พบงามเงียบซ่อนซึ้งในบึงจิต น้ำผึ้งพิษสิ้นหวานสอนรู้ขม สิ้นวันชื่นคืนช้ำระกำตรม เพียงระทมฝากคำพรากจากเจ็บลา และ... คือช่วงมายาพันธนาภพ เมื่อกรรมจบอย่าก่อเลิกพ้อหา อดีตเพียงความฝันวันเหว่ว้า กาลเวลาจะกลืนกลบลบแผลใจ ไม่มีดอกรักใดให้เพียงหอม ทุกพวงพะยอมรอรานนานแค่ไหน วัฏฏโลกสอนโศกผันแปรไป ทุกข์เพียงใดมองด้านดีชี้เห็นธรรม จิตกระจ่างว่างวายเหมือนตายจาก ทิ้งถอนรากรักลวงบ่วงวนซ้ำ ปลูกต้นธรรมนำชีพนี้หนีโซ่กรรม สวดมนต์พร่ำภาวนา ลาแล้วมาร....!
18 พฤษภาคม 2551 17:05 น. - comment id 851140
มาอ่านกลอนงามๆค่ะ ภาพก็สวย เพลงเพราะค่ะ
18 พฤษภาคม 2551 19:51 น. - comment id 851187
อลังการงานสร้าง ทั้งรูป ทั้งกลอน แจ๋วจริงพี่น้องครับ
19 พฤษภาคม 2551 00:11 น. - comment id 851235
สวัสดียามดึกค่ะพี่พุด
19 พฤษภาคม 2551 01:08 น. - comment id 851239
เมื่อมีดวงใจรักอันยิ่งใหญ่และงดงาม จงชื่นชมกับรักนั้นเถิด... จะไม่มีอุปสรรคใดๆขวางกั้นได้ จงเข้มแข็งอยู่ด้วยแรงใจอันนี้กับปัจจุบันรักอย่างมั่นคง ตลอดไป อย่าหวั่นไหวกับอดีตอีกเลย ประคองใจให้ผ่องใส และ สงบสุขตลอดไป
20 พฤษภาคม 2551 13:49 น. - comment id 851669
ไม่มี ดอกรักใดให้เพียงหอม คงเป็นสัจธรรมว่า ไม่มีที่ไหนจะคงความสว่างได้ตลอดกาล เมื่อรัตติกาลหมุนผ่านมาเราต้องอยู่กับความมืดนั้นให้ได้ ง่า....เศร้าอยู่ดี แม้จะทำเหมือนเข้าใจสัจธรรม