อมไว้ด้วยมาลัยรัดเกล้า ราวร้อยเป็น สร้อยเสน่หาบนมวยผมให้ชมชื่นใจ และในทุกวัน ผม..จะสั่งชาหวานๆธรรมชาติมาดื่ม และเช่นกัน ที่คุณไม่เคยถามราวกับจะจำได้อย่างขึ้นใจ ใหม่ๆคุณก็แค่แย้มยิ้ม ทักทาย พอนานวันนานเดือนเข้า คุณก็เริ่มให้ความเป็นกันเอง ที่ผมคิดแบบไม่เข้าข้างตัวเอง ว่าเพราะคุณกลัวจะเสียน้ำใจแขกขาประจำ ทั้งๆหน้าตาผมก็งั้นๆแหละ วันที่ผมเริ่มรู้สึกดี กับคุณ..มากกว่าตานอกที่เห็น คือวันที่ ผมแอบเห็นหยาดน้ำตาคุณพร่างรินไม่สิ้นสาย หลังจากที่ได้รับโทรศัพท์จากใครบางคน นาทีนั้น ใจดวงละมุนของผมเริ่มละเมียดมากพอ ให้ผมชักหวั่นไหว และเริ่มวาบหวามแบบไม่เข้าใจตัวเอง ที่จะอยากเดินเข้าไป โอบไหล่ประคองให้คุณซุกซบอกอุ่นผม เพื่อปลอบประโลมใจและเช็ดหยาดน้ำตาให้ เพราะ ผมเป็นโรคใจไหวอ่อน วาบหวานอ่อนโยน หากเห็นน้ำตาของผู้หญิงทั้งโลกที่โศกครวญ มิใช่แค่เพียงคุณดอกนะ เพราะ ผมเคยได้รับการอบรมมาจากคุณแม่ผม ที่เพียรสอน ให้ผมเป็นสุภาพบุรุษลูกผู้ชายเต็มตัว อย่าได้ไปทำให้ผู้หญิงคนใดหมองมัวมลทิน จนต้องรินน้ำตาหลั่งราวฟ้าร้องไห้ เพราะ นั่นคือ บาปกรรมราวทรยศกับเพศแม่ผู้อ่อนแอทางใจ หากไม่จำเป็น จงพยายามทะนุถนอม ใจดวงอ่อนหวานปานเรียวรุ้งยามรัก อย่าไปทำร้ายหาญหักใจหากไม่รักเธอจริง วันนั้น.. ผมเพียงแค่ได้แต่คิด และ แสนเสียดายดวงตางามซึ้ง ราวหยาดน้ำผึ้งเพชรที่ช้ำหมอง ที่ผมเห็นราวนางฟ้ากำลังร้องไห้ตรงหน้า หากไม่กล้าเอื้อนเอยคำใด นอกจาก รีบพาตัวไปนอนรำลึกคิดถึงคุณด้วยความสงสาร ในภาพม่านน้ำตาที่ช่างแสนน่าทะนุถนอมเสียไม่มี หลังจากนั้นไม่นาน คุณ..เริ่มแย้มบานหัวใจอีกคราและ ตั้งหน้าตั้งตาขยัน บริหารร้านงามของคุณอย่างแสนมีอัธยาศัย และ.. อย่างคนที่มีหัวใจเป็นผู้ให้.. แบบมิใช่แค่บริการแขกแบบธรรมดาๆ หากทว่าทุกแขกคือคนพิเศษ ที่ราวเพื่อนฝูงแวะมาเยี่ยมเยือน จนคุณมีขาประจำมากมาย ที่ได้ใช้ร้านแสนงามของคุณ มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ราวกับ ร้านกาแฟโบราณตามบ้านนอกทุกถิ่นที่ ที่คือสภากาแฟไว้แลกทุกข์สุขแลกทุกอย่าง ทั้งเรื่องส่วนตัวเรื่องงาน การบ้านการเมือง และ แม้นราวเรื่องมากมายในมุ้งของคนในหมู่บ้าน ที่ข่าวสารจะแพร่กระจายเร็ว..