อยากเป็นสาวคนนั้นสุดสวย ขอบุญช่วยอำนวยผลให้ อยากอยู่ใกล้คุณนั้นร่ำไป อย่าปล่อยไห้รำพึงคนเดียว เอียงแก้มก้มมารอหอมชื่น แม้จะฝืนใจหญิงหยิ่งเปรี้ยว ใจหนอใจรักเขาจริงเชียว อยากให้เกี้ยวเกี่ยวก้อยร้อยใจ รอหนอรอมานานหวังพบ ไม่รู้จบลงตัวตรงไหน ด้วยสาวรักแรกไม่แปลกใจ แล้วทำไมใจต้องหมองตรม ยังมั่นคงไม่หลงใครอื่น รอวันชื่นได้ดวงใจสม ยังหวังรอหวังได้ภิรมย์ หากมาชมให้รู้คนคอย คนสวยเอียงแก้มแกมรอไว้ ลมหายใจอุ่นไอไม่น้อย ประทับฝากไว้เห็นเป็นรอย สาวจะคอยแม้นานแสนนาน
29 กันยายน 2551 16:01 น. - comment id 900501
ขอให้สมหวังนะคะ
29 กันยายน 2551 16:25 น. - comment id 900529
เออ..ขอให้รอไปเรื่อยๆนะคะ สักวันคงสมหวังมั๊งคะ คริ คริ จากจีราภรณ์ สาวแม่ฮ่องสอนคะ
29 กันยายน 2551 16:59 น. - comment id 900571
1. ขอบคุณคะคุณชวนชื่นที่ให้กำลังใจมา
29 กันยายน 2551 17:01 น. - comment id 900577
2. ขอบคุณคุณจีราภรณ์มากคะ จะทำตามที่คุณบอกคะ อิอิ
29 กันยายน 2551 17:38 น. - comment id 900610
อืม...สมหวังนะคะ...
29 กันยายน 2551 19:38 น. - comment id 900640
มาช่วยลุ้นให้นะค้า.... คริ คริ
30 กันยายน 2551 01:41 น. - comment id 900757
้เห็นใจคะ มีรักก็ต้องมีหวังใช่ไหมคะ สู้ สู้คะ
30 กันยายน 2551 07:31 น. - comment id 900786
เป้นสาว ต้องวางตัวดีดีหน่อยจิ
30 กันยายน 2551 12:19 น. - comment id 900861
5. ขอบคุณครูพิมมากคะ ที่เข้ามาให้พร ทานกาแฟก่อนนคะ
30 กันยายน 2551 12:23 น. - comment id 900863
6. ขอบคุณค้าคุณแอ๊วที่เข้ามาช่วยลุ้นให้กำลังใจ ยังมะรู้เลยคะว่าใครคนนั้นเข้ามาอ่านหรือเปล่าหรือว่าเข้ามาอ่านแล้ว กลอนนี้เขียนถึงเขา สื่อให้เขารู้คะ การได้เปิดใจก็หายเศร้าเหงาได้คะ
30 กันยายน 2551 12:27 น. - comment id 900864
7. เป็นธรรมชาติของความรักคะคุณปาน เมื่อจะรักใครก็ต้องหวังด้วยกันทั้งนั้นแหละคะ สู้ สู้ อยู่แล้วคะ
30 กันยายน 2551 12:37 น. - comment id 900870
8. ผู้ใช้นามว่า "ไม่บอกดีกว่า" คะ ขออธิบายนะคะว่า พรรณเสียหายตรงไหนคะ เรื่องที่เขียนก็เป็นกลอนรักเหมือนคนอื่นทั่วๆไป การแสดงความรู้สึกของผู้หญิงคนหนึ่งเป็นกวีมันผิดมากนักหรือคะ พรรณก็ไม่ได้ไปแย่งใครจากใคร พรรณผิดหรือคะที่ไปรักเขา การรอการหวังก็เหมือนกับคนอื่นๆคะ ถ้าพรรณผิดคนอื่นๆที่เขียนกลอนรักก็ผิดหมดคะ พรรณเองก็ไม่ได้ไปรักคนนั้นคนนี้ คุณเคยเห็นพรรณเขียนถึงคนอื่นหรือเปล่าคะ ขอบคุณคะที่ทำให้พรรณมีโอกาสอธิบาย
30 กันยายน 2551 14:25 น. - comment id 900884
ก้าวต่อไป เป็นกำลังใจให้ครับ
30 กันยายน 2551 17:42 น. - comment id 900934
หวังว่าเขาคนนั้นจะมาอ่านเจอนะค่ะ
30 กันยายน 2551 18:26 น. - comment id 900949
มาเป็นพยานให้คะ ว่าพรรณไม่เคยต่อกลอนเชิงชู้สาวกับใคร ตั้งกลอนรักเพื่อกระทู้ของตัวเองเท่านั้น เป็นสิทธิที่เธอทำได้คะ ไม่น่าต่อว่าเธอเลยนะ
1 ตุลาคม 2551 06:47 น. - comment id 901088
ต่อ คห. 12 โห....น้องพรรณเป็นกวี ? ไม่บอกไม่รุนะเนี่ยยยยย
1 ตุลาคม 2551 14:30 น. - comment id 901260
อืม..ขอให้สมหวังเน้อ... :) เป็นกำลังใจให้เขียนต่อไปเน้อ..อ่านทุกแนวอยู่แล้ว..
1 ตุลาคม 2551 15:25 น. - comment id 901282
เพียงเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ สาวเจ้ารอคนมาหอมแก้ม...อิๆๆ ๐ ท่ามกระแสลมฝนที่หล่นหลั่ง เยียบเย็นก็โถมถั่งทุกครั้งหน ฉ่ำชื้นไอละอองผ่านต้องตน รื่นรมย์ก็วก-วนอยู่บนใจ ๐ ริ้วความหนาวผ่านแผ่..กระแสลม หนาวทั้งเนื้อ..อารมณ์..เกินข่มไหว ถวิลเนียนเนื้อกรุ่นหอมอุ่นไอ จะห่มให้หนาวร้ายได้คลายตัว ๐ จึงในตาไหววาบ..เป็นภาพพิมพ์ หน้าผากเนียนแก้มอิ่ม..รอยยิ้มยั่ว เผยผ่านเห็นละม่อมหน้ากลางพร่ามัว พร้อมสั่นรัววาบไหวที่ใจคน ๐ คล้ายแว่วเสียงออดอ้อนเว้าวอนอยู่ ชายตาสู่เลศมีทุกที-หน เพียงจะโอบอ้อมแขนให้แน่นตน หนาวก็พ้นผันพรากไปจากกาย ๐ ความอบอุ่น..อ่อนไหว..แห่งวัยสาว พาเหน็บหนาวคล้อยเคลื่อนจนเลือนหาย เมื่อเนื้ออ่อนเนียนละมุน..พร้อมอุ่นอาย- โอบห่มหมายทอนหนาวอีกคราวครั้ง ๐ หน้าผากเนียน..แก้มอิ่มเนตรพริ้มหลบ รับบรรจบปากชาย..เหมือนคล้ายดั่ง- เฝ้าคอยมาจนถวิล..นั้นยินดัง รอจบฝังฝากรสให้จดจำ ๐ แนบนิ่งอยู่..ตราบระทดระทวยร่าง หล่นลิ่วกลางเย้ายวน..เสียงครวญคร่ำ ครั้งแล้วและครั้งเล่า..ใจเจ้ากรรม- ก็ตอกย้ำรสซึ้ง..ติดตรึงทรวง ๐ อ่อนหวานด้วยอบอุ่นละมุนเนื้อ ก็โอบเอื้อหนาวลม..จนข่มล่วง หอมนวลสาวเร้ารุม..นวลพุ่มพวง พารุ่มร้อนโชนช่วงทั้งดวงใจ ๐ โผยแผ่วผิวพรรณสาวอะคร้าวรูป เมื่อต้องลูบโลมนั้น..พลิ้ว-สั่นไหว แตะเพียงเบาเนื้ออุ่น..ละมุนละไม ก็แว่วครวญโหยไห้อยู่ในยาม ๐ ตื่นตอบรอบอารมณ์เกินข่มขับ คือตอบรับมนต์สาป..รสวาบหวาม เนื้อเสียดเนื้อเนตรใครก็ไหววาม ย่อมอยู่ท่ามร้อนระรุมแห่งขุมไฟ ๐ อ้อยอิ่งเบียดเสียดซุกไปทุกส่วน นิ่มเนื้อล้วนหอมหวาน..สุดต้านไหว ครั้งแล้วและครั้งเล่า..อย่างเข้าใจ- กับเสียงไห้หวนพร้อมใต้อ้อมทรวง ๐ ครั้งแล้วและครั้งเล่า..ใช่เท่านั้น ที่โหยสั่น..ยินแว่วไม่แล้วล่วง หวิวเสียงหวีดกรีดประดังใจทั้งดวง จึงทุกช่วงก็กระชับ..เพื่อกลับย้อน ๐ แทรกระลอกเสียงฝน-เสียงวนหวีด ดังก้องกรีดคาบนั้น..แล้วผันผ่อน กระซิบความรุมเร้าแสนเว้าวอน ก็ออดอ้อน...ยินดังอีกครั้งครา ๐ ท่ามกระแสลมฝนที่หล่นหลั่ง ก็ประดังหวานหอม..อยู่พร้อมหน้า ยั่วเย้ยแห่งรูปกายต่อสายตา ก็เหมือนว่ารอพร้อม..จะยอมใจ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=09-2008&date=12&group=11&gblog=104
1 ตุลาคม 2551 17:44 น. - comment id 901324
13. ขอขอบคุณคนที่ชื่อ just a man นะคะ ที่มาให้กำลังใจในการก้าวเดิน สู้ สู้ คะ 14. คุณมายอามีนคะ พรรณก็หวังเช่นนั้นคะว่าเขาต้องเข้ามาอ่านแน่นอนเลย 15. ขอขอบคุณคุณยอดคะน้าที่มาแก้ต่างให้ เป็นปากเป็นเสียงให้พรรณ 16. คุณแมวขาว แค่เข้ามาแซวเล่นใชมั๊ยค้า ชอบกวี เขียนกวี อ่านกวี เป็นกวี อย่างไรก็ไม่ใช่นักกวีแน่นอนคะ 17. ขอบคุณคุณกุ้งหนามแดงมากนะคะที่เข้าใจพรรณ พรรณก็ยังเป็นพรรณที่หยิ่งในศักดิ์ศรีลูกผู้หญิงคะ ไม่มีแผลให้ใครว่าได้แน่นอนคะ 18. คุณสดายุคะ ขอบคุณนะคะที่มาลงกลอนให้ แต่พรรณว่า ไม่เข้ากับเรื่องที่พรรณลงเลยนะคะ กลอนที่คุณสดายุลงนั้นไพเราะในอีกมุมหนึ่งซึ่งไม่ใช่มุมที่พรรณคุ้นเคย พรรณเกิดในกรอบประเพณีที่เคร่งครัด ศีลธรรมจรรยา จึงไม่อาจรับในสิ่งที่คุณนำเสนอได้ จึงอยู่ในกรอบสังคมที่ต่างชั้นกัน อีกประการหนึ่งการใช้คำในกลอนที่สละสลวย บางครั้งก็แค่ความงดงามการใช้ภาษา แต่ว่าไร้อารมณ์ความรู้สึกที่อ่อนละเมียด คือสวยภายนอก สวยแค่รูปแบบ แต่ในภายในไร้อารมณ์ที่ละเมียดละเอียดอ่อน สักแต่ว่าใช้ภาษาหรูๆ แต่ไร้อารมณ์ ไร้ชีวิตที่ซ่อนเร้นในภาษาที่ใช้สื่อ กลอนของคุณมีประการแรก แต่กลอนของคนที่พรรณหลงไหล มีทั้งสองประการ คืองามทั้งภาษาและงามทั้งอารมณ์ที่ซ่อนใส่ในตัวอักษรในภาษาที่หรูๆนั้นคะ