ในรอนแสง..สุริยา...!

พุด

sunset.jpg1792816838-9ChildrenPlaying2.jpg
ตะวันแดงรอนแสงในม่านเมฆ
ฟ้าสวย ใจสงบ
นกกระยางขาวเต็มทุ่งข้าว
วัวมากมายเลาะเล็มหญ้า
นาราวแพรพรมลมพัดระลอก
พสุธากว้างใหญ่สุดสายตา
ดวงดอกไม้ฟ้อนอ้อนผืนหล้าริมทาง
ทั้งคูน ตะแบก อินทนิล พร่างสวยไสว
ดวงใจสุขสงบเงียบงาม
ยามตะวันโพล้เพล้
อยากให้เส้นทางธรรมดานำพาเส้นทางใจบรรจบ
ไม่ต้องพานพบกับคำว่า
พรากลาอีก...ตราบชั่วนิจนิรันดร์...!
..............................

myspace-sunset-images-dam7-0002.jpgsunset.jpg4-1085-Jeannecrain092.jpg				
comments powered by Disqus
  • พี่พุดไพร สาวบ้านนา

    10 กุมภาพันธ์ 2551 23:32 น. - comment id 821994

    oak-sunset.jpgkk_ricefield.jpg
    ตะวันลับฟ้าสาวนาหลงคอย
    
    http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song4858.html
    
    ตะวันลับฟ้า   
    
    แสงสุริยาจวนลาเหลี่ยมโลก
    ลมเย็นไผ่เอนไหวโยก
    ลมโชยโบกพัดพริ้วลิ่วมา
    จักจั่นเรไร หริ่งร้องก้องพนา
    จวนสิ้นแสงสุริยา
    ประหนึ่งว่าดนตรีสวรรค์
    แสน
    สุดเสียดายมองไปใจเต้น
    ยามเมื่อตะวันเย็นๆ
    เคยว่ายน้ำเล่นเคียงคู่ร่วมกัน
    ตะวันลับฟ้าเสียงน้ำซัดซ่า
    ไหลเซาะลำธาร
    เคยเด็ดดอกบัวสาบาน
    เห็นทุกวันแล้วเศร้าใจ
    โอ พี่จ๋า พี่ เอย
    ลืมง่าย จังเลย
    เปลี่ยนคู่เชยโอ้ใจหนอใจ
    ลืม สัญญาที่เคยว่าไว้
    กอดหมอนนอนเดียวดาย
    คิดถึงแทบตายน้ำตาไหลริน
    เห็น หมู่นกกาถลาลมล่อง
    จับคู่จู๋จี๋ประคอง
    เหมือนพี่กับน้องเคยร่วมอยู่กิน
    ตะวันลับฟ้า พี่จ๋าน้องเฝ้าถวิล
    จะคอยจนชั่วชีวิน
    ตราบชั่วฟ้าดินน้องลืมไม่ลง
    
    โอ พี่จ๋า พี่ เอย
    ลืมง่าย จังเลย
    เปลี่ยนคู่เชยโอ้ใจหนอใจ
    ลืม สัญญาที่เคยว่าไว้
    กอดหมอนนอนเดียวดาย
    คิดถึงแทบตายน้ำตาไหลริน
    เห็น หมู่นกกาถลาลมล่อง
    จับคู่จู๋จี๋ประคอง
    เหมือนพี่กับน้องเคยร่วมอยู่กิน
    ตะวันลับฟ้า พี่จ๋าน้องเฝ้าถวิล
    จะคอยจนชั่วชีวิน
    ตราบชั่วฟ้าดินน้องลืมไม่ลง...
    
     
     
    ฝนกำลังโปรยสายภายนอกกระท่อม
    ได้กลิ่นดอกพะยอมหอมอวลมากับสามลมยามค่ำ
    
    สาวนา..จุดตะเกียงให้แสงริบหรี่เป็นเพื่อนใจ
    สาวนาไม่สบายมาหลายวันแล้ว
    นอนระทมใจจับไข้
    ใจเหน็บหนาวแบบไม่เคยเป็นมาก่อน
    