ราวลมพัด ก็มักจะมาจากร้านกาแฟ..กาแฟ..นี่แหละนะ ระหว่างเรา.. จากแขกรู้จักรู้ใจ..ทายทักธรรมดา และ คุณสามารถชงชายี่ห้อโปรดให้ผมได้อย่างแม่นยำ บางครั้ง ผมเริ่มสัมผัสไออุ่นจากถ้วยชาที่ละมุนอวลตรงหน้า และ อุ่นไอจากนัยน์เรียวตางามหวานซึ้ง ผ่านม่านฟ้าฝนเป็นใจ ในยามที่ผมเดียวดายอ้างว้าง และกับบางคืนฝนพรำ ที่ผมมักจะชอบพาตัวเองมานั่ง ดูสายฝนพร่างสายละออละออง ทอทอดหยาดย้อยเป็นดวงดอกแสนงาม ยามกระทบม่านกระจก จนพร่างพราย ราวดอกไม้เพชรพรหมแสนสวยเศร้าสิ้นดี และ สำหรับคนหนุ่มใจหนาว ไร้ร่างสาวไร้เนื้อสาวหนั่นแน่น มาคลุกเคล้าให้หนาวคลาย ให้หนาวทรวงมานานปี ที่เริ่มชักมีชีวีชินชา กำลังจะหันหน้าไปบวชยามบั้นปลาย เพราะคิดว่า สุดท้ายคงไม่มีเนื้อใครให้ผมเบียดหอมห่ม คงนอนหนาวลมจนตาย สู้ไปหอมห่มด้วยธรรมะจะดีกว่า หากหาคู่ใจคู่ธรรมคู่ทองไม่ได้ ก็จะยอมหนาวเพียงร่าง หากจะมิอ้างว้างจิต คิดคิดก็ดีกว่าเลือกทางโลกย์ หากไม่อยากโศกสุข หมุนเวียนไปอีกยาวนาน จนตราบชั่วกาลกัปป์ เพราะมาหลงในดงกรรมกามพงกิเลส คุณ..จะเริ่มแย้มยินดี และกุลีกุจอช่วยเก็บจักรยาน หากวันไหน ผมมาในยามค่ำคืนและรุ่มร่ามด้วยเสื้อฝน คุณ..ก็จะอุ่นชาร้อนๆ และเตรียมขนมปังปิ้งหอมๆไว้รอรับ คุณ..เริ่มรู้จักรู้ใจผมมากขึ้นๆทุกวัน และยิ่งนานวัน ผมราวกับจะมาฝากชีวิตไว้ที่ร้านคุณเสียครึ่งหนึ่ง นอกนั้นคือวิถีประจำงาน ที่ผม... ต้องพร่ำบ่นเพียรสอนลูกศิษย์ในมหาวิทยาลัย.. และ เตรียมเอกสารมากมายก่ายกอง เป็นพะเนินภูเขาเลากา น่าระกำว่า จะตกลงมาทับศรีษะตัวเองเข้าสักวันไม่ช้านาน หากต้องทำด้วยอุดมการณ์ และ จะได้มีงานสุจริตไว้เลี้ยงชีพชอบ แถมยังได้ประกอบกุศลจิตแสนดี.. หากชีวีได้สั่งสอนวิทยาการ แถมพยายามใส่ธรรมให้งามจิตไปพร้อมกัน เหมือนยิงนัดเดียวได้นกสองตัวแบบ สุภาษิตก่อนเก่าเขาว่าไว้ ที่ในยามนี้ผมขอคิดเองจะดีกว่า.. ให้เข้ากับสถานการณ์เลิกทำร้าย ว่า *ไม่ยิงนก หากยกมาเพาะเลี้ยงให้ได้ดีทั้งนกทั้งต้นไม้เลย* อันนี้เป็นสำนวนผมเอง ที่จดลิขสิทธิ์คำไว้แล้วห้ามใครนำไปเผยแพร่นะ กลับมา.. ยังเรื่องรักหวานฉ่ำ ที่ยังไม่ถึงบทเศร้าร้าวระกำช้ำระทมดีกว่านะ กับ ในคืนค่ำที่ฝนพรมพรำพร่างสายหนักจะดีกว่า คืนที่ ผมยังเหว่ว้าบ้าพอที่จะคว้าจักรยานปั่นลิ่วมาหาคุณ ด้วยร่างที่เปียกโชก จนคุณต้องคอยใช้ผ้าขนหนูผืนนุ่ม คอยเช็ดหัวหูผม และเนื้อตัวให้อย่างละมุนละไมละม่อม ราวกับผมเป็นเด็กชายตัวน้อยๆผู้ซุกซน หนีคุณหนีใครออกไปตากฝน ราวลูกนกตกน้ำ..