เศรษฐีมีมากล้น แต่คนจนต่ำต้อยแสน ไร้ศักดิ์ถูกดูแคลน จนคลั่งแค้นทั่วโลกา ลิ้นทองทูตเสรี มอบไมตรีเจรจา เบื้องหลังกดราคา ทำการค้าหวังกำไร เสียดุลย์ทางการค้า เป็นหนี้มาทุกสมัย เพราะคนไม่พอใจ อยู่แบบไทยไปเห่อตาม คนเก่าเฝ้ามองดู แม้ล่วงรู้สุดหวงห้าม สุดห่วงในเขตคาม ได้แต่ปรามด้วยห่วงใย เศรษฐกิจคิดเอาเปรียบ แผนร้ายเพียบเพื่อจูงใจ โฆษณาสินค้าใด ด้วยกลไกให้มอมเมา ชาติใดไปหลงเชื่อ แกล้งเอื้อเฟื้อเป็นมิตรเขา ชาติใดชนใจเบา ปล่อยให้เขามาลงทุน มีทุนมีแรงงาน เข้ารุกรานอ้างบุญคุณ คนโกงผู้นำหนุน ตลาดหุ้นปล่อยเข้ามา กลยุทธ์ไม่ทันแน่ ศีลธรรมแพ้แก่เงินตรา วัฒนธรรมที่ไหลบ่า การศึกษาต่างอำนวย จิ้งจอกชนเจ้าเล่ห์ ชาติเกเรแกล้งมาช่วย กบฏที่ชอบรวย ก็เอื้อช่วยเพื่อไพรี ผองชนกลายเป็นทาส โดนผูกขาดทั้งชีวี โดนยึดทั้งพื้นที่ ต่อแต่นี้เหลืออะไร กว่าจะรู้งูกินหาง จะขัดขวางลำบากใจ ต่อสู้ก็ไม่ไหว ปล่อยกินหัวทั้งตัวเอย.. กันนาเทวี ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๕๑
26 กรกฎาคม 2551 07:46 น. - comment id 878900
26 กรกฎาคม 2551 08:09 น. - comment id 878906
เมืองไทยยังดีนะที่ต่อสู้มาได้ขนาดนี้ มีชนชาติตัวอย่างที่ล่มสลายมาก่อนแล้ว ถึงขนาดผู้นำประเทศภูฏานเคยมาศึกษา ดูว่าไทยยืนหยัดอยู่ได้เพราะ เรามีอะไรดีดี ต้านไว้นะ จึงรู้ว่าวัฒนธรรมความเอื้อเฟื้อ เศรษฐกิจพอเพียง และน้ำพระทัย และบารมีพระเจ้าอยู่หัวของชาวไทย นี่เอง ที่ทำให้ไทยคงเป็นไทย แต่ตอนนี้ชักไม่แน่ใจ เจ้าชายจิ๊กมี มาดูตอนนี้คงงงๆ นะแล้วบอกว่า เมืองไทยเปลี๊ยนไป๋....
26 กรกฎาคม 2551 08:17 น. - comment id 878909
ความคิดล้ำเลิศค่ะ
26 กรกฎาคม 2551 09:14 น. - comment id 878914
แหลมเปี๊ยบเลยครับผม..เยี่ยมมาก... กินเสร็จคายเป็นกาก...เหลือเพียงซากนะเธอเอ๋ย ของเก่าที่คุ้นเคย...ถูกละเลยทิ้งขว้างไป สิบปีที่จะถึง...คงจะซึ้งกับโลกใหม่ น้ำตาคงท่วมไทย..จนยากไร้จะท่วมเมือง ชาวนาจะหดหาย....การค้าขายจะฟูเฟื่อง คนรวยจะรุ่งเรื่อง....ทุกซอกเมืองล้วนคนจน ทาสไทยในนาไทย....ทางเลือกใหม่ที่สับสน กลียุคความทุกข์ทน...หนีไม่พ้นที่เมืองไทย มาร่วมแจมด้วยคนครับครูกันนา......เยี่ยมครับ
26 กรกฎาคม 2551 09:27 น. - comment id 878921
ยากจะหลีกพ้นนะคะในปัจจุบัน
26 กรกฎาคม 2551 10:07 น. - comment id 878945
งูกินหาง ให้ก้างติดคอน่ะ
26 กรกฎาคม 2551 10:09 น. - comment id 878948
แวะมาอ่านงานกลอนที่ไพเราะ แสนเสนาะในลำนำเกินขานไข ความคิดล้ำเลิศกว่าใครใคร อีกทั้งให้คติธรรมนำความคิด เมื่ออ่านบทกลอนก็สะท้อนทรวง สุดจะห่วงใยในหมู่มวลมิตร หลงเชื่อน้ำคำมาผิดผิด เสรีสิทธิ์ผ่อนปรนคนจนมี สร้างเรื่อง...ทำตนเป็นคนใจบุญ เที่ยวแจกวุ่นวายไปทุกที่ หมิ่นเขาคนอื่นอยู่ในที ว่าไม่มีน้ำยาจะหากิน แจกของเป็นเพียงแต่วัตถุ หมายยั่วยุกิเลสไม่ให้สิ้น ไม่สอนความรู้วิธีหากิน ช่างใจหินหมิ่นคนเขาเอาแต่ใจ ฯ นี่แหละครับบุคคลที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว ไม่เห็แก่ส่วนรวม...เฮ้อ...ชาติไทย
26 กรกฎาคม 2551 10:13 น. - comment id 878950
แวะมาศึกษาเศรษฐกิจ ด้วยใจคิดมาหาความรู้ อ่านกลอนกาพย์จากบรรดาครู ลำนำหรูดูเก็บเพื่อพัฒนา
26 กรกฎาคม 2551 12:06 น. - comment id 878965
ศิษย์เรา เขียนกาพย์นี11 นั้น ดีเกือบจะหมด ผิดที่นี่คือ ไม่สัมผัสคำที่สามเลย หากลงท้ายจบก็ ไม่เป็นไรจ้าคือ บทนี้ กบฏที่ชอบรวย ก็เอื้อเฟื้อเพื่อไพรี รวย กับ เฟื้อ ไม่สัมผัสกันจ้า หากเป็น ก็เอื้อช่วยเพื่อไพรี ระวังด้วยเพราะเป็นกฏข้อบังคับ ไว้จ้า รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
26 กรกฎาคม 2551 12:37 น. - comment id 878970
ก้มหน้ารับสถานการณ์..ครับ เฮ้อ...เมื่อไหร่ไม่รู้เนาะ
26 กรกฎาคม 2551 12:49 น. - comment id 878978
สมัยพุทธกาล บรรดาบ้านเศรษฐี มีเงินหลายโกฎิกหาปนะมากมี ทั้งที่ปัฐพีมากมีคนยากจน ดังอนาถปิณฑิกเศรษฐี ค้าขายมั่งมีเหลือล้น บำรุงพุทธศาสนาทั่วมณฑล แถมเอื้อเฟื้อชนด้วยโรงทานเลี้ยงประชา คนค้าขายมากมายข้อเสี่ยง พอเปรี้ยงเป็นหนี้มากหนักหนา เงินทองต้องจัดการด้านนานา หาเงินตราให้ลูกน้องมีพอกิน จะยกเลิกเงินตราก็ใช่ที ด้วยมีมาดังนี้นานสมัย ดังปรากฎพดด้วงเฟื้องไพ พระมหากษัตริย์อดีตของไทยประทับตรา ยิ่งหนีหน้าไม่คบค้ายิ่งเสียที เพราะขาดมิตรไมตรี ขาดก้าวหน้า จะขาดด้อยเทคโนโลยีและวิชา ขาดอาวุธ ขาดปัญญา น่าคิดดู รู้เขารู้เราแม้รู้น้อย ยังพอรู้ล่าถอย ประคองอยู่ ดีกว่าว่าไม่ดี แล้วหนีมิรับรู้ พอภัยมาถึงประตูสิ้นคิดการ ควรหรือทะเลาะเบาะแว้งแบ่งชนชั้น รวยจนก็ช่วยกันแต่ละด้าน ผู้ผลิตก็ผลิตให้ชำนาญ ผู้ค้าขายก็ทำการค้ากันไป ต่างประกอบสัมมาอาชีวะ ไม่ลดละความเพียรในนิสัย อุ อา กะ สะ ท่องในใจ ถึงไม่รวยก็ไม่ไร้ในความดี อีกแนวคิดนึงครับ
26 กรกฎาคม 2551 12:53 น. - comment id 878983
*แก้นิดนึงครับ "หาเงินตราให้ลูกน้องมีพอกิน--> หาเงินตราให้ลูกน้องมีพอใช้"
26 กรกฎาคม 2551 13:15 น. - comment id 879003
แสนเหนื่อยหน่ายกับบ้านเมืองของเราจริงๆนะคะ
26 กรกฎาคม 2551 18:09 น. - comment id 879124
กลอนนี้ออกแนวเศรษฐศาสตร์นะครับ
26 กรกฎาคม 2551 20:14 น. - comment id 879169
ป้า..ตอนนี้ท่องกลอนรักมะไหวแระคะ ขอท่องไปเม้นให้เพื่อนๆๆดีก่าคะ..อ้วนเปงตุ่มแระ เบาหวานกินอะ..
26 กรกฎาคม 2551 21:26 น. - comment id 879208
แวะมาอ่านกลอน..ก่อนทำงาน น่าพี่สาว...
27 กรกฎาคม 2551 05:58 น. - comment id 879293
ขอขอบคุณทุกข้อคอมเมนท์นะคะ เพียงเสนอตามแนวคิดคงตน ตามที่เห็นและเป็นจริง อาจจะแตกต่างจากมุมมองของแต่ละคน อาจจะชอบใจหรือไม่ชอบใจ ก็ไม่เป็นไร สามารถทำได้ หากไม่พอใจ ก็ต้องขออภัยด้วย
27 กรกฎาคม 2551 09:09 น. - comment id 879319
http://img529.imageshack.us/img529/1360/imagesrv2.jpg>
27 กรกฎาคม 2551 09:14 น. - comment id 879320
งูเอ๋ยงูกินหาง กินหัว กินหาง กินกลาง ตลอดตัว
27 กรกฎาคม 2551 14:46 น. - comment id 879425
ครับ ทุกสิ่งอิงผลประโยชน์กันทั้งนั้นครับ เปลี่ยนมาสอนเศรษฐศาสตร์แล้วหรือครับ อิอิ