....มือน้อย...มือนั้น

"เพชรสังคีต"

"เพียงไม้ขีดไฟ"
...ว่างเปล่า
สะท้อนเงาทอดลงอยู่ตรงหน้า
แสงเสี้ยวจันทร์ทาบฉาบมา
เล็ดลอดเมฆายองใย
...ไร้ลมพัด
เสียงสงัดเย็นเยียบเชียบไฉน
กระเซ็นแต่น้ำค้างพร่างไป
ไร้เสียงเรไรรัญจวน
...เหน็บหนาว
ปวดร้าวคราวเหมันต์หวน
สิ้นแสงบุหลันหวั่นครวญ
เหมือนจะชวนหัวใจให้วายวาง
...มืดมน
ดังร่วงหล่นเดียวดายปลายโลกร้าง
เอื้อมมือหมายหยิบไม้ขีดพลาง
หวังจะสร่างซบเซาเศร้ากังวล
...มือสั่น
คลอนครั่นฝันพร่าฟ้าหม่น
ค่อยหยิบไม้ขีดไฟใจจน
กลัวร่วงหล่นหลุดผลอยลอยไป
...ประคอง
จ่อจดจ้องจับเจ่าเฝ้าฝันใฝ่
เพื่อเพียงแสงริบหรี่รำไร
ปลอบทรวงในหายหวั่นพรั่นพรึง
...ถูเบาเบา
ไม้ขีดเจ้าถูข้างกลางกึ่ง
ไร้วี่แววประกายไฟให้ตราตรึง
นิ่งอึ้งถึงหวังครั้งก่อนมา
...อีกครั้ง
รวมพลังกระทุ้งไม้ไม่รอช้า
แปลบปลาบวาบแสงแจ้งตา
เจิดจ้าโศกเศร้าเหงาคลาย
...จุดเทียน
ด้วยพากเพียรวาดหวังดั่งหมาย
สายลมเริ่มเรื่อยลิ่วฉิวชาย
หวั่นคลายหายอาวรณ์ย้อนคิด
...ไม้ขีดไฟ
หรือแจ้งได้ด้วยแรงหนักประจักษ์จิต
หากเบาเขลาโง่โอ้ชีวิต
เพ่งพิศรำลึกนึกดู
...ความสำเร็จ
อันเผด็จวันฝันพรั่นสู้
ว่าสำเร็จ สำเร็จ ที่ชื่นชู
ความรุนแรงอยู่คู่เสมอหรือ ? ฯ
(22:09 1/8/2550 ว.วาทกร พส.)				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน