ขอรจนาบทกวีแห่งความสุข ห่างไกลทุกข์แม้นเหน็บหนาวเศร้าแค่ไหน เพียรรักร้อยสร้อยอักษรางามดวงใจ สร้างจิตใสมิไหวหวั่นวันวนวน ทุกสิ่งสำคัญที่ใจใช่ไหนอื่น จิตจักชื่นฤาช้ำสักกี่หน หากลบลืมด้วยเกษมบุญมิ่งมงคล ไร้ตัวตนมิยึดมั่นวันรานใด วัฏฏเจ็บจากพรากที่รักคอยรอท่า เพียงเดียวดายเหว่ว้ารู้บ้างไหม มาลำพังไปลำพังรู้ทำใจ สว่างใสจิตประภัสร์สอนสัจจธรรม คือบทกวีพลีมอบให้ด้วยความรัก หวังเป็นจักหยาดน้ำค้างระรินร่ำ ดับโลกแล้งทุกแห่งหนราวฝนพรำ จงสร้างสรรทำความดี (พลีแด่แผ่นดินแม่มาตุภูมินี้)ก่อนที่จะสายเกิน..!
6 พฤศจิกายน 2550 23:03 น. - comment id 784094
สุขใดที่ได้จากภายนอก(รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส) ช่างมายาก แต่จากไปอย่างรวดเร็วเหมือนนกติดปีก แต่ยังคิดถึงสุขนั้นอยากได้อีก และมากขึ้นอีก(ฝากเป็นรอยกิเลสจารึกในใจ) เป็นสาเหตุแห่งทุกข์ หากสุขที่เกิดจากภายใน คือ การทำคุณประโยชน์ต่อผู้อื่น โดบไม่คาดหวัง จะเป็นสุขเย็นยิ่งยาวนาน ไม่มีทุกข์ตามมา การทำสมาธิ มีปิติ สุข และ เอกกคตา ก็มีความสุขสงบเช่นกัน จนถึงที่สุดแห่งสุข(คือทุกข์น้อย) ย่อมพัฒนาสู่ อุเบกขา(ด้วยความเข้าใจด้วยปัญญา) เป็นสัจจะแห่งโลก ความสงบนิรันดร์ นั่นคือ พุด ดัดชา ก้าวข้ามความทุกข์ สู่ความสุขสงบแห่งการเป็นผู้ทำประโยชน์เพื่อผู้อื่นเสมอมา บารมีนี้จะรองรับทุกสิ่งสู่ความสุข และพัฒนาสู่ความเป็นนิรันดร์
9 พฤศจิกายน 2550 21:17 น. - comment id 786057
ดีค่ะ ชอบบบบบบบบบบบบบ ได้อารมดี ซึ้งๆๆ
20 พฤศจิกายน 2550 10:18 น. - comment id 790994
เก่งค่ะ..........