    วันนี้..สาวนาจำต้องพาตัวเองตากฝนจนลืมห่วงตัวเอง
    มัวห่วงวัวแก่ชราคู่ทุกข์คู่ยาก
    ที่หลังคาคอกมุงด้วยจาก..ใต้ร่มไผ่มันผุเต็มที
    สาวนาจึงต้องกระวีกระวาดไปเปลี่ยนเอง
    สาวนายืนน้ำตาริน
    พร้อมกับสายฝนพรำ
    กับวัวแก่ที่ดวงตาพร่าเลือน
    เสมือนมีหยาดน้ำตารับรู้ความอาดูรเดียวดายของสาวนา
    
    สาวนาปล่อยให้สายฝนพรูพร่าง
    กระหน่ำร่างรานใจร้าวของสาวนา..
    ให้ยิ่งหนาวเหน็บ
    ให้ใจที่เจ็บเจียนตายได้คลายระบม
    ให้น้ำตาฝนน้ำตาฟ้าน้ำตาสาวนาละหลั่งรินไปพร้อมกัน
    
    
    
    สาวนาทรุดตัวลงนั่งพิงคอกวัวด้วยใจดวงสลัวเศร้า
    แล้วสะอื้นร่ำไห้อย่างไม่อายฟ้าดิน
    ให้สายน้ำตาระรินไหลไปพร้อมกับสายฝนพรำ
    ที่ย้ำให้ใจดวงตรมยิ่งระทมเหน็บหนาว
    
    มีเพียงเจ้าวัวแก่เพื่อนยาก
    ยืนนิ่งงันราวรับรู้นิ่งมองดูสาวนา
    ผู้ดายเดียวรานร้าวราวเข้าใจ
    
    จนทำให้ดวงใจสาวนาผู้ละมุนต้องลุกขึ้นยืน
    และไปโอบกอดประคองพร้อม
    ซบหน้าร่ำไห้หนักขึ้น
    ให้น้ำตาระรินรดหยดต้องเจ้าวัวเพื่อนยาก
    
    
    สาวนา..นอนน้ำตารินมาหลายคืนแล้วด้วยเป็นไข้
    ไร้ผู้ใดแลเหลียว
    มีหลายสิ่งที่ผ่านมาทำให้หัวใจสาวนาท้อแท้
    ฟ้าดินทอดทิ้งสาวนา
    สวรรค์สิ้นไร้ดวงตาที่จะมาปลอบประโลม
    
    
    พายุจริงพายุใจพากันโหมกระหน่ำหนัก
    ให้สาวนาราวสิ้นไร้พลังใจ
    
    ใครจะรู้บ้างไหม...
     ว่าหัวใจสาวนา สาวบ้านป่าบ้านไพร
    ที่ตั้งใจใช้แรงกายเหนื่อยยาก
    หว่านกล้าดำไถ ด้วยดวงใจ ที่กล้าแกร่ง
    แฝงความอดทน
    ด้วยดวงกมลใสยึดคำ..
    *สมองสองมือเท่านั้นที่สร้างโลก*
    
    
    ไยจะยอมท้อแท้แพ้พ่าย 
    หากทว่า..ใครไม่เป็นสาวนาคงไม่รู้ดอกนะว่า
    สาวนา พบอะไรบ้างในชีวิตที่ติดดินเรียบง่าย
    เคียงกายไร้ ใครปกป้องคุ้มครอง
    จนต้องรับกรรมให้มีผู้มากลั่นแกล้ง
    
    
    
    สาวนาลงแรงแบ่งพื้นที่ติดเชิงเขาปลูกยาง
    ตั้งแต่เดือนสาม เดือนสี่ปีที่แล้วมา
    พร้อมกับที่ตะแบกบานไสว
    ให้เสร็จก่อนต้นฤดูฝน และทุ่มเทใจ
    เฝ้าทะนุถนอมใช้ หญ้าแห้ง ฟางข้าว เศษวัชพืช
    คลุมโคนต้นยางเพื่อรักษาความชื้นของดิน 
    
    ทุกวัน..
    สาวนาจะแย้มยิ้มเอมอิ่มด้วยปิติใจ
    ที่เห็นยอดยางแสนรัก
    แตกกิ่งก้านไสวใบชูช่อรอสายวสันต์หลั่งริน
    
    
    สาวนาเฝ้าตัดแต่งกิ่งแขนงและเพียรพยายามศึกษา
    ขอคำแนะนำจากมูลนิธิหมู่บ้าน จากกำนัน
    และจากวิทยากร
    ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 
    ที่พร้อมจะให้ความช่วยเหลือเจือจุน
    
