ในมิติของภาพฉาบมุมแง่ หากเลือกแต่ด้านตรงคงเสียหาย ไม่อาจพิศเพ่งพบครบลวดลาย ตีความหมายเพี้ยนผิดตามทิศมอง เรื่องราวมีมากนัยให้วิเคราะห์ หากมุ่งเจาะเพียงประเด็นในส่วนผอง ก็จะพลาดข้อมูลอีกก่ายกอง ผลวิเคราะห์คงต้องถูกประนาม ความดีชั่วของคนก็เช่นกัน หากเชื่อมั่นความเห็นที่ล้นหลาม เชื่อเพราะมาตรฐานตนตัดสินความ ตาชั่งคงถึงยามเอนเอียงไป แต่ละเรื่อง..แต่ละคนมีหลายมุม ดีไม่ดีคละสุมไม่ผ่องใส ดูตัวอย่างที่ตนไม่ต้องใคร ดีไม่ดีรู้แก่ใจอย่างแน่นอน ให้อภัย ให้โอกาสคนอื่นบ้าง ทิ้งอดีตปล่อยวางเลิกย้อนศร ไม่เที่ยวตีตราเขาให้ร้าวรอน คิดเสียก่อนกรรมตามทันวันเศร้าใจ เรื่องนอกตนแต่ละคนต้องรู้รอบ รู้กฎกรอบมองทุกมุมกระจ่างใส เพื่อลดความประมาทพลาดผิดนัย ลดเวรภัยกับผู้อื่นชื่นศีลธรรม เรื่องในตนแต่ละคนต้องมองแคบ ดูตามแบบผู้รู้ไม่ถลำ ดูจิตตนบาปหรือบุญที่กระทำ ดูให้เห็นเรื่องกรรม-วิบากมี เรื่องของตนอย่าร้อนรนขาดสติ ดูอารมณ์ให้ผลิปัญญาศรี ดูให้ถึงแก่นแท้ที่เกิดมี ละผงคลีกิเลสครองยามมองตน
12 มีนาคม 2552 09:21 น. - comment id 961908
ให้โอกาสผู้อื่น--คนที่ชอบบงการมักจะครอบงำความคิดของคนอื่นใช่ไหมคะพี่ดอกแก้ว กานต์เป็นบ่อยเลยค่ะ ต่อไปน้องหมูใหญ่จะมองให้มากขึ้น กว้างขื้นค่ะ ไหนๆก็เป็นหมูใหญ่แล้วนี่คะ อิอิ
12 มีนาคม 2552 10:59 น. - comment id 961954
ให้แง่คิดและสติได้เป็นอย่างดีเลยคะ สวัสดีค่ะ ทักทายกันนะคะ
12 มีนาคม 2552 11:33 น. - comment id 961994
ลองปิดตาแต่เปิดใจให้ตื่นรู้ ลองปิดหูเปิดใจให้ยินเสียง ถือตราชั่งยั้งใจไม่เอนเอียง เลือกหลบเลี่ยงการชี้วัดตัดสินใคร ตั้งสติมองตรงลงให้ลึก ถึงห้วงความคิดนึกอันเป็นใหญ่ มอบโอกาสครั้งผิดคิดพลาดไป เรียนรู้การอภัย...แก่ใจตน
12 มีนาคม 2552 12:33 น. - comment id 962027
ให้อภัยผู้อื่นเหมือนให้อภัยตนเอง ใช่หรือเปล่าค่ะ พี่ดอกแก้ว :)
12 มีนาคม 2552 13:06 น. - comment id 962049
แวะมาอ่านกลอนดีๆที่มีคุณค่าค่ะพี่ดอกแก้ว... สบายดีหรือเปล่าคะ...