หนาวสั่น และ สิ่งนี้คือความดี ที่โดนใจประทับใจ ที่ทำให้ผมแสนซาบซึ้งจนอยากรินน้ำตา เมื่อคิดถึง *คุณแม่ยอดดวงใจของผมที่พรากลา* ที่ทิ้งผมไปแสนนานแล้ว และ เคยทำแบบนี้กับผมมาก่อน อย่างแสนรักแสนทะนุถนอมพอกัน ราวกับหัตถาครองพิภพ จบด้วยรักเหมือนกันทั้งคู่เลยเชียว และ คืนนั้นร้านทั้งร้านแสนหนาว หากใจดวงดายเดียวกลับอบอุ่นอ่อนหวาน ปานดอกไม้กำลังค่อยๆคลี่แย้ม รับสายแสงแห่งหยาดหวาน จากพรายน้ำผึ้งพระจันทร์เสียมากกว่า ทั้งฟ้าฝนพิไรร่ำ เป็นใจราวสวรรค์ยิ่งใหญ่เมตตามากกรุณา ให้คุณมีเวลานั่งคุยกับผม อย่างเข้าใจในทุกเรื่องราว และ ราวกับคนที่รู้จักกันมานานแสนนาน คุณ.กระซิบบอกผม.. ว่าผม..นั้นมีบุคลิกบางอย่าง ที่ทำให้คุณอบอุ่นทุกครา สงสัยตรงนัยน์ตาสีสนิมเหล็กของผม ที่ทำให้คุณรู้สึกถึง ความมั่งคงลึกๆราวผู้ชายโบราณ ที่ยังมีงามนวลในเนื้อใจ ยังมีกระแสอบอุ่นไหลหลั่ง เป็นพลังบวกสู่ร่างใจคุณยามได้พบสบตา และ นาทีนั้น คุณพูดแทบมิทันสิ้นคำ แม่เหล็กแห่งรักภักดีที่รอเวลาดูดพลังเข้าหากัน ก็ค่อยๆเคลื่อนร่างอย่างช้าช้าเข้ามา หลอมละลายเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างดูดดื่ม และ ด้วยรอยจูบที่แสนหวานหอมสดชื่นชุ่มฉ่ำ ที่ค่อยๆทวีบดขยี้แรงขึ้นๆ ด้วยแรงรักแรงเสน่หา จนเลือดในกายฉีดพล่านราวมีไฟแผดเผา ให้ร่างใจแทบมอดละลาย กลายเป็นเนื้อเดียวกันมิทันนานนาที ผมพึมพำไม่เป็นภาษาส่ำศัพท์ ภาวนา ให้โลกหยุดหมุนสักเวลานาทีก็ยังดี ในยามที่อ้อมอกอุ่นผมนั้น ได้ทำหน้าที่ทลายปราการ แห่งความเหงาเศร้าดายเดียวเปลี่ยวเหงา ให้มลายหายวับไป เหลือก็เพียงพลังหวังหวานแห่งรัก ระหว่างเราสอง.. อย่างไม่มีปราการใดใดอีกเลยแล้ว และ ราวได้เพิ่ม..เติมความรักความฝัน อันคือขั้วบวกแห่งหยินหยางชายหญิง ที่จักสามารถสกดให้โลกทั้งใบเป็นของเราสอง อย่างงามสิ้นอย่างไม่มีคำว่าฉันเธอ..อีกต่อไป ให้โลกนี้ยังคงดำรง..