ทะเลสาบทอง...ในปองขวัญ...!

พุด


รักชีวิตเรียบง่ายงามสงบ
เพียรค้นพบอัญมณีใจดวงใสหวาน
ทิ้งทุกข์สุขมากมายเรื่องร้าวราน
ทิวาวารแค่อดีตฝันลืมวันวน
ลมหายใจนาทีนี้ที่จริงแท้
ธรรมชาติให้งามแน่ทุกแห่งหน
ใต้ร่มฟ้าเมตตาบันดาลดล
ให้ผองชนซึ้งค่ากรุณาใจ
จึ่งพบสุขในทุกที่ธุลีหล้า
ทุกทิวาในราตรีดาวไสว
ในเรียวรุ้งแสงตะวันพาฝันไกล
ในละไมแห่งโลกฝันสวรรค์รจนา
ได้ระบายรักถักร้อยเป็นสร้อยศรี
ดั่งมณีคล้องใจงามเลอค่า
ภาษาธรรมภาษาทองคล้องวิญญาญ์
ด้วยศรัทธาอักษราขวัญนิรันดร....!
........................................

ทะเลสาบทอง...ในปองขวัญ...!

จำได้ไหม..ดวงใจ
ทะเลสาบแห่งนี้ที่คุณเคยบอกว่า
คล้ายกับเรื่อง*บ้านเล็กในป่าใหญ่* 
ของลอร่าอิงกัลส์ ไวเดอร์


ที่คุณเคยอ่านมาตั้งแต่เด็ก
ภาพฝันจึงตามมาในจินตนาการ
ถึงภาพป่าใหญ่ไพรกว้าง..
ทุ่งกว้างด้วยดงดอกหญ้า
กับตะวันสีทองอ่อนอุ่นอ่อนหวาน
ละลานตาเต็มไปด้วย
ดวงดอกไม้ป่าบานสะพรั่ง
ป่าที่ยังอุดม 
ด้วยสัตว์ป่านานา หมี เสือ สิงโต


และ
ชนชาวอินเดียนแดง
ที่กำลังพยายามปกป้องแผ่นดิน
ที่ถูกคนขาวที่เจริญกว่า
เข้ามาจับจองแย่งชิง
หนังสือชุดนี้มีหลายเล่ม
ที่สะท้อนวิถีชีวิตคนอเมริกัน
ที่เพิ่งจะอพยพบุกเบิก
และเริ่มสร้างบ้านสร้างเมือง
คุณผู้ซึ่งหลงรักวิถีไพร 
จึงอ่านซ้ำไปซ้ำมาแบบไม่รู้เบื่อ


ทุกกระท่อมที่ชาส์ล เลือกและสร้างเองนั้น
ช่างงามง่ายไร้มายา
และภาพที่แคโรไลน์ภรรยา
ทำกับข้าวภายในครัวกระท่อม
ให้หอมอวลกรุ่นน่ากินในคำนึง..


ดวงใจ
นวนิยายเรื่องจริงนี้ เ
ป็นแรงฝันบันดาลใจ
ให้คุณ บอกผมว่า 
ให้มาสร้างกระท่อมนะที่ตรงนี้
ที่เคียงทะเลสาบสีเงิน
ยามเราบุกบั่นป่าเข้ามา
และพบ ที่ตรงนี้ที่เป็นบึงกว้าง
เกิดจากการขุดแร่ทำเหมือง..
และถูกปล่อยทิ้งร้างไว้
ให้งามราวทะเลสาบผืนใหญ่
ราวผืนแพรไหมสีเงินงาม
ที่กำลังสะท้อนพร่างวะวิบวับ
รับพรายแดดอ่อนละออ
ที่คุณถึงกับอุทานดีใจเมื่อมาเห็น


ฟ้าสีครามงามเข้ม..ใสกระจ่าง..
สดสว่างไสว..สุดตา
ตัดฉับ
กับผืนทะเลสาบสีเงิน
ระยิบตาตรงหน้าระยับใจ..
ประดุจสวรรค์สรวง
อากาศหอมสดชื่นบริสุทธิ์
กระแสลมแรง..จนแล้งไร้ต้นไม้
มีเพียงร่ายระบำของดงดอกหญ้า
ไหวเอนรับรินร่ำพรายแสงรอนรอน
ละอออ่อนอุ่นยามค่ำย่ำสนธยา


