กอดฉันไว้แน่นแน่นนะแขนน้อย เราจะลงเรือลอยสายน้ำเชี่ยว เราจะเลาะเราจะลัดตัดคดเคี้ยว ประเดี๋ยวก็จะถึงบึงเวิ้งว้าง ที่นั่นตะวันรุ่งจะเรืองแสง รอนักเสาะแสวงหัวใจสว่าง นกฟ้า กาน้ำ จะนำทาง ไปสู่ความลึกกว้างอันพร่างพราย ระวังนะที่รักเรือเราเล็ก กายใจมิใช่เหล็กบอบช้ำง่าย พบมัจฉาปลาปูอย่าดูดาย อาจบางทีคิดร้ายทำลายเรา กอดฉันไว้แน่นแน่นนะแขนน้อย เรือจะคล้อยคลองคดและโขดเขา ลมจะพัดเมฆจะพาฟ้าทึมเทา จะเพียงหยอกเพียงเย้าให้เรายล ดูโน่นสิที่รักฟ้าถักรุ้ง เรือเรากำลังมุ่งไม่สับสน อยากฝันก็หลับตาเถอะนฤมล ฝันถึงเราสองคนนะคนดี ศิวกานท์ ปทุมสูติ
13 มิถุนายน 2551 21:06 น. - comment id 861642
แด่ คุณธมกร ไพเราะจับใจ และดูแปลกกว่าทุกกลอนที่เคยอ่าน
13 มิถุนายน 2551 21:21 น. - comment id 861644
.... อ่านกลอนของคุณแล้วทำให้คิดถึงเพลง ขอนไม้กับเรือคะ ส่วนฉางน้อยเขียนกลอนขอนไม้ชายเล อิอิ แวะมาคารวะด้วยใจจริงคะ เคยซื้อหนังสือของคุณอ่านด้วยนะคะ
13 มิถุนายน 2551 22:52 น. - comment id 861679
ไหมแก้วสีฟ้าคราม ฉางน้อยตามเติมต่อฝัน น้ำพจน์บทประพันธ์ ธารน้ำมิตรชิดชูใจ ขอบคุณครับ
14 มิถุนายน 2551 02:15 น. - comment id 861739
อ่านแล้วได้บรรยากาศดีจังครับ
14 มิถุนายน 2551 07:23 น. - comment id 861772
สมแล้วครับ ที่มาจากหนังสือกวีนิพนธ์ สงสัยต้องไปหามาศึกษา สักเล่มแล้วครับ ด้วยความชื่นชมครับ
14 มิถุนายน 2551 12:58 น. - comment id 861886
กอดเธอด้วยหัวใจ สัมผัสได้ถึงสิ่งนี้ ทุกอย่างที่เธอมี คือสิ่งดีที่มอบมา แวดล้อมด้วยสิ่งเร้า ยวนเย้าให้ใฝ่หา สร้างศิลป์ด้วยจินตนา จะนำพารักสวยงาม ขอมาร่วมนิยามความรักด้วยนะคะ
14 มิถุนายน 2551 13:11 น. - comment id 861892
อายุบวร...คุณรัมณีย์ และคุณคนดี ไร้อันดับ คุณ นิลวรรณ สารตอบรับ กระชับ ลำนำ น้ำมิตร
14 มิถุนายน 2551 23:54 น. - comment id 862100
15 มิถุนายน 2551 15:32 น. - comment id 862373
เรนโมเมจัง ไยจึงไม่พูดไม่จา เยี่ยมกรายถึงชายคา แล้วจากไป...ใจร้ายจริง
17 มิถุนายน 2551 10:17 น. - comment id 862890
ชอบบทนี้มากมายครับ..
17 มิถุนายน 2551 18:30 น. - comment id 863060
ขอบคุณครับ
20 มิถุนายน 2551 19:44 น. - comment id 864141
25 มิถุนายน 2551 22:32 น. - comment id 865761
26 มิถุนายน 2551 08:34 น. - comment id 865815
ผมชื่นชอบอาจารย์ ตั้งแต่อาจารย์มาบรรยายที่คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ผมจึงดั้นด้นเป็นนักอยากเขียนทุกวันนี้ ขอบูชาครูด้วยมาลัยกลอนบทนี้ มาลัยกลอนพวงนี้ กำนัลแด่เธอผู้เป็นแรงบันดาลใจ ร้อยภาษาบันดลมนต์เสน่ห์ ปราศจากกลเล่ห์รังสีฉาย กรองพจน์รจนามาระบาย แซมลวดลายเชิงชั้นกวีจร เป็นมาลัยไร้ซึ่งมาตรวัดค่า ด้อยราคาตราตีอนุสรณ์ มิอาจหาญท้าแข่งทินกร แม้ยามตะวันรอนสุริยการ แต่มาลัยพวงนี้จะคงมั่น เปล่งชีวันประกายแสงเป็นแรงฉาน หลอมชีวาตม์สรรชีวิตจิตวิญญาณ เป็นสายธารหล่อเลี้ยงซึ่งมวลชน มาลัยกลอนบทนี้แทนคำสัตย์ จักยืนหยัดหาญกล้าท้าลมฝน ตราบชีวิตที่เหลือธราดล อุทิศตนเพื่อผองประชาไท คือปณิธานคนร้อยมาลัยกลอน ทางสัญจรมืดมิดฤาไฉน หิ่งห้อยน้อยแสงนั่นประไร เด่นกลางไพรใดฤาจะเท่าเทียมฯ ฉันจะร้อยมาลัยกลอนตราบเท่าชีวิตของฉันยังมีลมหายใจ