คงหมุนไปหมุนไป ได้ด้วยไฟรักไฟปรารถนา หากดวงชีวามนุษย์ ยังมิพ้นวิบากเก่าวิบากกรรม ให้จำต้องชดใช้หนี้รัก และ ด้วยพลังแห่งความภักดีพลังที่จะสรรสร้างโลก ให้งามแสนงามหวานแสนหวาน ผ่านร่างรักสนิทเสน่หา และ ในยามนั้นทุกสิ่งในคลองตา ทุกความหวานหอมในร้าน ที่ผมเคยเล่าไว้ ไม่ว่าจะจากดวงดอกไม้ไทย หรือจากายงามภายนอกของคุณ ก็มิประมาณหวานหอมเทียบได้ ยามเราอยู่ในอ้อมกอดกันและกัน กับ คืนที่ฝนสั่งฟ้า ให้น้ำตาคุณหลั่งรินแทนด้วยซึ้งซ่านสุข ในปิติรักในอ้อมภักดิ์อ้อมใจผม ที่เพียรกระซิบพลี..ตลอดเวลา ยอดรัก ๆๆๆ นาทีหวานหอม.. ที่จะตราไว้จนตราบวันตาย และ นี่คือสิ่งที่โลกได้สอนบทเรียนให้ตามมา ให้ผมกำลังระรินหลั่งน้ำตาสังเวยไม่สิ้นสาย ในวันนี้ หลังจากคืนค่ำที่แสนดีผ่านมานาน จนผ่านงานพิธีมงคล ที่เราสองได้ตกลงปลงใจใช้ชีวิตรักร่วมกัน คือชีวิตช่วงที่งามกว่างาม จนผมมิอาจบรรยาย ได้ถึงหยาดน้ำผึ้งฝันพระจันทร์หวาน ทีเราได้ปันแบ่งจนโลกแล้งไร้ เหลือเพียง มองไปทางไหนมีแต่สีชมพูและสีรุ้งเรียว คนดี... แล้วทำไมพระเจ้า..ให้มาแล้วเรียกคืน ให้ผมสะอื้นหวนไห้อาลัยอาวรณ์ ราวจะมาสอนใจ ให้ซึ้งถึงคำที่ว่า*ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์* *การพลัดพรากจากสิ่งที่รักเป็นทุกข์ การประสบกับสิ่งที่ไม่รักก็เป็นทุกข์* และ อย่าให้ลืมล่วงประมาท ให้ทุกชีวิตได้รำลึกถึงความพลัดพรากจากลา ให้รู้คุณค่าของความรัก และ ยามมีชีวิตอยู่ ให้รู้จักใช้คุณค่าของเวลาอย่างคุ้มค่ารักทุกนาที ให้เพียรเพาะบ่มห่มหอมด้วยดอกธรรมในจิต ที่จะเป็นดั่งดวงแก้วนิรมิต ตามติดเราไปได้เพียงสิ่งเดียว ไม่เกี่ยวกับคนกับใครกับใจผู้ใดทั้งสิ้น เราต้องไป..เพียงลำพัง... กับพลังพร่างแห่งปิติเกษม ที่จงเพียรสร้างสะสมไว้เป็น.. *เสบียงบุญ*ก่อนคำว่าสายเกิน ที่ไม่รู้ว่านาทีไหน .. วันของใครของคนนั้นจะมาถึง วันนี้ที่ยังคงซึ่งมีชีวิตแสนสุขสดใส และ อีกนาทีถัดไปพญามัจจุราช ก็อาจไม่ปรานีเมื่อถึงวันที่ต้องไป ท่านจะมาทำหน้าที่อย่างซื่อตรง ไม่เลือกเศรษฐีผู้ดีมีจน..ทุกคนต้องไปที่เดียวกัน ดั่งค่ำคำมรณาณุสตินี้ที่ไม่เคยเข้าใครออกใคร ให้. .*เตรียมตัวเตรียมใจตายก่อนตาย..*ไว้ให้ทุกคน เหมือนอย่างผม..