ดวงใจ..
ยามนั้นคุณบอกผมให้หันหลังให้
แล้วถอดเสื้อออกเพื่อกระโดดลงไป
นะกลางสายธาร
อย่างเริงร่าราวปลาแหวกว่ายในสายชล


คุณ..ว่ายน้ำเก่ง
ราวเงือกสาว
และ
ยิ่งดูราวจะยิ่งเหมือน
เมื่อคุณนอนลอยตัว
เหนือทะเลสาบสีเงินนั้น
และพลันแผ่สยายเส้นผมงาม
คล้ายสาหร่ายลอยเป็นแพ 
ล้อมรอบวงหน้าเรียวละมุน


ร่างงามคุณดูโดดเด่น
ในท่าที่คุณนอนหลับตาพริ้ม
ลอยตัวเหนือผืนน้ำ
และ
กระทบกับ
สายแสงสุริยาที่กำลังจะลาลับฟ้า
จนพาให้ร่างคุณนั้น
งามจรัสเรืองแสง
คล้ายนางไพรนางไม้หนีมาว่ายวน
เริงร่าในท่ามกลางป่าไพร
ในทะเลสาบสีเงิน 


กับดวงดอกไม้ป่า
ที่กำลังส่งกลิ่นสะพรั่งรินรายรอบ
ให้ผมแอบชำเลืองดูคุณ
และแทบอยากให้โลกหยุดหมุน
ได้แต่นอนเอนอิงริมตลิ่ง
แล้วเฝ้าวนเวียนสายตา
ไม่ไกลไปจากร่างคุณ


จำได้ไหม..
ดวงใจ..ยามที่คุณแกล้งลากผมลงมา
แล้วเราสองต่างพากันโอบตระกองกอด
ในอ้อมอกอ้อมฝันของสายน้ำ


ที่พลันอุ่นอิ่มไปกับนิ่มเนื้อนวลหนั่นแน่น
ที่เบียดร่างผมแนบแน่นด้วยแรงรัก
จนทำให้หัวใจผมกระเจิง
ด้วยมนต์เสน่หา
และ..
จำต้องจูบประทับรับขวัญบดขยี้
แทบให้ร่างเราสองนี้
กลายเป็นหนึ่งเดียวกัน


ดวงใจ
มาตรแม้นชีวิตผม..ในวันนี้
มีแต่ความเงียบเหงาเปล่าร้าง
เพราะไร้คุณเคียง
หากชีวีผมก็แสนสุขสงบงาม
กับทุกโมงยามณ.ที่แห่งนี้
ที่ซึ่ง
ราวอาณาจักรไพรริมทะเลสาบสีเงิน..ลำพัง


ผม..จะพาตัวเองไปนอนนิ่ง
ฟังเสียงดนตรีจากทุ่งหญ้า 
ทุ่งแห่งความฝัน
ฟังดนตรีไพรร่ายมนตรา
บรรเลงบทเพลงธรรมชาติ
อันโอบเอื้อพึ่งพิง


ให้ผมเฝ้ามองดู
ฟ้าเล่นแสงสีราวเวทีธรรมชาติ
ดูเมฆแล้ววาดเป็นภาพงามตามแต่ใจนึก
ดูแมกไม้ไพรพฤกษ์ฝูงสกุณา
ที่พากันผกโผผินบินร่อนมาโฉบเหยื่อ


เฝ้าดูฟ้าที่งามระเรื่อ
เจือสีชมพูอมส้ม สวยสดเศร้า
กับความเหงางามในใจ 
ที่ช่างเป็นความรู้สึกยิ่งใหญ่
ราวเราแค่เศษเสี้ยวธุลี 
ที่มาแฝงร่างผสานผสมห่มห่อด้วย
ความงาม อันยากยิ่งจะพรรณนา 
นอกเสียจาก
ผู้รักวิถีไพรดิบเดิมเพียงนั้นถึงจะเข้าใจ
ยามที่เราถอดใจถอดจิต
ราวสนิทเป็นหนึ่งเดียวกับทุกสรรพสิ่ง


ดวงใจ..
ในยามราตรี
ผมจะก่อกองไฟริมกระท่อม
แล้วนั่งจิบกาแฟบนขอนไม้
หาอาหารง่ายๆมานั่งรับประทาน
กับเจ้าสุนัขเพื่อนยาก


ยามนั้นผมจะได้ยินเสียงสายน้ำ
ในทะเลสาบครวญคร่ำ
ระรินราวร่ำไห้อย่างดายเดียว
เสมือน
เพื่อนยากผู้รับรู้ความเปลี่ยวเหงาใจ
ยามผมไม่มีคุณ..


