เพียงหนึ่งใบพฤกษากำพร้าเกิด แม้ประเสริฐมีพ่อแม่แต่หมองหมาง หลากศิลาบุปผาพริ้มอยู่ริมทาง ยังสุขบ้างเมื่อตั้งอยู่ยามลู่ลม กายตะกายหายใจเฮือกท้ายสุด เพื่อยื้อยุดกิ่งไว้เกาะตามเหมาะสม หากแรงวาตดุจอาฆาตบาดด้วยคม โค่นต้นล้มเป็นใบใบสิ้นไร้แกน เที่ยวเพลินจิตพิศมัยยามใกล้มิตร ผู้มีฤทธิ์แห่งรูปทรัพย์อยู่นับแสน วิปริตพิศวาศอย่างขาดแคลน หาสิ่งแทนแก่นแท้แต่ตนเทียม เที่ยววาดฝันวับวามตามอากาศ เป็นปราสาทปราศซึ่งผู้มาอยู่เยี่ยม นี่สำหรับผู้ไร้โฉมน่าโลมเลียม เป็นดอกเทียมใบแท้รอแก่ตาย ปลิวตัวเลื้อยเรื่อยลามไปตามพื้น เป็นเศษกลืนดื่นธุลีที่หลากหลาย ทั้งดินเหนียวดินร่วนจวนดินทราย เหมือนละม้ายไม่เหลือเค้าของเงาเดิม พยายามยิ่งยวดอย่างปวดร้าว กึ่งชายสาวใครเขาคงไม่ส่งเสริม หวังปั้นเดนให้เป็นดินของถิ่นเดิม แล้วฮึกเหิมให้เป็นหินสักชิ้นอัน หลอกประชาว่าข้าไซร้คือชายแท้ ครั้นมองแลในกระจกกลับผกผัน ยิ่งภายนอกออกล่ำกำยำกัน ยิ่งส่ำสั่นในชั้นทรวงที่กลวงบาง ที่เห็นมีดอกไม้ไว้ประดับ เพียงสำหรับบังหน้าถ้าใครขวาง จากบ่ายเบี่ยงเถียงฉอดฉอดตลอดทาง ก็แกร่งกร่างวางสง่าทุกท่าที โอ้ก้อนหินกลิ่นหอมน่าตอมไต่ เจ้าครองใจปวงชนทุกหนที่ ใครเล่ารู้ความหลังครั้งหนึ่งนี้ เจ้าอย่างดีก็แค่ใบไม้บางบาง เพียงหนึ่งใบพฤกษากำพร้าเกิด แม้ประเสริฐมีพ่อแม่แต่หมองหมาง หลากศิลาบุปผาพริ้มอยู่ริมทาง ยังสุขบ้างเมื่อตั้งอยู่ยามลู่ลม
23 เมษายน 2552 08:50 น. - comment id 975893
ที่มา--มาเยี่ยมค่ะ ที่ไป-ไปเยี่ยมบ้านอื่นต่อนะคะ แวะมาทักทายค่ะ
23 เมษายน 2552 11:40 น. - comment id 975988
^ ^ ^ คิดได้ไงอ๊ะ ที่มา...บ้านเซลงบรรลุง ที่ไป...ไปบ้านคนข้างบน...อิอิ
23 เมษายน 2552 11:47 น. - comment id 975989
สวัสดีครับ กลอนไพเราะมากมาย
23 เมษายน 2552 11:49 น. - comment id 975990
สวัสดีค่ะ แวะมาทักทายทำความรู้จักนะคะ