ว่างจากการเป็นชู้
ปิ่น วลัยภรณ์
ได้ชื่อชีวิตคู่
เพราะไม่คิดทรยศ
ไม่โป้ปดแม้น้อย
คอยประคองยามล้ม
เฝ้าชื่นชมยามสําเร็จ
เท็จจริงเปิดเผย
เฉลยหมดใจ
ไร้อาภรณ์ปิดบัง
ทั้งเนื้อหนังตลอดตัว
ไม่กลัวยามเคียงหลับ
ไม่สับสนยามเคียงเดิน
ภาพบาดตา
ปริศนาบาดใจ
ไม่มีใครอยากเจอ
แค่เผลอลับตา
หาความวางใจไม่ได้
ทายใจไม่ถูก
จะผูกพันสักกี่น้ำ
ลับลมคมใน
หาใช่สิ่งดี
ใจมีพิรุธ
ไม่อาจหยุดบาป
สาบกามติดตัว
ทนแรงยั่วไม่ไหว
กระทั่งไร้สํานึก
คึกคะนองอยากลองใหม่
โหยหาบาปบนเตียงไม่สิ้นสุด
ยังหน้าด้านครองคู่
ทั้งสมสู่กับชู้รัก
จักไม่เป็นสุข
สนุกกายแค่วูบเดียว
ต้องเสียวหลังไปถึงไหน
จากบาดใจคนอื่น
เป็นบาดเจ็บกับตัวเอง
เมื่อหมดความไยดีในความอบอุ่น
หมกหมุ่นแต่รสหฤหรรษ์ชั้นตํา
ก็เหยียบย่ำราศีให้เสื่อมลง
ชีวิตไม่อาจคงเส้นคงวาใต้ฟ้าสว่าง
เหมือนเรือเคว้งคว้างกลางทะเลเปลี่ยว
ล่องลอยไปเพียงเดียวสุดกู่กลับ
พินาศลับตาเพียงลําพัง
เหมือนครั้งปฎิบัติกามบาดใจลับตาคน
เมื่อลับตาชีวิตคู่
ต้องคิดเตือนตัวเองได้
ห้ามใจไม่อ่อนไหวง่ายเกินแก้
ไม่แพ้แรงยั่วยุ
มุที่จะยืนข้างมโนธรรม
เมื่อกายใจว่างจากวงจรชู้
ก็ดูตัวเองในกระจกได้เต็มตา
และมองหน้าคนรักได้เต็มใจ
พร้อมเป็นผู้ให้ความอบอุ่นกับครอบครัว
เช่นนี้นับเป็นมหาทานประการที่สาม
ไม่ถามหาคาวเน่า
เฝ้ารักษาศีลสะอาดหอม
ยอมจุกอกเพราะเห็นแก่หัวอกผู้อื่น
หลับและตื่นจะชื่นใจไปจนตาย