    ว่าหากจะตัดกิ่งนั้นควรทำในฤดูฝนเท่านั้น 
    ไม่ควรตัดในฤดูแล้ง และการตัดแต่งกิ่ง
    อย่าโน้มต้นยางลงมาตัด
    เพราะจะทำให้ส่วนของลำต้นเสียหาย 
    
    
    
    สาวนา..แสนชื่นใจคิดในใจว่า
    เมื่อปลูกยางจนเติบงามครบ 5ปีแล้ว
    คงพอจะทำรายได้ให้บ้างไม่มากก็น้อย
    หลังจากหลงเฝ้าคอยดูแลทะนุถนอมมาอย่างดี
    ดูแลไม่ให้วัชชพืชขึ้นปกคลุม
    และระวังไม่ให้เกิดโรคต่างๆมากมาย
    
    สาวนาหวังเพียงว่า
    จะได้มีรายได้มาเจือจุนอีกทางให้สมกับคำที่ว่า
    *จะไม่มีความยากจนในหมู่คนขยัน
    
    
    และสาเหตุที่สาวนาหันมาปลูกยางพารานั้น
    เพราะได้ไปรับฟังการบรรยาย
    ที่เล่าเรื่องยางพาราอย่างน่าสนใจว่า
    *ยางพารา
    เป็นยางที่ได้มาจากต้นไม้ชนิดหนึ่ง
    เรียกว่า ต้นยางพารา
     (เรียกตามภาษาพฤกษศาสตร์ว่า Hevea brasiliensis) 
    
    สามัญชนทั่วไป เรียกว่า ยางพารา 
    หรือ ต้นยางพารา (para rubber)
    ทั้งนี้เพราะว่าเมื่อประมาณ 100 ปี มาแล้ว 
    ยางชนิดที่กล่าวนี้ซื้อขายกันที่เมืองพารา 
    ประเทศบราซิล 
    ทวีปอเมริกาใต้เพียงแห่งเดียวเท่านั้น 
    
    เพื่อสะดวกแก่การซื้อขายกัน
    ในครั้งนั้นจึงเรียกยางชนิดนี้ว่า ยางพารา 
    
    ในระยะนั้นมียางที่ได้จากต้นไม้อยู่หลายชนิด 
    เช่น ยางแคสติลลาในอเมริกันกลาง 
    ยางพันทุเมียจากแอฟริกา 
    และยางอินเดียรับเบอร์
    ในเอเชียตอนใต้ 
    
    ถิ่นเดิมของต้นยางพาราอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ 
    ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศบราซิล 
    
    ต้นยางพาราเป็น ไม้ป่า
    ขึ้นกระจัดกระจายอยู่ห่าง ๆ กัน 
    ทั้งในที่ดอนและที่ลุ่มของแม่น้ำอะเมซอน 
    จนถึงประเทศเปรูชาวพื้นเมือง
    
    คือ ชาวอินเดียนแดงในอเมริกาใต้และอเมริกากลาง
    รู้จักยางมานานแล้ว 
    และได้นำเอามาใช้ทำประโยชน์มาหลายร้อยปี 
    
    ก่อนที่ชาวยุโรปจะไปพบโลกใหม่หรือทวีปอเมริกา 
    ซึ่งเป็นถิ่นเดิมของต้นยางพารา 
    
    ชาวอินเดียนแดง
    ได้ใช้ยางทำลูกบอล 
    ทำผ้ากันฝนและทำถุงเก็บน้ำปากแคบเป็นต้น 
    **********
    
    
    สาวนา..ผู้ที่ใครๆชอบให้สมญานามว่างามราวเทพีไพร
    จึงสวมหัวใจสิงห์ตั้งใจที่จะลองสู้ ดูสักหน
    ลองค้นคว้าหาข้อมูล
    ค้นหาความรู้ทุกทาง 
    เพื่อใช้แรงกายแรงใจเททุ่ม
    หวังผลผลิตจากน้ำยางแห่งรักจาก
    พลังจากทุกหยดหยาดเหงื่อแรงกายแรงใจ
    จากใจดวงมิท้อมีเคยหวังรอโชคจากชะตาฟ้าดิน
    
    
    และ
    ทุกวัน หมดเรื่องนา 
    สาวนาจะพาตัวเองไปถอนหญ้าวัชชพืช
    อย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย
    บางครั้งเมื่อร่างงามเมื่อยล้ามากๆเข้า
    
    สาวนา จะนอนมองท้องฟ้าแล้วก็หลับตา
    ปล่อยใจให้ฝันฝันฝัน บรรเจิด
    ฝันแสนพราวเพริศว่าเห็นตัวเอง
    กำลังกรีดยางในยามอุษาฟ้าสาง
    กับดาวเดือนระดะดวงเต็มอ้อมฟ้าอ้อมฝัน
    เห็นน้ำยางค่อยๆละหลั่งรินลงสู่ถ้วยรองน้ำยาง
    อย่างช้าๆ ช้าๆ
    
    
    
    สาวนานอนคิดถึงอ้าย..ด้วยความดายเดียว
    เมื่อยามตะวันลาลับฟ้าด้วยน้ำตาซึม
    
    สาวนาคิดว่าอ้ายจะรู้บ้างไหมละหนอ
    ว่าสาวนาคนยากลำบากตรากตรำจำทนสู้
    ไร้คู่คิดเคียงใจให้หัวใจสาวนานั้น
    แสนเหว่ว้าเสียเป็นยิ่งนักแล้วนะอ้าย
    
    
    และเมื่องานวัดวันก่อนเจ้าจอมลูกกำนัน
    ที่มันคอยจะตามแทะเล็มสาวนา
    มันแกล้งเย้ยให้สาวนาเจ็บช้ำว่า
    
    อย่ามัวหลงรอท่าอ้ายอยู่เลย
    ป่านนี้อ้ายคงไปเชยชมสาวกรุง..จนสิ้นแรงแล้ว
    มันบอกว่า..มาเป็นเมียมันดีกว่า
    มีทองหนักกว่ากิโลเป็นสินสอด
    
    
    
    สาวนา..ได้แต่คิดอยากตอกกลับไปว่า
    ให้เอาทองมากองท่วมหัวอีกก็อย่าหวังเลยชาตินี้
    เพราะหัวใจรักหนักแน่นนี้ใช่ของซื้อของขาย
    สาวนา..ไม่หวังให้อ้ายคืนหลังกลับมา
    แต่สาวนารู้ว่าทั้งจิตวิญญาณรักและร่างสาวนานั้น
    ได้มอบให้อ้ายไปเพียงคนเดียว
    
    และสาวนาไม่เคยหวังจะแลเหลียวชายใด
    เพราะสาวนาซึ้งในคำว่ารักคือทุกข์หนัก
    ที่ช่างหนักหนาสาหัสและเพียงรักเดียว
    แค่อ้ายก็ช้ำใจเกินพอแล้ว
    
    
    
    
    สาวนาหารู้ไม่ว่าคนเรา
    นี่หนาไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล
    และจิตคนเรายากหยั่งถึง
    จนได้ซึ้งด้วยระทมทับแทบดับดวงใจ
    ในวันนี้อย่างไรกันเล่า...
    
    วันที่สาวนาต้องหลั่งน้ำตาด้วยเศร้าใจสุดทน
    อย่างดายเดียว
    
    เมื่อเช้าวันหนึ่งเหลียวมา..ไม่เห็น
    ต้นยางแห่งรักแม้เพียงสักต้นเดียว
    
    
    
    
    ยางแห่งรักแห่งน้ำพักน้ำแรง
    ที่กำลังผลิยอดงาม
    ได้ถูกถอนหายเหี้ยนไม่มีเหลือร่องรอย
    ให้สาวนาแทบหัวใจสลายคล้ายดั่งแก้วถูกเขาทุบทิ้งแตก
    แหลกสลายไม่มีชิ้นดี
    สาวนา..ไม่รู้ว่าฝืมือผีห่าซาตานตนใด
    ที่ช่างใจดำใจร้าย 
    ทำลายได้แม้กระทั่งลูกผู้หญิงชาวไพร
    
    ผู้มีดวงใจแสนซื่อแสนดี 
    ที่มีเพียงแรงใจแรงกายเหลือเพียงนิดน้อย
    ไว้ค่อยประคับประคองชีวิตลำพัง
    ยามเซซังถูกอ้ายทอดทิ้ง
    
    
    
    อ้ายคนดี..
    สาวนาร่ำไห้กลางสายฝนในวันนี้
    ด้วยใจดวงร้าวกับร่างรานนี้ที่กำลังเสียใจ
    
    หมดพลังใจหมดศรัทธาในผู้คนในคุณงามความดี
    ที่สาวนาเพียรเพาะบ่มห่มหอมใจด้วยธรรมะมายาวยืน
    
    
    
    สาวนา ไม่สบายไข้ขึ้นและ
    ในท่ามกลางความเหว่ว้าสุดใจ
    สาวนาเพียรพยายามให้อภัยเพื่อนมนุษย์
    สาวนาได้แต่จุดเทียนต่อหน้าองค์พระปฎิมา
    
    และก้มลงกราบกราน
    ตรงหน้าเบื้องพระพักตร์พระพุทธผู้บริสุทธิคุณ
    ให้ดวงใจดวงใสละมุนราวแก้ววิเศษของสาวนา
    จงอย่าหมดสิ้นกำลังใจสิ้นเมตตาที่จะทำความดี
    
    ให้ลูกนี้ได้พลีพร้อมจิตใสและมีเมตตา
    ให้น้ำใจยังคงใสงาม
     แม้วิบากกรรมจะตามมาทดสอบ
    ให้หัวใจแสนบอบช้ำสุดทน
    
    
    
    อ้ายคนดี..
    โลกเรานี้ ไยถึงมีแต่ความทุกข์
    ราวกับจะสอนให้เราสำนึก
    ถึงความไม่มีอะไรที่เที่ยงแท้แน่นอน
    สอนให้เรารู้ที่จะเพียรสร้างกรรมดี
    
    อย่าผัดผ่อน..
    เพื่อหาทางหนีจากปลักตม
    จากความหลงยึดมั่นถือมั่นงมงายจากความใจร้าย
    หวังทำลายกันและกัน
    
    
    
    
    แทนจะหยาดรินน้ำใจใสงาม
    ในทุกยามแห่งชีวีชีวิตนี้ที่ช่างแสนสั้นเสียยิ่งนักแล้ว
    ให้ดวงใจใสราวแก้ววะวับวาววะวับแวว
    ด้วยดวงดอกธรรมดอกแห่งคำว่าคุณงามความดี
    ให้สมกับที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์
    ในร่มธรรมร่มทองร่มฉัตรอันงดงามยิ่งใหญ่
    เหนือสิ่งใดทั้งปวง
    
    
    
    อ้าย..คนดี
    หวังแม้นชาตินี้ 
    อ้ายและใครจะทำร้ายใจดวงนี้ให้ย่อยยับสักปานใด
    
    ก็คงให้อภัยด้วยจิตดวงใสดวงงามนี้
    ที่กล้าแกร่งราวเพชรพรหม
    ที่ซ่อนห่มหอมในห้วงชีวิตสถิตทอดอยู่ในบ้านภายใน
    ที่เป็นลิขิตจากฟ้าดิน
    ที่หามีผู้ใดและสิ่งใดจะกรายกล้ำทำร้ายได้นานไม่..
    ตราบจนกว่าร่างและใจดวงนี้จะหมดสิ้นลม..!!
    
    
  • banana

    11 กุมภาพันธ์ 2551 00:29 น. - comment id 822005

    ชอบรูปที่4มากครับ1.gif
  • ปราณรวี

    11 กุมภาพันธ์ 2551 00:45 น. - comment id 822009

    มอ มอ มอ 
    
    สวัสดียามดึกค่ะพี่พุด    46.gif
    
    นอนหลับฝันดีนะคะ   36.gif
  • กุหลาบน้ำตา

    11 กุมภาพันธ์ 2551 15:50 น. - comment id 822190

    36.gif36.gif36.gif
    
    สวัสดีครับพี่พุด
    
        กลอนเปล่าแสนเศร้าแฝงสุข ไพเราะมาก
    
    ครับ มีความสุขในรักนะครับ
    
    57.gif57.gif57.gif
  • แก้วประเสริฐ

    11 กุมภาพันธ์ 2551 22:10 น. - comment id 822326

    36.gif16.gif36.gif
    
             ภาพหรือก็งามบรรยายก็เยี่ยม โอ้ยๆอะไรจะ
    ปานนั้น ทำให้นึกถึงท้องนาจังเลย
    
               16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • มนตรา---ตรีเมฆ--หมู---นนทบุรี

    15 พฤศจิกายน 2551 16:52 น. - comment id 827893

    16.gif29.gifสวัสดีครับทุกท่าน----แวะเยี่ยมชม------ทุ่งข้าว---ของไทย

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน