ชื่นเช้าชนบท รับอรุณงามงดยามฟ้าใส มวลสกุณาโบกบินไป ดอกไม้ไพรหอมกรุ่นกำจร แลลอดทอดตานั่นนาข้าว สุกเหลืองพราวจรดเชิงสิงขร นอนนิ่งนิ่งได้ไออุ่นใจอรชร นกพเนจรเกาะคอนไม้ร้องขันคู คือกระท่อมสงบลบลืมโศก ทิ้งเศร้าโลกมายาอย่ารับรู้ เจริญสติภาวนาตามเฝ้าดู ธรรมชาติคู่ธรรมภายในใจค้นพบ ลั่นทมพ้อหอมรานหวานเศร้าเศร้า สอนเรื่องราวรักวนไม่รู้จบ โลกหมุนเวียนเปลี่ยนผันทุกข์ทนทบ เพียงสยบกิเลสโลกโศกชีวิต ลมหายใจใสว่างกระจ่างแจ่ม ดอกธรรมแย้มหอมเย็นในบึงจิต วันชีวีแสนสั้นนับน้อยนิด พรหมลิขิตชะตาสร้างค่าคน ลอยเหนือโลกโศกสุขสิ้นทุกข์ร้อน รู้เพลาผ่อนปล่อยวางสร้างกุศล หยุดคิดถึงอดีตอนาคตอันว่ายวน เลิกทุรนสร้างเพียงสะเบียงบุญ เด็ดดอกไม้ชายสวนลำดวนหอม อย่าหลงตรอมทำจิตใสให้หอมกรุ่น อยู่กับปัจจุบันฝันฝากใจละไมละมุน ปล่อยโลกหมุนช่างโลกหยุดโศกครวญ เก็บแผ่นดินผืนสุดท้ายไว้ปลูกรัก ชูช่อภักดิ์รักแท้เป็นศรีสวน ชีวิตนี้เลือกแล้วไม่เรรวน คนคู่ควรเคียงข้างเดินนับแต่นี้..!!! ................. ฟ้าเริ่มรุ่ง แสงอรุณทองทอทาบอาบไปทั่วผืนฟ้า บัวนา...นอนนิ่งนิ่ง หลับตา สมาธิภาวนา ทั้งๆที่มวลหมู่นกกา ต่างพากันร้องระงมปลุกให้ตื่นจากหลับใหล ในดวงใจอันเงียบงามนั้นเกิดปิติสุข สงบล้ำลึก บัวนา..ลืมตาช้าช้า.. นาทีแรก ที่แลลลอดออกไปจากบานกระจกกว้าง คือบัวบึงหลากสีสัน ที่ต่างพากันหยัดช่อ รอแดดทองให้สาดส่องโอบไล้ ให้หยาดน้ำค้าง พร่างพราวกลางกลีบ...ระเหยหาย ไกลออกไป.. คือทุ่งข้าวเขียวขจีสุดตาจรดเชิงเขา เห็นพระอาทิตย์ กำลังค่อยๆชักรถเหนือเหลี่ยมเขา สูงขึ้นทุกทีๆ... เป็นภาพที่คุ้นตา คุ้นใจ และ..บัวนา..ก็ตัดสินใจไม่ผิดที่คิดมาสร้าง กระท่อมไพร ณ..ที่ตรงนี้ ที่ดูๆราวกับสุโขทัยในอดีตย้อนหวนคืน มีทั้งดงตาล ทุ่งข้าว มีทั้งดาวสวยเต็มฟ้าเวลาค่ำ มีทั้งเสียงจั๊กจั่น เรไร มีบรรยากาศที่ชวนให้ทุกใครใครที่มาเยือน ต่างพากันแย้มยิ้มยลด้วยยินดี ทันทีที่ย่างเท้าเข้ามาสัมผัส บัวนา.. ชอบความสงบสงัดมาแต่ไหนแต่ไหนแต่ไร และ ต่อให้โลกหมุนไปเช่นไร บัวนา..ก็ซึ้งซาบอยู่แก่ใจว่า ในชั่วลมหายใจหนึ่งนี้ของบัวนา.. ขอเลือกมีชีวิตอยู่กับท้องไร่ท้องนา กับ.. สายลมที่ยังพรายพรมพัดผ่านมา ให้ได้ชื่นสุนทรีย์ จากหอมแห่งปวงสุมาลีป่า ทั้งสารภี จำปี จำปา พวงพะยอมมากค่า ที่ยังอวลเอื้อ ในทุกยามเย็น... บัวนา...หรี่ตาดูฟ้าพยับแดดสวย สายลม..พัดโบกระรวยระริน จน.. ผืนนาราวแพรไหมที่ไหวเอน ไปตามแรงลมระบัด ฟ้าบ่ม..ให้ทุกดวงใจ ในผืนป่า ในทุกแหล่งหล้า ใต้ฟ้าไทย ไม่ยอมแพ้พ่ายสิ่งใด ให้คนไทยในผืนพสุธาทองนี้ ยังครองนวลเนื้อใจ.. ที่เต็มไปด้วยไออุ่นแห่งความรัก โอบเอื้อ ช่วยเหลือแบ่งปัน ด้วยปราถนาดี มีน้ำใจ เมตตา อภัย ได้ลุกขึ้นมา สร้างสรรสังคมใหม่อย่างมีคุณค่า อย่างเอื้ออาทร อย่างผู้ที่รู้ว่า.. แผ่นดินนี้ คือที่หลอมรวมให้เราเป็นหนึ่งเดียวกัน พสุธามาตุภูมิแม่... ที่รอสอนสัจจธรรม ให้ลูกหลานไทย ได้ชึ้งค่าคำรู้รักสามัคคี รู้สร้างความดี พลีเมตตาปันแบ่ง ใช่..!คิดแย่งชิง เพียงอำนาจ วาสนา บารมี เพราะ สรรพสิ่งเหล่านี้แท้แล้วคือมายา.. โลก.. กำลังบ่ายหน้าไปสู่การล่มสลาย หาก.. มวลมนุษย์ยังไม่มีจิตสำนึกหยุดทำลาย ทั้งธรรมชาติและสิ้นไร้ซึ่งคุณธรรม บัวนา...ดื่มด่ำ กับทุกสรรพสิ่งรายรอบ เพราะ.. ได้คำตอบให้กับหัวใจตัวเองแล้วว่า *ชีวิตนี้ไซร้ เกิดมาเพื่ออะไร...!
19 กุมภาพันธ์ 2552 14:07 น. - comment id 952980
บรรยายได้งาม ภาพสวยมากครับ ไม่ทราบว่าเป็นที่ไหน อยากไปเยือนสักครั้ง ตราบที่ชีพยัง จะขอนั่งทอดหุ่ยคุยกับสายลม
19 กุมภาพันธ์ 2552 20:17 น. - comment id 953102
เขียนได้ละเอียดจังคับ
19 กุมภาพันธ์ 2552 20:57 น. - comment id 953124
อิจฉาคนเคียงข้างเน๊าะ กลิ่นอายความสุขสงบกำจรกำจาย น่ารื่นรมณ์ค่ะ
20 กุมภาพันธ์ 2552 08:01 น. - comment id 953202
น่าอยู่มากค่ะ ตื่นเช้าขึ้นมาได้อากาศบริสุทธิ์ ตื่นตากับธรรมชาติที่สวยงาม ขอสูดอากาศให้ชุ่มปอดหน่อย สบายใจจริงๆ ค่ะ
20 กุมภาพันธ์ 2552 09:42 น. - comment id 953242
งดงามทั้งภาษา ความหมายและภาพประกอบเลยนะคะ