12 มีนาคม 2552 14:25 น. - comment id 962090
พี่ดอกแก้วครับ แล้วถ้าเราถูกมองด้วยสายตาที่ไม่เชื่อ ในการกระทำของเรา แต่เรารู้ตัวเราดี ว่าเราทำอะไรอยู่ รู้ตัวว่าไม่เป็นอย่าง ที่เขาคิด เราจำเป็นต้องอธิบาย ให้ใครฟังไหมครับ คำถามอาจตอบยาก แต่ผมว่าพี่คงให้คำตอบ ที่ดีๆ แก่ผมได้ครับ ขอบคุณสำหรับกลอนดีๆ ทีเขียนให้อ่านครับ
12 มีนาคม 2552 15:17 น. - comment id 962122
เรื่องมองตนก็มองอยู่เป็นประจำ ทุกเช้าค่ำส่องกระจกชะโงกแหงน ดูถ้วนถี่แล้วนะพี่ก่อนหาแฟน ดูถึงแก่นเลยนะพี่ที่เคยดู
12 มีนาคม 2552 15:19 น. - comment id 962123
"ให้อภัย" บางครั้งสิ่งนี้พูดง่ายแต่กระทำยาก นะค่ะสำหรับคนบางคน แต่เมื่อเราให้อภัยแล้วเรา ก็จะรู้สึกดี ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วเราไม่สามารถ แน่ใจได้เลยค่ะ ว่าเราต้องเจอกับเรื่องเดิม ๆ อีกหรือเปล่า บางทีมันก็เป็นปัญหาโลกแตกค่ะ พี่ดอกแก้วว่าไหมค่ะ?
12 มีนาคม 2552 16:54 น. - comment id 962195
สวัสดีค่ะพี่ดอกแก้ว บางครั้งน้องก็ชอบคิดอะไรแปลกๆค่ะพี่ สงสัยว่าทำไม เราต้องเป็นเรา ทำไมไม่เป็น ตาสี ตาสา หรือคนอื่น ลองหยิกแขนตัวเอง มันก็เจ็บ ยังไงก็เป็นเราเหมือนเดิม งงๆคะ
12 มีนาคม 2552 17:25 น. - comment id 962212
เห็นด้วยกับบทกลอนคับ
12 มีนาคม 2552 18:46 น. - comment id 962223
เห็นด้วยมากๆเลยค่ะ บางคนต้องเสียโอกาสหรือกลายเป็นคนผิดเพราะคำพูดเพราะความคิดของคนแบบน้ไปเลย น่าสงสาร
12 มีนาคม 2552 23:13 น. - comment id 962292
กราบอ.พี่ดอกแก้วขอรับ น้อมศึกษาจากอ.ตลอดชีวิตครับ สาธุๆๆ
13 มีนาคม 2552 07:13 น. - comment id 962355
เยี่ยมมากค่ะพี่ดอกแก้ว...เตือนตนให้ข้อคิดดีๆค่ะ
13 มีนาคม 2552 15:45 น. - comment id 962579
มองใจคนค้นนัยใช้ความคิด ควรพินิจพิเคราะห์ให้เหมาะสม สติกลั่นปัญญาตรองสิ้นหมองตรม ก่อนชื่นชม เขาร้ายดี ดูที่ใจ (เจตนา) สุขสันต์วันเกิดค่ะพี่ดอกแก้ว ขอให้พี่มีแต่ความสุข สิ้นโรคภัย มีสุขภาพแข็งแรง คิดหวังสิ่งใดให้สมปรารถนาทุกประการค่ะ รักนับถือพี่เสมอ
14 มีนาคม 2552 05:46 น. - comment id 962752
กลอนเพราะมากค่ะ การให้อภัยเป็นเรื่องที่ดี แต่ดีสำหรับบางคนเท่านั้นค่ะ เพราะตนบางประเภท มักจะได้ใจกับการให้อภัยของเรา ทำให้เขาทำผิดแล้ว ผิดอีกในเรื่องเดิม ๆ หรือเรียกว่า ขอโทษ แต่ไม่ได้รู้สึกสำนึกผิด บางครั้งอาจคิดว่าไม่ได้ทำอะไรผิดเลย จึงทำผิดซ้ำแล้วซ้ำอีก เพราะฉะนั้น สำหรับน้อง ให้อภัย.... แต่ ไมลืม ค่ะ
15 มีนาคม 2552 17:22 น. - comment id 963349
สวัสดีค่ะพี่ดอกแก้ว แวะมาอ่านกลอนดีๆค่ะ
15 มีนาคม 2552 23:48 น. - comment id 963543
@...น้องกานต์ เพียงพลิ้ว... ยังไม่รู้ว่าใครฝีมือแน่ อย่าคิดแค่เราเป็นหนึ่งจึงขัดขวาง ให้โอกาสผู้อื่นอย่างเป็นกลาง อาจค้นพบมือวางลำดับดี สวัสดีค่ะน้องกานต์หมูใหญ่ บางครั้งเรายังไม่ทันเห็นพฤติกรรมของใคร ก็ตัดสินคุณภาพของเขาจากคำเล่าขานจากผู้อื่นหรือภาพลักษณ์ที่เพิ่งพบเห็นเสียแล้ว นับเป็นอุปนิสัยที่ไม่น่ารักเลยค่ะในการทำงานร่วมกัน และก็ทำให้สูญเสียคนทำงานที่มีฝีมือไปอย่างน่าเสียดาย ขอให้น้องหมูใหญ่ของพี่มีมุมมองที่กว้างขึ้นได้มากๆ และเป็นที่รักของทุกคนตลอดไปนะคะ
15 มีนาคม 2552 23:48 น. - comment id 963544
@...ครูกระดาษทราย... การมองตนเพื่อค้นหาบกพร่อง เป็นสิ่งที่เราต้องทำเสมอ เพื่อขัดเกลาชีวิตให้เลิศเลอ เมื่อมองตนก็ยากเผลอไปมองใคร สวัสดีค่ะครูกระดาษทราย แวะมาทักทายกันหลายวันแล้ว แต่พี่ดอกแก้วเพิ่งมีโอกาสในการตอบกลอนบทนี้ ขอบคุณมากค่ะที่แวะมา ..ขอมีความสุขท่ามกลางอากาศที่เปลี่ยนแปลงนะคะ
15 มีนาคม 2552 23:48 น. - comment id 963545
@...somebody... เรามักมองคนอื่นอย่างเพ่งพิศ แต่มองตนเพียงนิดไม่ถือสา ข้อบกพร่องตนเองเท่าโลกา กลับมองว่าเล็กเท่าทรายไม่กังวล สวัสดีค่ะน้องกระจกเงา ขอบคุณมากนะคะที่แวะมาทักทาย ขอให้มีความสุขและมีความรอบคอบได้เสมอๆ นะคะ
15 มีนาคม 2552 23:49 น. - comment id 963546
@...มัทนา... ให้โอกาสอย่าขาดเมตตาจิต บางครั้งมิตรผิดพลาดขาดเหตุผล เมื่อเขารู้สึกตัวในผิดตน อย่าขุดค้นเรื่องเก่ามาตีตรา ให้โอกาสตนเองไม่ผิดซ้ำ ทุกบทกรรมมีมุมมองให้ศึกษา ทุกอารมณ์ดูอย่างมีสติปัญญา สร้างเหตุดีเดินหน้าอย่าท้อใจ สวัสดีค่ะมัทนา ขอบคุณบทกลอนดีๆ ที่แวะมาร่วมเขียน ..มีความหมายดีมากเลยค่ะ ขอให้มีความสุขมากๆ ในชีวิตนะคะ
15 มีนาคม 2552 23:49 น. - comment id 963547