ในนาทีนี้ ที่วันเวลาแสนดีแสนงามแสนหวาน ได้พรากลาพาคุณไป ให้หัวใจผมมานั่งย้อนระกำย้ำระทมทับ แทบรำงับดับไม่ได้ เมื่อจู่ๆสายฟ้าฟาดลงบนกลางใจผม กับเสียงร่ำไห้ของใครบางคน ที่โทรมาบอกผมว่า. *คุณถูกรถชนและเสียชีวิตแล้ว* วันที่ ฟ้าสีโศกและโลกสีหวานของผมพรายพลัด ตกแตกกระจายหายวับไปแบบไม่มีชิ้นดี! แหลกธุลีไปต่อหน้าต่อตาผม! ให้หัวใจผมกระโจนเร็วกว่าร่างอย่างไม่คิดชีวิต ไปตามเส้นทาง ที่ร่างไม่มีชีวิตของคุณรอผมอยู่.... ให้หัวใจผมแทบไม่อยากอยู่เป็นผู้เป็นคน กับภาพอันแสนสะเทือนใจสะเทือนขวัญ ภาพที่ทำให้ผมต้องหลั่งรินน้ำตายิ่งกว่าฟ้าร้องไห้ อย่างไม่อายใครไม่อายฟ้าดิน! ภาพที่ผมจะไม่มีวันลืมสิ้น ที่ยังจดจำในรอยถวิล แม้นจะเป็นภาพสุดท้ายของคุณ ผู้เป็นที่รักนี้ และจักไม่มีวันลบเลือนหาย..! ภาพคุณกับเลือดสีแดงที่หลั่งรินไม่สิ้นสาย! ไปกับฝนหยาดสุดท้ายในฤดูฤดี กับจักรยาน ที่เราเคยซ้อนซบโอบกันไปในทุกที่ ที่ใครๆพากันกระซิบบอกว่า วันนี้คุณตั้งใจจะมารับผมกลับบ้าน หากทว่า.... คงเหลือเพียงร่างไร้จิตวิญญาณของผม กลับบ้านอย่างดายเดียวลำพัง..... ไม่มีทั้งร่างคุณ.. และ จักรยานที่รานแหลกรวมกันอย่างไม่มีชิ้นดี เหมือนกันกับหัวใจผมดวงนี้ ที่คงรานแยกแตกยับพอกัน ที่คงต้องใช้เวลาเกือบชั่วชีวิต เพื่อใช้ยาธรรมะมาน้อมนำมาเยียวยารักษาใจ ให้มีชีวิตอยู่ต่อไปเมื่อสิ้นไร้คุณนะคนดีนะดวงใจ... กับสายน้ำปิงที่ยังระรินไหล กับหวานหอมของเอื้องไพร กับกลิ่นกาสะลองแสนเศร้า เฝ้าครองใจมาในหนาวคำนึง กับ.. เสียงสะล้อ ซอ ซึง ที่พาให้ผมยิ่งถูกตรึง ราวถูกพันธนาการด้วยรัก..นี้ที่หนีไม่พ้น! .......................... http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song975.html ไม่อยากให้โลกนี้มีความรัก อัน แสงสูรย์ ส่องสว่าง แต่ กลางวัน อัน แสงจันทร์ ส่องประจำ ยามราตรี อัน ความรัก ร้อนเร่า เผา ฤดี ส่อง ชีวี ทุกโมงยาม ประจำใจ มีรักแล้ว ไม่คลาดแคล้ว ต้องตรมฤทัย เหมือน แบกโลก ทั้งโลกไว้ ให้โศกหนัก ไม่อยากให้ โลกนี้ มีความรัก แต่ฉัน สมัคร แบกรักไว้ ไม่หนักเลย มีรักแล้ว ไม่คลาดแคล้ว ต้องตรมฤทัย เหมือน แบกโลก ทั้งโลกไว้ ให้โศกหนัก ไม่อยากให้ โลกนี้ มีความรัก แต่ฉัน สมัคร แบกรักไว้ ไม่หนักเลย...
