จากเนินทุ่งที่แลไกลได้รายรอบ พบภูผาโอบกอดดั่งสวรรค์ มีไร่สัปปะรดละลดหลั่นลาดชัน ในท่ามวันฟ้าสว่างกระจ่างใจ ดงดอกหญ้าระบัดไหวกับสายลม ระงมเสียงนกร้องในดงไผ่ ผีเสื้อแมลงบินว่อนวัฏฏไพร รอดอมเกสรไสวยามบัวบาน มีกระท่อมในฝันนิรันดร์รัก ได้พิงพักดูดวงดอกไม้หวานแสนหวาน เอนกายนอนนับดาวเดือนตรงนอกชาน ฟังเพลงนิทานหิ่งห้อย..พร้อมร้อยมาลัย เป็นมาลัยกลีบบัวมาเรียงร้อย แซมด้วยสร้อยพุดซ้อนอรชรไสว เด็ดมะลิผลิพราวมาบูชาพระรัตนตรัย ฝึกสมาธิใจในปัจจุบันรับขวัญวัน ในห้องพระกรานศิระกราบพระพุทธ จิตพิสุทธิ์ให้พสุธาสิ้นโศกศัลย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลบันดาลให้รู้รักสามัคคีกัน พลีชีพอันแสนสั้นสร้างสรรงาม ให้แดนดินพุทธภูมิยังคงอยู่ ดับแล้งไร้คู่แผ่นดินสยาม พระพ่อหลวงดั่งฉัตรเพชรชนทุกนาม วะวาววามดั่งรัศมีรุ้งสุริยา มิ่งมหานทีทองเจ้าพระยา สู่ทุ่งกล้าผลิเรียวรวงภักษา อุดมผลทรัพย์ในดินถิ่นทองธารา หยาดน้ำค้างฟ้าโปรยสอนสัจจธรรม มองสรรพสิ่งจากนิ่งในเนื้อใจแท้ เฝ้าคอยแก้จิตกระจ่างเพาะบ่มร่ำ รู้เมตตารู้ให้สายธารธรรม รอพ้นกรรมที่เวียนวนจนนิรันดร์ เกี่ยวก้อยเธอนะดวงใจมุ่งไปสู่ แดนแห่งรู้แดนแห่งธรรมนะยอดขวัญ มีเรือนรักได้พิงพักได้แบ่งปัน คุ้มค่าขวัญวันได้เกิดมาใต้ฟ้าไทย..ใต้ฟ้าทอง..!
29 พฤศจิกายน 2550 00:30 น. - comment id 794657
http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem110085.html ฝากไว้ในงานคุณบินเดี่ยว ด้วยแสนซาบซึ้งในบทเพลงในงานของคุณ ที่แสนโศกซึ้งสะเทือนใจค่ะ ไม่กี่นาทีที่ผ่านมาค่ะ รถเราผ่านบึงแสนสวย พาให้แลเห็นดวงจันทรา ที่แสนงดงามมากค่ะ เราสาม..กระวีกระวาดนักรักรจนา ต่างชวนกันชี้ชมดูด้วยความรู้สึกดื่มดำ แสนล้ำลึกค่ะ จนอยากกระซิบบอกคุณบินเดี่ยวว่า หากดวงจันทร์อยู่ในดวงใจเราแล้ว ใช่ว่า..จะพรากลาไปไหนค่ะ ยังคงงดงามเฉกเช่นนั้น ตราบชั่วนิจนิรันดรค่ะ ด้วยรักเข้าใจ ............. จากพุด