ผมจะนอนหนุนแขน
ฟังเสียงฟืนปะทุ
และ
ในอ้อมฟ้าอ้อมฝัน
เฝ้ามองดูดาวประจำเมือง ประจำใจ
ที่พราวพร่างสุกใสนับพันดวง
ดาวใจที่คุณเคยฝากไว้ให้
ส่องนำทางชีวิตจิตวิญญาญ์ผม
ยามอ่อนล้าท้อแท้แพ้พ่ายไร้สิ้นกำลังใจ
ให้น้ำตาลูกผู้ชายชาติไพร
ซืมซึ้งในเรียวตา
ด้วยเหว่ว้าดายเดียวสุดทน


และ
ดวงใจ
ทุกอุทัยโลกหมุน 
ผมพึงใจที่อาศัย
ริมกระท่อมทะเลสาบสีเงิน
อันงามเงียบนี้ลำพัง..
กับ
ยามค่ำที่ผมได้รจนางานงามอันเลอล้ำค่า
พลีบรรณาการให้แด่โลกบรรณพิภพ
ที่ยิ่งดวงชีวีผมพบความงามเงียบเท่าใด 
งานงามของผม
ก็ยิ่งแสนงามยิ่งใหญ่พอกันเพียงนั้น


 ผมมีเวลา ทำงานเพื่อสังคม 
ในฐานะเจ้าหน้าที่ป่าไม้
ผู้รักษาอุทยานและป่าทุกผืนในประเทศนี้
ให้ยาวยืนไปจนถึงลูกหลาน 


เป็นงานงามที่ราวปิดทองหลังพระ
เหมือนพ่อพระในดวงใจของผม
ที่เคยเททุ่มทำงานฝากอุดมการณ์
อุดมคติไว้ให้ชนชาวไทย
ทุกดวงใจ
ได้หันมารับฟังแม้นต้องแลกกับชีวิต
คุณ..สืบ นาคะเสถียร ผู้เพียรพยายาม 


แม้นถึงกระทั่งยอมสังเวยชีวิตเพื่อ
เพรียกเรียกร้องสามัญสำนึก
ให้สังคมหันมาสำนึกรำลึกรู้ค่ารักษ์ป่าไพร


ที่ดวงใจ..คุณคงรู้ว่า
หากไร้ป่าแล้วไซร้ 
เราก็เท่ากับรอวันตาย 
กับภัยพิบัติที่นับวัน
จะมาฝากพิโรธสอนสั่งให้เราสำนึกรู้
ว่าคนเรานี้
จะอยู่ดีมีสุขได้อย่างไรไฉนเล่า
หากไร้ซึ่งเงาแห่งร่มไม้ได้ดูดซับน้ำไว้
ให้โลกได้สงบงามอย่างพึ่งพาพึงพิง


ทุกสรรพสิ่งเป็นวัฎจักร
ที่โลกสรรสร้างมาให้อย่างลงตัว
มีฟ้า มีดิน มีน้ำ ลมไฟ 
มีดวงใจที่ใสงาม ตั้งแต่เริ่มเกิด
หากเรามองเมิน
เพียงเพลินผลาญทำลาย
ทุกสิ่งที่ธรรมชาติ
ให้มาอย่างงามง่ายแสนงาม
ให้หลงละเมอหยาบหยามต่อเติมเพิ่มความทุกข์
รุกล้ำก้ำเกินในทุกสิ่ง แบบโง่เขลาเบาปัญญา


แม้นกระทั่งดวงจิตอันกระจ่าง
ราวแก้วใสภายในตัวเราเอง
ที่พระเจ้าให้มาอย่างบริสุทธิ์ใส
หากเรานั้นหาได้เฉลียวใจไม่
พากันมาเติมตัวทุกข์สุข
ในโลกวัตถุไม่รู้หยุดรู้พอที่ไม่จีรัง..


