เมื่อพินิจพิศเห็นเป็นฉากตอน ความต่อเนื่องก็จรจากวิถี เกิดคมชัดภาพกรรมในชีวี เหมือนดั่งมีเครื่องชลอก่อปัญญา มีใครทำไม่ดีให้เราเห็น ก็รู้เป็นวิบากหลากมาหา ไร้ประโยชน์โกรธเรื่องที่มีมา หากนำพาจักเกิดบาปอาบที่ใจ เมื่อเขาทำไม่ดีย่อมมีผล สนองเขาอย่างเหมาะตนแม้นชาติไหน เราไม่ต้องสาปแช่งแสดงอะไร เขาย่อมรับผลชั่วไปอย่างแน่นอน หากเราพลาดท่าโกรธคาดโทษเขา ใจของเราบังเกิดความเน่าหนอน มีกิเลสอกุศลผลร้าวรอน ตามมาถอนทุนเราเหมือนเขาเลย เมื่อพินิจพิศเห็นเป็นเหตุผล เราต้องฝึกใจตนอย่าเพิกเฉย ฝึกเมตตาแก่ตนให้คุ้นเคย ป้องกันบาปไม่เผยเข้าสู่ใจ ความถี่บ่อยจะสร้างรอยแยกชีวิต เมื่อเราเขาต่างจริตและนิสัย อนาคตเขากับเราย่อมห่างไกล เพราะว่าไม่มีความเหมือนมาเลื่อนทาง เมื่อพินิจพิศเห็นเส้นทางแล้ว จงแน่แนวฝึกตนให้พ้นหมาง แก้ไขเขาไม่ได้ก็ปล่อยวาง แล้วมาสร้างใจเราให้พ้นภัย
12 พฤษภาคม 2552 10:31 น. - comment id 983101
ตรองพิจพินิจแล้ว พี่ดอกแก้วบ่สงสัย คมชัดถนัดนัยน์ และรู้เห็นเป็นตามความ ขอบคุณค่ะ พี่ดอกแก้ว..
12 พฤษภาคม 2552 10:45 น. - comment id 983105
น้องก้พยายามแก้นิสัยตัวเองอยู่ค่ะ คือชอบแคร์คนอื่นมากเกินไป จนบางครั้งขาดความเป็นตัวของตัวเองค่ะ ขอให้พี่ดอกแก้วสุขภาพแข็งแรงค่ะ
12 พฤษภาคม 2552 11:01 น. - comment id 983109
สวัสดีค่ะพี่ดอกแก้ว บางทีความต่างมันมองได้เห็นชัดในแง่ของความคิด ในหลาย ๆ เรื่องเลยค่ะ เมื่อเกิดเรื่องเมื่อก่อน ก็เครียดไปหลายวันค่ะ แต่ปัจจุบันดีจะคิดว่า คนเราไม่เหมือนกันต้องปล่อยวางบ้าง ก็มีทำได้บ้าง และก็ไม่ได้บ้างค่ะตามประสา.....อิอิ ขอบคุณสำหรับกลอนที่สอนน้อง ๆ เสมอ ๆ นะเจ้าค่ะ คิดถึงพี่เสมอค่ะ
12 พฤษภาคม 2552 11:01 น. - comment id 983110
ตอนโกรธมองไม่ออกอะไรเลย พออารมณ์เย็น ก็เห็นว่าเราปล่อยวางดีกว่า ตอนนี้ก็ปล่อยวางและก็นิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหวค่ะ
12 พฤษภาคม 2552 12:53 น. - comment id 983146
เมื่อคมชัดจัดเจนในเวรกรรม ใครกระทำซ้ำซากวิบากผล จะส่งชั่วมัวหมองไม่ต้องรน บนทางหนคนทำจะลำเค็ญ
12 พฤษภาคม 2552 13:36 น. - comment id 983157
เจริญสติตัวเองค่ะ ไม่เพ่งโทษใคร สำคัญที่การประคองใจ ของเราให้ผ่องใสสงบงาม ด้วยรำลึกถึง
12 พฤษภาคม 2552 14:11 น. - comment id 983176
ตามจิตดูรู้แจ้งภายในจิต ลมหายใจแผ่วพิศเพ่งที่หมาย เข้าแผ่วเบาผายออกอย่างเงียบง่าย ผลสุดท้ายลืมทุกข์สุขอิ่มเอม ดอกบัวสวัสดีค่ะ พี่ดอกแก้ว เรายังเหลือเวลากันไม่นานเท่าไร เลยนะค่ะ ดอกบัวขอให้พี่ดอกแก้วมีแต่ความสุขค่ะ
12 พฤษภาคม 2552 14:38 น. - comment id 983187
เมื่อวานอ้อมก็โกรธคนคนหนึ่งทั้งๆที่เรื่องแค่เล็กน้อย แต่เวลาโกรธมองว่าเป็นเรื่องใหญ่ รู้สึกว่าตัวเองนี่แย่จัง ทักทายพี่ดอกแก้วค่ะ
12 พฤษภาคม 2552 15:39 น. - comment id 983219
วันนี้กานต์ก็โกรธค่ะ ^_^ สารภาพกับพี่ดอกแก้วตอนกำลังหายโกรธ ไม่มีอะไรน่าโกรธสักหน่อยค่ะ หงุดหงิดไปเอง ไม่ดีเลยค่ะ ขอบคุณพี่สาวที่แสนดีค่ะที่คอยเตือนสติ หมูใหญ่อายจังเล้ย
12 พฤษภาคม 2552 20:12 น. - comment id 983296
... ช่างปั้นไหใบเขื่องให้เคืองขัด เมื่อเร่งดัดอัดดินกลับบิ่นเบี้ยว จำลงเตาเผาเร่งขะเหม็งเกลียว เพียงใบเดียวสวยแยกดูแปลกตา ประมาณนั้นครับพี่ดอกแล้ว
12 พฤษภาคม 2552 21:07 น. - comment id 983341
แวะมาอ่านครับ ให้ข้อคิดดี ๆ เสมอ ๆ
12 พฤษภาคม 2552 21:09 น. - comment id 983345
เข้ามาอ่านกลอนที่มากความหมาย
12 พฤษภาคม 2552 21:32 น. - comment id 983377
เมื่อพินิจพิศเห็นเส้นทางแล้ว จงแน่แนวฝึกตนให้พ้นหมาง แก้ไขเขาไม่ได้ก็ปล่อยวาง แล้วมาสร้างใจเราให้พ้นภัย ........................... อันนี้คม ครับ
12 พฤษภาคม 2552 21:58 น. - comment id 983403
สวัสดีค่ะพี่ดอกแก้ว คมชัดเช่นเคยค่ะพี่ดอกแก้ว ดูแลสุขภาพนะคะ
12 พฤษภาคม 2552 22:33 น. - comment id 983424
ได้ดูทีวี ช่อง MV5 เขาเอาแม่ของพลทหาร ศรีอรุณ เครือสุข มาสัมภาสท์สด สรุปความว่า ลูกชายเป็นทหารเกณท์ได้เป็นทหารรับใช้ในบ้านแม่ทัพในค่ายทหารปราจีนบุรี วันที่มีการปราจลาจล นายก กับรองนายกแอบไปหลบที่บ้านพักแม่ทัพ พลทหารนี้ได้รับใช้แต่แมสเสสไปเล่าให้แฟนทราบเรื่อง คงจะรู้ความลีบอะไรเข้า ปรากฏว่าสองวันต่อมามีทหารเอาศพไปส่งให้พ่อแม่บอกว่าล้มในห้องน้ำตายแล้วบอกให้รีบเผา ญาติเขาไม่ยอมเผาแกล้งทำเผาหลอกให้ตายใจ แล้วแอบเอามาส่งให้นิติเวทย์ตรวจปรากฏว่า หระโหลกยุบ อวัยวะภายในบางอย่างหายไป เรื่องแดงขึ้นมา ตำรวจเพิ่งทราบเรื่องไปตรวจสถานที่ภายหลังยังไม่รู้ผลอะไร พ่อแม่ก็งง ๆ อยู่จนบัดนี้ อย่างนี้ กรรมหรือเปล่ากรรมาธิการสภาผู้แทนก็ดูเรื่องนี้อยู่ ผลกรรมใครจะรับเรื่องนี้ไม่มีลงหนังสือพิมพ์
12 พฤษภาคม 2552 22:43 น. - comment id 983429
บางทีความลางเลือนเหมือนแจ่มจ้า บางคราวพร่าอับทึบคล้ายหลืบแสง อีกบางครั้งทั้งมวลล้วนเคลือบแคลง บ้างแอบแฝงพฤติกรรมนำเภทภัย หากใช้จิตพิศดูอาจรู้แจ้ง สิ่งปลอมแปลงทั้งหมดปลดสงสัย ดี-ดำ-เสีย-รอปรับ-รับทราบนัย เพียงหัวใจเป็นกลางวางเดิมพัน "เขาไม่ดี"..หรือจิตเราไม่ดี หลักฐานใดบ่งชี้คดีนั่น เขาคนดีแค่ไหนไม่สำคัญ ตัวเรานั้นดีไหมเอาไปตรอง ราตรีสวัสดิ์ค่ะ พี่ดอกแก้ว
12 พฤษภาคม 2552 22:57 น. - comment id 983438
สวัสดีงามๆยามราตรีเจ้า แวะเข้ามาอ่านกลอนเพราะๆ พร้อมทั้งคติธรรมเตือนสติก่อนนอนเจ้า
13 พฤษภาคม 2552 09:33 น. - comment id 983584
พี่ดอกแก้วสวัสดีค่ะ พิมมารับธรรมจากพี่สาวอีกแล้ว ขอบคุณค่ะ
13 พฤษภาคม 2552 10:19 น. - comment id 983608
เพิ่งพินิจใจตนค้นความหมาย ที่ขุ่นข้องใจกายมากมายเหลือ ความกระจ่างร้างเร้นเช่นคลุมเคลือ เหมือนดั่งเสือติดจั่นหวาดหวั่นใจ ความคมชัดพร่ามัวสลัวแล้ว ดั่งดวงแก้วขุ่นข้องมิผ่องใส จิตวิตกครั่นคร้ามท่ามโพยภัย มองทางไหนมืดมนทุกหนทาง ใจว่าง..ทางก็สดใสค่ะ ยามใจขุ่นมองทางไหนก็..มืดมนและหงุดหงิดใจอ่ะค่ะ แต่เฌอว่าทุกอย่างอยู่ที่ใจเรากำหนดค่ะ เราเลือกได้ว่าเราจะวาง หรือจะถือให้หนักต่อไป อิอิ แต่ใจเฌอนี่ว่อกแว่กมากๆเลยค่ะ แบบเหมือนเดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย คุ้มดี คุ้มร้าย อิอิ บางทียังกลัวใจของตัวเองเลยค่ะ ลืมสวัสดีค่ะพี่ดอกแก้ว ฝนตกบ่อยๆรักษาสุขภาพด้วยนะคะ
13 พฤษภาคม 2552 17:21 น. - comment id 983828
:) แก้ไขใครไม่ได้ ก็ปรับตัวเองดีกว่าเนอะพี่เนอะ ง่ายกว่ากันเยอะเลย...ไม่ต้องคิดมากด้วยว่าทำไมถึงไม่เป็นอย่างที่เราต้องการ...
14 พฤษภาคม 2552 18:24 น. - comment id 984633
@...ครูกระดาษทราย... การพินิจพิศรู้เป็นครูใหญ่ กำกับใจถูกบทลดปัญหา เห็นภาพฉากโยงใยในมายา ปลดห่วงโซ่พันธนาการจากใจ สวัสดีค่ะครูกระดาษทราย บางครั้งการทุ่มเทแก้ไข กลับทำให้เราตกลงไปในหล่มของปัญหามากยิ่งขึ้น แล้วในที่สุดก็ไม่สามารถปลดปล่อยใจให้เป็นอิสระได้เพราะเป็นผู้เข้าไปลงการอย่างเต็มตัว ขอบคุณมากค่ะที่แวะมาพร้อมภาพที่น่ารักๆ เสมอ มีความสุขมากๆ นะคะ ครูกระดาษทราย
14 พฤษภาคม 2552 18:25 น. - comment id 984634
@...น้องแบม แก้วประภัสสร... ความหวังดี..มีปัญหาถ้ายึดมั่น อยากแก้ไขคนนั้นคนนี้เสมอ ต้องรู้วางบางสิ่งที่พบเจอ คือฉันเธอต่างกัน..ยึดมั่นคลาย สวัสดีค่ะน้องแบม เรามักจะเพ่งมองคนที่อยู่ใกล้ๆ ตัวเสมอ แล้วก็ง่ายที่จะพบข้อบกพร่องของเขาได้เรื่อยๆ บางครั้งเราก็อยากช่วยแก้ไข บางครั้งก็น้ำท่วมปาก ..จนเก็บมาเป็นความไม่สบายใจ เรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ล้วนเราเป็นผู้ผูกปมปัญหาเองทั้งสิ้น เพราะหากเรายอมรับได้ถึงความต่างกัน เราก็จะอยู่กับพวกเขาได้ด้วยความสงบ และใจก็เป็นสุข ขอบคุณภาพดอกไม้สวยๆ และความห่วงใยที่มอบให้พี่ดอกแก้วเสมอค่ะน้องแบม ขอให้มีความสุข สดชื่น และเบิกบานได้ทุกวันนะคะ
14 พฤษภาคม 2552 18:25 น. - comment id 984635
@...น้องรี ลิลลี่ขาว... หากแยกส่วนกระบวนความตามเรื่องราว แต่ละตอนจะไม่ยาวไม่ยุ่งเหยิง เมื่อมองชัดดวงใจก็ไร้เพลิง ทั้งไม่หลงระเริงอุปาทาน สวัสดีค่ะน้องรี ทั้งเรื่องดีและไม่ดี..หากเราไม่ใส่อารมณ์ให้มากไปใจก็จะสบาย และบางครั้งสิ่งที่เราไม่ชอบก็เป็นเพราะเราเองที่มีความชอบแตกต่างจากเขา และใจเรานี่แหละที่มีปัญหาเสมอๆ กับคนรอบข้างที่ต่างจากเรา ใจของเราจึงเป็นสิ่งที่น่ามองที่สุด ขอให้มีความสุขกับการดูความสวยงามและพัฒนาการที่ดีของใจตนเองนะคะน้องรี ขอบคุณมากค่ะที่แวะมาเสมอ
14 พฤษภาคม 2552 18:26 น. - comment id 984636
@...น้องมณีจันทร์... ถ้าหากมีสติเฝ้าตามตรอง จะเพ่งมองสิ่งไหนใจสงบ แม้นพบภาพที่เราไม่น่าพบ ก็รู้จบไม่โกรธใครใจปล่อยวาง สวัสดีค่ะน้องมณีจันทร์ ขอบคุณมากค่ะที่แวะมาทักทาย ชีวิตปกตินั้นเรามักพลาดไปโกรธเสียก่อนแล้วจึงจะรู้ตัว แต่ถ้ามีการตั้งรับเตรียมพร้อมไว้ตลอดเวลาก็ยากที่จะพลาด ดังนั้น สติ..จึงเป็นจอมทัพฝ่ายกุศลเสมอมา เพราะสามารถสยบศัตรูได้ตั้งแต่เริ่มเผชิญหน้า ขอให้สามารถมีชัยชนะได้มากขึ้นๆ ตั้งแต่เริ่มการเผชิญหน้ากับเรื่องราวทั้งหลาย มีความสุขได้มากๆ ทุกวันนะคะน้องมณีจันทร์
14 พฤษภาคม 2552 18:26 น. - comment id 984637
@...แมวเหลือง... ไม่ต้องซ้ำเติมใครให้เราบาป หากได้ทราบเหตุผลเรื่องกรรมสนอง ใครเขาชั่วปล่อยเขาเราไม่มอง เขาจักต้องได้ผลชั่วที่ตัวทำ สวัสดีค่ะแมวเหลือง พระธรรมคำสอน..มีแต่จะสร้างกำไรให้กับชีวิตของผู้ปฏิบัติตาม และปราศจากเวรภัยที่เกี่ยวเนื่องกับผู้อื่น ขอบคุณมากนะคะ ที่แวะมาเขียนไว้ ขอให้มีความสุขค่ะ
14 พฤษภาคม 2552 18:27 น. - comment id 984638
@... สาวบ้านนา.. ความวุ่นวายไม่มีที่สิ้นสุด หากไม่หยุดที่ตนเพื่อแก้ไข คิดจะหยุดผู้อื่นมากเท่าใด กิเลสยิ่งครองใจให้สิ้นงาม สวัสดีค่ะน้องพุด สาวงามแห่งบ้านนา การกลับมามองตนเองเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายสำหรับผู้ที่มีจิตดี และความงามจากภายในก็ทำให้ผู้อื่นสัมผัสได้ง่ายว่างามจริง ขอบคุณมากนะคะที่แวะมาทักทาย ขอให้ชีวิตที่สงบงามแล้วมีแต่ความยิ่งๆ ขึ้นไปค่ะ
14 พฤษภาคม 2552 18:27 น. - comment id 984639
@...น้องบัว ดอกบัว... เมื่อพินิจพิศรู้ดูที่ตน ทราบถึงเหตุและผลไม่ขาดสาย ใจจึงนิ่งทิ้งสิ่งที่วุ่นวาย สงบสบายอยู่กับห้วงแห่งลม สวัสดีค่ะน้องบัว ชีวิตที่มีเพียงสั้นๆ หากเสียเวลามองคนอื่นมากก็จะขาดทุนมาก ผลของกรรม..เป็นเรื่องที่มีสาเหตุมาจากอดีต ปัจจุบันเราจึงต้องสร้างเหตุใหม่ที่ดี ที่ปลอดจากการเบียดเบียน เมื่อทำได้เช่นนั้นแล้ว ไม่ว่าลมหายใจจะยาวหรือสั้นก็เปี่ยมกุศลเสมอ อนุโมทนากับกุศลที่น้องบัวได้ทำ และขอให้กุศลนั้นคุ้มครองให้น้องบัวคลายจากโรคภัย มีจิตที่แจ่มใส มีใจที่งดงาม และพบความสุขอันเป็นนิรันดร์ได้โดยเร็วนะคะ ขอบคุณมากค่ะที่แวะมา
14 พฤษภาคม 2552 18:28 น. - comment id 984641
@...น้องอ้อม ใจปลายทาง... ต่างมีตนเป็นผู้พิพากษา แล้วตีตรวนประทับตราความผิดเขา ต้องติดเบรคเอาไว้ที่ใจเรา อย่าไปโกรธใครเขาให้เหนื่อยใจ สวัสดีค่ะน้องอ้อม การที่รู้สึกตัวได้เร็ว..นับว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ง่ายหรอกนะคะ ดีใจที่น้องอ้อมหันกลับมาดูตนได้เร็วมาก ความทุกข์ของเราส่วนมาก เกิดเพราะเราทำตัวเองแทบทั้งนั้นเลยนะคะ แต่เรามักโทษคนอื่นว่าเขาเป็นสาเหตุ หากเรายอมรับพฤติกรรมเหล่านั้นว่าเป็นความแตกต่าง เรื่องเหล่านั้นก็จะไม่มีอิทธิพลกับใจเรา ให้เราขุ่นเคืองได้เลย ขอบคุณมากค่ะที่แวะมาทักทาย
14 พฤษภาคม 2552 18:28 น. - comment id 984642
@...น้องกานต์ หมูใหญ่... เราได้เสียเวลามากมายแล้ว กับการแน่วแน่จิตคิดแก้ไข บุคคลอื่นให้ดีอย่างที่ใจ ที่สุดไซร้ไม่ได้ดีดั่งกมล สวัสดีค่ะน้องกานต์ กุศลจิตที่เกิดขึ้นจากความรู้สึกตัวนี้ก็จะเป็นเสมือนครูที่จะมาคอยกำกับใจให้เราคิดได้ในครั้งต่อๆไป บทพระธรรมนั้น...หากนำมาปฏิบัติที่ตนก็จะเกิดผลดีกับคนรอบข้างได้ด้วย หากไม่ปฏิบัติที่ตนแต่มุ่งผลไปที่คนอื่น ก็จะเกิดแต่ความเร่าร้อนใจที่ไม่สมหวัง ขอให้น้องกานต์สามารถฝึกตนเองได้ดียิ่งๆ จนเป็นที่พึ่งของตนเองและผู้อื่นได้ มีความสุขและมีความเชื่อมั่นในกุศลได้มากๆ นะคะน้องกานต์คนดีของพี่
14 พฤษภาคม 2552 18:28 น. - comment id 984643
@...ฝากฝัน... ความไม่เหมือนเตือนให้ใจยอมรับ ละมือการบังคับและถือสา รู้ว่ามีคุณสมบัติต่างกันมา หมดปัญหากลุ้มจิตคิดเปลี่ยนใคร สวัสดีค่ะฝากฝัน ขอบคุณที่แวะมาเติมแง่มุมที่น่ามอง ขอให้มีความสุขและความสำเร็จในชีวิตนักปั้นนะคะ
14 พฤษภาคม 2552 18:29 น. - comment id 984644
@...อรุโณทัย... เมื่อต่างคนต่างทำตามที่ชอบ คือการมอบเส้นทางที่ห่างเหิน เมื่อต่างทำก็ยิ่งต่างทางดำเนิน ยากจะเดินมาบรรจบแล้วพบกัน สวัสดีค่ะอรุโณทัย บางคนเสียเวลาโกรธคนที่อุปนิสัยต่างกับเรา โดยลืมไปว่า เมื่อความชอบต่างกันโอกาสที่จะมาพบกันก็ยิ่งมีน้อย แต่การที่ไปผูกโกรธนั้นกลับจะทำให้พบกันง่ายขึ้นเพราะผูกใจเอาไว้แบบยิ่งเกลียดก็ยิ่งเจอ ขอบคุณมากนะคะที่แวะมาอ่าน ขอให้มีความสุขค่ะ
14 พฤษภาคม 2552 18:29 น. - comment id 984645
@...ฝนทอง... ใครทำดีย่อมมีผลดีแน่ ใครทำแย่ก็ย่อมต้องรับผล ทำเหตุต่างผลย่อมต่างแต่ละคน อย่าไปสนใจเขาเฝ้าหมองใจ สวัสดีค่ะฝนทอง บางทีเรามีเวลามากเกินไปที่จะมองคนอื่น แล้วก็ไม่ได้คิดว่า ใครที่ทำดี..ย่อมได้ดีแน่ ใครที่ทำไม่ดี..ก็ย่อมได้ในสิ่งที่ไม่ดี เราไม่ต้องไปโกรธหรือร่วมลงความเห็นอะไรเลย เขาก็ต้องรับผลที่ทำไว้ไม่ดีนั้นแน่ จึงเป็นเรื่องที่ขาดทุนมากหากไปกลุ้มกับคนเหล่านี้ให้ใจของเรามีบาป ขอบคุณมากนะคะที่แวะมาอ่าน ขอให้มีความสุขและความสบายใจค่ะ
14 พฤษภาคม 2552 18:29 น. - comment id 984646
@...กิ่งโศก... เมื่อแยกเหตุแยกผลจนเจนชัด ต้องเจนจัดสร้างเหตุพิเศษใหม่ มุ่งสร้างเหตุกุศลเพื่อพ้นภัย เพราะต่างคนต่างไปตามเส้นทาง สวัสดีค่ะกิ่งโศก เรื่องของเหตุและผลนั้นมีความชัดเจนมาก คนที่ทำดีก็จะไปอยู่ร่วมกันคนที่ดี คนที่ทำชั่วก็มักไปมั่วสุมรวมกลุ่มกับคนที่ชั่ว ซึ่งเป็นไปตามความชอบและการกระทำที่ทำซ้ำๆ "กรรม" จึงจัดสรรให้เราอยู่แล้วโดยไม่ต้องเดือดร้อนใจอะไรเลย แต่บางครั้งเราก็ลืมนึกถึงเรื่องกรรม จึงชอบที่จะยื่นมือไปจัดสรรบางเรื่องที่เกิดความสามารถ ขอบคุณมากค่ะที่แวะมา และแสดงความเห็น ของให้มีความสุขนะคะ
14 พฤษภาคม 2552 18:30 น. - comment id 984647
@...น้องแจ้น... ดูคนอื่นไม่ชื่นเท่าดูใจ พฤติกรรมของใครก็ช่างเขา พฤติกรรมสำคัญคือของเรา ที่ต้องเฝ้าแก้ไขให้งดงาม สวัสดีค่ะน้องแจ้น ขอบคุณมากนะคะที่แวะมาอ่าน ขอให้มีความสุข สามารถดูแลใจตนให้พ้นภัยได้ทุกวันๆ นะคะ
14 พฤษภาคม 2552 18:31 น. - comment id 984648
@...ฤกษ์... การชี้ถูกชี้ผิดย่อมบิดเบือน ใดจะเหมือนให้กรรมมาตัดสิน เราต่างเป็นผู้ดูผู้ได้ยิน ไม่รู้สิ้นกระบวนความตามเรื่องจริง อายุสั้นนั้นเป็นผลของกรรม ดวงใจแม่ชอกช้ำเพราะกรรมยิ่ง ผู้ที่พูดเรื่องเท็จและเรื่องจริง ต้องรับสิ่งสนองตามจริงเท็จ เรื่องจะแดงหรือไม่..ใช่ปัญหา เรื่องของกรรมใช้เวลากว่าจะเสร็จ ไม่ได้อยู่กับข่าวสารทั้งจริงเท็จ และไม่เสร็จในศาลการร้องเรียน หากใจร้อนโกรธไปใจจะทุกข์ ยิ่งกระแสมาปลุกเป็นเรื่องเขียน ใจก็วางไม่ลงเฝ้าวนเวียน และติเตียนตอกย้ำทำเวรจอง กรรมใครก่อ บ่อใครขุด หมุดใครปัก นั้นแน่นักส่งผลถึงเจ้าของ ทั่วทุกส่วนทุกคนทุกกรมกอง รับผลของกรรมดีชั่วที่ตัวทำ สวัสดีค่ะฤกษ์ คนที่จะทราบเรื่องจริงแท้ก็คงจะมีแต่พลทหารที่เสียชีวิตคนนั้น ฉะนั้น ความลี้ลับเหล่านี้คงยากที่จะคลี่คลายให้กระจ่างได้ แต่ไม่ว่าจะลี้ลับสักแค่ไหน ..กรรมก็ตามให้ผลได้ถูกตัวเสมอ ความใจร้อนของใครก็ไม่สามารถเร่งผลของกรรมได้ หากยังไม่ถึงเวลา ขอบคุณที่แวะมานะคะฤกษ์ ขอให้มีใจที่เยือกเย็นและมีความสุขมากๆ ค่ะ
14 พฤษภาคม 2552 18:31 น. - comment id 984649
@...น้องอัลมิตรา... หากแยกชัดจัดได้เป็นกองกลุ่ม ใครจะสุมหลักฐานเท็จแค่ไหน ก็รู้ชัดจัดเจนถึงกลไก และวางใจได้กลางอย่างที่ควร ใจเย็นดูอย่างรู้ถึงใจตน ไม่หมกมุ่นเพ้อบ่นจนผันผวน ต่างคนมีกิเลสมาชักชวน จึงต่างป่วนตามประสาพาวุ่นวาย มีละครโรงใหญ่มาให้ดู ก็นั่งมองจนรู้เรื่องสืบสาย หากเคลิบเคลิ้มถูกละครหลอกมากมาย กลายเป็นตัวผู้ร้ายร่วมแสดง ใครไม่ดีตามธรรมอย่าช้ำจิต หลงไปคิดแก้ไขให้แสลง หลีกตนทำตามธรรมเพื่อปรับแปลง ดีกว่าร่วมแสดงเป็นฝ่ายใคร "เขาไม่ดีหรือจิตเราไม่ดี" ประโยคนี้คือกรอบของเงื่อนไข ให้หันกลับดูตนในทันใด ขอขอบใจที่มาเขียนอย่างงดงาม สวัสดีค่ะน้องอัลมิตรา ขอบคุณมากค่ะที่มาเขียน ชอบมากโดยเฉพาะบทสุดท้าย และก็หายากมากที่ใครจะมองได้ลึกถึงปัญหานี้ การตัดสิน...เป็นเรื่องที่สำคัญมาก หากไม่มีบรรทัดฐานตามธรรมอันมีศีลเป็นเบื้องต้นแล้ว ก็กลายเป็นอคติตนที่หมายถึงว่า เราน่ะแหละที่ไม่ดีเสียเอง และที่จริงนั้นก็ไม่ใช่เรื่องอะไรเลยที่จะต้องไปตัดสินใคร เพราะนั่นคือการมองออกไปนอกตนอย่างไร้ประโยชน์ วิปัสสนากรรมฐาน..จึงเป็นงานที่ดีที่สุดและปลอดภัยเสมอ
14 พฤษภาคม 2552 18:32 น. - comment id 984650
@...ม่านดอย... มองคนอื่นไม่ชื่นไม่ฉ่ำจิต เท่าเพ่งพิศตนให้บ่อยคอยแก้ไข เห็นคนอื่นเขาดีร่วมดีใจ ทำตนเองดีไว้ยิ่งดีจริง สวัสดีค่ะม่านดอย ขอบคุณมากนะคะที่แวะมาทักทาย ขอให้มีความสุขมากๆ ค่ะ
14 พฤษภาคม 2552 18:32 น. - comment id 984651
@...น้องพิม พิมญดา... ข้อบกพร่องของผู้ชำนาญการ คือชอบอ่านคนอื่นยื่นเงื่อนไข วิเคราะห์คิดตามจริตของตนไป เสียเวลามากในเรื่องนอกตน เห็นข้อพร่องของคนอื่นหมื่นแสนข้อ บ้างเติมต่ออคติสร้างเหตุผล หมดเวลาลืมดูจิตใจตน กลายเป็นคนกลวงแก่นไม่แน่นใน สวัสดีค่ะน้องพิม ดูตนเองให้มากๆ เรื่องยุ่งยากก็จะหมดไป ขอให้มีความสุขใจและมีความปลอดภัยเสมอๆ นะคะ ขอบคุณที่แวะมาค่ะ
14 พฤษภาคม 2552 18:32 น. - comment id 984652
@...น้องเฌอ เฌอมาลย์... เราไม่ค่อยดูตนจนลืมจิต ลืมว่าพิษนั้นเกิดที่ตรงไหน แม้ก็เกิดเพราะเราไม่เข้าใจ หาใช่ใครนำพิษมาติดเรา หากเราหมั่นดูตนจนแจ้งจิต จะพบเหตุการคิดคลายความเขลา เห็นลวดลายกิเลสที่หนักเบา และการเข้าหวั่นไหวในอารมณ์ มองคนอื่นแม้นจะชัดตามหัดมอง ก็ไม่น่าหมายปองว่าสุขสม เท่ากับมองใจตนกับอารมณ์ เพื่อแก้ปมหงุดหงิดคิดไม่ดี สวัสดีค่ะน้องเฌอคนดี ใจ..เป็นสิ่งสำคัญจริงๆ หากฝึกได้ ก็จะมีสิทธิ์พิเศษหลายๆ อย่างที่จะเลือกทำ เลือกวางได้อย่างเหมาะสม และก็มีความสุขเป็นผลติดตามมาอย่างกำหนดปริมาณไม่ได้ ขอให้สามารถดูและควบคุมใจไม่ให้คุ้มดีคุ้มร้ายได้บ่อยๆ และมีความสุขมากๆ นะคะน้องเฌอ ขอบคุณในความห่วงใยและการทักทายเสมอๆ อย่าลืมรักษาสุขภาพเช่นกันนะคะ
14 พฤษภาคม 2552 18:33 น. - comment id 984654
@...น้องกุ้งฯ... เลือกกันคนละทางอย่างเสรี ไม่จำเป็นต้องมีห่วงปัญหา สร้างสุขให้ตนเองทุกเวลา คุ้มค่ากว่าไปบังคับฝืนจิตใคร สวัสดีค่ะน้องกุ้งฯ ใช่เลยค่ะ...ปรับตัวเองง่ายกว่า และมีความสุขกว่าปรับคนอื่นเยอะ พยายามเลือกสิ่งแวดล้อมที่ดีให้ตัวเองดีกว่าที่จะไปเป็นมลพิษของใคร และในอนาคตข้างหน้า ..การเลือกเหล่านี้ก็จะจัดสรรชีวิตเราให้ได้ไปอยู่ในเส้นทางที่เราชอบโดยปราศจากเขาเหล่านั้น ขอบคุณมากค่ะที่แวะมา
14 พฤษภาคม 2552 18:58 น. - comment id 984669
กราบชอบคุณพี่ดอกแก้วมากๆที่อวยพรวันเกิดให้..ได้กำลังใจมากมาย..ขอบคูณอีกครั้งค่ะ..พี่ดอกแก้วคะ..เพื่อนที่ทำงานถามน้องว่า..ที่บ้านกลอนชอบบทกลอนของใครมากที่สุด..ตอบทันที..ว่ากลอนของพี่ดอกแก้วๆอ่านแล้ว..จิตใจสงบ..ปล่อยวาง..เกิดขึ้น ..ตั้งอยู่..ดับไป...ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน..ชาติที่แล้วน้องคงเคยร่วมทำบุญกับพี่..ชาตินี้น้องถึง ได้รู้จักพี่....รักเคารพพี่ดอกแก้วมากๆค่ะ
18 พฤษภาคม 2552 09:17 น. - comment id 985606
เมื่อพินิจ พิศเห็น เส้นทางแล้ว จงแน่แนว ฝึกตน ให้พ้นหมาง แก้ไขเขา ไม่ได้ ก็ปล่อยวาง แล้วมาสร้าง ใจเรา ให้พ้นภัย ชอบบทสุดท้ายมากค่ะพี่ คิดถึงและห่วงใยเสมอมา แจม
19 พฤษภาคม 2552 16:01 น. - comment id 987247
เรามีกรรมเป็นของตนทุกคนแหละ ใครจะแนะหนทางสร้างสุขขี หากกรรมเก่าเราสร้างไว้ในสิ่งดี ก็จะมีทางประสบพบเห็นธรรม ถ้ากรรมเก่าเรานั้นมันมืดมิด จะนำพาให้ชีวิตพลันตกต่ำ ถ้าจะไปหาวิธีที่แก้กรรม ขอแนะนำให้ทำดี..เดี๋ยวนี้เลย.
20 พฤษภาคม 2552 17:46 น. - comment id 987774
สุขหรือทุกข์แสนเศร้าเพราะเราสร้าง ใจจะสุขใสสว่างพึงวางเฉย หากยึดติดใจย่ำแย่แน่แท้เลย คำเฉลยสุขและทุกข์ฉุกคิดกัน งดงามในความหมาย ที่ถ่ายทอดมาจากเจตนารมณ์อันเปี่ยมไปด้วยเมตตาจิต ของผู้รจนาถ้อยความ
20 พฤษภาคม 2552 18:10 น. - comment id 987796
@...น้องชบา... ได้พินิจพิศคำที่นำมอบ จึงขอตอบขอบคุณการุญจิต เราคงเคยทำความดีมีน้ำมิตร จึงสนิทน้ำใจแม้นไกลกัน สวัสดีค่ะน้องชบา มาตอบช้า...ขอโทษด้วยนะคะที่อาจจะรออยู่ อดีตที่ดีระหว่างเราเป็นแรงหนุนนำส่งให้เราได้มาพบกันบนความงดงามของภาษาและน้ำใจ ดีใจมากค่ะที่มีส่วนทำให้น้องชบามีความสุขจากการอ่านบทกลอน ขอให้มีความสุขเสมอทุกวัน และสามารถฟันฝ่าเรื่องราวต่างไปได้ด้วยใจที่สงบ ได้พบเหตุผลที่ตนอย่างชัดเจน ..ขอบคุณมากค่ะที่แวะมา
20 พฤษภาคม 2552 18:11 น. - comment id 987797
@...น้องแจม สีน้ำฟ้า... เจ้าตัวดีสีน้ำฟ้าแวะมาเยี่ยม ใจนั้นเปี่ยมยินดีที่มาหา เป็นอย่างไรไม่พบกันหลายเพลา ขอให้ทุกสุขคราทุกโมงยาม สวัสดีค่ะน้องแจม..เจ้าตัวดี การงานบนเกาะเป็นอย่างไรบ้าง..ขอให้ผ่านพ้นอุปสรรคทั้งหลายไปได้ด้วยดีนะคะ การลงทุนที่ไม่สูญเปล่าแน่ๆ ก็คือการแก้ไขตนเองให้อยู่บนเส้นทางที่ดี บางคนที่เราส่งความปรารถนาดีไปให้แล้วเขาไม่รับ เราก็นำความปรารถนาดีนั้นกลับมาให้ตนเองจะดีกว่า มีความสุขมากๆ นะคะน้องแจม ขอบคุณมากที่แวะมาทักทาย
20 พฤษภาคม 2552 18:11 น. - comment id 987798
@...ป๋อง เจ้าเก่า... ช่างเป็นคำแนะนำที่ดีแท้ ทำดีแก้กรรมเก่าที่เราผิด ทำปัจจุบันให้ดีในชีวิต จะพ้นพิษบาปได้ในเร็ววัน สวัสดีค่ะป๋อง ขอบคุณมากนะคะที่แวะมาร่วมเขียนคำแนะนำดีๆ แต่ละคนนั้นควรกำหนดกรรมของตนเอง มากกว่าจะไปกำหนดกรรมให้ผู้อื่น เพราะทุกสิ่งทุกอย่างนั้น ..กรรมเป็นผู้กำหนด ขอให้มีความสุขและได้พบกับสิ่งดีๆ ค่ะ
21 พฤษภาคม 2552 14:04 น. - comment id 988147
@...ธันวันตรี... หากพบเงื่อนงำชีวิตด้วยจิตรู้ ชีพจะอยู่ด้วยสุขไม่คว้าไขว่ เพราะทุกสิ่งผ่านมาย่อมผ่านไป ไม่รั้งไว้อย่างหลงผิดเพราะจิตดี สวัสดีค่ะคุณหมอดอย ขอบคุณมากค่ะที่แวะมาร่วมเขียน .