ขออภัยจากใจจริง ทำไมผมไม่ออกไปอาบทุกข์ รบรุกกับพี่น้องในท้องถนน เพราะผมเห็นชัยชนะไม่คงทน สิบสี่ตุลาประชาชน...ได้บทเรียน กระทั่งยุคเลือกพรรคต้องยุบพัง เลือกข้างกันกี่ครั้งไม่เคยเปลี่ยน ทุกคอกเสือเนื้อเน่าอยู่เนาเนียน มิอาจเขียนมโนคติจากโคลนตม ผมมิไว้ใจรักสักพรรคเดียว เพราะรู้เขี้ยวเห็นเล็บมันเสพสม ไม่อาจร่อนพัชราในอาจม จึงเลือกทางสร้างสังคมและรอคอย ขออภัยแม้รักมิตรสนิทญาติ ยังไม่ออกไปร่วมบาทวิถีถ้อย วถีเหงื่อเรื่อแรง...จักแฝงรอย สู่รากฝอยรากแก้วของแผ่นดิน ออกจาริกวรรณกรรมดื่มด่ำธุดงค์ เพื่อปักธง ปัญญาธรรม ทุกภาคถิ่น เพราะเชื่อว่าถ้านกกระจาบไม่พร้อมบิน มิอาจดิ้นพ้นข่ายของนายพราน ขอโทษมิตรพี่น้องในท้องถนน ต้องแยกทัพจับประจญคนละด้าน ขอให้จิตสะอาดกวาดเรือนชาน บรรลุสมอุดมการณ์อันยั่งยืน "ธมกร" ทุ่งสักอาศรม
17 มิถุนายน 2551 00:02 น. - comment id 862735
ขอบคุณอัลมิตรารู้สารู้สึก แหลมคมล้ำลึกและหนักหน่วง ในท่ามกลางสังคมกลมและกลวง ขอมอบดวงบุปผากวีนี้แด่เธอ
16 มิถุนายน 2551 21:47 น. - comment id 862799
แยกทางกันสู้ แต่สู่อุดมการณ์เดียวกัน....
16 มิถุนายน 2551 21:54 น. - comment id 862803
คนละอุดมการณ์เดียวกัน คนละยืนยันยืนหยัด คนละวิถีทีทัศน์ สัมผัสประภัสสราอารยธรรม
16 มิถุนายน 2551 22:05 น. - comment id 862804
ไม่รู้แฮะ .. แต่อัลมิตราก็คิดแบบนี้นะ ข้าวสารแพงแหล่งน้ำมันก็ไม่มี ยุคกลีปราศสุขท่วมทุกข์เข็ญ เพื่อนภาคใต้ตรอมตรมไม่ร่มเย็น ภาคอื่นคิดฆ่าเข่นไยเช่นนี้ ? ท่ามภาวะโลกร้อนต่างรับรู้ พายุกรูแผ่นดินแยกแปลกวิถี คิดสำนึกบ้างไหม ฤๅ ไม่มี ? หาวิธีบ้างไหม ฤๅ ไม่ทำ ? ธรรมชาติอาจทวงทั้งปวงสิ้น สูญแผ่นดินปราศชีวิตให้คิดขำ แค่ลมซัดพัดหายหลายแสนกรรม แค่ดินย่ำขยับเขยื้อนล้านเกลื่อนตาย จะประท้วงกันไปทำไมวะ ? เห็นแล้วมันเซ็งว่ะน่าเบื่อหลาย ถ้าพวกลุงอยากกร่างก่อนวางวาย อย่าเสียดายความรู้กู้โลกเทอญ
16 มิถุนายน 2551 22:40 น. - comment id 862813
ขออภัยค่ะ ตะกี้ลืมบอกว่าชอบบทนี้จัง ออกจาริกวรรณกรรมดื่มด่ำธุดงค์ เพื่อปักธง ปัญญาธรรม ทุกภาคถิ่น เพราะเชื่อว่าถ้านกกระจาบไม่พร้อมบิน มิอาจดิ้นพ้นข่ายของนายพราน
17 มิถุนายน 2551 01:02 น. - comment id 862834
น้องใหม่เพิ่งสมัครค่ะ ชอบกลอนมากๆๆๆ แต่งไม่ค่อยได้ดีหรอก อ่านกลอนบทนี้แล้วขนลุก มันมาปลุกสามัญรู้สำนึก โหมไฟในใจให้ผนึก ต้านศึกภัยร้ายที่เข้ามา
17 มิถุนายน 2551 01:06 น. - comment id 862836
ชอบบทเดียวกับพี่อัลมิตราเลยครับ ผมไม่ได้มีอุดมการณ์อะไรอย่างใครเขา และไม่มีความรู้เรื่องการเมืองมากมาย เพียงแอบคิดฝันไปว่า อยากให้พลังของประชาชน แสดงออกในรูปแบบอื่น มากกว่าการประท้วง ต่อต้าน เอาพลังมาสร้างความดี ที่เป็นผลงานเป็นรูปธรรม ให้คนที่ได้รับเลือกตั้งมาแต่ไม่ทำหน้าที่ให้ดี ต้องอาย จนต้องคิดว่า ต้องทำอะไรให้ดีกว่านี้ ถึงเขาจะไม่อาย แต่สิ่งที่เราทำ มันก็ได้เป็นผลดี มากกว่าที่เราจะเสียเวลา ไปกับความขัดแย้งที่ไม่เป็นผล แล้วยังอาจจะเป็นเครื่องมือเพื่อประโยชน์ ของใครบางกลุ่มอีก แข่งกันทำดีไม่เสียหาย แข่งกันว่าร้าย น้ำลายร้อนจะท่วมไหม้เมือง รัฐแสวงหาทรัพย์จากภาษี แต่ประชาชนก็แสวงหาทรัพย์จากการลงขันได้ รัฐอาจออกกฎหมาย แต่ประชาชนก็ออกกฎวิถีประชา ที่ไม่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม เพื่อนำไปสู่การบรรลุผลที่ประชาชนต้องการได้ คิดเล่น ๆ นะครับ พรุ่งนี้อาจจะคิดอีกแบบหนึ่ง
17 มิถุนายน 2551 01:23 น. - comment id 862839
"เมื่อเธอรักประชาธิปไตย เธอต้องพร้อมยอมรับความจริง ของความแตกต่าง" ผมอยากให้คนรักประชาธิปไตย คิดอย่างนี้ด้วยจังครับ และถึงใครจะรักหรือไม่รักประชาธิปไตย ความแตกต่างก็คงยังเป็นสิ่งที่มีอยู่ เป็นความจริง ไม่ว่าจะยอมรับหรือไม่ ด้วยมันย่อมเป็นอยู่เช่นนั้นเอง คนที่มีคุณธรรมสูง ผมคิดว่าจิตใจ คงจะขยายกว้าง เกินคำว่าประชาธิปไตย ซึ่งเป็นเพียงรูปแบบหนึ่งของการปกครอง และวิถีชีวิต หรืออะไรก็แล้วแต่จะนิยาม อยู่อย่างเข้าใจ ไม่มีความทุกข์ แล้วยังสร้างประโยชน์สุขแก่ผู้อื่นได้
17 มิถุนายน 2551 05:17 น. - comment id 862844
ตื่นมายิ้มหวานๆให้คุณครูคะ อ่ะๆ หรือว่าท่านอาจารยื๕ธ ฮฺฮฺ อรุณสวัสดิ์ยามเช้าค่ะ....
17 มิถุนายน 2551 08:29 น. - comment id 862855
:) ยินดีที่ได้อ่านกลอนนี้ค่ะ
17 มิถุนายน 2551 09:26 น. - comment id 862877
ต่างคนต่างทำหน้าที่ พลีดวงจิต หลั่งอุทิศทั้งวิญญาณเข้าถวาย แม้แดดร้อนฝนพรำลำบากกาย ก็อย่าหมายว่าจะด้อยยอมถอยคืน.. ที่มา.. http://mblog.manager.co.th/chaba2550/th-17452/ คารวะอุดมการณ์ครูธมกร ปลูกต้นกล้าแห่งอาทรงามไสว จะค่อยเติบตื่นต้นเมื่อพ้นวัย ทุ่งสักอาศรม..ศิวิไลซ์ ในแนวทาง... สักวันหนึ่งดอกไม้บานสะพรั่ง คือความหวังเรืองรองผ่องชื่นสาง สงบงามคืนครองไทยมิคลายจาง ร่มเย็นอย่างเก่าสมัยใต้พระบารมี..
17 มิถุนายน 2551 09:30 น. - comment id 862879
ไม่มีใตรตำหนิคุณได้หรอกครับ มันเป้นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ทุกคนมีความคิดมีการตัดสินใจของตนเอง มีเหตุและผลของตนเอง...ตราบใดที่ไม่ไป ล่วงละเมิดคนอื่นให้เจ้บช้ำน้ำใจ ไม่มีใครตำหนิคุณหรอกครับ... เพราะทุกคนที่ออกไปบนท้องถนนเหล่านั้น..ไม่มีใครบังคับ..เขาออกไปด้วยใจเสรี และตรึกตรองแล้วเช่นกัน..เป็นเพียงแต่ ต่างมุมมอง.....ผมเองก็เช่นกัน... ด้วยไมตรีจิตอันดีครับ...
17 มิถุนายน 2551 15:23 น. - comment id 862923
มายกมือไหว้อาจารย์ศิวกานท์ ได้ยิน ได้อ่านงานมาบ้าง ยินดีที่ได้อ่านที่นี่ อาจารย์คงไม่รู้จักผม แต่คงรู้จักท่านพี่ไพวรินทร์ ขาวงาม ผมเป็นศิษย์รุ่นน้องท่าน เมื่อวานผมก็ไปกกต.มา และพรุ่งนี้ก็ต้องไปที่ บัวแก้ว
17 มิถุนายน 2551 16:11 น. - comment id 862957
ประชาธิปไตยเบ่งบานได้ทุกที่เนาะ
17 มิถุนายน 2551 16:14 น. - comment id 862961
อ่านทุกทุกคอมเมนต์เพ้นต์อารมณ์ โพสต์ปัญญาและอุดมคติแต้ม ในวันคืนที่ยังเป็นข้างแรม ใจก็แจ่มแย้มยิ้มอิ่มไมตรี มิตรภาพ,จิตสว่าง,ทางสะอาด มือผองเราจะปัดกวาดขยะวิถี เพียงแต่ต่างถางทำตามวิธี เชื่อในรักว่ามี "สันติธรรม" ธมกร (ครูกานท์)
17 มิถุนายน 2551 19:10 น. - comment id 863077
ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ดูข่าวการเมือง และไม่ค่อยได้อ่านข่าวการเมืองค่ะ แต่ชอบมาอ่านกลอนที่เกี่ยวกับการเมือง ได้อัฟเดด ความรู้มากมาย ทั้งยังได้ภาษาที่สวยงามอีกค่ะ
17 มิถุนายน 2551 23:01 น. - comment id 863188
อย่างนี้, ก็คงไม่ตกข่าวหรอกครับ แต่ถึงจะตกข่าวบ้างก็ไม่เป็นไร เพราะข่าวทุกวันนี้ "ข่าวขยะ" มากเหลือเกิน
18 มิถุนายน 2551 12:00 น. - comment id 863358
เขียนแทนใจได้หมดถ้วนกระบวนถ้อย ได้อ่านแล้วข้าน้อยก็พลอยชื่น สู้เพื่อสร้างเสรีที่ยั่งยืน ใช่ยิ้มผืนโดยไม่รู้ "สู้เพื่อใคร"
18 มิถุนายน 2551 21:24 น. - comment id 863618
คุณโอบอ้อม โอบเอื้อ คำอบอุ่น เกสรกลอนซ่อนกรุ่นละมุนสมัย "ใช่ยิ้มฝืนโดยไม่รู้สู้เพื่อใคร" กินใจครับวรรคนี้...จำอีกนาน