ให้หุ้มห่อพอกไว้ยิ่งหนานับวัน
จนยากจะลอกเปลือกออกพบแก่นกระพี้
ที่แสนงามแสนดี
คือจิตกระจ่างงามพราวราวดวงแก้ววิเศษ


ดวงใจ...
ผมก็แค่ธุลีในโลกอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้
ที่พัดผ่านมาคละเคล้าไป
ในดงมนุษย์อันมากมีมากมายนี้


หากแม้นเปรียบชีวีแค่ธุลีนี้
ก็ขอแค่ได้มาพลีฝากดีฝากงาม
ก่อนวันจะสิ้นสายแสงแห่งดวงสุริยาใจ


ไม่เป็นธุลีใจที่หมองหม่นปนเปื้อนมลทิน
หากขอเลือกเป็นธุลีดิน
ที่งดงามอุดม 
รอเพียรเพาะบ่มให้ทุกต้นกล้าแห่งรักได้หยัดยืน


ให้งานรักรจนา
ได้พาจิตมนุษย์ไสวพร่างกระจ่างจิตไสวชูช่อ
ราวรอรับพรายแสงตะวัน
อันหมุนวนมาสอนบทเรียนใจในทุกวันให้รู้คุณค่า
ว่าทุกดวงชีวา
มีโอกาสเริมต้นชีวิตใหม่ได้เสมอ


และ
ราวกับ
พราวนวลจาก
เดือนดวงงามนามพระจันทร์
ให้
ประดับขวัญประดับโลกงาม..
เป็นนิยามความดีสามัคคี
ที่แสนร่มเย็นเป็นสุขใจไปตราบชั่วกาล..


ดวงใจ...
ชีวิตคืออะไรกันเล่า
หากมิใช่เศษเสี้ยว
ที่มาฝากร่างเพียงชั่วครู่ชั่วคราว
ให้ได้มามองดูโลกงาม
ให้ได้มารู้ค่าคำรัก
อันจักเป็นพลังสรรสร้างอันยิ่งใหญ่
หากทุกดวงใจรู้รักเย็น


และ
โชคดีเพียงใด
ที่ได้เกิดมาในผืนดินอันอุดมร่มเย็น
ใต้ร่มฉัตรใต้ร่มธรรมใต้ร่มทอง
แห่งพุทธศาสนา
ที่จักประคองให้จิตเรา..ใสกระจ่าง
รู้ฝึกวางว่าง
ก่อนจะสิ้นแสงแห่งตะวันใจไปชั่วกาล


ดวงใจ...
ผม..ภูมิใจในตัวคุณ และตัวผมนี้
ที่เกิดมามีนวลเนื้อใจ
ที่แสนบริสุทธิ์ใสแสนงาม
รู้หักห้ามรู้รักเย็น


และ
มาตรแม้น
เราเป็นเฉกเช่นชาวดินชาวไพร
หากดอกดวงใจเรานั้น
รู้ใฝ่เพียรหาดวงดอกธรรม
และน้อมมาพร่ำห่มหอม..
เผื่อแผ่ให้ทุกดวงใจได้พบใสงาม
ไปด้วยกัน..


และสุดท้าย
ไม่มีอะไร
*จะงามเท่าดอกดวงใจใครเล่าจะรู้นี้*
ที่เราสองต่างพร้อมพลีภักดิ์
เพียรถักทอทองดั่งสายสร้อยภาษาร้อยรักรจนา
เพื่อคืนกลับให้ผืนดินแห่งมาตุภูมินี้
ที่เป็นที่รักยิ่งกว่ารัก
ศรัทธาภักดิ์ยิ่งกว่าศรัทธา
เปรียบประดุจดั่งพสุธาแห่งความฝันอันสูงสุด
ที่แสนหนักแน่นมั่นคงยิ่งใหญ่เหนือ
กว่าสิ่งใดในหล้าโลกนี้
แล้วมิใช่ละหรือ..คนดี..นะยอดดวงใจ!
.................................


ฉันเห็นเธอในดอกไม้สายลมไหว
มวลนกไพร ในฝนพราย แมกไม้ฝัน
ในดวงดาว ในอุ่นแสง แห่งตะวัน
ในความฝัน ในยามตื่น ชื่นฉ่ำใจ..
ฉันเห็นเธอ ในดวงจันทร์ ฝันเคียงฟ้า
ในเมฆา ในเรียวรุ้ง กระจ่างใส
ในผีเสื้อ ในสายน้ำ ในขุนเขา ในเงาใจ
เธอสถิตอยู่กลางใจในเรียวตา
ในศรัทธาในรักนี้ มิมีวันจะลบเลือน!