28 พฤษภาคม 2552 20:29 น. - comment id 991506
เธอรักฉันฉันรักเธอเฝ้าเพ้อหา ทุกเวลานานทีที่ห่างหาย แต่พอนานวันเข้าเฝ้ากลับกลาย สิ่งที่เหลือทักทายคือน้ำตา ขอให้ทุกคนพบความสุขในความรัก พบรักที่สมหวัง จะได้ไม่ต้องเหมือนกลอนของน้องนะค่ะ คิดถึงพี่พุดนะค่ะ
28 พฤษภาคม 2552 20:38 น. - comment id 991514
อลังการตระการตาอีกแล้วครับท่าน พี่สาวเรามาเที่ยวนี้ออกแนวหวานแหววแฮะ มาเที่ยวนี้รูปได้ใจมั่กๆ รูปคุณพี่เองเลยหรือเปล่าคะที่อยู่ในชุดเจ้าสาวอ่ะ 555+ ล้อเล่นนะคะ แวะมาอ่านและชมความตระการตาเพื่อนเป็นบุญตาค่ะ วี้ด......วิ้ว
29 พฤษภาคม 2552 09:48 น. - comment id 991566
พี่พุด สุดบรรยายจริงๆค่ะ รักและรักมาก สวยงามค่ะ
28 พฤษภาคม 2552 22:52 น. - comment id 991608
อ่านแล้วเคลิ้มไปเลยค่ะ....
29 พฤษภาคม 2552 10:52 น. - comment id 991718
น้องผู้หญิงไร้เงา หายไปไหนมาค่ะ ........................ เธอรักฉันฉันรักเธอเฝ้าเพ้อหา ทุกเวลานานทีที่ห่างหาย แต่พอนานวันเข้าเฝ้ากลับกลาย สิ่งที่เหลือทักทายคือน้ำตา .......................... ให้น้ำตาล้างดวงใจจนใสปิ๊ง ทิ้งทุกสิ่งทุกข์รักเริ่มต้นใหม่ อรุณรุ่งยังมาเยือนเหมือนเพื่อนใจ หาเอาใหม่อาจจะดีกว่าว่าไหมเออ... เอางี้ดีกว่า อย่าร้องเลยน้ำตาจะท่วมจอ ไทยโพมแล้วอิอิ รักมากมาย พี่พุด
29 พฤษภาคม 2552 10:56 น. - comment id 991725
น้องเอิง ง่ายกว่าDaRk_LoRdค่ะ ภาพที่ถามมาว่าใช่พี่พุดในชุดเจ้าสาวรึปล่าว อะนะ แน่นอนค่ะที่เลือกมาเพราะใช่เลย แต่... ใช่ในฝันไง อิอิ
29 พฤษภาคม 2552 11:00 น. - comment id 991731
น้องกุหลาบขาว งานพี่พุดอ่านได้ครึ่งเดียวก็เคลิ้ม แล้วค่ะเคลิ้มจริงๆ ระวังศรีษะโขกจอนะ ประมาณว่าซาบซึ้งจนเข้าภวังค์ไวเลย รักค่ะ พี่พุด
29 พฤษภาคม 2552 11:09 น. - comment id 991739
น้องแจ้น.... ได้ไงคะ เด๋วหาภาพมาแด่น้องนะคะ คลาสสิคดีค่ะ พี่พุดตั้งชื่อภาพให้ว่า *วันรอ*
29 พฤษภาคม 2552 11:20 น. - comment id 991751
สวัสดีค่ะ ขอบคุณในความมีน้ำใจของพี่พุดมากๆเลยนะคะ ขอบคุณสิ่งดีดีที่พี่พุดนำมาสอนผ่านตัวอักษรที่งดงาม พร้อมภาพที่น่าประทับใจทุกเนื้อหา ทุกถ้อยคำ ทุกความหมาย ทุกภาพ รับไว้ด้วยความซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่ง ในวันนี้ อยากบอกว่า ความเจ็บปวด ที่เคยเกิดขึ้นเวลาที่คิดถึงหรือนึกถึงเรื่อง ที่ตัวเองเคยได้เจอ ปกติที่ผ่านมาเวลาที่คิดถึงเรื่องเหล่านั้น จะรู้สึกเจ็บปวดแปล๊บที่อกหรือลิ้นปี่ ก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ แต่ในวันนี้ ณ ตอนที่เขียนเม้นท์นี้ มีเพียงน้ำตาค่ะ หักหามใจให้คิดถึง เรื่องเก่าๆ ที่เคยเจอมาไม่ได้สักเท่าไหร่ แต่พอรู้ตัวก็หยุดความคิดนั้นไว้ค่ะ แปลว่าเราได้หลุดจากสมาธิไปแล้ว เข้า-ออกอย่างนี้เสมอเลยคะ สิ่งที่ต้องทบทวน ข้อคิดเตือนใจต่างๆ ที่ได้อ่านและรับรู้ จากบทกลอนและบทความของพี่พุด ทุกบทมีคุณค่าทางจิตใจอยู่ตลอดเวลาค่ะ ในเวลานี้ ไม่ได้ทำเพื่อใครอีกแล้ว นอกจากทำเพื่อพ่อแม่และน้องค่ะ ตอนนี้รักตัวเอง ดูแลตัวเอง ทำตัวเองให้มีความสุข เพื่อให้พ่อแม่และน้องไม่ต้องเป็นกังวลใจด้วย น้ำตาที่มีในวันนี้ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไรนะคะ แต่.. มันไม่เจ็บปวดอีกแล้ว เหลือเพียงความสงสัย ที่ไม่ต้องการคำตอบค่ะ และคิดว่าตัวเองจะต้องดีขึ้นในทุกทุกวันค่ะ ขอบคุณพี่พุด พี่สาวที่แสนดีมากๆ ตัวกบเองไม่มีพี่สาว ไม่มีพี่ชาย ต้องทำตัวเป็นพี่ที่ดีและเข้มแข็ง สำหรับน้องๆ และเป็นลูกที่ดีที่เข้มแข็ง ของพ่อกับแม่ แต่บางครั้งก็อ่อนแอค่ะพี่พุด ชีวิตที่ผ่านมาช่วงสั้นๆ ช่วงหนึ่ง ได้ทำให้เกิดความทุกข์มาถึงวันนี้ จากที่เคยมีความสุขและสงบ ต้องมีเรื่องกังวลใจค่ะ แต่ก็พยายามที่จะเข้มแข็ง และคิดว่าทำได้แน่นอนค่ะ ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่พี่พุดมีให้นะคะ
29 พฤษภาคม 2552 11:24 น. - comment id 991754
มาอ่านงานสวยๆให้ข้อคิดดีๆ จากพี่สาว เจ้าค่ะ
29 พฤษภาคม 2552 11:36 น. - comment id 991771
ว๊าววววงานนี้มีหวานเจือจานสิ่งดีดีค่ะพี่พุด
29 พฤษภาคม 2552 12:01 น. - comment id 991790
. ภาสุรีย์ มานั่งอ่าน วารสารรัก น้องก็ชักอยากมีรักสักครั้งบ้าง อยากจะเปิดหัวใจที่บอบบาง เฝ้านั่งฟังพี่พุดวอนสอนเรื่องรัก ให้สองจิตคิดสับสนกลัวจนแต้ม รักแรกแย้มเหมือนดอกไม้ให้หวานนัก กลัวแต่มวลภู่ผึ้งตอมย่อมมีมาก เวียนมารักแล้วก็หน่ายย้ายก่ายกอ พี่พุดขา หาตำรารัก ที่หนักมั่น รักมิปันผันใจให้ร้างหอ รักที่หมั่น เอาใจเฝ้า พะเน้าพะนอ รักที่ขอยอมถวายตายแทนกัน มีรักแบบนี้ไหมคะ พี่พุดของน้อง .
29 พฤษภาคม 2552 12:03 น. - comment id 991792
แวะมาตักเติมเรื่องรัก..จากพี่สาวที่แสนดีค่ะ
29 พฤษภาคม 2552 13:44 น. - comment id 991825
น้องเอิงมารอแล้วค่ะคุณพี่
29 พฤษภาคม 2552 20:58 น. - comment id 992091
น้ำผึ้งพิษหลงจารจิบพร่าชีวา เพียงพริบตามายาสุขทุกข์ไม่รู้จบทบทวี .....ชอบจังครับท่อนนี้
29 พฤษภาคม 2552 21:50 น. - comment id 992190
เห้นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ การจะรักใครสักคน ต้องรักเขาในทุกๆส่วน ต้องยอมรับในส่วนไม่ดีของเขาได้ ไม่งั้น.... รักก็ไม่ยืนยาวแน่นอน เผลอความเจ็บจะมากกว่าความสุขเสียอีกนะเนี่ย
30 พฤษภาคม 2552 07:28 น. - comment id 992322
งดงามมากครับ