....หวัง จาก ใจจริง
"เพชรสังคีต"
...จันทราจรค่ำแล้ว เอนองค์
ซบสู่เขนยนง นาฏแก้ว
คิดถึงแม่ทิพย์อนงค์ ขวัญมิ่ง กมลแฮ
ดึกป่านฉะนี้แล้ว แม่ลี้อยู่ไหน
...ราตรีเผยกลิ่นฟุ้ง ราตรี
ดังเช่นนุชมณี แม่เจ้า
งายจะโผล่สุรีย์ คืนกลิ่น ไปเฮย
จำจากยังเร่าเร้า กลิ่นเจ้าราตรี
...มันก็เวรพี่นี้ แลนาง
คงสืบกรรมอำพราง แต่โน้น
ถึงคราวจึ่งหมองหมาง อกชอก
กายห่างดุจอยู่โพ้น แผ่นฟ้าแผ่นสวรรค์
...การเวกเร่าร้อง งึมงม
ใจว่าเสียงภิรมย์ แห่งเจ้า
พลางเผยม่านตามชม ไหนแม่
เห็นแต่วิหคเฝ้า อยู่เคล้าคู่มัน
...อโศกคลุมกิ่งเข้า บังจันทร์
พลันโศกคลุมชีวัน อกเศร้า
อโศกว่าโศกศัลย์ เพียงชื่อ
เรียมโศกเหลือหมื่นเถ้า ยิ่งเศร้าโศกแสน
...ตราบใดใจไม่ไร้ ความหวัง
หวังจักคอยประทัง ชีพไว้
อุปมาว่าดุจดัง จันทร์แจ่ม
มีดับแรมนั่นไซร้ เพื่อได้คอยเพ็ญ ฯ
...ใจจริงใครหยั่งรู้ จริงใจ
หน้าต่างกับแดใน ต่างหน้า
ซ่อนแฝงสิ่งใดใด แฝงซ่อน
หรือจิตคิดชั่วช้า ง่ายค้นจิตหรือ
...ใดใดในแหล่งล้วน หวังผล
จนไพร่หรือนายคน ต่างรู้
ทำบุญย่อมหวังบน บานกล่าว
ทำศึกนึกต่อสู้ ก็สู้หวังชนะ
...จารโคลงมาสู่นี้ ก็หวัง
เพียงเพื่อคงจีรัง คู่หล้า
นานวันอย่าภิณฑ์พัง สูญเล่า
จงเจิดจรัสจ้า ตราบฟ้าดินสลาย ฯ
ว.วาทกร พส.
23:02 9/8/255