http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_32429.php
ฉันอยู่นี่ที่กลางใจในโลกฝัน...พุดพัดชา
ฉันอยู่นี่ที่กลางใจในโลกฝัน
คอยเคียงขวัญในเงาใจไม่ไปไหน 
ในเงาดาวใต้เงาจันทร์ยามฝันไกล
ในดวงใจในดวงตาดารากาล..
อยู่ในรักในอ้อมกอดของยอดรัก
ฝากใจภักดิ์รักเพียงเธอเพ้อคำหวาน
ในแสงทองท้องทะเลดอกไม้บาน 
ในสายธารหวานชื่นฉ่ำลำนำไพร
อยู่ใต้หล้าฟ้าพริบพราวเคล้าใจสุข
ไร้รอยทุกข์สุขเคียงขวัญวันไหนไหน
เงาอดีตแค่กรีดรอยฝากแผลใจ
ไม่เป็นไรยอมรับโศกโลกนี้คือละคอน
รอและรอ..ขอคืนหลังยังบ้านเก่า
ลบลืมเหงาเงาใจใครลวงหลอน
พร่ำสวดมนต์ภาวนาเพื่อขอพร
เลิกร้าวรอนสิ้นร้าวรานนานนิรันดร์!..
.........................


http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song282.html
ธาราระทม
แว่ว ยิน แต่ เสียง
น้ำหลากมาเสมือนยิ่งพาน้ำตาข้าหลั่ง
ธารารักเอยรักเคยฝากฝัง
ท่ามกลางแสงเดือนสะพรั่ง
รักกลับอ้างว้างในคืนเดือนเพ็ญ
รูป รอย ปาง หลัง
ฝังฝากใจมาไร้ความจริงทิ้งให้ลำเค็ญ
มองเดือนครั้งใดหมองใจไม่เว้น
ค่ำคืนรักเชยเคยเช่น
แสงแห่งเดือนเพ็ญเชยฟ้าราตรี
รัก จาก พราก ไป
เหลือ เพียงรอยอาลัยไม่มี
สายน้ำยามเพ็ญ ก่อนเคยได้เป็นสักขี
ยินแผ่วแว่วเสียงวจี
คล้ายเสียงเสียดสีที่เย้ยดวงใจ
โอ้ คำ อธิษฐาน
เสมือนบ่วงมาร มารับเอาคำสาบานข้าไป
มนต์มารร้ายยิ่งรักจริงสลาย
ตั้งปณิธานวอนไหว้
แสงแห่งดวงใจจงพบกันเทอญ
รัก จาก พราก ไป
เหลือ เพียงรอยอาลัยไม่มี
สายน้ำยามเพ็ญ ก่อนเคยได้เป็นสักขี
ยินแผ่วแว่วเสียงวจี
คล้ายเสียงเสียดสีที่เย้ยดวงใจ
โอ้ คำ อธิษฐาน
เสมือนบ่วงมาร มารับเอาคำสาบานข้าไป
มนต์มารร้ายยิ่งรักจริงสลาย
ตั้งปณิธานวอนไหว้
แสงแห่งดวงใจจงพบกันเทอญ...
.............................
				
comments powered by Disqus
  • คนกุลา

    22 พฤษภาคม 2552 18:46 น. - comment id 988691

    1.gif36.gif16.gif
  • ก่องกิก

    22 พฤษภาคม 2552 18:54 น. - comment id 988694

    เป็นคนช่างฝันจัง....
    คิดถึงครับ
    16.gif36.gif
  • กันนา

    22 พฤษภาคม 2552 19:40 น. - comment id 988703

    สวยงาม....มากมายค่า
  • คนกุลา

    22 พฤษภาคม 2552 20:51 น. - comment id 988731

    คุณ พุด ครับ
    เมื่อยามเย็นเข้ามาเยี่ยมหน้า
    เป็นที่หนึ่งไว้ก่อน
    
    ส่วนตัวก็ไปพยายาม
    สรุปวิถีทาง..นกไพร
    ที่ได้บินมา นานเนิ่น
    นับหลายปี
    
    คงไม่ใข่เป็นครั้งแรกที่คิดทบทวน
    แต่หากเป็นครั้งแรกทีเขียนออกมา
    หากไม่นับที่เขียน..
    ตอบคุณ พุด ในเอ็นทรี่
    ม่านน้ำตา..ในป่าใจ
    