@...น้องกุ้ง กุ้งหนามแดง... เขาทำพลาดผิดไปอภัยเขา ไม่ค้นรื้อเรื่องเก่ามาถือสา อภัยเขาเท่ากับสร้างบุญญา ทั้งคลายปมปัญหาไปจากใจ เราทำพลาดผิดไปอย่าใจฝ่อ สี่เท้าก็รู้พลั้งมาแต่ไหน เราสองเท้าเราก็ต้องรู้อภัย อย่าทำร้ายจิตใจตนเองเลย อภัยเขา อภัยเราเข้าใจกฎ เราทั้งหมดต้องรู้วางอย่างเปิดเผย ปากอภัยใจผูกเจ็บไม่ดีเลย จะเป็นคนคุ้นเคยการหลอกกัน อภัยเขา..เข้าใจไม่ถือสา ถึงเขาจะมืดหน้าตาโมหัน สักวันหนึ่งวิบากตามเขาทัน นั่นคือบทลงทัฑณ์ของกรรมเวร สวัสดีค่ะน้องกุ้ง การให้อภัย..มักถูกมองว่าเป็นการกระทำที่ขาดทุน แต่แท้จริงแล้ว เป็นการกระทำที่ได้กำไรมากมายมหาศาล เพราะไม่ต้องแบกอารมณ์อันขมขื่นและความขัดแย้งติดตัวไปจนหมดความสุข การให้อภัยเป็นการให้อิสระแก่ใจตนให้พ้นจากพันธนาการของกิเลสตระกูลโทสะ ทำให้ชีวิตมีความร่มเย็นขึ้นอย่างมากมายก่ายกอง ไม่ว่าจะเป็นการให้อภัยตนเองหรือให้อภัยผู้อื่น สำหรับคำถามนี้ ต้องพิจารณาว่า เราเป็นคนที่ให้อภัยตนเองได้ง่ายหรือไม่ หากให้อภัยตัวเองง่าย ก็ควรให้อภัยผู้อื่นได้ง่ายด้วย แต่ถ้าแม้กระทั่งตนเองยังให้อภัยยาก ก็ต้องพยายามทำความถี่ให้เกิดมากขึ้น การให้อภัย..เป็นเมตตา เป็นบุญ และเป็นการยกตัวเองออกมาจากการเป็นผู้พิพากษา และปล่อยให้กฎของกรรมทำหน้าที่ไปตามลำพัง เพราะถึงเราจะให้อภัยเขาหรือไม่ แต่เมื่อถึงเวลาที่สมควร ..กรรมก็จะมาพิพากษาเขาเองอย่างยุติธรรมที่สุด อิอิ..มาเขียนถามไว้นิดเดียวแต่พี่ดอกแก้วตอบเสียยาวเลย ขอให้มีความสุขและความสบายใจมากๆ นะคะน้องกุ้ง
15 มีนาคม 2552 23:49 น. - comment id 963548
@...น้องกุหลาบขาว... มองคนอื่นด้วยเมตตาพาใจสุข ไม่เพิ่มทุกข์ให้ใครเขาหมั่นหมอง มองตนเองด้วยปัญญาพาตริตรอง สุขเพิ่มขึ้นเป็นกองเมื่อมองเป็น สวัสดีค่ะน้องกุหลาบขาว ขอบคุณมากนะคะที่แวะมา พี่ดอกแก้วสบายดีค่ะ.. ขอให้น้องกุหลาบขาวมีความสุขและความสมปรารถนานะคะ
15 มีนาคม 2552 23:49 น. - comment id 963549
@...ไร้อันดับ... มั่นใจในเจตนาครากระทำ รู้กอปรกรรมที่ดีอยู่เสมอ อย่าหวั่นไหวไปกับเสียงละเมอ อย่าพลั้งเผลอโกรธเขาที่เฝ้ามอง สวัสดีค่ะไร้อันดับ สำหรับพี่ดอกแก้วคิดว่า เมื่อถูกถามก็จำเป็นต้องตอบ แต่จะตอบอย่างไรนั้นก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของไร้อันดับเอง แต่ถ้ายังไม่ถูกถามแต่ไม่รู้ว่าจะพูดดีหรือไม่..อันดับแรกก็ต้องพิจารณาคนที่มองมาที่เราน่ะค่ะว่ามีใครบ้าง สำหรับบางคนที่เขามีความห่วงใยเราด้วยไมตรีจิต ..เราก็ควรบอกกล่าวเพื่อให้เขาผู้นั้นเกิดความสบายใจและหมดสิ้นความกังวลลงได้ เพราะบางครั้ง..เสียงลือเสียงเล่าอ้าง...อาจทำให้ผู้ที่ห่วงใยเราอยู่เกิดความทุกข์ใจขึ้นได้ ฉะนั้น เราควรเมตตาต่อบุคคลที่มีจิตใจดีเหล่านี้ด้วย โดยไม่ปล่อยให้เขาตกอยู่กับความคิดที่เป็นอกุศล และการอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นนั้นเราจะขาดหลักการของคนดีไม่ได้ ..นั่นคือหลักสัปปุริสธรรมนั่นเอง จึงต้องรู้จักเหตุผล รู้จักกาลเทศะด้วย จะดันทุรังว่าฉันทำดีแล้วโดยไม่สนใจใครเลยไม่ได้ เพราะอาจมีผู้ที่คิดได้รอบคอบกว่ามาช่วยคิดให้ดีขึ้นกว่าเก่าได้ และเมื่อไม่มีบุคคลที่เราต้องห่วงใยความรู้สึกของเขาแล้วอันดับต่อมาก็คือ .. เมื่อพิจารณาตามมาตรฐานคุณธรรมและจริยธรรมแล้วเราไม่ปรากฏข้อผิดพลาดอะไร ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเที่ยวร้อนตัวไปอธิบายให้ใครฟัง ด้วยเหตุผลที่ว่า "กลัวเขาเข้าใจผิด" เพราะความเข้าใจผิดนั้นไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร และไม่ได้ทำให้คุณค่าของใครลดลงไปได้อีกด้วย สำหรับคนอื่นๆ ที่คิดไม่ดี และไม่ได้มีผลกระทบที่เสียหายใดๆ ในสิ่งที่เราทำก็ไม่จำเป็นต้องตามไปอธิบายอะไรหรอกค่ะ..เสียเวลาในการทำกุศลเปล่าๆ เพราะสิทธิในการมองและคิดเป็นสิทธิของทุกจิตใจที่มีกิเลสหนาบางต่างกัน และบางทีในการมองหรือการคิดของเขาเหล่านั้นก็ไม่จริงจังจนเป็นสาระ พอเวลาผ่านไปเขาก็เลิกสนเราและไปสนใจคนอื่นต่อ อันเป็นธรรมชาติของใจที่หยุดอยู่นิ่งกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งนานๆ ไม่ได้ แต่ถ้าสงสารเขาเหล่านั้นแบบไม่อยากให้เกิดบาปกรรมในการคิดไม่ดีกับเรา และไม่กลัวกับการถูกกล่าวหาว่าร้อนตัว ..จะอธิบายให้เขาเข้าใจโดยย่อก็ได้ค่ะ เพื่อสงเคราะห์ไม่ให้เขาบาปมากไปกว่านี้ ต้องขอโทษจริงๆ ค่ะที่เข้ามาตอบช้ามาก ขอให้สามารถตัดสินใจและขจัดปัญลงได้อย่างเด็ดขาดนะคะไร้อันดับ
15 มีนาคม 2552 23:50 น. - comment id 963550
@...ก่องกิก... ดูลึกไปหรือเปล่าเจ้าของตา ละลาบละล้วงมองหาถึงแก่นไหน ดูคนอื่นควรดูแต่ไกลไกล แล้วพกความให้อภัยเวลาดู สวัสดีค่ะก่องกิก ตั้งหน้าตั้งตาดูจนลึกถึงขนาดนี้ หวังว่าจะได้พบแก่นที่งามสมปรารถนานะคะ ขอบคุณมากค่ะที่แวะมา
15 มีนาคม 2552 23:50 น. - comment id 963551
@...น้องรี... เรื่องจะวนมาใหม่..ไม่สำคัญ อยู่ที่ใจเรานั้นชนะไหม? หรือยอมพ่ายโซ่ตรวนของจิตใจ จึงหมดสิ้นอภัย..ไร้เสรี สวัสดีค่ะน้องรี ผู้ที่ให้อภัยก่อนคือผู้ที่ชนะกิเลสในใจตน แม้จะดูเหมือนใจอ่อนยอมพ้ผู้อื่นก็เถอะ แต่ที่จริงนั้น คนที่ให้อภัยผู้อื่นได้กลับเป็นผู้ทีมีจิตใจเข้มแข็งในความดีอย่างมากมายเลยค่ะ อย่ากลัวที่จะทำความดีซ้ำๆ นะคะ แม้เขาจะผิดซ้ำซากก็ต้องพยายามช่วยปรับปรุงกันไป และการให้อภัยก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องกลับไปมีระบบความสัมพันธ์กันเช่นเดิม คือให้อภัยแล้วก็หลีกออกมาได้ด้วยใจที่ไม่ผูกพยาบาทนั่นเอง ขอให้มีความสุขมากๆ ค่ะน้องรี
15 มีนาคม 2552 23:50 น. - comment id 963552
@...น้องแบม แก้วประภัสสร... ดูคนอื่นแล้วสงสัยในเหตุผล แต่ละคนเป็นอย่างนี้เพราะเหตุใดหนา ทำไมเราจึงเป็นเราตลอดมา ทำไมไม่สลับชีวาเปลี่ยนกันไป กรรมกำหนดกฏไว้ใช่ใครอื่น ที่หยิบยื่นความเป็นเราเป็นเขาคนไหน กรรมที่ทำกันมาคือเหตุไกล ที่สร้างผลต่อไปให้แต่ละคน สวัสดีค่ะน้องแบม คิดแปลกๆ บ้างก็ดีนะคะ จะได้เป็นจุดเริ่มต้นของการหาเหตุผลที่ดี เพราะความบังคับบัญชาไม่ได้นั่นเองค่ะ ที่ทำให้เราสั่งธรรมชาติไม่ได้เลย โดยเฉพาะผลของกรรม แมื่อแต่ละคนต่างทำเหตุที่ต่างกันมา การได้รับผลจึงต่างกันและรับแทนกันไม่ได้ เราเป็นเรา เขาเป็นเขาน่ะดีแล้วค่ะ .. แต่เมื่อใดที่เราอยากเป็นอย่างเขา ก็ต้องทำกรรมที่จะส่งผลให้ได้รับเช่นเขา แล้วโอกาสข้างหน้าก็อาจมีสิทธิเช่นเขาได้ ขอให้มีความสุขใจมากๆ นะคะน้องแบม
15 มีนาคม 2552 23:50 น. - comment id 963553
@...วิทย์ ศิริ... มักตัดสินง่ายดายในคนอื่น ทั้งหยิบยื่นโทษทัณฑ์กันคล่องแคล่ว แต่กับตนตัดสินยากเหลือเกินแล้ว ไม่คล่องแคล่วพิพากษาครามองตน สวัสดีค่ะวิทย์ ศิริ ขอบคุณมากนะคะที่แวะมาอ่านเสมอๆ ขอให้มีความสุขสมปรารถนานะคะ
15 มีนาคม 2552 23:51 น. - comment id 963554
@...พิมพ์แก้ว... เมื่อต้องโดนกับตนเข้าเมื่อใด ก็จะเกิดความเข้าใจการมองผิด รู้ถึงการเสียโอกาสและเสียมิตร จึงต้องหัดฝึกจิตคิดให้ดี สวัสดีค่ะพิมพ์แก้ว ขบอคุณมากนะคะที่แวะมาอ่าน และขอให้ชีวิตมีความไม่ประมาทและให้โอกาสแก่ผู้อื่นได้เสมอๆ นะคะ
15 มีนาคม 2552 23:51 น. - comment id 963555
@...น้ำ ศักดิ์ชัย... หากคับแคบความคิดจะติดขัด ไม่ถนัดการมองดีที่นิสัย มองคนอื่นต้องมองให้กว้างไกล แต่มองใจตนนี้ที่แคบพอ สวัสดีค่ะน้ำ ดีใจมากค่ะที่แวะมาทักทาย ไม่ได้พบกันนานเลย สบายดีนะคะ ขอบคุณมากค่ะที่ยังไม่ลืมกัน ..ขอให้ครอบครัวมีความสุขมากๆ นะคะ
15 มีนาคม 2552 23:51 น. - comment id 963556
@...Salukphin... อย่าหูเบาให้ใครเขามาเป่าหู ยามที่ดูต้องขยันหมั่นมองหา แง่มุมดีมีให้มองอีกนานา อย่าตีตราใครเขาก่อนเข้าใจ สวัสดีค่ะSalukphin ขอบคุณมากนะคะที่แวะมาอ่าน ขอให้มีความรอบคอบในชีวิตเสมอๆ นะคะ และมีความสุขมากๆ ค่ะ
15 มีนาคม 2552 23:51 น. - comment id 963557
@...น้องเฌอมาลย์... ลดมาตรฐานลงมาครามองเขา พยายามเข้าใจความต่างในปัญหา ภาพที่ปรากฏขึ้นบางเวลา อาจเป็นภาพด้านหน้าบังเนื้อใน สวัสดีค่ะน้องเฌอ กลอนที่เขียนมา..ดีจัง ขอบคุณมากนะคะที่แวะมาอวยพรวันเกิดให้พี่ดอกแก้วตรงนี้ด้วย ขอให้น้องเฌอมีความสุข และสมปรารถนาในสิ่งที่ดีๆ ทุกประการนะคะ
15 มีนาคม 2552 23:51 น. - comment id 963558
@...นู๋แนน... ให้อภัย..ทำให้ใจอิสระ หมดพันธะโทสามาครองจิต ให้อภัย..ไม่เคยสร้างภัยพิษ หากรู้จักวางจิตและวางตน สวัสดีค่ะนู๋แนน เป็นความเห็นที่รอบคอบดีมากค่ะกับการระวังป้องกัยการทำผิดซ้ำซากจนติดเป็นนิสัย การให้อภัย...เป็นการละความผูกโกรธ เกิดผลดีแก่ผู้กระทำอย่างแน่นอน แต่การกลับไปสู่พฤติกรรมเดิมๆ นั้นเป็นคนละเรื่องกับการให้อภัย เมื่อให้อภัยแล้ว..ก็สามารถกำหนดทิศทางของความสัมพันธ์ใหม่ได้ ขอบคุณมากนะคะที่แวะมาคุยกัน ขอให้มีใจที่ร่มเย็นเป็นสุขมากๆ ค่ะ
15 มีนาคม 2552 23:52 น. - comment id 963559
@...น้องแจ้น... มองตนเองให้แคบแบบคมชัด เป็นการช่วยฝึกหัดดัดนิสัย ในที่แคบยิ่งพบเห็นสิ่งเป็นไป เห็นแล้วช่วยฝึกใจได้อย่างดี สวัสดีค่ะน้องแจ้น ขอบคุณมากนะคะที่แวะมาอ่าน ขอให้ทำงานอย่างมีความสุขและมีเพื่อนร่วมงานที่น่ารักทุกคนนะคะ