ทำไมต้องมีศีล......ไม่มีศีลแล้วเป็นยังไง
ซาวแดนดุด
ศีล สมาธิ ปัญญา....ได้ยิน ได้ฟัง ได้อ่าน.....มานานแล้ว
การกระทำสิ่งใด ต้องเริ่มจากเหตุ อาศัยปัจจัยแวดล้อม ลงมือทำ แล้วจึงจะเกิดดอกออกผล เป็นขั้นตอนตามลำดับ....
ศีล แปลว่า ปกติ
ดังนั้นย่อมหมายถึง คนปกติทั่วไปที่มีศีลเป็นเรื่องปกติ...
ไม่มีศีลก็จะผิดปกติ...คุณเชื่ออย่างไร
ศีลสำหรับคนทั่วไปมี ๕ ข้อคือ
๑.ไม่ฆ่าสัตว์ ทำร้ายสัตว์ ด้วยเจตนามุ่งร้าย เอาชีวิต
๒.ไม่เอาของคนอื่นมาเป็นของตนโดยเขาไม่อนุญาติ
๓.ไม่เอาคนรักของคนอื่นมาเป็นของตนโดยเขาไม่อนุญาติ
๔.ไม่พูดโกหก ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดเพ้อเจ้อ ไม่พูดคำหยาบ
๕.ไม่ดื่มเครื่องดองของเมาจนขาดสติ
รักษาศีลข้อ๑ คือ ไม่ฆ่าสัตว์ ทำร้ายสัตว์ ด้วยเจตนามุ่งร้าย เอาชีวิต
อานิสงค์ที่จะได้รับ คือ มีสุขภาพแข็งแรง จิตใจผ่องใส ไม่มีอุบัติเหตุให้ร่างกายได้รับบาดเจ็บ(ยกเว้นมีวิบากเก่าในอดีตชาติ) สุคติภูมิรออยู่
ผิดศีลข้อ๑ สุขภาพจะอ่อนแอ เจ็บป่วยง่าย อาจมีอุบัติเหตุให้บาดเจ็บ พิการ ตายด้วยความทุรนทุราย ทุคคิภูมิ ย่อมรออยู่
ข้อคิด,,,ผิดศีลข้อ๑...สำคัญเป็นอันดับแรก เพราะเมื่อเกิดมาแล้ว จะไม่มีใครช่วยได้ ใครจะอุทิศบุญกุศล ช่วยเหลือด้วยเงินทองทรัพย์สิน ไม่อาจทำให้สุขภาพของเราแข็งแรงได้ เวลาเจ็บป่วย ก็ต้องรับด้วยตัวของเราเอง ถึงแม้จะบรรลุอารหันต์แล้ว ก็ต้องเสวยวิบากจนสิ้นลม
รักษาศีลข้อ๒ คือ ไม่เอาของคนอื่นมาเป็นของตนโดยเขาไม่อนุญาติ
อานิสงค์ที่จะได้รับ คือ ทำการสิ่งใดด้วยความตั้งใจย่อมสำเร็จรุ่งเรืองไม่ติดขัด ทำมาค้าขึ้น ร่ำรวยไม่ติดขัด สุคติภูมิรออยู่
ผิดศีลข้อ๒ ทำให้ทรัพย์ที่ได้อยู่ไม่นานต้องมีเหตุให้เสียทรัพย์ ทำการสิ่งใดสำเร็จยาก มีอุปสรรค เหนื่อยยากลำบากกว่าจะได้มา เสียไปโดยง่าย ถูกโกง ทรัพย์เป็นวินาศ ทุคติภูมิรออยู่
รักษาศีลข้อ๓ ย่อมมีครอบครัวที่อบอุ่น มีความสุข เพราะครอบครัวเป็น๘๐เปอร์เซ็นต์ของชีวิตที่ต้องเห็นกันทุกวัน ลูกหลานมีครอบครัวที่ดีเพราะมีเราเป็นแบบอย่าง สุคติภูมิรออยู่
ผิดศีลข้อ๓ จิตใจร้อนรุ่ม กลัวคนอื่นจะมาแย่งคนรักของเรา มีปากมีเสียง ทะเลาะเบาะแว้ง อาจทำร้ายกันถึงชีวิต ทุคติภูมิ อาจต้องไปเกิดเป็นโสเภณี กระเทย หญิงที่มีสามีเจ้าชู้ อกหักซ้ำซาก ทุคติภูมิรออยู่
ต้องสร้างบารมีกับบิดา มารดา ภรรยา สามี ลูก และคนรอบข้างด้วยความอดทน มีศีลบริสุทธิ์ อธิษฐานจิตกลับมาเกิดเป็นชายใหม่
รักษาซีลข้อ๔ ไม่พูดโกหก ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดเพ้อเจ้อ ไม่พูดคำหยาบ
อานิสงค์ ย่อมมีเพื่อนดี ได้ยินเสียงดีๆ จิตใจผ่องใสคำพูดเป็นสัจจะได้รับความเชื่อถือ ทำการสิ่งใดย่อมได้รับความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่
ผิดศีลข้อ๔ หาเพื่อนได้ยาก จิตใจร้อนรุ่ม พูดไม่มีใครเชื่อ ทำการสิ่งใดย่อมติดขัด มีศัตรูรอบข้าง ทุคติภูมิรออยู่
รักษาศีลข้อ๕ไม่ดื่มเครื่องดองของเมาจนขาดสติ
อานิสงค์ย่อมเกิดมามีสติปัญญา จิตใจผ่องใส ได้รับความเชื่อถือ ชีวิตมีความปกติสุข จะเรียนสิ่งใดย่อมรู้โดยง่ายไม่ติดขัด สุคติภูมิรออยู่
ผิดศีลข้อ๕ ขาดสติ ไม่ได้รับความเชื่อถือ ทำร้ายคนรอบข้างเช่น บุตร ภรรยา พ่อแม่ เกิดวิบากกรรมหนัก ทำอะไรไม่สำเร็จโดยง่ายเพราะปัญญาบกพร่อง อาจเกิดอุบัติเหตุถึงแก่ชีวิตได้โดยง่าย ทุคติภูมิรออยู่
รักษาศีลข้อ๕ ย่อมมีบุคคลิกภาพที่ดูสง่างาม คิดการสิ่งใดย่อมทำได้สำเร็จ เพราะเจริญสติปัญญาได้ง่าย ได้รับความเชื่อถือ สุคติภูมิรออยู่
สรุปโดยรวมแล้ว ท่านผู้อ่านพิจารณาด้วยตนเอง ว่าการมีศีล กับผิดศีล อะไรจะดีกว่ากัน
การมีศีลด้วยความเข้าใจกระจ่างแจ้ง จะได้ไม่เดินผิดทาง หลงเชื่อลัทธิที่อาจชักพาเราไปสู่ความเลวความชั่ว
การมีศีลจึงเปรียบเสมือน เกราะป้องกันภัยอันตรายทั้งหลาย มิให้แผ้วพาน ชีวิตเป็นสุข กระทำการสิ่งใดก็เจริญรุ่งเรือง มีเพื่อนดีเป็นกัลยาณมิตร สวรรค์สมบัติ หรือ สุคติภูมิ เป็นที่หวังได้
ทำด้วยความเข้าใจย่อมมีความสุข ไม่กดดัน เพราะฟังคำเขาว่าดี ก็ทำตามๆกันไป เรียกว่า สีลัพพตปรามาส เช่น เชื่อมงคลตื่นข่าว เชื่อถือฤกษ์ยาม เชื่อทิศ เชื่ออาจารย์ เชื่อผู้นำ คือการเชื่ออย่างงมงายไม่มีเหตุผล จะนำความเดือดร้อนมาสู่ตนได้
พระพุทธองค์ ประกาศ พุทธศาสนา เสมือนหงายชามที่คว่ำอยู่ให้เราได้เห็น สิ่งที่พระพุทธองค์ค้นพบ เป็นกฏของธรรมชาติ มีมาแล้วนานแสนนาน เป็นสัจจะธรรม และจะเป็นเช่นนั้นในอนาคต สัจจะธรรมหมายถึงสิ่งที่เป็นจริง ไม่ว่าชาติ ศาสนาใดก็มีความจริงนี้ปรากฏอยู่ อย่าเชื่อ แต่อย่าหันหลัง ลองศึกษาด้วยคนเอง ลงมือปฏิบัติ เรียนรู้ธรรมด้วยตนเอง ย่อมบรรลุธรรมด้วยตนเอง
( ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นย่อมเห็นเราตถาคต)
เมื่อมีศีลแล้ว ย่อมได้รากฐานที่มั่นคง เป็นเสาเข็มที่แข็งแรง พร้อมสำหรับการเจริญธรรมะต่อไป