    คนเราบางครั้ง
    ข้อสรุปบางอย่างที่มีผลสำคัญ
    ต่อชีวิต และอนาคต
    ล้วนต้องอาศัยเวลา
    เพื่อบ่มเพาะ...สะสม
    อีกทั้งต้องการสภาพแวดล้อมที่เอื่ออำนวย
    แม้กระทั่งพลังใจและกำลังใจ
    ที่เพียงพอ
    
    ผลึกแห่งความคิดจึงจะตกลงมาให้งามได้
    
    ขอบคุณทุก ถ้อยสนทนา
    และการชี้ชวนให้ขบคิด และตรึกตรอง
    จนสามารถตกผลึกความคิดบางอย่าง
    ที่สะสมมานับนานเวลาพอควรแล้วนั้น
    
    ขอบคุณ อีกครั้ง
    
    ด้วยผูกพัน
    
    36.gif16.gif
  • ทิพย์โนราห์ พันดาว

    22 พฤษภาคม 2552 21:24 น. - comment id 988742

    แวะมาเยี่ยมค่ะ พี่พุดกลอนพี่ยังงดงามเหมือนเดิมค่ะ16.gif36.gif
  • whitelily

    23 พฤษภาคม 2552 10:18 น. - comment id 988832

    แวะมาทักทายเจ้าค่ะพี่พุด.....36.gif
  • somebody

    23 พฤษภาคม 2552 11:32 น. - comment id 988876

    สวัสดีค่ะ11.gif
    เข้ามาชื่นชมบทกลอนดีดีและภาพประกอบที่สวยงาม
    พร้อมกับได้รับความรู้เพิ่มเติมจากการอ่าน
    ของพี่พุดถือว่าเป็นประสบการณ์ทางอ้อมเลยนะคะ
    โดยส่วนตัวชอบดูสารคดีค่ะ
    แต่ว่าไม่ค่อยมีเวลาได้ดูหรือหามาดูเท่าไหร่เลย
    ชอบการเขียนนำเสนอของพี่พุดมากค่ะ
    นอกจากจะเสนอเป็นบทกลอนแล้ว
    ยังมีบทความอีก
    เก่งจังคะ ทึ่งในความสามารถแบบนี้
    อยากเก่งแบบนี้บ้างจังค่ะ
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif
  • คนกุลา

    23 พฤษภาคม 2552 11:41 น. - comment id 988883

    คุณ พุด ครับ
    
    อยากจะมาเพียงแจ้งข่าว ของ เจ้านกไพร   ว่า
    ในที่สุด ด้วยแรงลมใต้ปีก   ผ่านสนทนาการ
    ผ่านร้อยเรียงคำ  แห่งขวัญใฝ่ ของแม่ใบนวล
    
    บวกบูรณาการเป็นหนึ่งเดียวกับพลังใจแห่งใฝ่ฝัน เจ้านกไพร ก็บินล่วงแล้ว ณ เส้นขอบฟ้าแสนไกล สู่แดนแห่งสนธยาและรุ่งอรุณเป็นหนึ่งเดียว
    
    ที่ที่ซึ่งทิวาวารและรัตติกาลร้อยเรียงเคียงเคล้าคู่อยู่นิจนิรันดร์
    
    ที่ที่ซึ่งกาย อารมณ์ฝัน สัญญาใจ ความใฝ่ฝันรับรู้  ความเข้าใจในตนและชีวิตละลายหลอมรวมกันเป็นหนึ่ง ณ ที่แห่งนั้น
    
    เป็นความนับถือและรักยิ่งในน้ำใจ อันใสประเสริฐ แห่งแม่ดอก พุด ไพร  ที่ทุกคน รวมทั้งเจ้านกไพร ได้ดื่มด่ำแห่งใสเย็น แห่งอารมณ์ทิพย์ อารมณ์ธรรม เช่นที่ผ่านมาและวาระต่อๆไป ครับ
    
    ด้วยผูกพัน
    
    
    36.gif1.gif16.gif
  • ฝากฝัน

    24 พฤษภาคม 2552 10:28 น. - comment id 989270

    36.gif36.gif36.gif""
    เพียงกระเพื่อมเอื้อมมือหมายยื้อยุด
    ยื่นแขนสุดสะดุดอยู่แค่ดูเห็น
    ค่อยเลือนลางห่างหายสายลมเย็น
    สิ่งที่เห็นเป็นเงาของเขาเอง
    
    สวัสดีครับ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน